ความเคลื่อนไหวของร่าง พ.ร.บ. ฟินเทค (ร่าง พ.ร.บ.ส่งเสริมการประกอบธุรกิจด้วยเทคโนโลยีทางการเงิน) ขณะนี้คือกำลังอยู่ระหว่างรับฟังความเห็น ผ่านเว็บไซต์ของสำนักงานเลขาธิการวุฒิสภา
หลักการและเหตุผลของร่าง พ.ร.บ. ฉบับนี้คือ เทคโนโลยีการเงินเปลี่ยนเร็ว ไทยควรเปิดรับและฉกฉวยโอกาสในการใช้ประโยชน์จากเทคโนโลยีทางการเงินอย่างเต็มที่ รวมถึงการดำเนินการให้กฎหมายและกฎเกณฑ์ต่างๆ ให้มีความยืดหยุ่นเพียงพอที่จะรองรับนวัตกรรม และ โมเดลธุรกิจใหม่ๆ เพื่อให้ทุกภาคส่วนสามารถเปลี่ยนแปลง ปรับตัว และก้าวข้ามข้อจำกัดต่างๆ ได้ และสาเหตุหลักที่ต้องร่าง พ.ร.บ. ฉบับนี้ขึ้นมาคือ กฎหมายที่ยังไม่สอดคล้องกับเทคโนโลยีในปัจจุบัน เป็นอุปสรรคต่อการประกอบธุรกิจและการทำธุรกรรมด้วยวิธีการทางดิจิทัลและยังเพิ่มต้นทุนทางเศรษฐกิจโดยไม่จำเป็น
ภาพจาก Pexels
ตัว พ.ร.บ. สามารถสรุปสาระสำคัญได้ดังนี้
ผู้ที่เข้าข่ายเป็นผู้ให้บริการการเงิน
พ.ร.บ. ฉบับนี้กำหนดให้มี คณะกรรมการส่งเสริมการประกอบธุรกิจด้วยเทคโนโลยีทางการเงิน ทำหน้าที่กำหนดนโยบายและยุทธศาสตร์ จัดทำแผนส่งเสริมการประกอบธุรกิจด้วยเทคโนโลยีทางการเงิน
ใน พ.ร.บ. ยังรับรองเรื่องการแสดงตัวตน หรือ KYC (Know Your Customer กระบวนการตรวจสอบความถูกต้องของบุคคล) สามารถทำด้วยกระบวนการทางอิเล็กทรอนิกส์ หรือแบบ non face to face ได้ แม้จะไม่ได้ไปแสดงตัวตนด้วยตัวเองต่อหน้าผู้ให้บริการทางการเงิน
ด้านความเป็นส่วนตัวและการกำหนดบทลงโทษ เนื้อหาระบุว่าห้ามผู้ให้บริการการเงินเปิดเผยข้อมูลแก่ผู้อื่น หรือนำไปใช้โดยผิดวัตถุประสงค์ และหากข้อมูลนั้นมีการปกปิดตัวตนเบื้องต้น แต่ผู้ให้บริการการเงินและเจ้าหหน้าที่รัฐ ไม่ได้ปกปิดตัวตนเข้าของข้อมูลจนเป็นเหตุให้ผู้อื่นระบุตัวตนของเจ้าของได้ ก็จะได้รับโทษ
ในการฝ่าฝืนข้อบังคับเรื่องความเป็นส่วนตัวข้อมูลกำหนดโทษสูงสุดคือ จำคุกไม่เกิน 3 ปี ปรับไม่เกิน 3 แสนบาท หรือทั้งจำทั้งปรับ
ตัวร่าง พ.ร.บ. ฟินเทค ยังอยู่ระหว่างรับฟังความเห็น สำนักงานเลขาธิการวุฒิสภ เปิดให้เข้าไปแสดงความเห็นผ่านออนไลน์ที่ questionnaire.senate.go.th โดยมีระยะเวลารับฟังความเห็น 15 วัน คือ 30 ส.ค. - 14 ก.ย. 2560
Comments
งานเข้า
ธนาคารจะปิดสาขาเยอะขึ้นมั้ยเเนี่ย
เจ้าหหน้าที่ => เจ้าหน้าที่
เข้าของ => เจ้าของ
วุฒิสภ => วุฒิสภา