หลังจากที่รัฐบาลมาเลเซียได้บล็อคการเข้าถึงสโตร์ของ Steam ในมาเลเซียเป็นการชั่วคราว ก่อนที่จะส่งจดหมายให้ Valve ดำเนินการถอดเกม Fight of Gods เกมต่อสู้ที่มีตัวละครจากความเชื่อและศาสนาออกจากการวางขายในประเทศ ล่าสุด PQube ผู้จัดจำหน่ายเกมนี้ ได้ออกมาประกาศว่า เกมนี้ถูกถอดออกจากการวางขายในไทยแล้ว
PQube ได้แถลงผ่านหน้า News ของ Fight of Gods บน Steam ว่า ได้รับจดหมายอย่างเป็นทางการจากเจ้าหน้าที่ของประเทศไทยถึงพูดถึงเนื้อหาของเกมนี้ และหลังจากการพิจารณาและปรึกษาอย่างถี่ถ้วน ทางทีมงานจึงได้ตัดสินใจถอดเกมนี้ออกจากสโตร์ของประเทศไทย
ที่มา: Steam
Comments
ดีแล้วครับ ไม่สมควรมีเกมนี้ตั้งแต่แรกเลยด้วยซ้ำ
เอาศาสดา ไม่ว่าศาสนาไหน
มาหากินหรือทำเพื่อความสนุกส่วนตัว
อย่างไรมันก็คือการเหยียบย่ำความเชื่อความเคารพอยู่ดี
หลายประเทศผิดกฎหมายนะครับ
ตอนเด็กๆดูเซนต์เซย่า ตอนนี้สำนึกผิดไม่ทันเลยครับ
ละครไซอิ๋ว มีฉากเจ้าแม่กวนอิม หรือ พระยูไล แสดงอิทธิฤทธิ์ปราบมาร ยังไม่เห็นมีใครว่าอะไร
หลังจากที่เอาทศกัณฑ์ไปแคะขนมครก ตอนนี้ก็พระนารายณ์แล้วสินะ
แล้วเจ้าแม่กาลี ในRoV อีก อ่อนไหวไม่ทั่วถึง
ทั้งหมดเป็นเพียงสิ่งสมมติ
มันก็แค่การเอาสิ่งสมมติมาทำสื่อบันเทิง ไม่ต่างจากเกมอื่นๆ เลยครับ
ถ้ามันมีศาสนาที่เชื่อว่าการเชื่อพระเจ้าหรือสิ่งสมมุติเป็นเรื่องที่ไม่ดี ไม่ถูกต้อง คงทะเลาะกันแย่เลยนะสิ
ศาสนาคือความเชื่อ มันไม่ควรมาทำเป็นกฎหมายนะ
จีวรบินเอย หลวงพี่เท่งเอย .. ฯลฯ เหยียบย่ำอยู่บนหน้าหนังสือพิมพ์ทุกวัน ดีๆ ทั้งน๊านนน
my blog
ความเชื่อมันก็มีหลายแบบนะ ไม่ว่าจะเบารึแบกจนหนัก
ต้องบอกว่าผมก็ไม่อะไรกับเกมนี้/หนังที่เอาตลกเป็นพระ/หนังหรือเกมที่เอาชื่อไม่ก็รูปพุทธองค์เป็นท่าไม้ตาย บางอย่างที่เป็นเปลือกยึดไว้ก็เหนื่อยควรวางๆ มั่งนะ
ผมไม่เห็นต่าง เพราะผมอ่านแล้วเข้าใจถึงเจตนาของคอมเมนต์นี้ ส่วนตัวรู้สึกเฉยๆ แค่ไม่เห็นด้วย ที่เอาศาสดาสูงสุดของศาสนาหลักๆ มาเล่น แล้วก็อีกอย่าง ทำไมถึงไม่มีศาสดาของอีกศาสนาหลักอยู่ในเกมส์กันหล่ะ ถ้าท่านคิดว่า "เสรี"
"ศาสดาหลักของอีกศาสนา" นี่หมายถึงอิสลามหรือเปล่า
เพราะถ้าใช่ ศาสดาของศาสนาอิสลามคือนบีมุฮัมมัด ซึ่งเป็นมนุษย์ธรรมดา
ถ้าระดับพระเจ้าคืออัลเลาะห์ ซึ่งไม่มีรูปร่าง คัมภีร์อัลกุรอานก็กล่าวถึงแค่พระนาม ฉะนั้นทีมงานเกมคงไม่สามารถมโนได้ว่าจะทำเป็นตัวละครหน้าตายังไง
ขอบคุณสำหรับคำอธิบายครับ เป็นความรู้ที่มีค่าครับ
ดีนะจอมพลเซนโกคุใน One Piece ไม่แปลงร่างบ่อย ไม่งั้นผมอดอ่านแน่เลย
God ของคริสต์นี่โผล่ในหนังเป็นว่าเล่นเลยนะครับ ทั้งแบบดีและไม่ดี ไม่เห็นชาวคริสต์เขาจะออกมาดิ้นทุรนทุรายเหมือนชาวพุทธเลยครับ
และในไทยเองเนี่ย ก็เอาพระสงฆ์มาล้อเล่นกันตั้งแต่โบราณกาลมาแล้ว ก็ไม่เห็นมีใครมาดิ้นทุรนทุราย พอเอามาทำเป็นเกม (เกมนี้แหละ) หรือเป็นหนังสะท้อนความจริงในสังคม (นาคปรก) ดันออกมาดิ้นกันเต็มไปหมด แต่ไอ้ที่เอามาล้อเล่นเป็นตลกดันไม่ว่าอะไร? มันไม่ได้ลบหลู่เหมือนกันเหรอครับ? หรือสายตลกนี่ได้รับอภิสิทธิ์พิเศษ? สายอื่นห้าม ไม่เรียกสองมาตรฐานจะเรียกว่าอะไรเนี่ย
ป.ล. นี่ยังไม่รวมพระในชีวิตจริงที่ทำตัวไม่สมกับเป็นพระอีกนะ ทำไมไม่ไปจัดการกัน? ทั้งเรื่องเงินทอนวัด เรื่องพระมีบัญชีของตัวเอง พระโคตรรวย วัดไม่ส่งบัญชีการเงิน ไปวัดมีแต่ตู้รับบริจาคเต็มไปหมด ฯลฯ
เทคโนโลยีไม่ผิด คนใช้มันในทางที่ผิดนั่นแหละที่ผิด!?!
ผมเฉยๆ กับเกมนี้นะครับ (เล่นแต่ Athena) แต่อ่านจากที่คุณเขียนมาแล้ว.... (ผมใส่ " " เน้นให้นะ)
ส่วนสิ่งที่เมนท์ที่คุณไปตอบเขียนคือ
ผมว่าจุดนี้ก็ต่างกันแล้วนะครับ ส่วนใหญ่ศาสนาทั่วไปไม่ได้เคารพนับถือนักบวชมากเท่าศาสดาอยู่แล้ว (ต่อให้บอกว่าเป็นตัวแทน นั่นนี่ก็ตาม) เกมนี้ล้อศาสดาครับ ไม่ได้ล้อนักบวชนะ หนังตลกที่คุณว่ามาก็ไม่น่าจะมีเรื่องไหนที่ล้อ "พระพุทธเจ้า" มีแต่ล้อพระสงฆ์ทั้งนั้น
แต่ในเกมก็เป็นแค่รูปจำลองศาสดานะครับ ได้ยินมาว่าพระพุทธเจ้าไม่ต้องการให้สร้างหรือเคารพรูปจำลองด้วยซ้ำ
ผมไม่รู้นะว่ามีบอกไว้ตรงไหนว่าเป็นแค่รูปจำลอง แต่ผมคิดว่าผู้พัฒนาน่าจะตั้งใจให้ตัวในเกมเป็น Buddha ตัวจริงๆ เลยนั่นแหละ เพียงแต่ตอนออกแบบจะให้เดินมาเป็นตัวห่มจีวรติ่งหูยาวๆ มาซัดฝ่ามือมันดูไม่ขลัง มาแบบนั่งฐานดอกบัวสวยกว่า ถือเป็น Prop เหมือนเอาไม้กางเขนมาเป็นเขน (ฟังแล้วย้อนแย้งจัง) นั่นแหละครับ
การให้เป็นตัวละคนในเกมต่อสู้มันไม่เคารพยังไงเหรอครับ?
ขนาดนิทานบอกว่าเคยเป็นปลาบู่มาก่อน เป็นพริกมาก่อน เป็นพระราชาที่มอบบุตรและธิดาให้กับคนทรามมาก่อน แบบนี้ไม่ถือว่าลบหลู่เหรอครับ
ผมไม่ได้บอกว่าไม่เคารพครับ แค่บอกว่าในเกมนั่นมันพระพุทธเจ้า ไม่ใช่พระสงฆ์ และ(ไม่น่า)ใช่พระพุทธรูป
ตราบเท่าที่ไม่ใช่กายหยาบของท่านจริง ที่เหลือคือของที่จำลองตามแบบผมนับเป็นรูปจำลองหมดครับ (อาจจะใช้คำไม่ตรง แต่สื่อตามนี้ครับ)
กายหยาบของมนุษย์มีอะตอมประมาณ 7*(10^27) อะตอมนะครับ ผมเชื่อว่าต้องมีสักอะตอมแหละที่เคยเป็นกายหยาบของท่าน (รวมทั้งของพระเยซู นบีมูฮัมหมัด etc.)
ดังนั้น เคารพกันและกันดีที่สุดครับ :)
ตามคอมเมนต์ล่าง ผมเคารพความเห็นคนอื่นครับ แต่พอดีสงสัยเรื่องตรงนี้เลยแย้งๆ ดูว่าแนวคิดจริงๆ มีหลักเกณฑ์ยังไงบ้างจะได้ปฏิบัติตัวได้ถูกด้วย
คือจะเคารพความคิดอีกฝ่ายได้ก็ต้องเข้าใจความคิดของอีกฝ่ายด้วยเช่นกัน ราวๆ นั้นน่ะครับ
(ขอต่ออีกนิดนึง น่าจะหมดแล้วครับ ถ้าไม่สะดวกใจจะตอบก็บอกได้หรือข้ามเลยก็ได้ครับ) ตรงนี้ ->
ผมไม่รู้นะว่ามีบอกไว้ตรงไหนว่าเป็นแค่รูปจำลอง แต่ผมคิดว่าผู้พัฒนาน่าจะตั้งใจให้ตัวในเกมเป็น Buddha ตัวจริงๆ เลยนั่นแหละ
คือถ้ากรณีนั้นเจตนาของคนปั้นหรือแกะรูปจำลองก็น่าจะคิดด้วยความคิดว่าต้องการให้เหมือน Buddha ตัวจริงๆ เหมือนกัน? (แต่ก็นั่นแหละครับ ผมก็ไม่รู้เจตนาจริงของเค้าอีก)ถ้าจะตอบจริงๆ ก็ต้องไปถาม Dev แล้วล่ะครับว่าตั้งใจว่าไง แต่ผมอนุมานเอาว่า Fight of Gods ถ้าจะบอกว่าแทนตัวละครในเกมตัวอื่นเป็น Gods จริงๆ แต่ของพระพุทธเจ้าเป็นพระพุทธรูปคงจะแปลก
และใช่ครับ คนปั้น แกะ ทำพระพุทธรูปปกติก็ทำเพื่อให้เหมือนท่านอยู่แล้ว
คือความหมายของผม มันคือการทำจำลองแบบ ไม่ใช่ตัวจริง เลยมีค่าเท่ากันไม่ว่าจะเป็นพระพุทธรูปหรือ CG น่ะครับ
เห็นด้วยกับดังนั้นครับ
เออ จริงด้วยแฮะ เขาพูดถึงแต่ศาสดานี่เนอะ ผมผิดเองแหละ ขอบคุณครับ
เทคโนโลยีไม่ผิด คนใช้มันในทางที่ผิดนั่นแหละที่ผิด!?!
จะไปยึดติดกับสิ่งสมมติทำไมล่ะครับ ไม่เข้าใจ ประเทศที่วางให้เรื่องกฎหมายกับเรื่องศาสนาข้องเกี่ยวกันนี่ก็เจริญๆทั้งนั้นเลยนะครับ
ตอนนี้คุณไม่ได้อยู่ประเทศไทยสินะ เลยไม่รู้ว่าไทยมีหนังตลกพระด้วยนะ
พระพุทธ
พระธรรม
พระสงฆ์
พระรัตนตรัยไม่มีพระพุทธรูปนะครับ พระพุทธเจ้าก็เคยตรัสไม่ให้สร้าง
แต่ประเทศอ่อนไหวแถบนี้เอาพระสงฆ์ 1 ในพระรัตนตรัยมาเล่นตลก
แต่แบนเกมที่เอาพระพุธรูปไปใช้ ย้อนแย้งดี
Fight of Gods เป็นเกมแนวไฟท์ติ้งที่นำเอาตัวละครจากความเชื่อและศาสนามาต่อสู้กัน ซึ่งมีตั้งแต่ พระพุทธเจ้า พระเยซู โอดิน โมเซส อนูบิส ไปจนถึง กวนอู
เคยดูในคลิปเป็นพระพุทธรูปครับ สีทองมาเลย
แล้วไม่ใช่พระพุธรูปตามแบบศิลปะไทยด้วย
+1
+1
เคยได้ยินว่าพระสงค์ที่จัดในพระรัตนตรัย เหมือนจะนับเฉพาะพระสงค์ที่ปฏิบัติดีในยุคเริ่มต้นด้วยนะ(ไม่มั่นใจนัก) แปลว่าพระส่วนนึงในไทยก็คือนักบวช เป็นสาวก/ผู้สืบศาสนศึกษาธรรมซึ่งต่างจากชาวบ้านไม่มากนัก
พระสงฆ์ ตามที่บัญญัติไว้หมายถึงนักบวชพุทธที่รวมกัน 4 รูป หรือทวีคูณของ 4 ครับ เรียกว่าเป็นสมมติสงฆ์
หนังหลวงพี่ทั้งหลายก็ฉายกันได้ไม่เห็นมีดราม่าอะไร ทำไมต้องแบนเกม
อ่อนแอ
อ่อนแอจริงๆประเทศนี้ แทนที่จะใช้โอกาสนี้ปลูกฝังข้อคิดดีๆกลับตัดปัญหาเข้าใต้พรมไปงั้น
ไม่สนใจเกมภาพห่วยแบบนั้น
เรายังต้องใช้ชีวิตกับคนที่ยึดติด ก็ต้องเข้าใจในความยึดติดของเค้า
จริงครับ จะไปคาดหวังให้อุดมคติแบบตัวเองเป็นศูนย์กลางไปทั้งหมดไม่ได้
ก็แค่เกมยังแบน
game คือ เกมส์...ผมไม่บูชาเทพและศาสดาใดๆ เกมส์เป็นความคิดสำหรับการเล่นให้ความบันเทิง..สุดท้าย ศาสดาท่านหนึ่งตรัสว่า อย่ายึดติดสิ่งใดๆ เพราะสิ่งนั้นไม่ใช่ตนของตน จงปล่อยวาง..
เอาผู้นำมาสู้กันน่าจะดีกว่า
อันนี่น่าจะโดนแบนไวยิ่งกว่า
ผมเห็นว่าเป็นธรรมดาที่ถูกแบนนะครับ อย่าว่าแต่เอาศาสดาของใครมาทำเลย ถ้ามีคนให้ผมไปเหยียบรูปที่คนอื่นรัก ผมเองก็ยังทำไม่ลงทั้งที่ผมเองก็ไม่ได้รัก เพียงแต่ผมเห็นใจคนที่เขารัก
เรื่องการปล่อยวาง เป็นเรื่องของอริยะบุคคลใครทำได้ก็ขออนุโมทนาด้วยครับ
พระพุทธองค์ทรงตรัสไว้แล้ว ว่าการทะเลาะเบาะแว้งเกิดจากสิ่งอันเป็นที่รัก และสิ่งอันไม่เป็นที่รัก
อยากได้ของศาสนา Flying Spaghetti Monster ด้วยดิ
https://en.wikipedia.org/wiki/Flying_Spaghetti_Monster
ดีแล้วครับ อนาคตผมก็ไม่อยากเห็นเด็กๆ เอาศาสดามาล้อเลียน เช่น
A: ไปเลย บุดด้า
B: ชั้นเลือกนาย จีซัส
ทำแล้วมันส่งผลอย่างไรเหรอครับ
ถ้าเราจะรณรงค์ให้คนเคารพในผู้อื่น ก็ควรเคารพในความเชื่อของผู้อื่นด้วยนะครับ
ส่งผลอย่างไร? โดยทางตรงก็อาจทำให้ผู้ถูกล้อเลียนรู้สึกเดือดเนื้อร้อนใจได้ โดยทางอ้อมก็ปลูกฝังให้คนรู้สึกปกติกับการไม่เคารพความคิดผู้อื่นครับ
ผมไม่ค่อยชอบแนวคิดแบบว่า ต้องเคารพความเชื่อของฉัน เพราะมันจะทำให้ฉันรู้สึกไม่ดี แล้วฉันมีเกณฑ์ของ "การไม่เคารพ" เยอะมาก
เธอเอาบุคคลที่ฉันเคารพมาทำเป็นเกม มาทำเป็นละคร มาทำเป็นหนัง อะไรก็ตามที่ไม่ใช่การพูดถึงแต่สิ่งที่ดีอย่างยกย่อง ฉันถือว่าไม่เคารพทั้งหมด
แนวคิดแบบนี้ผมว่าทำลำบากครับ คนเคารพน้ำส้วม ดื่มน้ำส้วม เคารพพ่อปู่ เคารพเห็ด เคารพร่างทรงเค้าก็คงไม่อยากให้เราไปดูถูกเค้าเช่นกัน แต่ดูท่าทางว่าไม่มีใครจะออกมาปกป้องของแบบนี้เนอะ
ประเด็นที่สำคัญคือ การเอามาทำเป็นเกมมัน "ไม่ได้เป็นการไม่เคารพ" และ "ไม่ได้เป็นการดูถูก" และ "ไม่ได้เป็นการลดทอนคุณค่าความน่ายกย่อง" ใดๆ เลยครับ
สังคมของเราให้ความหมายของ "การเคารพ" ในแบบที่เหมือนสิ่งศักดิ์สิทธิ และห้ามแตะต้องกับทุกสิ่ง ตั้งแต่รูปปั้นปรีดี เห็ด หมู 2 หน้า รูปปั้น รูปหล่อ เครื่องดนตรีพื้นบ้าน ฯลฯ ขนาดแม้ว กับลุงตู่ยังมีคนเคารพเป็นสิงศักดิ์สิทธิเลย คือเราอนุญาติให้แสดงความเคารพแบบนบนอบบูชาได้เท่านั้น
การแสดงความเคารพนั้นเป็นเรื่องของมนุษยชน + มนุษยธรรม ผมว่ามันมีความเป็นสากลพอควร ในขณะที่การแสดงออกแบบไทยๆ นี้ไม่ควรเรียกว่าเคารพครับ ควรเรียกว่า "บูชา"
เพียงแค่ไม่ได้แสดงออกด้วยวิธีที่ตัวเองยอมรับได้ ก็ถือว่าไม่เคารพแล้ว ฉะนั้นอย่าถือว่าคนอื่นไม่เคารพเลยครับ เพราะแค่ให้ยอมรับวิธีคิดที่แตกต่างยังทำไม่ได้เลย
เสริมอีกนิด
คนเราถูก offense ทางความเชื่อในระดับที่ต่างกัน คำถามคือเราต้องเคารพระดับไหน บางคนถึงขนาดห้ามวิจารณ์ด้วยซ้ำ ทั้งๆ ที่คำสอนของหลายศาสนาก็สอนเรื่องการพิจารณา
หรือว่าการเคารพมันเป็นการแสดงออกแบบทางเดียวเหรอครับ
เอาเรื่อง Offense คนเรามีสิทธิจะไม่สบายใจได้ครับ แต่จะทำอะไรเพื่อโต้ตอบได้ระดับไหนก็ขึ้นสิทธิ (ตามกฎหมาย) ด้วยครับ ซึ่งผมก็เข้าใจนะว่ากฎหมายพวกนี้มันกว้างๆ ขึ้นกับการตีความ แต่ถ้าผมพูดว่าพระพุทธเจ้าเกิดมาไม่น่าจะเดินไป 7 ก้าวตามหลักชีววิทยา แล้วคุณมาต่อยปากผมหาว่าผมไม่เคารพ ก็เจอกันที่โรงพักนะ อะไรแบบนั้นครับ
ผมไม่ได้อ้างอิงอะไรกับข่าวนี้ (การเอาศาสดามาทำเป็นเกม) ผมพูดถึงที่คุณ oatzaemon เอาศาสดามา "ล้อเลียน" ครับ ซึ่งคำว่าล้อเลียนเนี่ย
มันเป็นเรื่องไม่ควรทำอยู่แล้วครับ
ส่วนเรื่องการ "เคารพหรือไม่เคารพ" เนี่ย ตราบใดที่คนที่เขาเคารพไม่ได้มาละเมิดสิทธิของคุณ คุณก็คงไปทำอะไรไม่ได้ เช่น เขาจะไปดื่มน้ำส้วมในเขตบ้านเขาหรือที่สาธารณะ แต่ถ้าเขาจะมาดื่มน้ำส้วมที่ผุดขึ้นมาในบ้านคุณโดยคุณไม่อนุญาต คุณก็มีสิทธิจะไม่ยอม หรือเขาจะมาบังคับให้คุณดื่มกับเขาก็ย่อมไม่ได้เช่นกัน
เรื่องการบูชาศาสนาต่างๆ ถ้าใครจะกราบไหว้รูปหล่อใดๆ ผมก็ไม่ห้าม (เรียกว่าไม่แคร์ดีกว่า) แต่ถ้าเขาคนนั้นเคารพความคิดของผม (ที่ไม่นับถือศาสนาใด) ก็ย่อมควรจะแยกแยะได้ถ้าผมจะไม่กราบไหว้เหมือนพวกเขา หรือจะทำอะไรตามแนวความเชื่อของผมน่ะครับ
ถ้าให้พูดแบบตรงๆ ปัญหาทุกวันนี้คือ คนคลั่งศาสนาไม่เคารพความเชื่อของคนไม่นับถือศาสนา หรือนับถือในรูปแบบอื่นครับ มันถึงได้มีการห้ามสร้างหนัง ห้ามสร้างเกม ห้ามนู่นนี่นั่นอะไรเยอะแยะมากมาย ผมถึงบอกว่าถ้าทุกคนเคารพความคิดกันและกัน ทำอะไรในกรอบของตัวเองจะดีที่สุดครับ
ผมไม่ได้ไปถ่ายรดหิ้งพระบ้านคุณ คุณก็ไม่ควรมายุ่งกับเกมที่ผมควักเงินตัวเองซื้อ อะไรแบบนั้น
คือมันขัดกันหลายอย่างนะครับ ซึ่งอาจเป็นเพราะผมตีความไม่ดีเอง
อย่าเรื่องล้อเลียนนี่ผมก็ไม่เห็นว่าจะ "เอาอย่างเพื่อยั่วเย้า" อ่ะนะ
ส่วนที่เหลือ ผมตีความยังไงมันก็ขัดกับที่คุณบอกว่า "ควรเคารพความคิดของคนอื่น" นี่แหละครับ โดยเฉพาะกรอบที่คุณเอ่ยถึงนี่แหละยิ่งทำให้มันดูขัดมากๆ
ในขณะที่คนๆ นึงไม่ได้รู้สึกว่า "ไปเลยบุดด้า" นั้นเป็นการล้อเลียน แต่คนที่คิดว่านี่คือการล้อเลียน กลับจะได้สิทธิในการแสดงความคิดมากกว่า และกลายเป็นว่าคนที่พูดแบบนั้น กลายเป็นทำเรื่องไม่สมควร
คำถามคือกรอบมันอยู่ตรงไหน แล้วกรอบคำว่าเคารพความคิดมันอยู่ตรงไหนครับ
ดูๆ แล้วเหมือนว่าคนที่ถูก offense ทางความรู้สึกนี่จะมีสิทธิในการแสดงออกมากกว่านะครับ ประมาณว่าตำหนิคนที่คิดไม่เหมือนตนได้ แถมชีวิตแทบไม่ต้องรับผลกระทบอะไรเลย แต่คนที่พูดว่า "ไปเลยบุดด้า" นี่ท่าทางจะต้องถูกตราหน้าและแบกรับอะไรเยอะแยะ
เพียงเพราะถูกมองว่า "ไม่เคารพความรู้สึก" นี่อ่ะนะ?
คนเราถึงมีสิ่งที่เรียกว่า วิจารณญาน มาประกอบด้วยไงครับ
ผมยกตัวอย่างง่ายๆ ว่า ผมกำลังนั่งกินหมูเส้นอยู่อย่างเมามัน พอดีเพื่อนผมพานาย A มาแนะนำให้รู้จัก ซึ่งบังเอิญนาย A นับถือศาสนาอิสลาม แต่ผมไม่รู้ ผมจึงเอ่ยปากชวนว่า "มากินหมูเส้นด้วยกันมั้ย" ซึ่งเป็นข้อห้ามในศาสนาของเขา
แบบนี้ถือว่าผิดไหม? ผมคิดว่าคงไม่ผิดเพราะไม่ได้มีเจตนาอะไร แต่เขาอาจจะรู้สึกถูก Offend และโกรธผมก็ได้ เอาอย่างร้ายที่สุดเขาอาจจะหาว่าผมไปหมิ่นศาสนาเขาก็ได้ แต่ถ้าไปถึงขั้นนั้น เขาเองกำลังเป็นฝ่ายที่ละเมิดความเชื่อ (ว่าหมูอร่อยและกินได้ปกติ) อยู่ ซึ่งพฤติกรรมแบบนี้ไม่ถูกต้อง ไม่ควรทำ ไม่เคารพความเชื่อผม (ในความเห็นผมครับ)
ในมุมกลับกัน ผมรู้จักนาย A ดีแล้ว เป็นเพื่อนกันมานาน อยู่มาวันหนึ่งผมนั่งกินหมูเส้นอยู่ พอนาย A มาผมก็ไปยื่นให้เสนอให้อีกด้วยเจตนาจะล้อเลียนความเชื่อเขา แบบนี้ก็คือผมไม่เคารพความคิดเขาเหมือนกันครับ ซึ่งก็ไม่ควรทำเช่นกัน
กลับมามุม "ไปเลยบุดด้า" ถ้าให้ผมตอบคือ คุณตั้งใจพูดเพื่ออะไรครับ ถ้าคุณตั้งชื่อสุนัขที่บ้านว่าบุดด้า แล้วบอกให้มันไปคาบกิ่งไม้มา ผมก็ไม่เห็นว่าใครจะมาละเมิดความคิดอะไรคุณได้ แต่ถ้าคุณไปหยิบพระพุทธรูปของใครมาทำท่าบินๆ แล้วพูดว่า "ไปเลยบุดด้า" มันก็ออกจะละเมิดความคิดคนอื่นอยู่นะครับ
ที่คุณพูดมาทั้งหมดผมเข้าใจนะว่า คุณรู้สึกอึดอัดที่ "คนเรื่องเยอะมีปากมีเสียงกว่าคนเรื่องน้อย" ซึ่งการที่ผมบอกว่า "ควรเคารพคนอื่น" นี่แหละคือการบอกว่า "ให้คนเรื่องเยอะหัดเคารพความคิดคนเรื่องน้อยด้วย" นะครับ
ผมไม่ค่อยเชื่อในคำที่ความหมายกว้างๆ ปลายเปิดแบบ "เคารพความคิดผู้อื่น" ก็เพราะวิจารณญาณของทุกคนไม่เท่ากันนี่แหละ
แต่ผมเชื่อในการเคารพซึ่งกันและกันมากกว่าครับ เช่น คุณอาจจะไม่เคารพความคิดของเค้า ถึงขั้นไม่เห็นด้วยก็ได้ แต่มันก็ยังโอเค ตราบใดที่คุณไม่เข้าไปยุ่งเกี่ยวกับการกระทำนั้นๆ ตราบใดที่มันไม่ได้สร้างความเดือดร้อนให้กับคุณ
อย่างเคสไปเลยบุดด้านี่ก็ชัด ไม่เห็นด้วยก็ได้ แต่คุณไม่มีสิทธิจะมาบอกว่า "นั่นเป็นสิ่งไม่ดี" ด้วยซ้ำครับ ไม่ว่าผมจะทำอะไรก็ตาม ยิ่งถ้าออกมาบอกว่ามันเป็นสิ่งไม่ดีเพียงเพราะทำให้รู้สึกไม่ดีเนี่ย
ในกรณีที่มันเป็นของๆ คนอื่น เราก็ไม่ควรไปหยิบขึ้นมาอยู่แล้วครับ แม้ว่าจะไม่ใช่บุดด้าก็ตาม แต่ในทุกวันนี้ต่อให้มันเป็นพุทธรูปของเรา เราเอาไปเป็นเครื่องแต่งบ้านก็ยังถูกละเมิดเลย ถูกมั้ยครับ?
นิดนึงครับ ผมอาจจะไม่ตอบยาวๆ แล้วนะครับ กลัวโดนดุครับ แหะๆ
ปัญหาของคนที่ไม่ได้นับถือศาสนาไม่เคารพความเชื่อของคนนับถือศาสนาก็มีมากเหมือนกันนะครับ
ปัญหาที่มาจากคนไร้ศาสนา และเอเทสต์เยอะมากครับ ทั้งดูถูก ด่าทอ เอามาล้อเลียนแบบเสียหาย ด้วยภาษาที่ทุกประเทศ ทุกเชื้อชาติเห็นตรงกันว่ามันคือการลบหลู่ ดูหมิ่น
เช่น เรียกด้วยคำหยาบต่างๆ + ชื่อศาสดา, เอารูปเท้า รูปอุจจาระ ไปตัดต่อใส่รูปจำลอง, เอาภาพหัวที่ทุกคนเข้าใจว่าเป็นศาสดาต่างๆ ไปใส่สัตว์, เอาไปตัดต่อใส่ภาพโป๊
นี่ยังไม่รวมการกระทำต่อศาสนิกนะครับ
แต่อย่างเอามาเขียนเป็นการ์ตูน เอามาทำเป็นเกม เอามาทำเป็นหนัง แบบนี้มันไม่เคารพยังไงก็ไม่ทราบได้ อธิบายได้แค่ว่ากระทบความรู้สึก
แต่ผมถือแนวคิดการเคารพความคิดคนอื่นนะครับ ตราบเท่าที่มันไม่ก้าวล้ำมาเบียดเบียนคนอื่นจนเกินไป
ไม่งั้นตามในข่าวนี้ก็เท่ากับว่า ไม่ควรค้านเกมนี้แต่ควรเคารพความคิดของนักพัฒนาเกมแทนเพราะไม่งั้นนักพัฒนาเกมก็รู้สึกไม่ดีเช่นกัน
ส่วนตัวผมไม่ค่อยให้ความสำคัญกับการต่อต้านการกระทำใดๆ เพียงเพราะการกระทำนั้นทำให้คนบางกลุ่มรู้สึกแย่อย่างไร้หลักคิดครับ
อย่างต่อต้านเกมเพียงเพราะรู้สึกว่าเกมไม่เคารพศาสดาอะไรแบบนี้ครับ
game ของ taiwan