วางขายกันไปซักพักแล้วกับ Xiaomi Mi A1 ซึ่งก็ถือว่าเป็นสมาร์ทโฟนที่เรียกความสนใจเป็นวงกว้างได้ค่อนข้างมาก จากด้วยสเปคและราคา ไปจนถึงประสิทธิภาพและการการันตีได้รับอัพเดตของ Android One เอง

ทีมงาน Blognone ได้สั่ง Mi A1 จาก Alibaba ตั้งแต่วันแรกๆ ที่เปิดให้สั่งได้ แต่กว่าเครื่องจะมาถึงก็ใกล้กับวันวางจำหน่ายในประเทศไทยแล้ว ดังนั้นบทความนี้จะไม่ได้รีวิวลงรายละเอียดของตัวเครื่องมากนัก แต่จะเป็นการแชร์ประสบการณ์ใช้งานที่พบเจอเกือบ 2 สัปดาห์ที่ผ่านมาแทน

การใช้งานลื่นไหลสมเพียวแอนดรอยด์ แบตอึดพอจะอยู่ได้ทั้งวัน

ด้วยสเปคระดับกลางค่อนบนอย่าง Snapdragon 625 แรม 4GB เมื่อรันด้วยเพียวแอนดรอยด์​ ประสบการณ์ใช้งานที่ได้ จึงลื่นไหล ไม่มีแลค ไม่มีกระตุก เปลี่ยนสลับแอปมาก็ค่อนข้างเร็ว ไม่ต้องโหลดนาน อย่างไรก็ตามหากเล่นเกมกราฟิคสูงๆ อาจไม่ลื่นเท่ารุ่นท็อป แต่ก็ยังอยู่ในเกณฑ์ที่เล่นได้สบายๆ

แบตเตอรี่ให้มา 3,080 mAh บวกกับฟีเจอร์ Doze บนแอนดรอยด์ Nougat ทำให้ Mi A1 สามารถใช้งานได้ทั้งวันแบบสบายๆ ในกรณีที่ออกจากบ้านตั้งแต่เช้าและเข้าบ้านตอนค่ำๆ หากใช้งานทั่วไป ไม่เล่นเกมหรือดูวิดีโอแบบหนักๆ แบตเตอรี่ถือว่าเหลือๆ ถึงก่อนเข้านอนด้วยซ้ำไป แต่หากเล่นเกมดูหนัง ก็ลดหย่อนไปบ้าง แต่ก็ยังอยู่ในระดับพอใช้งานทั้งวัน

อย่างไรก็ตามปัญหาใหญ่ๆ ในแง่แบตเตอรี่ของ Mi A1 คือหัวชาร์จที่แถมมาให้ไม่มีฟีเจอร์ชาร์จเร็ว ทำให้เวลาชาร์จจากแบตเตอรี่น้อยๆ จะใช้เวลาหลักชั่วโมงขึ้นไปทั้งสิ้น

ส่วนเรื่องการอัพเดต เข้าใจว่า Mi A1 ไม่ได้รับจาก Google โดยตรงแต่ผ่านมาทาง Xiaomi ก่อน ทำให้การอัพเดตแพทช์รายเดือนช้ากว่าที่ Google ปล่อยออกมาราว 2 สัปดาห์ แต่ก็ถือว่ายังได้ตามรอบ ไม่มีหลุด และที่สำคัญ Android One ได้รับอัพเตดระบบปฏิบัติการยาวอย่างต่ำ 2 ปี

เครื่องค้างคือปัญหาหลักของ Mi A1 ที่พบเจอ

ปัญหานี้ทั้งเจอด้วยตัวเองและเพื่อนร่วมงานที่ใช้อยู่ก็เจอในลักษณะเดียวกัน คือใช้ๆ อยู่เครื่องค้าง ทำอะไรไม่ได้เลย (แต่เพลงจาก Spotify ที่เปิดไว้ยังเล่นอยู่) หรือบางทีปลดล็อคเครื่องแล้วหน้าจอไม่ติด (แต่ไฟที่ Navigation Bar ด้านล่างติดเหมือนตอนปลดล็อคปกติ) ต้องกดปุ่มล็อคหน้าจอค้างเพื่อรีเซ็ทเครื่อง เคยเจอหนักที่สุดคือค้าง 4-5 ครั้งติดกันในหนึ่งวัน ซึ่งได้แต่เดาว่าอาจเกิดจากแอปบางแอป แต่ก็ยังหาไม่เจอว่าแอปไหน

ปัญหาลักษณะคล้ายๆ กันแต่เป็นคำบอกเล่าจากคุณ BlackMiracle คือขณะถ่ายวิดีโอ 4K และกดถ่ายรูปไปด้วย ทำให้เครื่องค้างไปเลย และเมื่อรีสตาร์ทกลับมา วิดีโอที่ถ่ายไว้หายไปเหลือแต่รูปถ่าย ส่วนคุณ Nrad6949 เล่าว่าลองเสียบหัวชาร์จ QuickCharge 3.0 แล้วชาร์จเร็วได้ แต่ต้องเสียบปลั๊กก่อนจะเสียบสายเข้าตัวเครื่อง หากเสียบเครื่องก่อนแล้วเสียบปลั๊ก เครื่องจะรีบูทตัวเองทันที แต่ไม่มีปัญหาเครื่องค้างแบบสุ่มอย่างที่ผมและคุณ BlackMiracle โดน

ส่วนอีกปัญหาที่เจอแต่ไม่ใช่ปัญหาใหญ่เท่าไหร่นัก คือหน้าจอของ Mi A1 ติดเหลืองเล็กน้อย อาจไม่ชินในช่วงแรกๆ

กล้อง ไม่ดีไม่แย่ แต่คุ้มค่าสำหรับราคาระดับนี้

Mi A1 มาพร้อมกล้องหลังคู่ ความละเอียด 12 ล้าน ออพติคัลซูม x2 และไม่มีกันสั่น ถ้าเปรียบเทียบกับกล้องสมาร์ทโฟนแพงๆ คงสู้ไม่ได้ ทั้งไวท์บาลานซ์ ทั้งแสง ทั้งน้อยซ์ในที่แสงน้อย แต่ด้วยความที่ราคาค่าตัวมันแค่ 8,000 บาท คุณภาพรวมๆ ออกมาแล้วก็ถือว่าน่าพอใจ โดยเฉพาะในพื้นที่ที่แสงเพียงพอ

Portrait Mode

Panorama

ปัญหาหลักๆ ที่พบคือเวลาถ่ายด้วยโหมด HDR หลังกดชัตเตอร์ ตัวเครื่องจะใช้เวลาประมวลผลเกือบๆ 1 วินาที ซึ่งหากมือสั่นหรือถ่ายในที่แสงน้อยจะค่อนข้างเป็นปัญหา เพราะจากที่ลองใช้มาช่วงแรกๆ เราจะไม่ทราบว่าตัวเครื่องเก็บภาพในจังหวะไหน (ไม่ใช่หลังกดชัตเตอร์แน่นอน) และหากขยับช่วงที่ชัตเตอร์ลั่นพอดี ภาพจะเสียไปเลย

สรุป

เมื่อมองจากในแง่ของราคาที่ 8,000 บาทกับประสบการณ์โดยรวมของเพียวแอนดรอยด์ ก็ถือว่าน่าสนใจกับการซื้อมาใช้งาน คุณภาพกล้องถือว่ารับได้ในราคาระดับนี้ เพียงแต่อาจมีความเสี่ยงกับการเจอปัญหาเครื่องค้างอย่างที่กล่าว

ข้อดี

• เพียวแอนดรอยด์ ได้รับอัพเดตต่อเนื่อง
• แบตเตอรี่ใช้งานได้ทั้งวัน

ข้อเสีย

• มีโอกาสเจอบั๊กทำเครื่องค้าง
• หัวชาร์จที่แถมมาไม่รองรับ QuickCharge