iPhone X ถือเป็นสมาร์ทโฟนตัวแรกของแอปเปิลที่ใช้หน้าจอ OLED ซึ่งที่ผ่านมาเราเห็นสมาร์ทโฟนค่ายอื่นเจอปัญหาจากจอประเภทนี้อยู่บ้าง (ล่าสุดก็ Pixel 2 XL) แอปเปิลจึงออกตัวไว้ก่อนเลยว่าปัญหาเหล่านั้นก็อาจเกิดได้เช่นกัน
ในหน้าซัพพอร์ตของแอปเปิล ได้เพิ่มเนื้อหาเกี่ยวกับการทำงานของจอ OLED โดยทั่วไป ซึ่งตอนหนึ่งระบุว่าหากมองจอในมุมทแยงมากๆ ก็อาจพบปัญหาสีที่แสดงเพี้ยนไป และหากใช้งานเป็นเวลานานต่อเนื่อง ก็อาจเจอปัญหาภาพติดหน้าจอ หรือที่เรียกว่าจอเบิร์นได้ อย่างไรก็ตามแอปเปิลบอกว่าทีมวิศวกรได้ร่วมกันพัฒนา OLED บน iPhone X นี้ให้ออกมาดีที่สุดในท้องตลาด และลดโอกาสที่จะเกิดปัญหาจอเบิร์นไปพอสมควรแล้ว
คำแนะนำเพิ่มเติมของแอปเปิลเพื่อรักษาคุณภาพจอ OLED คือให้อัพเดตซอฟต์แวร์เป็นปัจจุบัน, ตั้งค่าความสว่างอัตโนมัติ, ตั้งล็อกจออัตโนมัติเมื่อไม่ใช้งาน และหลีกเลี่ยงการแสดงภาพนิ่งค้างบนจอที่ระดับความสว่างสูงสุด
ที่มา: 9to5Mac
Comments
iPhone กากบาท ปัดสวะให้พ้นตัวต้องเต้นท่าไหน
อันนี้เป็นเทรนด์ด่า iPhone รึเปล่าครับ จอ OLED มันก็มีโอกาสเกิดเหตุแบบนี้ทุกรุ่นไม่ใช่เฉพาะ iPhone
แล้วแต่นักพัฒนาว่าจะเอาคำพูดไปพัฒนาในทางไหน ด่าหรือเอาไปคิดแก้ไข ผู้น้อยอย่างผมก็แค่เสนอแนะให้เต้นเป็นศิลปะ
คำแนะนำในการซื้อ : ให้ซื้อล็อตหลังๆ ที่แก้ไขข้อผิดพลาดในล็อตแรกๆ แล้ว (เป็นทุกยี่ห้อครับ)
เทคโนโลยีจอ OLED ยังมีข้อจำกัดอยู่ แล้วพวกทีวี ที่ทำๆ กันตัวท็อปๆ นี่แก้ปัญหากันได้ยังละเนี่ย
อยากบอกว่าเป็นเหมือนกันครับ LG OLED เห็นเป็นหลายเครื่องแล้วครับ
ตอนนี้ที่ paragon ส่วนที่ขายทีวีเยอะ กำลังลดราคาขายตัวโชว์ของ LG OLED อยู่ครับ
55 นิ้ว ลดมาเหลือ 6 หมื่นกว่าๆ ถ้าจำไม่ผิด
และแน่นอนว่ามีบางส่วนของจอเบิร์นไปเรียบร้อยแล้ว ไม่เข้าใจว่าใครจะยอมมาซื้อไป
ปัญหานึงของโทรศัพท์คือมี UI บางส่วนที่แสดงผลเหมือนเดิมเป็นเวลานาน อาการ burn-in เลยจะเกิดง่ายกว่าทีวีน่ะครับ
รู้สึก s series note series จะไม่เป็นนะครับ amoled ด้วย
S เป็นครับ หลายคนเลย
ผมใช้โน๊ต 4 เปิดหน้าจอหนักหน่วงตลอด 4 ปี (เพราะว่างจัดเลยหยิบบ่อย) ยังไม่เป็นเลยครับ
ลักษณะการเกิด Burn จะเป็นแบบว่า เปิดภาพเดิมๆ ให้เม็ด LED ฉายภาพสีนั้นค้างเป็นเวลานานครับ LED จะไหม้
คนที่หยิบเล่นนู้นนี่นั่นตลอด คือจะไม่ค่อยเป็นครับ เพราะ LED ถูกเปลี่ยนเป็นสีนั้นนี่นู้น อยู่ตลอด
ไม่น่าจะใช่นะครับ กรณีของ OLED นี่จริงๆ แล้วที่เกิดอาการภาพค้างถาวรนั้น ไม่ใช่เพราะมัน Burn หรือเม็ดสีฉายภาพนั้นเป็นเวลานานจนเม็ดสีไหม้อย่างกรณีของพลาสม่า
หากแต่อาการของมันจริงๆ คือเพราะแต่ละเม็ดสี OLED มันเปล่งแสงได้ด้วยตัวมันเอง ซึ่งทุกเม็ดสีมันก็มีอายุการใช้งานของมันอยู่ ยิ่งอายุผ่านไปเม็ดสีเสื่อมลง ความสว่างก็จะลดลง ปัญหาคือการแสดงผลที่มีรูปแบบซ้ำๆ เดิม (เช่น notification bar) ทำให้เม็ดสีมันเสื่อมสภาพไม่เท่ากัน โดยเฉพาะจุดที่แสดงสีขาวบ่อยๆ จะเสื่อมไปก่อน นั่นจึงทำให้เกิดอาการภาพค้างติดจอ ที่เราเรียกกันว่าจอเบิร์น แต่แท้ที่จริงแล้วมันไม่เบิร์นนะครับ มันแค่เม็ดสีเสื่อมสภาพไม่เท่ากันต่างหาก
ในกรณีของ OLED ถ้าปิดจอ หรือฉายภาพสีดำสนิท ก็จะไม่เห็นร่องรอยนั้นๆ ครับ ในขณะที่อาการจอ Burn ของจอประเภทอื่นๆ แม้แต่ปิดจอ ก็ยังเห็นร่องรอยของอาการ Burn ชัดเจน คือมันไหม้จนติดจอจริง
ผมใช้ Note 4 จอก็เบิร์น มี S5 เครื่องเก่า จอก็เริ่มจะเบิร์นแล้วเหมือนกัน มองว่ามันเป็นเรื่องปกติครับ เพราะใช้งานจริงนี่แทบไม่มีเรื่องให้หงุดหงิดใจเลย เพราะสีมันสด สว่างและคมชัดเป็นทุนเดิมอยู่แล้ว แทบไม่เห็นรอยด่างนอกจากเปิดสีขาวสว่างจริงๆ มันไม่เหมือนเครื่องรุ่นเก่าๆ บางเครื่อง (ที่เป็น LCD ไม่รู้ว่าเบิร์นได้ไง) ถ้ามันเบิร์นนี่มันด่างมากจนน่าหงุดหงิดเลย
ถ้ามันเป็นอาการเบิร์นแบบเดียวกัน 100% นี่เค้าคงไม่ทำขายครับ
เห็นตัวโชว์ S6 S7 เป็นครับ ค้างแบบเด่นชัดมาก
แต่ส่วนตัว Galaxy Alpha ยังไม่เป็นครับ
note8 จะเป็นเปล่า
เครื่อง Demoบางช้อปเป็นครับ เห็นมาแล้ว
Samsung คิดในใจ กรูเถียงกับลูกค้าตั้งนาน
ก็ยังดีกว่าไม่บอก แสดงว่าเคลมได้
ไม่ใช่ว่าให้รับรู้ก่อน จะได้บอกว่าผู้ใช่ยอมรับหรอครับ
แต่ก็ไม่เห็นบอกว่าจะเคลมได้นะ
ผู้บริหารเก่งจริง ss คงคิดว่าโดนด่ามาตั่งนาน เจอappleเข้าไป จุกเลยทีเดียว
ราคาขนาดนี้เกิดจอเบิร์นขึ้นมาคงทำใจลำบากมากเลย ก้มหน้าก้มตาใช้จอแบบเดิมต่อไป..
ถูกโดยดีฟอลนี่มันดีแบบนี้นี่เอง
เป็นเรื่องปกติของจอ OLED จะตื่นเต้นกันทำไมครับ ก็แค่กลัวเสียดายเงินที่ซื้อในราคาที่แพงจนเกินไป
เดี๋ยวมันก็ตามจอพลาสม่าไป สุดท้ายกลับมาตายรังLED(LCD) เหมือนเดิม
คำพูดวิธีแก้ปัญหาแบบนี้ บ้านเราน่าจะชินแล้วนะครับ //ไม่ !!
รู้ว่ามีข้อเสียแล้วบอกก็หาว่า "ปัดสวะ"
รู้ว่ามีข้อเสียแล้วไม่บอกก็หาว่า "หมกเม็ด"
นี่ล่ะนะ ... คนเรา
That is the way things are.
นี่ล่ะนะ << จะด่าอะไรผมอีกหละ ตามไปตอบกระทู้ก่อนหน้านี้ก่อนซิ หรือแค่พูดลอยๆ hahaha ผมขอโทษ(มือพี่ลั่นไปเอง โอ้วโอ้ยยย) ทีหลังก็ทำลืมๆไปบ้าง อย่าไปเครียด แค่ความเห็นคนๆนึง ไม่มีค่าพอหรอก :)
ร้อนรุ่มใจจนถึงขนาดต้องมาตามเลยเหรอครับ ;)
ผมอ่าน web นี้วันละครั้งสองครั้ง ไม่ได้ว่างมา monitor comment คุณครับ ถ้าตอบช้าไปก็หวังว่าคงเข้าใจ
อีกอย่างบางทีก็เหนื่อยที่จะต้องตอบกับพวกเลี่ยงประเด็น เลี่ยงบาลี อธิบายเรื่องเดิมซ้ำ ๆ แต่ก็ยังไม่เข้าใจ ผมก็บางทีไม่รู้จะต้องพิมพ์อะไรต่อครับ ที่ผมตอบไปที่ข่าวนั้นคงเป็นการตอบครั้งสุดท้ายแล้วล่ะครับ เพราะผมตอบเรื่องเดิมคุณก็หาว่าผมนอกประเด็น ผมถามเชิงยกตัวอย่างหลายเรื่องคุณก็เลือกตอบแค่บางเรื่อง มันก็น่าจะรู้อยู่แก่ใจกันแล้วนะครับว่าอะไรเป็นอะไร การเลือกตอบเลี่ยงตอบน่าจะเข้าใจนะครับว่ามันสื่อว่าอะไรแบบไหน (เลี่ยงไม่ตอบก็เพราะว่าตอบไม่ได้ มันเรื่องง่าย ๆ แค่นั้นเอง) คนอื่นอ่านเข้าก็เห็น ไม่น่าจะต้องฝืนอะไรอีก
That is the way things are.
ก็ดีครับที่บอกกันไว้ก่อน ตอนนี้เลยรอ iPhone Gen ถัดไป ที่อาจจะใช้จอที่มีเทคโนโลยี่ดีกว่า OLED ไม่น่าเกิน 3 ปี ส่วนรุ่น X ที่เป็นรุ่นครบรอบ 10 ปีนี่ คงไม่มีการผลิตต่อแล้ว เพราะเป็นแค่รุ่นที่ระลึก รุ่นถัดไป iPhone 9 ไม่ก็ 8s เรื่องจอก็อาจจะยังเดิม ๆ รุ่น 11 นี่จะดีแล้ว
เป็นข้อเสียเฉพาะตัวของจอประเภทนี้อยู่แล้วครับเขามาแจ้งเพื่อลดแรงเสียดทานเท่านั้นแหละ ไว้เกิดแล้วยังอยู่ในประกันแต่ไม่รับเคลมสิค่อยด่า
Lcd ips ก็จะมีความทนทานมากกว่า oled หรือเปล่าครับ
Samsung ระยะหลังๆ นี้น่าจะเรียนรู้จากรุ่นแรกๆ ที่มีแถบ notification สีดำ มาเป็นสีอื่นๆ ตามแอพแทน
ที่เห็นตามร้านจอเิร์น เพราะเปิดตัว Presentation โฆษณาเครื่องทิ้งไว้
อาจเป็นสาเหตุที่เครื่องผู้ใช้ทั่วไปไม่ค่อยเป็นกัน
ซัพพอร์ => ซัพพอร์ต