ข่าวร้ายของ Uber ยังเกิดอย่างต่อเนื่อง โดยซีอีโอใหม่ Dara Khosrowshahi ออกมาประกาศว่าข้อมูลของบริษัทที่ฝากไว้กับ AWS โดนแฮ็ก 2 ครั้งในเดือนตุลาคม 2016 และแฮ็กเกอร์เข้าถึงข้อมูลของลูกค้า

ข้อมูลเหล่านี้ประกอบด้วยประวัติคนขับรถ 7 ล้านคน และข้อมูลของลูกค้า 57 ล้านคน ประกอบด้วยชื่อ อีเมล หมายเลขโทรศัพท์ แต่ไม่มีหลักฐานว่าข้อมูลการเดินทาง บัตรเครดิต วันเกิด ถูกเข้าถึงและนำออกไปด้วย

Uber ยอมจ่ายเงิน 1 แสนดอลลาร์ให้แฮ็กเกอร์ แลกกับการลบข้อมูลเหล่านี้ และบริษัท "เชื่อว่า" ข้อมูลเหล่านี้ไม่ถูกนำไปใช้งานต่ออีก

Dara Khosrowshahi บอกว่าเขาตกใจมากที่ค้นพบว่า บริษัทโดนแฮ็กมาเป็นปีแล้วแต่กลับปิดข่าวไว้ เขาจึงสั่งให้สอบสวนโดยละเอียดและเชิญผู้เชี่ยวชาญความปลอดภัยจากนอกองค์กรมาร่วมด้วย เขายอมรับว่าสิ่งเหล่านี้ไม่ควรเกิดขึ้น และจะไม่แก้ตัว เขาไปแก้ไขอดีตไม่ได้ แต่ก็หวังว่าลูกค้าจะเข้าใจว่า Uber กำลังเปลี่ยนแปลงตัวเอง ให้เป็นบริษัทที่น่าเชื่อถือในทุกแง่มุมของธุรกิจ

ตามกฎหมายแล้ว Uber จะต้องรายงานข่าวการแฮ็กข้อมูลของคนขับรถไปยังหน่วยงานภาครัฐ แต่บริษัทเลือกไม่ได้เช่นนั้น โดย Bloomberg รายงานว่า Travis Kalanick อดีตซีอีโอ (ในตอนนั้น) ทราบเรื่องนี้ในเดือนพฤศจิกายน 2016 แต่ช่วงนั้น Uber เพิ่งยุติคดีกับอัยการรัฐนิวยอร์กในเรื่องการรักษาข้อมูลส่วนตัวของลูกค้าจากคดีเก่าในปี 2014 จึงอาจเป็นเหตุผลที่ Uber เลือกปิดข่าวการโดนแฮ็กเอาไว้ และใช้วิธีไปจ่ายค่าไถ่ให้แฮ็กเกอร์แทน

แต่หลังเรื่องนี้เป็นข่าว อัยการรัฐนิวยอร์กก็ประกาศว่าจะเข้ามาสอบสวนเรื่องนี้แล้ว

Bloomberg ยังรายงานว่า Uber ตัดสินใจไล่ Joe Sullivan หัวหน้าฝ่ายความปลอดภัย (Chief Security Officer) และทีมงานส่วนหนึ่งออก หลังบอร์ดของบริษัทค้นพบกรณีถูกแฮ็กและไม่ยอมเปิดเผยต่อสาธารณะ

ที่มา - Uber, Bloomberg