Siggraph Asia งานประชุมวิชาการด้านคอมพิวเตอร์กราฟฟิก interactive ที่มีชื่อเสียงระดับโลก มีงานวิจัยและนิทรรศการจากบริษัทและบุคลากรในสายงานด้านคอมพิวเตอร์กราฟิกและอินเตอร์แอคทีฟ เช่น แอนิเมชัน เกม สื่อ interactive งานวิจัย วิทยาศาสตร์ ศิลปะและการศึกษา Siggraph จัดขึ้นเป็นครั้งที่ 10 แล้ว โดยปีนี้จัดขึ้นที่ประเทศไทย ณ ไบเทค บางนา วันที่ 27 - 30 พฤศจิกายน ภายใต้ชื่องานว่า "The Celebration of Life and Technology"

ไฮไลต์ในงานคือ การบรรยายจากทีมโปรดักชั่นระดับโลกอย่าง Pixar, Industrial Light & Magic, Disney, Marvel Studios และ Framestore และยังมีงานแสดงผลงาน ฉายแอนิเมชั่นกว่า 20 เรื่อง จัดแสดงนิทรรศการและงานศิลปะจากเทคโนโลยี Blognone มีโอกาสได้ไปเดินดูนิทรรศการในระยะเวลาสั้นๆ จึงเก็บงานวิจัยและภาพบรรยากาศมาฝาก

เมื่อเดินลึกเข้าไปในโซนนิทรรศการจะเห็นคนให้ความสนใจบูธ Unity ผู้ผลิต Engine เกมส์ ที่กำลังอยู่ระหว่างบรรยายสาธิตการทำ MV โดยใช้เวลาเพียงครึ่งชั่วโมงจากเครื่องมือของ Unity ผู้บรรยายคือ Mathieu Muller ผู้เชี่ยวชาญด้านภาพยนตร์ใน Unity

อีกหนึ่งโซนใหญ่ที่สุดในงานคือ VR Showcase มีการจัดแสดง VR ที่สามารถใช้ในมุมมองใหม่ๆ เช่นบริษัท FullDome โดยนำวิดีโอ 360 องศาที่ปกติต้องสวมแว่น VR จึงจะสัมผัสประสบการณ์ 360 องศาได้ มาจัดแสดงในโดมขนาดใหญ่ที่สามารถเข้าไปอยู่ได้หลายคน โดยภาพจะฉายไปบนหลังคาด้านในโดม ทำให้ไม่ต้องสวมแว่น VR ก็ดูวิดีโอ 360 องศา โดยในโดมมีลำโพงระบบเสียง surround ผู้จัดนิทรรศการระบุว่า งานนี้เหมาะสำหรับจัดอีเวนท์ งานดนตรี การแสดงศิลปะ

บรรยากาศภายในโดม

ถัดเข้าไปข้างในมีโซนให้เล่นวาดภาพด้วย VR ผู้เล่นต้องสวมแว่น VR และสร้างภาพวาดบนพื้นที่ว่างเปล่าด้วยตัวเอง ตัวควบคุมที่มือจะทำหน้าที่เป็นดินสอ หรือแปรงพู่กันสร้างรูปร่างขึ้นมาได้ตามจินตนาการ รูปวาดจะออกมาในรูปแบบสามมิติ

โซน Art Gallery จัดแสดงงานศิลปะแบ interctive ใช้เทคโนโลยีเข้าช่วย เช่น นำหลอดไฟ LED วางเรียงกัน ผู้ชมไปยืนในตำแหน่งที่วางไว้และโบกมือ ตวงไฟจะขยับตามจังหวะมือเพราะติดตั้งเซนเซอร์ไว้หลังแผงไฟด้วย

ด้านงานแสดงจากบริษัทไทยจะรวมอยู่ในบูธ Thai Pavillion มีโชว์ผลงานวิจัยเครื่องพิมพ์สามมิติ ผลงานเกม Home Sweet Home โดยฝีมือคนไทย และมีผลงานจากบริษัท The Eyes ทำโปรดักชั่น Projection Mapping และฉายภาพกราฟิกประกอบกับเลเซอร์ยิงไปที่ตึกสูง ก็นำกำแพงมัลติมีเดียที่แตะไปตรงไหนก็แสดงแสงและสีตามตำแหน่งที่มือแตะลงไป ผู้ก่อตั้งระบุว่าเหมาะสำหรับออกงานนิทรรศการ อีเวนท์ ให้อีเวนท์น่าใจมากขึ้น

ต้องบอกว่างานใหญ่และกว้างมาก มีหลายห้อง หลาย session ที่น่าสนใจซึ่งนอกจากแสดงผลงานแล้วยังมี session สำหรับภาคธุรกิจและการศึกษา จัดแสดงผลงานเอกสารทางวิชาการ เสนอผลงานวิจัยที่ทันสมัยที่เป็นพื้นฐานของการสร้างแอนิเมชั่นในยุคนี้ นวัตกรรมการจับความเคลื่อนไหวใบหน้า มือ และร่างกาย สำหรับใช้ในงานแอนิเมชั่น นอกจากนี้ยังมี Workshop สัมมนาเชิงปฏิบัติการ เช่น
Data-Driven Animation, การทำงานร่วมกันของ AR, VR และ ในงานแอนิเมชั่นด้วย