Zhang Bin นักวิเคราะห์จาก Sinolink Securities ออกรายงานประเมินตัวเลขส่งมอบ iPhone X ในไตรมาสปัจจุบัน คาดว่าอยู่ที่ 35 ล้านเครื่อง ซึ่งน้อยกว่าตัวเลขที่เคยคาดก่อนหน้านี้ที่ 45 ล้านเครื่อง โดยระบุว่าเมื่อแอปเปิลเริ่มส่งมอบ iPhone X ได้ทันความต้องการลูกค้าช่วงแรกแล้ว ความต้องการซื้อก็ลดลงตามด้วย
ส่วนบริษัท JL Warren Capital ก็อ้างข้อมูลว่าแอปเปิลเริ่มลดคำสั่งผลิต iPhone X แล้ว เนื่องจากราคาที่สูงทำให้ลูกค้าชะลอการซื้อออกไป
รายงานระบุว่าแอปเปิลเดิมประเมินว่าในไตรมาสแรกของปี 2018 iPhone X จะขายได้ 50 ล้านเครื่อง แต่ตอนนี้ปรับตัวเลขลงมาเหลือราว 30 ล้านเครื่อง ซึ่งทั้งแอปเปิลและ Foxconn โรงงานประกอบ iPhone X เพียงรายเดียว ต่างปฏิเสธที่จะให้ความเห็นกับข่าวดังกล่าว
ที่มา: Bloomberg
Comments
หรือนี่เป็นสัญญาณ.....
แห่งความรวยยยยย
มือถือราคาขนาดนี้ ถ้าฐานะไม่รวยจริงใครจะซื้อไหว iphone8/plus ยังว่าแพงเลย
เรื่องรวยไม่รวยผมว่าไม่น่าจะเป็นประเด็นหลัก ถ้ายังมีโปรหรือยังมีให้ผ่อน ปัญหาคือฐานผู้ใช้มือถือเรือธงที่เริ่มตันแล้วมากกว่า
ผมว่ามีผลเยอะนะ มันเป็นเส้นบางๆนะ อย่างมือถือนี่ถ้าเข้าเลขสี่เมื่อไหร่นี่ผมรู้สึกว่ามันเกินไปหน่อยคนรอบตัวผมก็คิดเหมือนกัน
ข้างบ้านผมรวยจะตายยังว่าแพงเลย ต่อให้ผ่อนได้ใช่ว่าทุกคนจะผ่อน บางคนผ่อนแต่สินค้าจำเป็นเท่านั้น อย่าลืมว่าคนเรามีภาระหลายอย่าง ของบางอย่างถ้าไม่จำเป็นก็อย่ามีก็ได้
ต่อให้ผ่อนได้ก็คิดเยอะนะครับ คนผ่อนแบบไม่คิดก็มี แต่คนที่ผ่อนแบบมีสติ เค้าก็มองว่า 20 เดือนมันยาวเกินไป
แถมเมืองนอกมันเป็น installment plan คือรวมค่าเครื่องในโปรายเดือน ซึ่งน่าจะแพงขึ้นกว่าเดิม รายจ่ายก็จะเยอะขึ้น
Apple ก็รู้ปัญหาแหละ ถึงออก i8 มาคู่กันแต่แรก แถมยังมีข่าวลือว่า รุ่นหน้าจะมี รุ่นจอ lcd ออกมาด้วย
ราคาเพิ่มเกือบสองเท่าเดิมผ่อนงวดละพันกว่าสองพันกว่ากลายเป็น สองพันกว่ากับสี่พันกว่า
ผมว่าให้โง่ยังไงถ้ายังคิดถึงค่าใช้จ่ายรายวันในอนาคตเป็นใครก็ต้องติดนะครับ เพราะคนเราไม่ได้มีแค่ผ่อนมือถืออย่างเดียวแน่ๆ
ไม่รู้จะ Reply ใครดี ก็อย่างที่ผมบอกไว้ครับ ว่าไม่ใช่ประเด็นหลัก แต่ก็ไม่ใช่ว่าจะเป็นประเด็นที่คนจะไม่ได้นึกถึง ผมยังย้ำเหมือนเดิมครับว่าปัญหาหลักคือตลาดระดับบนมันตันแล้วนั่นแหละ อีกอย่างคือตัว flagship ของแอปเปิล 2 ไลน์ที่ออกแย่งลูกค้ากันเองยิ่งทำให้สถานการณ์ในเรื่องนี้แย่ขึ้นไปอีก เพราะยังไงคนส่วนมากก็ใช้มือถือเครื่องเดียว
ส่วนผมก็เป็นกล่มที่อ่อนไหวกับราคาแบบหลายๆ ท่าน ที่มีความสุขดีกับมือถือ flagship เมื่อ 4 ปีที่แล้ว
ผมว่าประเด็นหลักเลยแหล่ะดูจาก comment ทั้งหมดสิไม่มีใครสนใจเรื่องตลาด flagship หรอกถ้า ณ ตอนนี้ iPhone x ราคา 28k ผมว่ายอดขายจะเพิ่มมากกว่านี้อย่างมีนัยยะ
คุณบอกว่าไม่สนใจเรื่องตลาด flagship แต่ที่อ้างถึงราคา 28K ผมว่านี่มันคือราคาทั่วไปของตลาด flagship ในสมัยนี้เลยนะครับ
เป็นคนส่วนนึงที่เข้ากรณีนี้ครับ สเปคมันเพียงพอเหมือนคอมพ์ทุกวันนี้ก็ไม่มีอะไรจำเป็นต้องซื้อใหม่บ่อยๆ เกือบๆ 5 ปีก็เปลี่ยนทีก็พอ อยากได้มั้ยก็อยากได้แหละแต่ 7 ยังดีเล่นเกมสบาย รับเมล์ส่งงานได้ไม่มีปัญหา เครื่องไม่อืดจนน่ารำคาญไม่รู้จะซื้อใหม่ไปทำไม
คนส่วนนึงราคาเป็นประเด็นแต่อีกส่วนต่างแค่ 20k มันไม่เยอะครับตอนนี้อายุไม่ถึง 30 เพื่อนๆหลายคนก็เงินเดือนเข้า 50k-100k ไปแล้ว พวกไปอยู่ต่างประเทศก็น่าจะ 100k+ กันหมด ที่ถามๆคนไม่ซื้อก็ตกรูปคลายๆกันคือเครื่องเก่ายังดีอยู่เลยไม่อืดจะเสียตังไปทำไม
ถ้าลดราคาขายลงมาจำนวนเครื่องขายเยอะไม่ได้แปลว่ากำไรรวมเค้าจะเยอะสุดดังนั้นเค้าจะตั้งแพงก็ไม่แปลก
ไม่มีประเด็นอะไรมาก แค่เข้ามาร้องไห้กับประโยคอายุ 30 แล้วเงินเดือน 50k-100k
T_T
มีเยอะครับ แต่ไม่ถึงก็เยอะ คาดว่าส่วนใหญ่คงตันอยู่แถวๆนี้แหละครับไม่ไหลขึ้นไปไกลง่ายๆ
คงไม่ถึงขั้นรวยแต่มีเงินใช้จ่ายได้ในระดับสูงละครับ
+1 จากที่ผมเห็นฐานะการเงินอาจจะไม่ใช่ประเด็นหลักจริงๆ เพราะเมื่อวานนี้สดๆ ระหว่างกินมื้อเย็น ผมเจอเด็กหญิงโต๊ะข้างๆ ซึ่งหลายๆคนน่าจะเรียกเธอว่า "สก๊อย" นั่นแหล่ะซ้อนท้ายแฟนมานั่งกินสเต็กลุงหนวดโชว์ iphone X กับเพื่อน โดยบอกว่าซื้อมาเกือบ สี่หมื่นเจ็ด!
ที่น่าสนใจคือ เด็กเหล่านี้ แค่ทำบัตรเครดิตผมว่ายังยากเลยนะ ถ้าจะซื้อโปรค่ายมือถือ ก็ต้องจ่ายแพครายเดือนมหาโหดอีก ไม่รู้เอาเงินที่ไหนมาซื้อกัน เห็นแล้วอิจฉาตัวเองยังนั่งใช้ note4 ที่จะไม่ยอมพังง่ายๆต่อไป 555
ผมนี่ เขียนเหมือนคุณเลย แค่เปลี่ยน note4 เป็น wiko fever แค่นั้น 55555
ถ้าหิ้วจากญี่ปุ่น X เครื่องละ 32000 เอง แต่ก็นั่นแหละ ถึงราคาขนาดนี้ผมก็ยังมองว่าซื้อ Mac ได้ประโยชน์มากกว่า
หิ้วจากญี่ปุ่นมันล๊อคไม่ใช่เหรอครับ
ซื้อแบบ sim-free ครับ จัดที่ Apple Store เลย ใส่ซิมไทยได้แน่นอน
พึ่งรู้นะเนี่ยพลาดเลย
ถ้าจำไม่ผิด น่าจะมีแค่ปิดเสียง shutter กล้องไม่ได้ครับ
Dream high, work hard.
ถ้าเปิด Live Photo จะไม่มีเสียแช๊ะครับ ?
กลายเป็นดีกว่าเดิมเลย ได้ภาพเคลื่อนไหวด้วย ไม่ต้องกลัวโดนจับได้ด้วย
= =“
ก็ไม่ถึงกับไม่มีเสียงเลย มันยังมีนิดนึงเบาๆ
มันคือเครื่องประดับครับ
ถึงรวยก็บ่นแพงครับ! (หมายถึงเพื่อนผม ผมแค่ชนชั้นกลาง) แต่มันก็ซื้ออยู่ดี 555 กล้องดีมากนะครับ แล้วยัง Face ID อีก
ผมว่ามันแพงไปครับ ถามว่าถ้าจะซื้อได้ไหมได้คัรบ ผมผ่อนได้สบายๆเลย แต่มันมีลิมิตที่ตัวผมเองครับผมรู้สึกว่าโทรศัทพ์เครื่องล่ะ 40k มันแพงเกินไปครับเลยยังไม่คิดที่จะซื้อถึงแม้จะอยากได้ก็เถอะ ราคานี้ถ้าเป็น MacBook Air ผมซื้อโดยไม่ลังเลเลย
แค่กาแฟ(บัค)วันละแก้วเท่านั้นเอง
se แค่หมื่นห้า ผมก็พอใจแล้ว
แต่ที่อยากได้จาก apple คือ
ไอโฟนหน้าจอใหญ่ ในรูปลักษณ์คล้าย i5
iphone X สี่หมื่นกว่า ผมเอาไปซื้ออะไรอย่างอื่นเจ๋งๆเล่นได้เยอะเลย
แฟนผมสาวกแอปเปิ้ลตั้งแต่ iphone 3g ซื้อมันทุกรุ่น ยังเปลี่ยนใจมาให้ note8 เลย สาเหตุเพราะเธอบอกว่า iphone x มันแพงเกินไป และ iphone8 หน้าตาก็เหมือนเดิม
เรื่องแพงไม่แพงนี่มันตัดสินยากนะ...ตราบเท่าที่มีคนพึงพอใจที่จะซื้อและมีความสุขกับมัน
ลองมองไปทางพวกเล่นกล้อง เล่นรถ เครื่องเสียง บิ๊กไบค์ ราคามันก็ไม่ได้ถูก
ส่วนตัวผมซื้อหูฟังแค่หลักพัน...ภรรยายังบ่นว่าเซเว่นขายแค่ 99 บาททำไมไม่ซื้อ
bigbike มังแพงแบบสมเหตุสมผล แต่เครื่องเสียงของชาวหูทองบางคนแพงกว่าลำโพงมอนิเตอร์อีก ความรู้เรื่องไฟล์เสียงก็น้อย บอกไฟล์ .wav เสียงดีกว่าไฟล์ lossless พบได้บ่อยตามเว็บพันทิปและเว็บมั่นคง
แล้วไฟล์ lossless มันดีกว่า .wav ยังไงครับ ขอความรู้เป็นวิทยาทานหน่อย
wav=ไม่บีบอัด lossless=บีบอัดแบบไม่เสียคุณภาพ
Lossless ดีกว่า .wave ตรงบีบอัดแล้วไฟล์เล็กลงหลายเท่า แค่คุณภาพเสียงเท่าไฟล์ที่ไม่บีบอัด เช่น .wav
Lossless จะคุณภาพเสียงเทียบเท่าWAV ก็ต่อเมื่อตัวโปรแกรมที่ใช้เล่นนั้นถอดรหัสที่บีบอัด ออกมาได้ดีด้วยนะครับ
ผมเคยเอาWAV มาแปลงเป็นM4AโดยXLD ฟังBlind Test ใน iTune บน Mac ปรากฏว่าแยกออกนะครับ WAVเสียงดีกว่าโคตรชัดเจน M4Aเสียงขุ่นมิติแคบไปถนัดตา(หู)เลย
แต่พอลองฟังบนโปรแกรมเสียเงินFidelia(โหลดTrialมา) ปรากฏว่า แยกM4AกับWAV ไม่ออกครับ เสียงดีเหมือนตอนฟังWAVบนiTuneทั้งคู่เลย
ณ ตอนนั้นถึงบางอ้อเลยครับ ว่าพวกโปรแกรมฟังเพลงเสียเงินมันดีกว่าโปรแกรมฟรียังไง
ปล.VLCก็ฟังM4AหรือLosslessตัวอื่นๆ เสียงดีนะครับ ดีพอๆกับโปรแกรมเสียเงินเลย แต่UIโคตรไม่เหมาะกับการเอามาฟังเพลง
M4A มันคือ MP4 แบบ AAC ซึ่งเป็น lossy ครับ
lossless จริงๆคือพวก .flac ที่บีบลงได้ 50% โดยแกะออกมาจะได้ .wav ตัวเดิมเลย
M4A มันเป็นแค่ Container ครับ
มันสามารถจุได้ทั้ง AAC(Lossy) และ ALAC(Lossless)ครับ
ถ้าซื้อจากiTuneมันจะเป็นAACครับ
แต่ถ้าริบเองสามารถเลือกให้เป็นALACได้ครับ
และมันรองรับบิตเรทได้เยอะถึง 32bit 96,000Hz แล้วนะครับ ซึ่งถือว่าครอบคลุมการใช้งานฟังเพลงทั่วไปแบบเหลือๆแล้วครับ
คือ ถ้าฟังแล้วแยกออก ผมว่า มันเป็น lossy แน่ๆครับ
หรือไม่ก็อาจเป็นที่อื่นๆ เช่น ผ่าน EQ ตอน rip หรือ เป็นที่ตัวโปรแกรมเล่น ที่แกะแล้วไม่เหมือนเดิม(ซึ่งแบบนั้นน่าจะตกมาตรฐาน) ฯลฯ
เพราะคำว่า lossless เมื่อแกะออกจะได้ .wav ตัวเดิมแบบไม่ผิดเพี้ยนเลยครับ
ถ้ามันต่างได้ แสดงว่ามีที่ผิดปกติแน่นอน
จะว่าไปมันก็ตลกร้ายดีนะครับ
iTune แกะ M4A ซึ่งเป็น ALAC (Apple Lossless Audio Codec) แล้วออกมาไม่เหมือนเดิม
ทั้งๆที่โปรแกรมจากบริษัทอื่น อย่าง Fidelia , VLC ดันแกะออกมาเหมือนเดิม
ปล.ทดสอบบน Macbook Pro 13 Early 2015 ด้วยนะครับ
+1 VLC มันดีแต่ไม่เหมาะกับกับการฟังเพลงจริง ๆ ครับ
ขอแหล่งอ้างอิงข้อมูลด้วยครับ
The Last Wizard Of Century.
ว่าเรื่องเสียงอย่างเดียวนะครับ
wav เป็น uncompress ยังไงคุณภาพเสียงต้องดีกว่า lossless flac อยู่แล้วครับ
เพราะ flac ต้องมีการ Decompress มี latency time เพิ่มขึ้น เกิด jitter ขึ้นได้ง่ายกว่าครับ
cpu สมัยนี้เร็วมากจนเวลา Decompress ไม่มี latency time แล้วค่ะ เราเข้าใจว่า lossless บีบแบบเดียวกับไฟล์ zip หรือ rar คลายไฟล์ออกมาก็ได้ไฟล์เหมือน uncompress เหมือนต้นฉบับ 100% ยกเว้นไฟล์เสียระหว่างการ download เช่นไฟล์ installer ของเกมออนไลน์
พวกไฟล์บีบอัดสมัยนี้มันพัฒนาขึ้นมากแล้วครับ มันมีเหตุผลเยอะมากที่เค้าไม่นิยมใช้ .wav กันแล้ว แต่ถ้าใครฟังออกจริงๆว่ามันดีกว่าแล้วพร้อมจะแบกไฟล์ใหญ่ๆก็คงไม่มีปัญหาอะไร
ผมยังเก็บ Master เป็นไฟล์ Wave นะครับ
แต่ตอนฟัง บน DAP ต้องแปลงเป็น Flac ก่อนแบกไม่ไหวใหญ่จริง
เราว่ามันมีลับลมคมในทะแม่งๆ คนที่มาปล่อยข่าวว่า .wav เสียงดีกว่าไฟล์ lossless นี่อาจเป็นนักเก็งกำไรขายแผ่น cd เพลงก็เป็นได้ #ทีมรอชาร์ด #สปอย ตอนจบตายเพราะตรงเกินไป #บอกเทปเสียงดีกว่าซีดีก็เจอมาแล้ว นับถือหูทอง
ผมชอบเสียงเทปกว่านะ คือไม่ปฏิเสธว่าซีดีมันเสียงดีกว่า เสียงใส คมกว่า แต่เสียงเทปมันมีความขุ่นๆ มีความเป็น '90 กว่า
Tape hiss นี่เอกลักษณ์จริงๆครับ
พวกรถ เครื่องเสียง บิ๊กไบค์ (ที่ไม่ได้ขายใน 7-11) นั่นตัวแพงยังเห็นชัดนะครับถึงความต่างที่สมเหตุสมผลกับราคา
มาดูวงการจักรยานดีกว่าครับ แฮ่
หุหุ ขนาดผมเล่นแค่ BMX อะไหล่แต่งไม่รู้ว่าจะแพงไปไหน
ตัวละ 1,000 ทำบ่น
ซื้อ Grado ตัว 35,000 ไปเลยครั๊บ
อ้อ .. อย่าลืมเอา ที่นอนหมอนมุ๊ง ไปไว้นอกบ้านก่อนด้วยนะ สำคัญมาก
ถ้ามมันราคาเท่า i8 ผม Pre order ไปแล้ว
ไส้ในก็ iOS11 เหมือนกัน ไปลองจับๆก็เฉยๆ เหมือนเครื่องที่ใช้อยู่นี่แหละ
ไปอ่านคนที่ริวิวใช้ iX มาสักพักจนหายเห่อ ยังบอกเลยมันก็เหมือน iphone เครื่องก่อนๆ นั่นแหละ
และถ้าไม่สน face id แล้วอยากประหยัด เลือก i8 คุ้มกว่าด้วย
ที่เห็นได้ชัดคือปัญหา supply ของนินเทนโดนสวิตช์ช่วงนี้ดีขึ้นมาก
เดือนธันวานี้มีเครื่องออกมาขายช่วงสุดสัปดาห์มากกว่าปกติแบบเห็นได้ชัดเลยครับ
จากก่อนหน้านี้ว่ามีปัญหาแย่งชิ้นส่วน NAND กัน ทางฝั่งสมาร์ทโฟนคงมีการลดการสั่งซื้อไปบ้างแล้ว
เห็นหน้าตา แล้วก็ราคาแล้วก็ไม่รู้สึกอยากได้ ....ใช้รุ่นเก่าดีกว่า สบาย ๆ
คิดแล้วมันแปลกเหมือนกันนะ
คนรวยซื้อคือปกติ คนจนซื้อคือคนโง่
มือถือทุกรุ่นทุกยี่ห้อที่แพงๆ
ถ้าฐานะยากจนแล้วยังจะซื้อมาใช้อีกก็ไม่ฉลาดนักแหละครับ
ไม่เห็นแปลกนี่ครับ คิดดู ช้างกับมด1ตัวเท่ากันจะดันหินหนัก 100kg ได้เหมือนกันรึเปล่า ถ้ามดคิดว่าตัวเองทำได้แบบช้างไม่บ้าก็โง่ละครับ
ก็โง่นั่นแหละ สุภาษิตไทยก็บอก เห็นช้างขี้อย่าขี้ตามช้าง
คนรวยซื้อเขาเดือดร้อนไหมละ
มันก็ถูกนี่ครับ แต่ทั้งนี้ทั้งนั้น ต้องดูว่าจน นี่คือจนแค่ไหน - นกน้อยทำรังแต่พอตัว
ใช้เงินเกินตัวคือโง่ครับ
ถึงจะรวยเป็นพันล้าน แต่ถ้าเอาไปลงทุนเสี่ยงหรือซื้อของฟุ่มเฟือยหมดพันล้าน ผมก็ว่าโง่ครับ
ผมไม่ลงทุนกับมือถือที่แป๊ปๆ ตกรุ่นพวกนี้ แต่กล้องถ่ายรูปนี่อีกเรื่องนึง อิๆ
กำเงินแล้วเดินต่อไป.....
การออกแบบมีปีญหา นวัตกรรมกระท่อนกระแท่น ขายก็แพง เป็นอุปทานหมู่ ก็สมควรแล้วที่ยอดจะน้อย