แอปเปิลออกจดหมายเปิดผนึกชี้แจง ประเด็น iPhone รุ่นเก่าที่ทำงานช้าลงกรณีแบตเตอรี่เริ่มเสื่อม ซึ่งหลายคนไม่พอใจ และผู้ใช้บางส่วนเริ่มฟ้องร้อง มีรายละเอียดดังนี้
แอปเปิลยอมรับว่าการสื่อสารออกไปของแอปเปิล ทำให้ลูกค้าหลายคนรู้สึกไม่ดี แอปเปิลขอโทษลูกค้าเรื่องนี้ โดยบอกว่ายังมีความเข้าใจที่ไม่ถูกต้องในเรื่องดังกล่าวอยู่มาก ซึ่งชี้แจงทีละประเด็นคือ
- แอปเปิลไม่เคยทำ และไม่เคยต้องการลดอายุการใช้งานผลิตภัณฑ์ ด้วยวิธีการสร้างประสบการณ์ที่แย่ลงจนทำให้คนต้องไปซื้ออุปกรณ์รุ่นใหม่กว่า เป้าหมายแอปเปิลคือสร้างสรรค์ผลิตภัณฑ์ที่ลูกค้ารัก และทำให้ iPhone ใช้งานได้นานที่สุด นั่นคือสิ่งสำคัญ
- แบตเตอรี่ลิเธียมไอออนนั้น มีลักษณะคือยิ่งใช้งานไปนานๆ จะเริ่มเสื่อมสภาพตามอายุ ซึ่งมีปัจจัยเกี่ยวข้องหลายอย่าง ไม่ใช่แค่จำนวนครั้งในการชาร์จ ประสิทธิภาพนี้ยังส่งผลกระทบอาจทำให้อุปกรณ์หยุดการทำงานกะทันหัน ซึ่งแอปเปิลไม่ต้องการให้ผู้ใช้ประสบเหตุแบบนี้ ทั้งนี้สามารถอ่านข้อมูลเกี่ยวกับแบตเตอรี่และประสิทธิภาพเพิ่มเติมได้ในหน้าสนับสนุน
- แอปเปิลเริ่มปรับแต่ง iOS ให้ดูประสิทธิภาพแบตเตอรี่คู่กับการทำงานของเครื่องตั้งแต่ iOS 10.2.1 เพื่อป้องกันเครื่องดับ มีผลกับ iPhone 6, iPhone 6 Plus, iPhone 6s, iPhone 6s Plus และ iPhone SE ซึ่งการตอบรับนั้นออกมาดี ฟีเจอร์นี้จึงถูกเพิ่มมาใน iPhone 7 และ iPhone 7 Plus ตั้งแต่ iOS 11.2 อีกทั้งยอมรับว่าการเปลี่ยนแบตเตอรี่ทำให้ประสิทธิภาพกลับคืนมาตามปกติจริง
- แอปเปิลบอกลูกค้ามีการบ่นเข้ามาว่าเครื่องช้า ซึ่งส่วนมากมาจาก iPhone 6 และ iPhone 6s ที่แบตเตอรี่เริ่มมีอายุ
สุดท้ายเพื่อแสดงความชัดเจนว่าแอปเปิลต้องการให้ลูกค้าสามารถใช้ iPhone ได้นานที่สุด และนานกว่าคู่แข่งทุกราย รวมทั้งเพื่อให้ลูกค้าเชื่อมั่นว่าแอปเปิลมีเจตนาเช่นนั้นจริง แอปเปิลจึงตัดสินใจดังนี้
- ลดราคาค่าเปลี่ยนแบตเตอรี่ ของ iPhone ที่หมดประกัน จากเดิม 79 ดอลลาร์ เหลือ 29 ดอลลาร์ สำหรับ iPhone 6 และรุ่นใหม่กว่าที่ต้องเปลี่ยนแบตเตอรี่ เริ่มตั้งแต่เดือนมกราคม 2018 จนถึงธันวาคม 2018 มีผลทั่วโลก รายละเอียดเพิ่มเติมจะชี้แจงเร็วๆ นี้ทาง apple.com ทั้งนี้ราคาเปลี่ยนแบตเตอรี่ศูนย์บริการในไทยปัจจุบันอยู่ที่ 3,800 บาท
- ต้นปี 2018 จะมีการออกอัพเดต iOS ที่มีฟีเจอร์แสดงประสิทธิภาพแบตเตอรี่ของ iPhone เพื่อให้ผู้ใช้เห็นภาพชัดเจนขึ้นว่าควรเปลี่ยนแบตเตอรี่หรือไม่
- แอปเปิลยังยืนยันว่าจะปรับปรุงประสบการณ์ใช้งานให้ดีมากยิ่งขึ้น ทั้งการเพิ่มประสิทธิภาพทำงาน และป้องกันปัญหาเครื่องดับ
ที่มา: แอปเปิล
Comments
ปี 2018 เป็นปีทองแห่งการเปลี่ยนแบตแท้ครับ ฟันธง! ? ราคาดี (เสียดาย 5s ไม่เข้าเงื่อนไข ส่วน X ก็ยังไม่เสื่อม อดใช้บริการเลย)
อืม ถือเป็นการแก้เกมส์ที่ดี ฿9xx คงไม่แพงเกินไปสำหรับคนทั่วไป ได้ขายแบตเสริม(แม้จะลดราคาลงไปมาก) แถมจะมี feature แจ้งเตือนในอนาคตด้วย คำชี้แจงก็ฟังดูหล่อดี สรุปคือผมให้ผ่าน!!!
ตอนเป็นข่าวแรกๆนี่ ผมเข้าไปอ่านใน droidsan แต่ละคอมเเม้นของสาวกหุ่นเขียว(บางท่าน) คือย่อยยับมาก กระทืบกันให้ตาย
ส่วนผมก็ได้อานิสงส์ด้วย เพราะซื้อ i6 มายังไม่ถึงปี แบตบวมเพราะชาจบ่อยเล่นเกมส์หนักมาก เย้
เก้าร้อยนี่ราคาดีมากๆ แล้วครับ แถมจำได้ว่าการแกะเครื่องทำได้ดีอีก
เจ้าอื่นนี่หลายที่ส่งศูนย์ไปเครื่องกลับมาย่อยยับมาก
ผมเปลี่ยนแบต MBK 1000 ของปลอมด้วย T_T
จริงๆ Android บางค่ายก็มีทำ CPU throttling เหมือนกันนะครับ แค่ User เขาไม่ได้ Expect ตรงนี้มาก เลยไม่มีคนไปคุ้ย
ค่าย S...... ที่มีประเด็นว่า S6,S6 Edge ภาพที่ถ่ายน้้นกากลงหลังอัพเป็น Nougat และเครื่องอืดขึ้นด้วยสินะครับ
แค่มนุษย์คนนึงที่อยากรู้เกี่ยวกับวงการไอที
+1 S7Edge ตอน marshmallow นี่แบตอึดมาก เครื่องลื่น อัพเป็น nougat ละแบตไหลเป็นน้ำเลย เครื่องอืดด้วย ตอนนี้ใช้ Note8 ชะตากรรมคงไม่ต่างถ้ารุ่นใหม่ออกมา
แบตบวม เอาไปเคลมได้เครื่องใหม่ ฟรีอยู่แล้วครับ รู้สึกจะได้ถึง 2 ปีด้วย กรณีแบตบวม ไม่จำเป็นต้องรอตามประกาศนี้เลย
จริงเหรอครับ ผมเพิ่งรู้ คือผมเอาไปติดฟิล์มแล้วคนติดเค้าทักมา เพราะเค้าบอกมันติดไม่เนียนสนิท มีช่องอากาศ(หรือนายไม่เก่งกันแน่ หึ้!!) เรามีวิธีเชคให้แน่ใจมั้ยครับ
เคยลองแล้วครับ เค้าบอกได้แค่ 1 ปี พยายามเอาเคสก่อนๆที่เค้าบอก 2 ปีมาอ้างก็ยืนยันว่าไม่ได้ อาจจะเปลี่ยนแล้วก็เป็นได้
กำเลย แฟนเพิ่งไปเปลี่ยนแบต i6+ ที่ Apple Store มาไม่ถึงเดือน แต่ก็ยินดีกับคนอื่นที่มีทางเลือกที่ดีกว่าเปลี่ยนกับร้านตู้นะ
อันนี้คือที่ต่างประเทศใช่ไหมครับ ? ใช้เวลาเปลี่ยนนานไหมครับ
กินซ่าครับ ใช้เวลาประมาณ 1.5 ชม. ครับ แต่รอคิว genius bar นานกว่า ขนาดนัดหมายล่วงหน้าด้วย แต่สุดท้ายเขาเสนอเปลี่ยนเป็นเครื่องใหม่ในราคาค่าแบต (2,600 บาท) ครับ ถ้าหลังจากนี้ค่าแบตลดลงเหลือพันเดียวไม่แน่ใจว่าจะยังเสนอแบบนี้ไหมนะครับ
รักเลย ค่ายนี้ ?
สุดท้ายก็ยังจะให้ช้าต่อไป ไม่มีทางเลือกอื่น iPad miniตอนนี้แทบวางเฉยๆละ เด้งๆๆ ค้างๆๆๆ จนเด็กยังไม่หยิบเล่นกันเลย
แล้วถ้าเปลี่ยนแบตฯ แล้วยังช้าอยู่ละ กรณีซื้อ6sเครื่องใหม่ อัพแล้วช้ามาก แต่ตกรุ่นนานละแบตอาจเสื่อม
แต่ซื้อไม่นานต้องเปลี่ยนแบตฯนี่ กับAppleคงแค่ iPad อย่างเดียว
ผมว่าเรื่องช้าไม่ช้ามันคนละเรื่องละนะครับ
ถ้าจะกล่าวว่า update ios แล้วเครื่องเก่าช้าลงก็ไม่ได้อยู่ในประเด็นข่าวนี้นะครับ
iPad mini นี่ เปลี่ยนคงไม่ช่วยแล้วละมั้งครับ ออกมาใช้ CPU iPad 2 A5 แรม 512 MB เอง ที่บ้านก็ยังมีใช้อยู่นะครับ พอเปิดเบาๆ ได้อยู่
ในประกาศน่าจะเฉพาะ iPhone ครับ ไม่รวม iPad แน่ ๆ เพราะแบต iPad ก้อนใหญ่กว่ามาก ราคาแพงกว่าเยอะครับ
สุดท้ายคือไอ้รอมลดความเร็วเครื่องก็ยังมีต่อไปว่างั้น รอคุยในศาลละกัน แต่ก็ลดราคาแบตลงมาถือว่าดีกับผู้ใช้งานล่ะนะ กล้ายอมลดกำไรหนักขนาดนี้แสดงว่าเรื่องนี้หนักจริงถึงจะลดแค่ปีเดียวก็เหอะ
หวังว่าศาลจะเข้าข้างผู้บริโภคนะครับ ถ้าผู้บริโภคชนะ งานนี้แอปเปิลหน้าชาแน่ แต่ที่ชี้แจงมา (ไปอ่านใน iPhonemod) ก็เข้าใจเหตุที่ต้องลดอยู่ เพียงแต่ลูกค้าไม่มีสิทธิ์เลือกวิธีนี้ก็เลยทำให้ต้องฟ้องไงครับ
แค่มนุษย์คนนึงที่อยากรู้เกี่ยวกับวงการไอที
ถ้าผมเป็นแอพเปิลนะ เปิดให toggle ได้ละ ตัดความรำคาญ ถ้าเครืองดับ หรือพังก็ไปรับผิดชอบกันเอง
มันก็ควรจะเป็นเช่นนั่นนี่ครับ
ที่ไทยน่าจะ 2,000 บาท
6s ที่มีอาการเครื่องดับพึ่งเปลี่ยนแบตมา (ฟรี) จาก Apple ปีกว่า
ก็เริ่มเสื่อมละ (เพราะเอาไปเล่นเกมหนักมาก เปิดข้ามวันข้ามคืน)
ลดราคาแบบนี้ยิ้มเลยครับ ไปเปลี่ยนแบตใช้อีกปีรอ iPhone XI ออกสบายๆ
แล้วคนก็จะแห่กันไปเปลี่ยนแบ็ต ได้ทั้งขึ้นทั้งร่องจริงๆ - -
ผมว่าสิ่งที่ควรจะมีอีกอย่างคือ
ให้ลูกค้าเลือก เปิด-ปิด โหมดการลดความเร็วเครื่องนะ
หลายคนศูนย์บริการไม่ได้ใกล้ บางจังหวัดไม่มีด้วยซ้ำ พูดถึงในไทยอย่างเดียว ถ้านับทั่วโลก ก็น่าจะมีลูกค้าที่ไม่สะดวกไปเปลี่ยนแบตแท้หลายๆคนเลย (กรณีแบตแท้นะ)
+1 หลักๆ ที่คนส่วนใหญ่ต้องการคืออันนี้ด้วยแหละผมว่า
สำหรับคนใช้ทั่วไปมันก็ลำบากครับกลุ่มลูกค้าหลักเค้าไม่ได้เน้น geek ทุกวันนี้ยังเห็นพ่อแม่เอาไปให้ร้านลงให้อยู่เลยถ้าไม่ตั้งเครื่องดับรัวๆปัญหาหนักกว่า อย่างน้อยแสดงให้ชัดเจนก็ถือว่าโอสำหรับคนทั่วไปแล้ว
อย่างไรกำไรจากการขายแบตก็ยังมากอยู่ดี
ว่าแต่ 79$ ที่ผ่านมา เหมือนจ่ายไปฟรีๆ
ราคาพอๆกับมือถือ 1 เครื่องเลย
"ซึ่งการตอบรับนั้นออกมาดี ฟีเจอร์นี้จึงถูกเพิ่มมาใน iPhone 7 และ iPhone 7 Plus ตั้งแต่ iOS 11.2"
ผลตอบรับออกมาดีจนถูกฟ้องศาล ^^
โคตรเยอะเลยลดแบบเท่าตัวด้วยแหนะ ทำไมฝั่งสาวกเขาไม่พูดประเด็นกันบ้างเนอะ
เรื่องไม่แจ้งก็ตามนั้น แต่เรื่องราคาเค้าเป็นบริษัททำกำไรไม่พอใจจ่ายเราก็ไม่ต้องจ่ายจะไปว่าอะไรเค้าครับ หรือปกติคุณจะขายของแล้วมานั่งคิดว่าลดเหลือเท่าไหร่ดีให้เราแค่พออยู่ได้ก็พออยากได้กำไรน้อยๆ
พูดทำไมครับ พวกผมได้ประโยชน์นี่นา 555 เขาออกมาลดราคาเพื่อแสดงความรับผิดชอบ ต้องไปด่าเขาเหรอครับ (ส่วนเรื่องไม่แจ้งก่อนลดความเร็ว ก็ตามนั้นครับ ผมก็ไม่เห็นด้วย)
ของที่ขายโดยทั่วไปมันมักจะบวกกำไรเข้าไปมากที่สุดเท่าที่จะเป็นไปได้อยู่แล้วครับ ถ้าแบบนี้ไปเจอของลดราคา 40 50 70% นี่ต้องไปโวยวายทุกครั้งเลยมั้ย
ไม่ได้สาวกนะ แต่เขาลดราคามันก็ดีแล้ว เราได้ประโยชน์ ถ้าพูดก็เป็นเรื่องน่าชม ที่พอมีปัญหาก็แก้ไขได้ใจขนาดนี้ แล้วก็โดนหาว่าเป็นสาวกอีก เฮ้อ...
ไม่ได้สาวก...
555555555555
ปล. เห็นด้วยว่าเป็นการแก้ปัญหาที่ดีมากๆ ผู้บริโภควิน
แต่จะดีกว่านี้มาก ถ้าทำให้แต่แรกโดยไม่ต้องรอโป๊ะแตกแล้วไปฟ้องศาล
ดีครับ พวกไอโฟน 7 ที่มีซิลกันน้ำแล้ว ต่อให้มีแบ็ต มอก. มาเปลี่ยนแต่ไม่จำเป็นไม่อยากเปิดเครื่องเปลี่ยนแบ็ตเองเลย.....
อารมณ์ประมาณว่า ว้า มีคนจับไต๋ได้แล้ว แย่จัง เอ้างั้นลดราคาให้พวกสาวกหน่อยละกัน เดี๋ยวก็มีคนเข้ามาชื่นชม...
แอนดรอยด์ที่แบตเสือมเครื่องดับ เครืองลูป ก็รวมตัวกันฟ้องได้นิครับ ?
แอนดรอยด์ยังไม่เคยมีกรณีแบตใกล้จะเสื่อมแล้งลดความเร็วซะดื้อๆ โดยไม่แจ้งลูกค้านี่ครับ
ไม่ได้บอกว่าของใครดีกว่านะครับ แค่จะบอกว่ากรณีนี้มันยังไม่เคยเกิดกับฝั่งแอนดรอย์แค่นั้นเอง
5s โผมมมม เศร้าเลย :(
ลดราคาขนาดนี้แสดงว่าตั้งราคาสูงมาตลอดสินะ ฟันกำไรไปเท่าไหร่แล้ว
คำถามคือถ้าไม่โดนจับได้ก็จะปล่อยให้เป็นแบบเดิมต่อไปเรื่อยๆ ? ตบหัวแล้วลูบหลังชัดๆ
คือค่ายอื่นแบตเสื่อมมันก็ลดลงฮวบๆจะรู้สึกได้ แต่ก็ไม่ได้ดับกลางอากาศกันสักเท่าไร(หรือยอมรับไปกลายๆอยู่แล้วถ้าแบตเสื่อม)
แล้วทำไมของ apple มันถึงดับล่ะ
ผมเคยใช้ Samsung บางที 40% ก็ดับแล้วนะครับ แม่ผมตอนนี้ใช้ Huawei 50-60 % ดับก็มีนะครับ
หลายปัจจัย ค่ายอื่นก็ดับครับ iPhone ก็ไม่ได้ดับตลอดนะแค่บางสถานการณ์ถ้าไม่เสื่อมหนักมากแรกๆก็อาจจะแค่หลายๆวันครั้งแต่หลังๆเปิดเกมก็ดับ 100% เลย
ถือเข่าวดีก่อนสิ้นปีของ apple
โดยส่วนตัว ผมเชื่อมั่นแบตเตอรี่ยี่ห้อนึงมากกว่าของ Apple อีก และไปเปลี่ยนมาแล้ว
มองแบบ Power user นิดนึงนะ จริงหรือเปล่าไม่ทราบ แต่อยากให้เอะใจนิดนึง
ว่าจริงๆ ที่มันช้าลงเพราะแบต แล้วที่มันปิดไม่ได้ "อาจจะ" ไม่ใช่แค่เหตุผลการตลาดนะครับ
ให้เทียบเคียงง่ายๆกับ CPU คอมพิวเตอร์ มันจะมีเคส
1. จ่ายไฟต่ำ
1.1. บอร์ดเสื่อม
1.2. C เสื่อม
2. จ่ายไฟไม่เสถียร
2.1. ไฟตกมากๆ ไฟกระชาก
2.2. power supply เสื่อม
3. ใช้ไฟเกินกำลัง/ตั้งค่าไม่สอดคล้อง
3.1. OC Cpu แล้วปรับแรงดันไฟเลี้ยงแรม กับแรงดันไฟเลี้ยงซีพียูไม่พอ
ถ้าเข้าเคสข้างบนเนี่ย มันจะเกิด Bluescreen/Freeze/Crash แน่ๆอย่างใดอย่างนึง
ปกติแล้วออพชั่นในการเปลี่ยนเวลาเกิดเคสแบบนี้คือ
- เปลี่ยน PSU
- ติด UPS
- ไม่ Overclock (หรือไป underclock บางเคส)
ทางเลือกที่แอปเปิ้ลเสนอคือ
- การเปลี่ยนแบต
ทางเลือกที่แอปเปิ้ลบังคับคือ
- การลดความเร็ว
คือผมว่าเค้าก็ไม่ได้เลือกทางที่จะทำให้ไม่เสถียรอย่างแรง จนเกิดการรีบูทลูป หรืออะไรพวกนี้ คือแค่รู้สึกว่าในทางเทคนิคแล้ว สองวิธีของแอปเปิ้ลเป็นทางเลือกที่ดีที่สุดแล้วจริงๆ (ต่อให้มีปิด ก็ปิดพร้อมคำเตือนว่ามีโอกาสบูทลูป .. แต่นั่นก็ไม่ใช่ประสบการณ์ที่ดี -- แม้จะเทียบกับช้าลง แต่ถ้าบูทตอนเขียนงานหรือโทรหรืออะไรงี้มันแย่กว่าช้าแน่ๆ)
.........
แต่ก็นะ ผมเห็นด้วยนะว่าในทางปฏิบัติแล้ว การไม่มี visible alert เป็นอะไรที่ไม่โอเคเอามากๆ และดูตุกติก
แม้จะบอกอย่างนั้น แต่ก็นับได้ว่าสิ่งที่เค้ากำลังทำมันก็เป็นวิธีการแก้ในตำราเลยนะครับ ... ผมว่าเผลอๆเป็นฟังก์ชันที่ช่วยมาก(และเป็นกึ่งๆความลับทางการค้ากลายๆ) อันนึงด้วยซ้ำ ที่ทำให้ตลอดหลายปีที่ผ่านมา ยังมีประโยคที่ว่า "ถึงเครื่องจะเก่าแล้ว แต่ก็ยังอัพเดทได้ และไม่ crash/freeze/reboot"
ส่วน มือถือเรือธงรุ่นอื่นๆ มันก็มีอาการหลังแบตเริ่มเสื่อม เช่นเปิดแอพแล้ว force crash บ่อยขึ้น หรือรีบูทตัวเองบ่อยขึ้นนะ ... แต่อย่างฝั่ง android ผมว่าผู้ใช้คงมองว่ามันเป็น instability ปกติที่ชินตาแล้วล่ะมั๊ง เลยไม่รู้สึกอะไรเท่าไร
ฝั่งผู้ใช้ Android คงเหมือนคนเล่น Windows สมัยก่อนที่เจอจอฟ้าเป็นเรื่องปกติแหละครับ เจอบ่อยจนพอจะยอมรับแล้วก็หาทางเลี่ยงได้เอง เพราะไม่มีทางเลือก ตัว Software OS เอง ผู้ผลิตอุปกรณ์ก็ไม่ใด้เป็นคนทำเองทั้งหมดอะไรพวกนี้
แต่ในกรณี Apple เนี่ย เป็นทั้งเจ้าของ Software OS เป็นทั้งผู้ผลิตออกแบบอุปกรร์เองและรู้ปัญหา แต่พยายามใช้วิธีซ่อนปัญหาไม่ให้ลูกค้าที่ซื้อเครื่องไปใช้งานทราบ แล้วตัวเองก็ทำเป็นตีเนียนขายเครื่องใหม่ ๆ ไปเรื่อย ในขณะที่ตั้งราคาอะไหล่สูงแทบเท่ากับซื้อเครื่องใหม่ คือถ้ามองอย่างเรา ๆ เนี่ยก็คือเจตนามันฟ้องน่ะครับ
ถ้าดูจากข่าวเดิมๆ ก็ไม่ถือว่าซ่อนซะทีเดียวครับ มีการแจ้งเตือนเมื่อพบว่าแบตเสื่อมอยู่นะครับ แต่ในทางปฏิบัติ ตรงนี้ผมเองก็ไม่แน่ใจว่ามันจะขึ้นมาตอนไหนแบบไหนบ้างเพราะยังไม่เคยใช้งานจนมีประสบการณ์กับการแจ้งเตือนนี้เลย
ถ้ามีฟังค์ชั่นแจ้งเตือนแบบนั้นจริงเนี่ย โดนไปขนาดนี้ Apple ต้องออกมาแก้ตัวแล้วครับว่าทำตัวเลือกไว้ให้อยู่ หรือทำตัวแจ้งเตือนอยู่ แต่เนี่ยขนาดชี้แจงมา 2-3 รอบแล้วก็ยังไม่ยกมาพูดถึงเลยเนี่ย ผมว่าคงไม่มีหรือไม่เกี่ยวข้องกับเรื่องนี้แหละครับ
If you see, ‘Your iPhone battery may need to be serviced‘ Published Date: Nov 29, 2017
Published Date: Nov 29, 2017
คือมันน่าจะมีมานานแล้วครับ แต่ Apple เพิ่งมาประกาศย้ำอีกทีนึง (10.2.1 ออกมกราปีนี้)
แต่ผมก็ไม่คิดว่ามันเป็นข้อแก้ตัวที่เหมาะสมนะครับ ตัวอักษรเล็กนิดเดียวแถมไปซ่อนซะลึกใครจะไปสังเกตเห็น
แค่มีแจ้งเตือนไว้ที่ไหนสักที่เพื่อที่เอาแค่ให้รู้ว่าควรทำอะไรต่อไปแบบนี้สำหรับผม ผมโอเคแล้วนะ ไม่ต้องแจ้งเตือนมากมายให้กระทบการใช้งาน เพราะเวลาใช้งานจริงๆ ถ้ามีความผิดปกติเกิดขึ้นกับแบต เจ้าของเครื่องก็น่าจะสังเกตเห็นได้ง่ายอยู่แล้ว แต่ถ้าจะมีการเพิ่มเครื่องหมายตกใจขึ้นมาบนไอคอนแบตเพื่อให้เห็นง่ายแบบบนแมคก็น่าจะดีกว่านี้
เอาจริงๆ ผมเห็นคำนี้แล้วควรคิดยังไงครับ? วิ่งไปเปลี่ยนแบตใหม่ หรือคิดอีกตลบว่าเปลี่ยนแบตมันจะคุ้มมั้ยเครื่องอืดขนาดนี้แล้วหรือจะซื้อใหม่เลยดีนะ
ประเด็นไม่ใช่ว่าผู้ใช้ไม่รู้ว่าเครื่องตัวเองแบตเสื่อมไม่เสื่อมครับ แต่เป็นผู้ใช้ไม่รู้ว่าที่เครื่องช้าเพราะแบตเสื่อมต่างหาก
ต่อให้มีแจ้งว่าแบตเสื่อม แต่ไม่บอกว่าเครื่องช้าลง ผลลัพท์ก็เหมือนเดิมครับ
เอาจริง ๆ นะ แอปเปิลควรจะแจ้งเรื่องนี้ตั้งแต่แรกแล้วนะ ไม่ใช่มันเลยเถิดแบบนี้
Coder | Designer | Thinker | Blogger
จำได้เลยว่าตอนนั้นซื้อ iPhone6 แบตเสื่อมไว้มาก!! ใช้ยังไม่ถึงปี ชาร์จมาเต็มๆ เหลือ 20-30 แบบงงๆ แล้วเครื่องก็ดับไป แล้วหน้าจอดันเจอปัญหาเงามืดๆ ด้านมุมหน้าจออีก เซงสุดๆ หลังจากเปลี่ยนแบตไป แบตของ Commy เหมือนได้เครื่องใหม่ ใช้มาปีกว่าๆ แล้วแบตยังดีอยู่เลย แต่พักหลังมานี้เครื่องอืดมาก
ผมไม่เคยเห็นมือถือยี่ห้อไหนที่แบตเสื่อมแล้วมือถือพังหรือดับเองดื้อๆ โดยที่เจ้าของไม่รู้ว่าแบตตัวเองเสื่อม
เอาจริงๆทำเหมือน Macbook ที่แจ้งเตือนว่าควรเปลี่ยนแบตเตอรี่ก็จบ
ถ้าแบตเสื่อมแล้วไฟมันหมดเร็วก็แสดงกราฟให้เห็นเลยว่ามันหมดเร็วจริงๆ ถ้าผู้ผลิตไม่ได้จงใจวางยาใครจะไปว่าละ
ว่าแต่เป็นไปได้ไหมที่อัดแบตเผื่อไว้หน่อยตอนแบตเสื่อมนะ
อัดแน่นมากเดี่ยวก็ไฟไหม้แบบ Note 7 หรอกครับ
ปกติผู้ผลิตหลายๆ เจ้าก็อัดแน่นทุกพื้นที่ในเครื่องแล้วนะครับ ถ้าจะใส่เผื่อเช่นแบตมีขนาด 3000 mAh แต่โฆษณามี 2500 mAh นะ แบบนี้ ก็จะดูเหมือนให้แบตมาน้อยกั๊กๆ เปิดฝาตัวเครื่องจริงเห็นภายในว่า 3000 อีก ลูกค้าจะงงกันไปใหญ่ครับ จะยกเว้นถ้าพื้นที่เหลือๆ แบบรถ Tasla ที่ขายเป็น option แล้วปลดล็อคด้วย Software จริงๆ เขาทำแบบนี้ลดต้นทุนการผลิตหลายๆ โมเดล
จริงๆวิธีแก้ปัญหาของ Apple ไม่ใช่วิธีที่แย่นะ ส่วนตัวชินชาเรื่องการถูกบังคับใช้ในสินค้า Apple ด้วย เพราะงั้นไม่คาดหวังว่าจะมีให้ปรับได้อยู่แล้ว
ที่แย่ก็คือการหมกเม็ดไม่ยอมแจ้งเตือนเนี่ยแหละว่าเครื่องช้าเพราะแบตเสื่อมนะ (แจ้งเตือนแบตเสื่อมอย่างเดียวไม่พอหรอก ต้องแจ้งเตือนว่าเครื่องช้าเพราะแบตเสื่อมด้วย)
และที่น่ากลัวกว่าก็คือ Apple หมกเม็ดอะไรอีกบ้างก็ไม่รู้ ความเชื่อใจมันหายไปกับเคสนี้เนี่ยแหละ
ต่อจากโพสต์ตัวเองข้างบนอีกหน่อยนึง
ส่วนตัวมองว่า(เชื่อว่า)โดยปกติแล้ว Apple จะมีกลุ่มคนที่เรียกว่า Evangelist (จะใช้คำภาษาไทยว่าอะไรดี .. หน้าม้า ตัวแทน ผู้ชี้ชวน ผู้ชักนำ)
จริงๆ ถ้าว่ากันตามเนื้อผ้า แอปเปิ้ลมีวิธีการจัดการหลายอย่างที่มัน "ดู" ดีต่อผู้ใช้โดยรวม เช่น การลากหน้าจอ Homescreen ในแอปเปิ้ลมี Priority สูงเป็นพิเศษในการทำให้มันดู "ลื่น" หรือด้านอื่นๆ ที่ออกมาในมุมว่า ทำแบบนี้สิ่ง แบบนี้ดีอย่างนั้น แบบนู้นดีกว่าอย่างนี้ ที่เลือกแบบนั้นเพราะมันจะดีกว่าอย่างโน้นอย่างนี้ มาตั้งแต่ไหนแต่ไร คือไม่ว่าดีแค่ไหน หรือเป็นฟังก์ชั่นที่ห่วย(หรือไม่มีฟังก์ชันในแอปเปิ้ล แต่มีในแอนดรอยด์) หรืออะไรก็ช่าง ก็จะมีคนมาบอกมาอธิบาย "ก่อน" เกิดไวรัลในทางลบเสมอ ... หรือมุบมิบก็มีอีกหลายเรื่อง (ซึ่งให้มาย้อนไล่ลิสต์คงจำไม่ได้ล่ะ แต่ก็เป็นเรื่องคุยกันในวงสนทนามาก่อน)
ในเหตุการณ์นี้ ผมยังมองว่า แนวทางปฏิบัติแต่เดิมมันก็ยังเป็นอยู่แหล่ะนะ แต่ที่ผิดไปจากเคสก่อนๆคือ "เพจแรกๆ" ที่ออกมาเสนอข้อนี้ ไม่ได้เขียนเรื่องนี้ใน "เชิงบวก" สักเท่าไร ดังนั้นพอแชร์ต่อๆไปเรื่อยๆ ไฟมันเลยลามหนักและรุนแรงมาก (TechCrunch กับ Geekbench ใช้คำที่ก็รู้สึกแย่ล่ะ)
Quote Source : Reddit ในข่าวก่อนหน้า
++ iOS 10.2.1 was released last year, as a “fix” for the sudden shutdown issues that a lot of devices were experiencing. Apple did this so by dynamically adjusting iOS system performance based on battery wear. ++
คือผมก็ยังคิดว่าเจตนาหลักของ Apple ไม่ได้อยากมุบมิบอะไรมากมาย (แต่ก็ไม่ได้มี Evangelist มาเขียนถึงฟีเจอร์นี้ในเชิงบวกให้ ... คือถ้า Evangelist เขียนตั้งแต่ตอนนั้นว่า 10.2.1 แก้ปัญหาไอโฟนดับบ่อยอย่างไร คนส่วนมากจะรับได้ และยอมให้เป็นเวย์นี้ -- โดยไม่ได้เรียกร้อง custom turn-off switch อย่างที่เป็นอยู่ตอนนี้) แต่คราวนี้ First Source เขียนข่าวฟังดูลบมากๆ (แอปเปิ้ลมุบมิบ อยากให้เปลี่ยนเครื่องใหม่ไวๆ ...)
เพราะเอาเข้าจริงๆ ตั้งแต่ 3G 3Gs มานั้นผมมองว่าผู้ใช้มีพฤติกรรมเปลี่ยนเครื่อง/หาเครื่องใหม่กันใน 2-3 ปีอยู่แล้วนะ ยิ่งระดับสาวกด้วยนี่อาจจะเรียกได้ว่า เปลี่ยนทุกปีเลยก็ได้ (จนอนุมานว่า ไม่ถึงขั้นที่ Apple ต้องทำให้ตัวเองช้าเพื่อขายของใหม่หรอก) ... และเผลอๆจะมี implication ว่า user จะเปลี่ยนแบตอยู่แล้วในประเทศหลักที่มีศูนย์บริการ (แบตเสื่อม1ปี แบตบวม 2 ปี)
แล้วด้วยการตอบที่คนถามรายใหญ่แค่รายเดียว ชี้แจงชัดๆเลย ว่าเป็นฟีเจอร์เนี่ย แสดงว่าการตลาดก็ไม่ได้คาดหวังผลเปลี่ยนเครื่องหรอก (ไม่งั้นการตอบคำถามมันจะเลี่ยงบาลีกว่านี้เยอะเลย หรือจะเงียบๆเนียนๆไปก็พรูฟยาก หรือต่อให้ตอบออกมาในมุมที่ว่ามีระบบเช็ค parity ว่า CPU ทำงานได้ถูกต้อง แต่กระแสไม่พ่อก็ค่อยๆลดลงมาเพื่อให้ไม่ error ก็ยังได้ == ไม่ได้ลดสเป็ค แต่แบตลองพยายามเร่งแล้ว รันไม่เสถียรแล้ว เลยแก้ปัญหา .. คือมันเลี่ยงได้หลายทาง)
ส่วนตัวอย่างที่คิดว่ามุบมิบชัดเจน (แต่คอนเฟิร์มไม่ได้) ก็กล้องของอีกค่าย ที่มีคนตั้งข้อสังเกตว่าอัพเดทแล้วคุณภาพกล้องห่วยลง อย่างนั้นยังรู้สึกว่ามุมมิบกว่า
คหสต. ล้วนๆ .. จากฝั่งแฟนบอยดรอยด์ด้วย 555