ปีที่ผ่านมาเป็นการกลับมาของ Nokia อีกครั้ง หลังสิทธิเปลี่ยนมือจากไมโครซอฟท์มาอยู่กับ HMD Global ที่ชูจุดเด่นเรื่องเพียวแอนดรอยด์และการันตีได้รับการอัพเดต นำมาโดยเรือธง Nokia 8 ซึ่งในภาพรวมถือว่าทำออกมาได้ค่อนข้างสมราคาคุย ในราคาต่ำ 20,000 ไปจนถึงอัพเดตรายเดือนและเวอร์ชันระบบปฏิบัติการที่ค่อนข้างเร็วตามที่ประกาศ

ตัวเครื่องและการใช้งาน

ตัวเครื่องของ Nokia 8 ด้านหลังเป็นพลาสติกอะลูมิเนียม งานประกอบค่อนข้างดี เครื่องน้ำหนักเบาและบาง ซึ่งความบางกลายเป็นหนึ่งในข้อด้อยที่พบเจอหากใช้งานโดยไม่ใส่เคส เพราะขอบด้านข้างของเครื่องโค้งเข้าไปด้านหลังของเครื่อง พื้นที่สัมผัสด้านข้างเวลาถือจึงรู้สึกน้อยและรู้สึกกลัวว่าจะหล่นตลอดเวลา

หน้าจอความละเอียดให้มาถึง QHD ซึ่งถือว่าคมกริบ สีสันสวยสดใส สามารถเล่นกลางแดดจ้าได้ค่อนข้างสบาย

เซ็นเซอร์ลายนิ้วมือก็ค่อนข้างเร็ว แต่ก็รู้สึกถึงความหน่วงเล็กน้อยมากๆ มีปัญหาบ้างเป็นบางครั้งถ้าสแกนคือมือเปียก

ส่วนของ Glance Screen ที่เป็นมรดกมาตั้งแต่สมัย Lumia สิ่งที่พบเจอคือมีประโยชน์เฉพาะดูนาฬิกาเป็นหลักเท่านั้น เพราะตัวเลือกที่แสดงมีเพียงสายที่ไม่ได้รับ, ข้อความและอีเมล ซึ่งไม่สามารถปรับแต่งได้

ส่วนการใช้งานของแบตเตอรี่ ให้มาที่ 3,090 mAh ซึ่งก็ถือว่ากลางๆ ไม่ได้ถือว่าอึดอย่างเห็นได้ชัด ถ้าใช้งานไม่เยอะ อย่างแชทไลน์, เช็คเมลและเล่นเฟซบุ๊กบ้างประปราย ก็พอเหลือใช้ทั้งวัน แต่ถ้าหนักหน่อยหรือเล่นเฟซบุ๊กมากหน่อยก็คงต้องพกแบตเตอรี่สำรองไปเผื่อ

ขณะที่หัวชาร์จที่แถมมาให้รองรับ QuickCharge รองรับการจ่ายไฟตั้งแต่ 5V 2.5A / 9V 2A และ 12V 1.5A ซึ่งจากแบตเตอรี่น้อยๆ ใช้เวลาราวครึ่งชั่วโมงก็ได้แบตเตอรี่กลับมาราว 60-70% แล้ว

กล้อง

กล้องหลังให้มา 13 ล้านพิกเซล เป็นกล้องคู่ RGB และขาวดำ สามารถเลือกได้ว่าจะถ่ายภาพแบบกล้องเดี่ยว (สี/ขาวดำ) หรือเปิดทั้งสองกล้อง ซึ่งอาจช่วยเรื่องแสงมากกว่า แต่เอาเข้าจริงการถ่ายจากสองกล้องไม่ได้รู้สึกแตกต่างจากการถ่ายสีด้วยกล้องเดียวมากนัก

กล้องยังมาพร้อมฟีเจอร์หน้าชัดหลังเบลอด้วยซอฟต์แวร์ ซึ่งสามารถเลือกระดับการเบลอได้ แต่เอาเข้าจริงรู้สึกว่าโหมดนี้ทำให้ภาพแตกและ noise เยอะกว่าปกติ

โดยภาพรวมของกล้องต้องยอมรับว่ายังสู้เรือธงรุ่นอื่นๆ ไม่ได้สูสีนัก โดยเฉพาะพื้นที่แสงน้อยจะค่อนข้างเห็นได้ชัดว่า noise ค่อนข้างเยอะและสีสันเริ่มหาย แต่ก็ถือว่าไม่ได้แย่นัก ส่วนภาพที่แสงเพียงพอถือว่าทำได้ดีทีเดียว

การอัพเดตที่แบรนด์อื่นควรเดินตาม

จุดเด่นของ Nokia 8 ไม่ใช่เรื่องของเพียวแอนดรอยด์อย่างเดียว แต่คือการการันตีและความเร็วในการได้รับอัพเดตที่น้อยแบรนด์ในปัจจุบันจะทำตามได้ โดยนอกจากจะได้รับแพทช์รายเดือนแล้ว (ได้รับหลังกูเกิลปล่อยราว 1-2 สัปดาห์) อัพเดตแพทช์ใหญ่อย่าง Android Oreo ก็ยังถือว่าค่อนข้างเร็ว และที่สำคัญคือผมได้รับอัพเดตในวันที่มีการประกาศ เลยทันที ซึ่งถือว่าประทับใจมากๆ

สรุป

ด้วยค่าตัวต่ำ 2 หมื่น Nokia 8 ถือเป็นสมาร์ทโฟนเรือธงที่ค่อนข้างน่าสนใจ โดยเฉพาะคนที่มีโจทย์ต้องการใช้เพียวแอนดรอยด์และอยากได้รับการอัพเดตอย่างต่อเนื่อง และด้วยความที่ Pixel ของกูเกิลหาซื้อยาก ตัวนี้จะค่อนข้างตอบโจทย์ได้มาก

ข้อดี

• หน้าจอคม สีสวยและละเอียด
• การันตีเรื่องการอัพเดตแพทช์รายเดือน

ข้อด้อย

• เครื่องขอบบาง ควรใส่เคสในการใช้งาน
• กล้องยังถือว่าด้อยเมื่อเทียบกับเรือธงรุ่นอื่น โดยเฉพาะพื้นที่แสงน้อย