จากประเด็นเรื่องแพตช์แก้ Spectre และ Meltdown ที่ส่งผลต่อประสิทธิภาพของเครื่อง (รายละเอียดเชิงลึก) แต่ไม่มีใครรู้ชัดเจนว่ากระทบมากน้อยแค่ไหน
อินเทลออกผลการทดสอบประสิทธิภาพของซีพียู โดยนำ Core ทั้งหมด 4 รุ่นคือ i7-8700K, i7-8650U, i7-7290HQ, i7-6700K (สามเจนคือ 6th, 7th, 8th) มารันเบนช์มาร์ค SYSmark 2014, PCMark 10, 3DMark Sky Driver, WebXPRT 2015 เปรียบเทียบระหว่างก่อนแพตช์กับหลังแพตช์ให้เห็นกันชัดๆ
ผลออกมาว่า ซีพียูรุ่นเก่าหน่อยอย่าง 6th Gen จะได้รับผลกระทบมากหน่อย (ประมาณ 3-10% แล้วแต่เบนช์มาร์ค ถ้านับ SYSmark ลดประมาณ 8%) ส่วนซีพียูรุ่นที่ใหม่ขึ้นอย่าง 7th และ 8th Gen ได้รับผลกระทบน้อยลงมา (ประมาณ 3-5% แล้วแต่เบนช์มาร์ค ถ้านับ SYSmark ลดประมาณ 6%)
อินเทลบอกว่าจะเผยผลการรันเบนช์มาร์คของซีพียูทั้งหมดที่วางขายใน 5 ปี ในสัปดาห์หน้า
ที่มา - Intel
Comments
ฟ้องได้มั้ยเนี่ยแบบนี้ ผิดพลาด แล้วมาออก แพตซ์ แก้แล้วช้าลงเนี่ย
โดนไปเรียบร้อย
มาตามคาด ผู้บริโภครวมกลุ่มฟ้องเรียกค่าเสียหายจากอินเทลแล้ว 3 คดี
เรื่องฟ้องคงฟ้องได้ แต่ผมคิดว่าไม่ควรชนะนะครับ
เพราะขณะออกแบบซีพียู การโจมตีกลุ่มนี้ยังไม่เคยมีรายงาน ไมใช่ความรู้ที่คนออกแบบต้องตระหนักในขณะนั้น
แบบเดียวกับซอฟต์แวร์และฮาร์ดแวร์ที่เราใช้งานทุกวันนี้ พอมีการโจมตีแบบใหม่ๆ เราก็แก้ปัญหา อย่างการดักฟังเริ่มเป็นเรื่องปกติ เราก็เข้ารหัสการเชื่อมต่อซึ่งทำให้ช้าลง, หรือมีการติดตั้งเฟิร์มแวร์ปลอมก็มีระบบตรวจสอบเฟิร์มแวร์ก่อนบูตซึ่งทำให้เครื่องบูตช้าลงเหมือนกัน
lewcpe.com, @wasonliw
สาเหตุที่จะฟ้องคือ เรื่องการโฆษณาประสิทธิภาพเกินจริงครับ เพราะรู้อยู่แก่ใจตั้งแต่ก่อนออกรุ่นล่าสุด coffee lake แล้วว่ามันจะต้องแพทช์และประสิทธิภาพจะลดลงเยอะ
CPU ไม่ได้ออกแบบ 3 เดือนเสร็จนะครับ แต่ใช้เวลาเป็นปีๆ
ก็ถูกแล้ว ดังนั้น argument คือควรขายถูกกว่านี้ หรือไม่ก็ชดเชย benchmark ให้เท่ากับที่คาดการณ์ว่าจะร่วงหลังแพทช์ครับ ถ้าผมคิดว่ามันออกแบบ เทป แซมเปิล เร็วขนาดนั้นผมจะพูดแบบนี้ทำไม? อินเทลเองก็คงทำไปแล้วล่ะครับ เงินเหลือแหล่ แล้ว kabylake x ก็คงไม่ได้เกิดด้วยซ้ำ
ราคาขายมันขึ้นอยู่กับ demand/supply นี่ครับ ไม่ได้ขึ้นกับผล benchmark
อีกอย่างผล benchmark ตัว Intel เองไม่เคยพูดถึง performance โดยตรง(benchmark)ของมันนี่ครับ แต่พูดถึง performance ที่เทียบกับรุ่นก่อน(relative performance)
คือถ้าโฆษณาว่าจะทำแบบนู้นแบบนี้ให้เสร็จภายในเวลากี่วิก็สมควรโดนฟ้องครับ แต่ในความเป็นจริงคงไม่มีใครทำแบบนั้นกัน ในโลกที่ซอฟท์แวร์มัน complex(ใช้ภาษาไทยว่าอะไรดี) ขึ้นเรื่อยๆ ต้องออกแพทความปลอดภัยเรื่อยๆ นั้นความ complex และแพทความปลอดภัยซอฟท์แวร์แต่ละแพทก็ทำให้มันทำงานช้าลงด้วยตนเองอยู่แล้วครับ
Russia is just nazi who accuse the others for being nazi.
someone once said : ผมก็ด่าของผมอยู่นะ :)
ถ้าหากทุกคนรู้ว่าสมรรถนะของมันจะต่ำกว่านี้ demand ก็อาจจะต่ำลง? แล้วก็มีเรื่อง MSRP อยู่ซึ่งไม่ได้ไหลตามผู้ค้าปลีก
ต่อให้ใช้ % เปรียบเทียบก็เหอะนะผมว่า เพราะใน ** เขาก็จะบอก configuration อยู่ละ โดยเฉพาะในกรณีไปเปรียบเทียบกับเจ้าอื่น
complex ใช้ว่าซับซ้อนก็น่าจะได้มั้งครับ
ที่ผมพูดถึงความเป็นไปได้ในการฟ้องประเด็นหลักคือไม่ใช่เรื่องสมรรถภาพที่อาจจะเปลี่ยนแปลงได้ แต่หมายถึงการอุบข้อมูลที่อาจจะส่งผลต่อการตัดสินใจของผู้ซื้อ (คล้ายๆ กับขายรถดีเซล์โฟลค์ โดยที่รู้ว่าจะต้องโดนปรับเครื่องโดยจะส่งผลให้แรงม้าลดลง) ซึ่งผมว่ายังไงก็ไม่แฟร์กับผู้บริโภค
Logic เดียวกันนะครับ
เวลาคุณ ซื้อเครื่อง CPU I7 เหมือนกัน มาสองเครื่อง boot เร็วช้าต่างกัน ไม่ฟ้องกรณีนี้พวกนี้ด้วยเหลอครับ ?
อยากบอกว่าทุกเครื่องในโลก boot ช้าเร็วไม่เท่ากันนะ
หรือ ซื้อ Ferrari มา แต่ออกตัวช้ากว่า taxi altis ติดแก๊ส ก็ต้องฟ้องด้วย เพราะสมรรถณะไม่ได้อย่างที่คิด
คุณเลือกไม่ลง patch ได้นะครับ เหมือนที่ใครหลายคนเลือกที่จะไม่ลง anti virus นั่นแหละ เพราะมันช้า ผมเป็น 1 ในนั้น
เรื่อง demand/supply ผมไม่ได้พูดเชิงความต้องการครับ ผมพูดในเชิงการตลาด/เศรษฐศาสตร์เกี่ยวกับจุดสมดุลราคาซื้อขาย ในที่นี้ก็คือ MSRP ที่เค้าคำนวนมาว่าดีแล้วนั่นแหละ
การอุบข้อมูลว่าเกิดปัญหานี่ผมว่าเป็นความคิดฝ่ายเดียวเกินไปครับ ถ้าคุณได้อ่าน paper ทั้งเรื่อง Spectre และ Meltdown จะเห็นได้ว่า Intel เป็นผู้สนับสนุนให้เกิด Mitigration ของปัญหานี้ด้วยซ้ำ
Intel เองก็คงไม่รู้หรอกครับว่านักพัฒนาโปรแกรมจะ mitigrate ปัญหากันยังไง ส่งผลกระทบอะไรขนาดไหนบ้างหรือไม่ส่งผลกระทบเลย ARM, Apple, Qualcomm, Samsung ก็คงไม่มีใครรู้ จนกว่าจะ mitigrate กันเสร็จ ดังนั้นถ้าจะเรียกว่าอุบคงอุบกันทั้งวงการ
อย่าง AMD เองก็คงนึกไม่ถึงว่าหลัง mitigration แล้ว CPU ตัวเองบางรุ่นจะมีปัญหาเช่นกัน
อีกอย่างนึงคือ ผมยังไม่เคยเห็นว่า Intel เอา CPU ตัวเองไปวัดประสิทธิภาพเปรียบกับเจ้าอื่นนะ เพราะแต่ละเจ้ามันสถาปัตยกรรมภายในต่างกัน เอามาวัดตรงๆคงเป็นไปได้ยาก จะเห็นก็มีแต่ IBM ที่เอาไปเปรียบเทียบว่าทำ'งานเฉพาะด้าน'นั้นๆได้ดีกว่ากันเท่าไผร่
Russia is just nazi who accuse the others for being nazi.
someone once said : ผมก็ด่าของผมอยู่นะ :)
เวลาเขาโฆษณาจริงๆ ถึงระวังกันมากครับ เช่นบอกว่าเร็วกว่ารุ่นเดิม x% หรือทดสอบด้วยซอฟต์แวร์ A บนระบบปฎิบัติการ B รุ่น C ได้ผลว่า ....
ส่วนโลกภายนอกทดสอบ นิตยสาร, เว็บ, ฯลฯ เป็นเรื่องของคนภายนอกครับ การทดสอบที่ดีก็ต้องบอกเงื่อนไข รุ่นซอฟต์แวร์ ฯลฯ ให้ครบถ้วนเหมือนกัน
โดยเฉพาะพวกรุ่น overclock ทั้งหลาย เขาจะระวังไม่อ้างกันเลยว่าได้เท่าไหร่ บางทีให้คนภายนอกมาสาธิตให้แล้วบอกว่าทีมนั้นทีมนี้ทำได้อย่างโน้น
lewcpe.com, @wasonliw
ผมก็ว่า ไม่น่าชนะเหมือนกัน
เพราะถ้าชนะนี่ พวกOSจะไม่ยิ่งโดนฟ้องจนพรุนเหรอครับ เขียนOSมีช่องโหว่จนทำให้Userต้องหาAntivirusมาลง ถ่วงให้เครื่องช้าลง
บางทีคนก็ดาวน์โหลดไวรัสมาเอง ไม่ได้มาจากการเจาะ แล้วแอนตี้ไวรัสก็ทำหน้าที่ของมันด้วยการ quarantine ก็คงฟ้องผู้ผลิตโอเอสไม่ชนะเหมือนกันน่ะครับ
คิดว่าไม่น่าฟ้องชนะเหมือนกัน
คอมพิวเตอร์ ออกแบบก่อน แล้วพบช่องโหว่ทีหลัง
เป็นเรื่องปรกติ
การจะมาลงโทษย้อนหลัง เพราะด้วยการออกแบบผิดพลาด ในอดีต
มันเท่ากับทำให้ อุตสาหกรรมชงักได้เลย
ต่อไปก็จะไม่มีใครกล้าทำอะไรเลย
รอดู i3 i5 celeron เจน 3-5 มันส์แน่ๆ
i3-5005u จากเดิมที่กระตุกอยู่แล้ว อัพเดท Bios คงช้าจนต้องเปลี่ยนเครื่องใหม่
oxygen2.me, panithi's blog
Device: ThinkPad T480s, iPad Pro, iPhone 11 Pro Max, Pixel 6
ผมว่าที่ช้าเพราะ hdd/ram หรือเปล่าครับ
ยิ่งพวกลง adobe/cad นี่ i3 มันจะเนือยๆหน่อยๆอยู่แล้ว แนะนำลองอัพแรมกับ hdd ก่อนครับ
ส่วนตัวคือถ้าเค้าทดสอบการใช้งานโหลด 80 - 100 เปอร์เซนต์อันนี้ช้าลงชัดอยู่แล้ว แต่ส่วนตัวผมว่า user ส่วนใหญ่ไม่รู้สึกเพราะเป็นงานเอกสาร ดูหนัง ท่องเว็บ ซึ่งพวกนี้โหลด cpu ไม่ค่อยเยอะเท่าไหร่ คือในเคสปัญหาครั้งนี้เหมือนที่หลายๆท่านว่ามันเป็นปัญหาของเรื่องนวัตกรรม และขีดจำกัดของเทคโนโลยีในสมัยนี้ user อย่างเรา (บุคคลที่ไม่ได้ผลิตชิปเองใช้เอง) ทั้งหมดคงต้องยอมรับ และปรับตัว และหวังให้ผู้พัฒนาหาทางรีดประสิทธิภาพ cpu เพื่อให้ user ไม่รู้สึกถึงผลกระทบการใช้งาน คนที่ได้รับผลกระทบชัดๆคือ mobile device ทั้งหลายมากกว่าเพราะ พวก desk/server อาจยังใช้ s/w รีดประสิทธิภาพโดนไม่ติดขัดเรื่องพลังงานมากนัก
โชคดีที่ว่าเครื่องส่วนตัวใกล้จะลาโลกเต็มที ปัญหาคือต้องงดจับ PC มือสองถูกๆ มา overhaul ไปยาวๆ กันเลย
เห็นว่า macOS High Sierra รอดตายไปแล้วแต่ MAC ที่ run windows นี้ก็คงไม่รอดสินนะ
มีแผนจะอัพพีซีปีนี้ น่ากลัวมากว่าพอ cpu รุ่นใหม่ออกของจะขาดตลาดไหม เพราะคงมีหลายคนอัพ cpu หนีปัญหานี้เหมือนกัน
ของผม i7 Gen 4 ใช้เล่นเกม
เวลาที่ยูนิตยิงสู้กัน 3-4 ร้อยตัวพร้อมกัน กระตุกหนักกว่าเดิมเยอะมากครับ ของเดิมแค่กระตุกนิดๆ
แนะนำให้ปรับแผนการต่อสู้ใหม่ครับใช้ยูนิตให้น้อยแล้วรีดประสิทธิภาพมากให้ขึ้นครับ แล้วเกมจะสนุกขึ้น XD