งานสัมมนา The North American Bitcoin Conference ที่จะจัดในสหรัฐอเมริกาวันที่ 18-19 มกราคมนี้ ประกาศไม่รับการจ่ายค่าตั๋วเป็น Bitcoin และ cryptocurrency ทั้งหมด เลือกรับเฉพาะเงินดอลลาร์เท่านั้น
เว็บไซต์ของงานระบุว่าที่ผ่านมา รับการจ่ายค่าตั๋วเป็นเงิน cryptocurrency มาโดยตลอด แต่ปีนี้ประสบปัญหาความยุ่งยากในการประมวลผลข้อมูลตั๋ว ความล่าช้าของเครือข่ายเหรียญ จึงตัดสินใจปิดการรับค่าตั๋วเป็นเงินดิจิทัล
Moe Levin ผู้จัดงานยังให้สัมภาษณ์ว่าประเด็นเรื่องค่าธรรมเนียมธุรกรรม Bitcoin ที่ราคาอาจสูงถึง 30 ดอลลาร์ ยังเป็นอีกปัจจัยหนึ่งที่ทำให้ตัดสินใจยกเลิก
ที่มา - Business Insider
Comments
ทำไมมันดูเฟล ๆ ขนาดนี้
มันดูเฟลอย่างว่าละ
ส่วนตัวมองว่า เฟลมากกว่า IE ค้างของไมโครซอฟท์
จะออดแบบบิทคอยมาให้ใช้เป็นเงิน แต่ก็ไม่สะดวกจนไม่ใช้ แล้วบิทคอยมันจะเป็นอะไรได้มากกว่าแค่ของหลอกเม่าละ
ผมมองว่าเม่าต่างหากที่ทำให้มันเป็นแบบนี้ และอีกอย่างผมว่า Bitcoin มันเป็นแค่ Proof of Concept ในการประยุกต์ใช้งาน blockchain ครับ
จริงๆ น่าสนใจว่าทำไมไม่รับเป็นเงิน crypto อื่นๆ ที่ block ยังไม่เต็ม (และค่าธรรมเนียมไม่แพง)
lewcpe.com, @wasonliw
/facepalm ทำไมมันดูง่อยอย่างนี้
สงสัยใกล้จะแตกล่ะ 5555+
สุดท้ายเงินดิจิตอลหรือจะสู้เงินจริง
อย่าไปพูดในบางเพจเชียวนะครับ ขนาด Buffett ยังโดนด่าเลยว่าน้ำร้อนที่แกอาบมันคนละบ่อกับตอนนี้ 55555
พูดแบบนี้เดี๋ยวโดนด่าแบบ Buffett ในข่าวด้านล่างนะครับ
เสียผู้เสียคนกันเลยทีเดียว
แรง ฮ่าๆๆๆๆ
มันอยุ่ที่ว่านิยามคำว่าเงินของแต่ละคนคือยังงัย แค่นั้นแหละ
คนที่คิดบิตคอยขึ้นมาเค้าแค่ต้องการให้เงินมันอิสระไม่ขึ้นกับใคร แต่เขาคงลืมนึกในมุมมองของการมีเจ้ามือ
จริงๆระบบมันดีครับ แต่ปัญหาคือตอนนี้เนี่ยสิ มันหลุดจากการจับต้องได้ไปเรื่อยๆ มันผันผวนจนไม่สามารถเอามาเป็นเงินจริงได้
ผมไม่ได้บอกเงินดิจิทัลไม่ใช่เงินนะ แต่หมายถึงความน่าเชื่อถือยังไวตอนนี้เงินจริง(บางสกุล)ยังน่าเชื่อถือกว่าอีก แต่ในอนาคตไม่แน่
บัตร 1000 ค่าธรรมเนียม 30(่อาจไม่ถึงด้วยซ้ำ) ราคาบัตรขนาดนี้คิดว่าถ้าคนจะเข้าแล้วไม่มีทางเลือกอื่นเค้าก็จ่ายนะ
แต่ถ้ามีทางเลือกอื่นที่จะไม่จ่ายผมก็ไม่จ่ายนะ 555
ถามง่ายๆครับ ตอนนี้ BTC มันผันผวนมาก ระหว่างคุณเลือกกำเงิน USD แน่นอนกับรับเป็น BTC ซึ่งราคายังกับรถไฟเหาะ(AltCoin ก็ผันผวนเหมือนกัน)
ทุกวันนี้ Cryptocurrency มันเก็งกำไรหมดแล้วครับ ผิดหลกการเดิมไปหมดละ
อันนั้นผมเข้าใจครับ ผมแค่พูดถึงประเด็นที่เค้ายกมาอ้างครับ
หลักการเดิมที่แท้จริงของมันคือใช้ "เก็งกำไร" ครับ
ใครมองข้อนี้ออกก่อนก็รวยก่อน (หากมันใช้ทำอย่างอื่นได้นอกเหนือจากการ "เก็งกำไร" การเก็งกำไรก็จะลดลง และมูลค่ามันก็จะคงที่และไม่สามารถทำกำไรได้อีกต่อไป)
เดิมนี่เดิมของใครครับ เดิมของคุณเอง?
ถ้าของ Satoshi Nakamoto นี่ไม่น่าใช่
lewcpe.com, @wasonliw
เดิมจากคุณสมบัติพื้นฐานของตัวมันเอง (ไม่ใช่สิ่งที่ผู้สร้างหวังจะให้มันเป็น)
ก่อนปี 2017 Bitcoin ถ้าไม่นับเป็นเงินก็เป็นช่องทางรับจ่ายที่สำคัญกับองค์กรสำคัญๆ หลายองค์กรนะครับ ตั้งแต่ WikiLeaks, Silkroad, ไปจนถึงผู้ผลิต ransomware ทั้งหลาย
คนอาจจะเก็งกำไร แต่มันมีคนใช้เพื่อเป็นช่องทางการส่งเงินจริงๆ จำนวนมากแน่ๆ เพิ่งมาเสียคุณสมบัตินี้ไปหลังจาก block เต็ม จนค่าธรรมเนียมพุ่งในช่วงหลัง
lewcpe.com, @wasonliw
ผมเห็นด้วยแฮะ
เรื่องเงินที่ไม่ถูกควบคุมน่าจะเป็นข้ออ้างใช้โฆษณามากกว่า
เพราะหลักการ halving+diff คือ ทำให้ราคามันอีหลักอีเหลื่อแบบยกกำลัง2ทบต้น
ถ้าให้ตามต้นทุนปัจจุบัน คนขุดแรกๆจะกำไรมหาศาล
ถ้าให้ตามต้นทุนยุคแรก คนขุดปัจจุบันอยู่ไม่ได้
เรามีเหรียญที่ใช้แทนเงินจริงๆ ได้อยู่แล้วครับ เราแค่ตั้งใจจะมองข้ามมันไปนั่นก็คือ USDT
USDT ค่าโอนที 25-30USDT พอๆ กับค่าธรรมเนียมโอนของ Bitcoin น่ะครับ
แถมถ้าไม่ใช่เว็ปที่ปั้มมาเอง เวลาแลกกลับเรทไม่ตรง ผันผวนพอๆ AltCoin
เหมือนเพลงเลยครับ "อ้าวเฮ้ย..."
ถ้ารับ ETH นี่คงฮา
แบบนี้ก็จ่ายด้วย "พร้อมเพย์" ได้สิเพราะเป็นการโอนเงินสด
จ่ายเป็น Zeny ละกัน
.
ดูกันต่อไปว่าศึกนี้ใครจะอยู่หรือไป...
มันดูย้อนแย้งยังไงไม่รู้แฮะ ^ ^"