เกิดเรื่องเศร้าในสหรัฐฯอีกครั้ง เมื่อวันที่ 15 กุมภาพันธ์ เกิดเหตุกราดยิงในโรงเรียนมัธยมเมืองปาร์คแลนด์ รัฐฟลอริดา ส่งผลให้มีผู้เสียชีวิตประมาณ 17 คน บาดเจ็บ 14 คน
จากเหตุการณ์นี้ทำให้เสียงเรียกร้องเรื่องกฎหมายควบคุมปืนในสหรัฐฯดังขึ้นเรื่อยๆ
ล่าสุด Matt Bevin ผู้ว่าการรัฐเคนทักกีออกมาให้สัมภาษณ์ผ่านรายการวิทยุ ระบุว่า "ปืนไม่ใช่ปัญหา แต่เรามีปัญหาทางวัฒนธรรมในอเมริกา" เกมที่มีเนื้อหารุนแรงมีส่วนรับผิดชอบต่อเหตุการณ์กราดยิงทั้งหลายที่เกิดขึ้นบ่อยในระยะหลัง
Bevin อ้างอิงไปถึงปัจจัยปัญหาอื่นๆ เช่นปัญหาสภาพจิต ผลข้างเคียงจากยา ไปจนถึงสังคมอเมริกันเรื่องความผิดเพี้ยนทางจริยธรรม จนกระทั่งเขาพูดถึงเกมว่ามีส่วนช่วยเฉลิมฉลองวัฒนธรรมแห่งความตาย เขาบอกว่ามีวิดีโอเกมที่ระบุชัดเจนสำหรับผู้ใหญ่ แต่ก็ไม่มีอะไรห้ามเด็กไม่ให้เล่นได้ มันมีเกมที่ให้ผู้เล่นได้คะแนนจากการฆ่าใครสักคนที่นอนร้องขอชีวิต
ภาพจาก Shutterstock โดย guteksk7
เมื่อผู้จัดรายการถาม Bevin ว่าต้องการให้แบนเกมหรือไม่ Bevin บอกต้องกลับไปตั้งคำถามเรื่องคุณค่าของเกม ทำไมเราต้องมีวิดีโอเกมที่มีเนื้อหาส่งเสริมให้ฆ่าคน รวมทั้งเนื้อเพลง หนังด้วย ถามกลับไปยังผู้ผลิตสิ่งเหล่านี้ว่าคุณค่าของสิ่งเหล่านี้คืออะไรนอกเหนือจากสร้างความช็อก ตกใจ มากกว่าให้ความหวัง
ด้านประเด็นปืนที่เป็นที่วิจารณ์กันมาก Bevin บอกปืนไม่ได้เป็นปัญหามากขนาดนั้น (พูดคุยเรื่องปืนตั้งแต่ช่วงแรกของการสัมภาษณ์) เขาบอกว่าตอนที่เรายังเด็ก มีการอวดปืนกันในโรงเรียน แต่ปืนที่ผู้ต้องหาคดีกราดยิงล่าสุดใช้เป็นปืน AR-15 (เพิ่งซื้อได้อย่างถูกกฎหมายเมื่อปี 2017) ซึ่งต่างจากปืนช็อตกัน และปืนลูกซอง.22 Bevin ยังบอกด้วยว่าจำนวนปืนในประเทศไม่ได้เพิ่มขึ้นมาก
อย่างไรก็ตาม จากสถิติของ Congressional Research Service ในปี 2012 ระบุว่าจำนวนปืนต่อประชากรเพิ่มขึ้นเป็นสองเท่าจากปี 1968 ซึ่งเป็นปีที่ Bevin เพิ่งเกิด
ที่มา - Kotaku
Comments
คิดว่ามีแต่ในไทย 555555
ไดโนเสา USA
อยู่ที่สันดานคนครับ ผมเล่นเกมยิงกันก็ไม่เคยยิงใคร เคยยิงแต่สมัยเรียน รด.เท่านั้น
ขนาดหนังโป๊ดูบ่อยยังไม่เคยคิดข่มขืนคนเลย
ชอบเม้นนี้มากเลย
ว่าแต่ตอนเรียน รด.ได้ยิงคนด้วยเหรอครับ
ไม่ได้ยิงคนครับ สงสัยเขียนให้เข้าใจผิด
ยิงครับ กระสุนแห้ง ปังๆ ตะโกนยิงกันจนคอแห้ง
ปี 1-2 จะยิงแค่ Jeager ปี 3 ขึ้นไปจะได้ยิง HK33 ครับ
เปิดห้ามไก ปังๆ ปิดห้ามไก
ตอนกลางคืนก็สบายครับ มีปืนอยู่กับตัว กระสุนเต็มปอด จะกลัวอะไรกับแค่ "ยุง"
ปี 5 ยิงปืนจริงกระสุนจริงครับ ยิงอัดตีนเขา จริงๆปีสามก็มี แต่ปีหน้านี่ ปืนกลแบบตั้งยิงกับ ปืนพกสั้นครับ
ปกติเล่นเกมส์พวกนี้
มันจะรู้สึกได้ปลดปล่อย
พวกที่ก่อเหตุนี่ ปัญหาคือด้านจิตใจและสภาพแวดล้อมมากกว่านะ
ปืนไม่ใช่ปัญหาครับ และเกมก็ไม่ใช่ปัญหาด้วย มันอยู่ที่คนนนนนน ไอ้พวกกราดยิ่งต่อให้มันถือมีดทำครัวมันก็เอาไปใส่เสียบชาวบ้านได้อยู่ดี
ย้ำอีกครั้งมันอยู่ที่คน
แต่อย่างน้อยก็ควรมีการควบคุมอาวุธปืนนะครับ นี่ผู้ก่อเหตุอายุแค่ 19 กินเหล้ายังไม่ได้ด้วยซ้ำ แต่กลับซื้อปืน assault rifle HK AR-15 ได้ ถ้าใช้มืดหรือปืนพกอย่างน้อยมันกราดยิงไม่ได้ แต่อย่างว่าพวกมีอิทธิพลล็อบบี้ เงินเยอะ เดี๋ยวเรื่องก็เงียบหาย แล้วก็เกิดเหตุครั้งใหม่อีก
ถ้าให้ผมแก้กฎได้ จะบังคับว่าพลเรือนต้องอายุ ๒๐ ขึ้นไป และซื้อได้แค่ปืน handgun กระสุนไม่ใหญ่กว่า .45 และเช็คประวัติละเอียดๆ ถ้าจะพกปืนออกนอกบ้านต้องมีใบอนุญาต (กฎหมายแบบบ้านเรานี่แหละ บ้านเรากฎหมายปืนนี่ผมว่าเข้มระดับนึงเลย แถมปืนราคาแพงมาก เมืองนอกปืนถูกกว่ามือถือซะอีก)
ข่าวต่อไป...เหตุกราดแทงด้วยมีดทำครัวนับสิบศพ?
ผมว่า...ยังไงมีดก็อานุภาพน้อยกว่าปืนนะ
Knife attacker in Japan kills 19
สิบปีก่อนก็มีที่เอามีดไล่แทงที่อากิบะ ตายไม่ถึงสิบคนก็จริง แต่มันก็คือตายเยอะอะ
ต้นตอของปัญหามันอยู่ที่คนนั่นแหละ เปลี่ยนจากปืนเป็นมีดมันบรรเทาลงได้นิดเดียว
ผมว่ามันก็น่าจะต่างอย่างมีนัยสำคัญนั่นแหละ อานุภาพทำลายล้างของมันต่างกันเยอะ ระยะในการทำการก็ต่างกัน
ถ้ามือมีดไม่ถนัดเล่นกีฬาเผลอๆโดนแย่งมีดเจ็บตัวเอง ญึ่ปุ่น กับ ไทย ไม่มีปัญหากราดยิงเพราะปืนหาซื้อยาก
ก็ไม่เชิงหายากหรแกครับ แต่กราดยิงไม่ได้เพราะที่หาซื้อได้เป็นปืนพกสั้น เพราะมันซุกซ่อนง่าย พวกปืนกลที่กราดยิงนั่นมันอันใหญ่ตอนขนคงโดนจับแล้ว ยกเว้นคนบางกลุ่มที่ทำให้รถไม่โดนตรวจได้เพราะเกรงใจ
ผมเคยคิดนะว่า
ถ้ากราดยิงคนจริงๆ ไม่ใช่ในเกม มันจะรู้สึกดีเหมือนในเกมไหม
มีเลือดมีคนบาดเจ็บเราจะช็อคครับ ในภาพยนต์ เหมือนกันครับ เตะต่อยกันดูสนุกมาก แต่ชีวิตจริงลองมาเตะต่อยกันนี่มันไม่สนุกเลย
ลองดูพวกคลิปอุบัติเหตุ คลิป War Casualties แบบที่บันทึกมาจริงๆ เห็นเลือดเห็นเนื้อเห็นกระดูกดูครับ ถึงผมเล่น FPS มาเป็นสิบๆ ปี ดูพวกนี้ยังพะอืดพะอมเลย
เคยจินตนาการเล่นๆ เหมือนกันว่า ถ้าเกิดถูกปองร้ายแล้วเรามีอาวุธอยู่ในมือจะกล้าทำร้ายอีกฝ่ายแค่ไหน ยังรู้สึกไม่ค่อยแน่ใจ ถ้าไปยิงคนทั่วไปนี่ไม่ต้องคิดเลย
ลองดูหนังดูก่อนก็ได้ครับ
ฉากต่อยตี ยิงกัน ความสมจริงของเลือด ความสมจริงของแผล ในหนังมีการแบ่งเกรดนะครับ
พวกหนังตลาด จะทำไม่ค่อยฉากพวกนี้ไม่ค่อยสมจริงมาก
แต่พวกหนังเฉพาะทางเนี่ย หรือพวกหนังระดับชิงราลวัล บางเรื่องนี่อย่างกับดูฉากฆาตรกรรมจริงๆ ทั้งเลือดทั้งเครื่องใน หนังย้อนยุคยิงกันทีเนื้อหลุดเป็นก้อน ไม่ได้มีแค่รูกระสุนทะลุเสื้อผ้าแล้วมีเลือดไหลแบบหนังตลาด เพราะสมัยโบราณยังไม่มีเทคโนโลยีที่จะผลิตกระสุนขนาดเล็กๆได้
ดูมาหลายสิบเรื่องแล้ว
ทั้วที่ว่าโหด วิปริต
มันก็ยังเฉยๆ เพราะรู้ว่าเป็นภาพยนต์
แต่จะว่าไป คลิปอาหรับตัดคอที่เขาว่าจริงก็ไม่ค่อยรู้สึกอะไร
แต่สำหรับผม ถึงรู้ว่าเป็นภาพยนตร์ก็ยังมีความรู้สึกไม่โอเค แม้แต่ฉากที่รู้ว่าจะโดนยิง หรือรู้ว่าจะมีผีออกมาแม้จะทำใจไว้แล้วแต่มันก็ยังตกใจอยู่ดี ไม่ได้กลัวผีนะครับ แต่ตกใจเสียงตุ้งแช่
เห็นด้วยครับ มาจากวัฒนธรรมปืนเสรีเนี่ยแหละ แต่จะพูดอีกกี่ครั้งก็เงียบ เพราะเป็นธุรกิจหลักของเมกา และของนายทุนหลักที่สนับสนุนนักการเมือง
ปีหน้า...บริษัทเกมคงต้องเทงบให้เลือกตั้งบ้าง
...แล้วคนเล่นเกมก็จะมีนิสัยดีขึ้น
เคยคิดว่าปืนไม่ใช่ปัญหาทั้งหมด แต่ถ้าหาซื้อปืนยาก มันก็น่าจะป้องกันได้ระดับหนึ่ง คืออยากยิง แต่ไม่รู้จะเอาปืนจากไหน
แต่พอดูเมืองไทย ที่ไม่ได้เสรีแบบมะกัน ก็ยังเห็น road rage ที่ควักปืนขู่กันออกบ่อย
เลยมองกลับว่าการมีเสรีปืนแบบมะกัน อาจจะเพิ่มความสามารถในการป้องกันตัวเองก็ได้ จะไปหาเรื่องใครในไทยต้องคิดก่อนว่ามันมีปืนเปล่าวะ แต่ตอนนี้เหมือนคนมีปืนก็คือพวกที่ชอบหาเรื่องคนอื่น คนธรรมดาน่าจะมีน้อยที่พกปืน ก็เลยกลายเป็นผู้ถูกกระทำไปโดยปริยาย
เคยได้ยินคนแก่บอกว่า ของพวกนี้ มันจะพาปัญหามาให้เจ้าของครับ ในทางจิตวิทยาก็คือ พอมีปืนแล้วมันมั่นใจ พอมั่นใจก็เลยกร่าง
แล้วจากสถิติ คนในครอบครัวที่มีปืน มักเป็นเหยื่อซะเอง
อันนี้น่าสนใจ เพราะเห็นเป็นข่าวบ่อยมาก ถูกยิงด้วยปืนในบ้านตัวเอง
อย่างน้อยก็ไม่ใช่ปืนกล รัวตายเกลื่อน ล่ะนะครับ
เอาจริงๆ คงควบคุมได้แค่เรื่องระดับความรุงแรง เพราะต่อให้มือเปล่ากระโดดงับคอก็น่าจะเอาชีวิตเหยื่อได้ 1 ศพแล้ว
การปล่อยให้มีเสรีปืน ผมว่ามันไม่ได้มีส่วนหรือมีส่วนน้อยในการเพิ่มความยับยั้งชั่งใจนะครับ เหมือนอย่างที่บ้านเราที่พยายามควบคุมเรื่องแอลกอฮอล์อย่างเอาเป็นเอาตาย แต่สุดท้ายก็เหมือนแทบจะไม่มีผลอะไรในการช่วยให้เกิดการลดการบริโภค
ผมหมายถึงคนที่จะหาเรื่องคนอื่น ต้องหยุดคิดก่อนว่าจะโดนยิงสวนมั้ยน่ะ ถ้าปืนเป็นเรื่องปกติ
ไอเดียคือ จะอยู่เป็นเป้านิ่ง หรือจะติดอาวุธให้ตัวเอง เพื่อเพิ่มโอกาสป้องกันตัวและรอดตาย
คือถ้าเป็นสังคมที่ปืนหาไม่ได้แน่ๆ คนปกติก็ไม่ควรมีปืนหรอก แต่ดูไทยพวกนักเลงก็เห็นพกปืนกันไปทั่ว ไม่ว่าจะทำเองหรือเถื่อน แต่เราดันไม่มี
ผมว่าไม่น่าจะเป็นอย่างนั้น ในสถานการณ์จริงคือพอเดือดถึงขั้นก็พร้อมที่จะบวกอยู่เสมออยู่แล้ว ยิ่งตอนที่มีแอลกอฮอล์เข้ามามีส่วนร่วม นี่ยังไม่นับรวมถึงเหตุฆาตกรรมหรืออุบัติเหตุที่จะเกิดขึ้นในบ้านตามที่ด้านบนคุยกัน
ถ้าพูดถึงเรื่องการมีสติยั้งคิด ถ้าจะมีจริงๆ ก็ควรมีตั้งแต่การคุยกันด้วยเหตุผล ก่อนที่จะบานปลายถึงขั้นทะเลาะมีปากมีเสียงไปจนถึงตอนที่คิดว่าอีกฝ่ายมีปืนหรือไม่มีมากกว่านะครับ
อันนั้นยิ่งควรมีปืนเพื่อป้องกันตัวเลยหรือเปล่าครับ
อย่างเรื่องวิศวกรที่เป็นข่าว หรือเรื่องที่คนขับแท็กซี่ลงมาต่อยคนข้ามทางม้าลาย (ไม่แน่ใจว่าเป็นข่าวมั้ย เห็นบนเฟส) คือคนข้ามถนนไม่ได้เดือดอะไร ไม่ได้เมา แต่โดนแท็กซี่ลงมาต่อยเอาๆ แล้วก็ขับหนีไป? คือมันเดือดอยู่ฝ่ายเดียว
อีกตัวอย่างไกลๆหน่อยก็เรื่องตำรวจเมกาที่ยิงได้เลย (ดีหรือไม่ดีก็อีกเรื่อง) ถ้าโดน approach แบบน่าสงสัย
คนที่โดนเรียกก็จะต้องเปลี่ยนแนวทางการรับมือกับตำรวจ (เพราะกลัวโดนยิง) แทนที่จะเป็นคล้ายๆแบบไทยที่กุใหญ่ อะไรแบบนั้น
เรื่องอุบัติเหตุจากปืนในครัวเรือนอันนี้ก็เห็นด้วยครับ เป็นอีกด้านที่อัตราเสี่ยงเพิ่มแน่ๆ ก็ไม่รู้จะแก้ยังไงเหมือนกัน
อนาคตบริษัทเกมคงต้องจ่ายเงินให้ Lobbyist
ปืนเป็นอาวุธร้ายแรงครับ เทียบกับมีดนี่อานุภาพต่างกันมาก คนเราไร้สติได้ง่ายดาย แต่เกมก็มีผลเรื่องความเคยชินในการใช้กำลังตัดสินปัญหาด้วยนะ