Kik Messenger
เมื่อสัปดาห์ก่อน Kik Messenger ประกาศว่าแอปอาจให้บริการต่อไป จากแผนเดิมที่จะปิดตัวแอป เนื่องจากกำลังเจรจากับผู้สนใจซื้อกิจการรายหนึ่ง ล่าสุดบริษัทแม่ Kik Interactive ก็ได้ประกาศทางการแล้วว่า MediaLab บริษัทโฮลดิ้งเจ้าของแอปอย่าง Whisper และ Datpiff จะเป็นผู้ซื้อแอป Kik Messenger ไปดำเนินงานต่อ
โดย MediaLab ระบุว่าภายในไม่กี่เดือนข้างหน้า Kik Messenger จะมีการปรับปรุงใหญ่ให้แอปทำงานรวดเร็วและเสถียรขึ้น รวมทั้งจะเริ่มแสดงผลโฆษณาโดยที่ไม่รบกวนการใช้งาน
ส่วน Kik Interactive ก็จะไปโฟกัสที่การพัฒนาเงินคริปโต Kin เพียงอย่างเดียวตามที่ซีอีโอ Ted Livingston เคยประกาศก่อนหน้านี้
Kik Messenger แอปแชทที่บริษัทแม่ Kik Interactive ที่ซีอีโอเคยประกาศจะปิดให้บริการ เพื่อไปโฟกัสที่การพัฒนาเงินคริปโต Kin เพียงอย่างเดียว ล่าสุดได้อัพเดตในบัญชีทวิตเตอร์ว่า Kik จะยังคงให้บริการต่อไป โดยมีแผนงานที่จะทำให้แอปดีมากขึ้นด้วย โดยจะเผยแพร่รายละเอียดเร็ว ๆ นี้
เมื่อสัปดาห์ที่แล้วซีอีโอ Ted Livingston ก็ได้เผยแพร่ข้อมูลทางทวิตเตอร์ ว่า Kik อาจจะได้ผู้มาซื้อกิจการไปเพื่อสานต่อจากฐานผู้ใช้หลายล้านคน แต่สถานะของดีลยังเป็นการแสดงความสนใจจะซื้อ จึงยังไม่บรรลุข้อตกลงที่จะขาย Kik เพียงแต่ Livingston มองว่าก็น่าจะจบได้ดี
Ted Livingston ซีอีโอ Kik Interactive เจ้าของแอปแชท Kik Messenger ซึ่งเปิดตัวเงินคริปโต Kin เมื่อสองปีที่แล้ว ประกาศเตรียมปิดตัวแอปแชท Kik Messenger ซึ่งถือเป็นผลิตภัณฑ์แรกของบริษัท เพื่อไปโฟกัสที่เงินคริปโต Kin เพียงอย่างเดียว
Kik Interactive ผู้สร้างแพลตฟอร์มแชท Kik ได้ประกาศเตรียมเปิดตัวเงินสกุลใหม่เป็นประเภท crypto-currency ลักษณะเดียวกับ Bitcoin ในชื่อว่า Kin
Kin นี้จะถูกสร้างขึ้นด้วยระบบ Ethereum blockchain โดยจะเริ่มวางขายเงินสกุลดังกล่าวในปีนี้ ซึ่ง Ted Livingston ซีอีโอและผู้ก่อตั้ง Kik เผยกับ Reuters ว่า Kik จะถือเป็นแอพสื่อสังคมออนไลน์แรกที่ทำเงินของตัวเองขึ้นมาสำหรับการออกขายสู่สาธารณะ โดย 10% ของเงินนี้จะถูกขายเป็นสาธารณะให้นักลงทุนซึ่งเรียกว่า initial coin offering (ICO)
Kin จะถูกสร้างเพื่ออำนวยความสะดวกในการใช้งานภายในแพลตฟอร์ม Kik เป็นหลัก ซึ่งอาจมีฟีเจอร์ให้รางวัลเป็นเงินสกุล Kin ก็ได้ เพื่อเป็นการโปรโมตการใช้งาน และในอนาคตจะขยายออกสู่บริการดิจิทัลอื่น ๆ ด้วย
1 ปีที่ผ่านมาเป็นช่วงเวลาสำคัญของ 'แชทบ็อต' เทคโนโลยีที่คาดกันว่าจะมาแรง แต่ทุกอย่างกลับไม่เกิดขึ้นดังที่ฝันไว้ เว็บไซต์ Marketing Land วิเคราะห์ภาพรวมความล้มเหลวของแชทบ็อต โดยเฉพาะ Facebook Messenger
เดือนเมษายนปีที่แล้ว Facebook เปิดตัวแชทบ็อตใน Messenger มีเป้าหมายช่วยอำนวยความสะดวกให้ผู้ใช้ โดยเฉพาะแบรนด์สินค้าที่จะใช้แชทบ็อตในการให้บริการลูกค้า แต่แชทบ็อตไม่รุ่งอย่างที่คิด
Kik Messenger แอพแชตยอดนิยมอีกตัวในฝั่งสหรัฐ ประกาศผลการสำรวจข้อมูลที่เก็บผ่าน Attention Metric ที่ติดตามพฤติกรรมการใช้งานแอพพลิเคชันของผู้ใช้ โดยระบุว่า Kik จะถูกใช้งานเฉลี่ย 1 ชั่วโมงต่อวัน
ข้อมูลจาก metadata ที่ Kik รวบรวมมาพอสรุปได้ว่า ผู้ใช้กว่า 300 ล้านคนใช้เวลาแชทประมาณ 12.7 นาทีต่อครั้งและหยิบโทรศัพท์ขึ้นมาแชทเฉลี่ย 6 ครั้งต่อวัน โดยวัยรุ่นผู้หญิงเป็นกลุ่มที่ใช้งานเยอะกว่าวัยรุ่นผู้ชายอยู่ราว 35% โดยกลุ่ม Super Users ที่ใช้งานเฉลี่ยวันละ 2 ชั่วโมงครึ่งมีอยู่ราว 10% เท่านั้น
Joel Cumming หัวหน้าฝ่ายข้อมูลของ Kik ระบุว่าการสำรวจตรงนี้ จะช่วยให้กลุ่มนักโฆษณาเข้าใจพฤติกรรมผู้ใช้ Kik มากขึ้น รวมถึงทำให้บริษัทสามารถพัฒนาแพลตฟอร์มให้ตอบรับการใช้งานของผู้ใช้มากขึ้นด้วย
ช่วงนี้กระแส Chat Bot กำลังมาแรง เราเห็น WeChat ทำเรื่องนี้มาได้สักระยะ, Facebook เริ่มเปิดให้เรียกรถ Uber ผ่านแชท, Telegram ตามด้วย LINE ประกาศทำบ็อตปีนี้ และ Skype เพิ่งประกาศทำเมื่อปลายเดือนที่แล้ว
แต่ม้ามืดที่กลับเปิดระบบบ็อต รวมถึงร้านขายบ็อต (Bot Shop) ได้ก่อนใครคือ Kik Messenger แอพแชทอีกตัวที่ได้รับความนิยมในสหรัฐ
Kik อธิบายว่าคนดาวน์โหลดแอพใหม่น้อยลง จากสถิติของ comScore พบว่า 2 ใน 3 ของผู้ใช้สมาร์ทโฟนสหรัฐไม่ได้ดาวน์โหลดแอพใหม่เลยสักตัวในเดือนที่แล้ว แต่คนกลับใช้เวลาในแอพแชทมากขึ้น จึงพยายามสร้างระบบบ็อตที่ช่วยให้คนเข้าถึงบริการต่างๆ ผ่านการแชทแทนการใช้แอพ
Kik Messenger ผู้พัฒนาแอพแชตสัญชาติแคนาดา ประกาศรับเงินลงทุน 50 ล้านดอลลาร์จาก Tencent ยักษ์ออนไลน์จากประเทศจีน
ความน่าสนใจของดีลนี้อยู่ที่ Tencent เป็นเจ้าของ WeChat แอพแชตร่วมวงการเดียวกันด้วย ซึ่งเรื่องนี้ Ted Livingston ผู้ก่อตั้ง Kik อธิบายว่าโฟกัสหลักของ Tencent อยู่ในประเทศจีน ไม่ทับซ้อนกับ Kik ที่เน้นตลาดสหรัฐ แต่ในขณะเดียวกัน Tencent ทำธุรกิจแอพแชตโดยตรงเลยทำให้เข้าใจ Kik เป็นอย่างดี แถมนำหน้า Kik ไปไกลแล้วในเรื่องการเชื่อมต่อบริการต่างๆ เข้ากับการแชต
Livingston บอกว่าผู้ให้บริการแอพแชตที่มีวิสัยทัศน์นี้มีทั้งหมด 6 รายคือ Kik, Tencent, Line, Facebook, Snapchat, Telegram
Kik แอพแชทยอดนิยมอีกตัวหนึ่ง ประกาศความสำเร็จกับยอดผู้ใช้ 100 ล้านราย โดยฐานผู้ใช้ประมาณครึ่งหนึ่งอยู่ในสหรัฐอเมริกา (Kik เป็นบริษัทแคนาดา ตั้งอยู่เมืองเดียวกับ BlackBerry) ถือว่าเติบโตอย่างรวดเร็วจากยอดผู้ใช้ 30 ล้านรายเมื่อปีที่แล้ว
แนวทางของ Kik จะต่างไปจากแอพแชทแนว WhatsApp ที่โยงกับหมายเลขโทรศัพท์ และพยายามให้การส่งข้อความเชื่อมโยงกับเว็บให้มากที่สุด เราสามารถส่งลิงก์วิดีโอ ตัวเกม หรือ in-app purchase ผ่านตัวข้อความโดยไม่ต้องเข้า app store ของตัวแอพเอง ช่วยให้ผู้ใช้งานเข้าถึงฟีเจอร์ต่างๆ ได้รวดเร็วขึ้น