จากกรณีช่อง 7 ฟ้องคณะกรรมการ กสท. 3 ราย ที่ให้ช่อง 3 สามารถออกอากาศรายการคู่ขนานกับช่องทีวีดิจิตอลได้ และต่อมาคุณสุภิญญา หนึ่งในกรรมการ กสท. ก็ได้ชี้แจงรายละเอียดไว้ ล่าสุด อสมท. ซึ่งเป็นผู้ทำสัญญาสัมปทานกับช่อง 3 อนาล็อก (บริษัท บางกอกเอ็นเตอร์เทนเม้นท์ จำกัด) ก็ออกมาร้องเรียนด้วยอีกราย
โดยทางบริษัท อสมท จำกัด (มหาชน) ได้ทำหนังสือถึง พ.อ.นที ศุกลรัตน์ รองประธาน กสทช. เพื่อชี้แจงว่าทาง อสมท. ยังไม่ได้ทำหนังสืออนุญาตให้ช่อง 3 นำรายการในช่องอนาล็อกที่ถือเป็นทรัพย์สินในสัมปทานไปออกอากาศในระบบอื่น ซึ่งถือเป็นคนละนิติบุคคลและผิดเงื่อนไขของสัมปทาน
กลายเป็นข่าวใหญ่ในช่วงเช้าวันนี้แบบไม่ทันตั้งตัวจริงๆ สำหรับกรณีที่ ช่อง 7 ยื่นฟ้อง กสท. ต่อ ป.ป.ช. เรื่องการที่ช่อง 3 ซึ่งเป็นคนละนิติบุคคลออกอากาศคู่ขนานได้ ผ่านไปไม่กี่ชั่วโมงหลังจากนั้น คุณสุภิญญา กลางณรงค์ กรรมการ กสทช. ก็ได้ออกมาอธิบายถึงข้อเท็จจริงในเรื่องนี้ผ่านทวิตเตอร์ @supinya แทบจะทันที ซึ่งสามารถสรุปโดยรวมได้ดังต่อไปนี้
มหากาพย์ทีวีดิจิตอลที่เหมือนจะจบแล้ว ทั้งเรื่องการยอมออกอากาศคู่ขนานของช่อง 3 และการจัดเรียงช่องบนกล่องดาวเทียม อาจกำลังเริ่มตอนใหม่เมื่อบริษัท กรุงเทพโทรทัศน์และวิทยุ จำกัด หรือสถานีโทรทัศน์ช่อง 7 ได้ร้องต่อคณะกรรมการป้องกัน และปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ หรือ ป.ป.ช. กล่าวโทษคณะกรรมการ กสท. 3 ท่านคือ สุภิญญา กลางณรงค์, ธวัชชัย จิตรภาษ์นันท์ และพลโทพีระพงษ์ มานะกิจ ด้วยเหตุผลจงใจฝ่าฝืนกฎหมายและปฏิบัติหน้าที่โดยมิชอบ ซึ่งทาง ป.ป.ช. ได้มีมติรับคำร้อง
ล่าสุด คุณภัทราพร ตั๊นงาม ผู้สื่อข่าว Thai PBS รายงานจากสำนักงาน กสทช. ว่า นางสาวประภัสสร มหาวานิช เป็นตัวแทนของบริษัท บางกอก เอ็นเตอร์เทนเมนต์ จำกัด (หรือช่อง 3) ได้เข้ายื่นเอกสารซึ่งเป็นผังรายการที่จะออกอากาศคู่ขนานในระบบทีวีดิจิตอลให้กับ นางสาวมณีรัตน์ กำจรกิจการ ผู้อำนวยสำนักการอนุญาตประกอบกิจการวิทยุกระจายเสียงและวิทยุโทรทัศน์ของ กสทช. เป็นที่เรียบร้อยแล้ว
และแล้วก็สิ้นสุดกันเสียทีกับมหากาพย์ความขัดแย้งของ กสทช. และ ช่อง 3 ที่กินเวลาไปกว่าหนึ่งเดือน (อ่านย้อนหลังที่แท็ก TV3) ซึ่งหลังจากที่ศาลปกครองกลางช่วยไกล่เกลี่ยให้เมื่อวันที่ 8 ตุลาคมที่ผ่านมาและได้ข้อสรุปที่ว่า กสท. และ ช่อง 3 มีข้อตกลงร่วมกันที่จะยินยอมให้ช่อง 3 ออริจินัล ขึ้นไปออกอากาศที่ช่อง 3 เอชดี ช่อง 33 เมื่อวานนี้ผู้บริหารของช่อง 3 ทั้งช่อง 3 ออริจินัล และช่อง 3 ดิจิทัล ได้ยืนยันว่าพร้อมที่จะปฏิบัติตามข้อตกลงกับ กสท. เป็นที่เรียบร้อย
หลังจากที่ไม่มีความเคลื่อนไหวร่วมสัปดาห์ หลังช่อง 3 ประกาศไม่รับมติของ กสท. ที่ให้ช่อง 3 ส่งผังรายการมาใหม่เพื่อพิจารณาว่าสามารถออกอากาศคู่ขนานบนดิจิทัลทีวีได้หรือไม่ ล่าสุดในวันนี้ที่ศาลปกครองได้นัดทั้งสองฝ่ายมาให้ความคืบหน้าในกรณีนี้นั้น ต่างก็ได้ผลสรุปเป็นที่เรียบร้อยแล้วครับ
เมื่อวานนี้ กสทช. สุภิญญา กลางณรงค์ โพสต์ข้อความผ่านโซเชียล อธิบายประเด็นเรื่องช่อง 3 ถึงมติบอร์ด กสท. เรื่องการออกอากาศคู่ขนาน (ที่ช่อง 3 บอกว่าไม่แก้ปัญหา) หลังจากได้หารือกับตัวแทนช่อง 3 ช่วงเย็นเมื่อวานนี้
โพสต์ต้นฉบับค่อนข้างยาว ฉบับเต็มอ่านได้ท้ายข่าว ส่วนประเด็นแบบสรุปมีดังนี้
เมื่อช่วงบ่าย บอร์ด กสท. ลงมติ ช่อง 3 ออกอากาศคู่ขนานไม่ผิดกฎหมาย โดยให้เสนอผังรายการมาพิจารณา แต่ล่าสุด นายสุรินทร์ กฤตยาพงศ์พันธ์ุ รองกรรมการผู้จัดการ บริษัท บางกอกเอ็นเตอร์เทนเมนต์ จำกัด ได้เปิดเผยกับทางไทยรัฐว่า บริษัทคงจะทำตามมติของ บอร์ด กสท. ที่ออกมาไม่ได้ เพราะไม่ได้ตอบคำถามที่ช่อง 3 ถามอย่างชัดเจน แต่อย่างไรก็ตาม ช่อง 3 ยังคงยินดีออกคู่ขนาน ถ้า กสทช. สามารถให้คำตอบได้ชัดเจนกว่านี้
ส่วนกรณีที่ พันเอกนที เสนอแก้ไขมาตราที่ 9 ใน พ.ร.บ.กิจการกระจายเสียงและกิจการโทรทัศน์นั้น ทางช่องคงต้องขอดูรายละเอียดข้อกำหนดใหม่ก่อน ถึงจะให้คำตอบได้แน่ชัดกว่านี้
วันนี้ บอร์ด กสท. มีมติว่าการที่ บริษัท บีอีซี-มัลติมีเดีย จำกัด (ช่อง 3 ดิจิตอล) อยากนำรายการของ บริษัท บางกอกเอ็นเตอร์เทนเมนต์ จำกัด (ช่อง 3 ดั้งเดิม) มาออกอากาศ เป็นเรื่องที่สามารถทำได้ และไม่ถือว่าบริษัท บีอีซี-มัลติมีเดีย จำกัด ไม่ได้ประกอบกิจการด้วยตัวเอง
กสท. จึงมอบหมายให้สำนักงาน กสทช. แจ้งบีอีซี-มัลติมีเดีย ให้ยื่นผังรายการที่จะออกอากาศคู่ขนานมาให้คณะกรรมการพิจารณาอีกครั้ง โดยมีเงื่อนไขว่าผังรายการจะต้องปฏิบัติตามเงื่อนไขใบอนุญาตประกอบการทีวีดิจิตอลด้วย
มติกสท. แจ้งบีอีซี – มัลติมีเดีย ยื่นผังรายการช่อง ๓ ได้ ตามเงื่อนไขใบอนุญาต
มหากาพย์ ช่อง 3 - กสทช. กำลังจะได้รับบทสรุปในช่วงเช้าของวันนี้ แต่แล้วก็มีเหตุการณ์ไม่คาดฝันเกิดขึ้น เมื่อตัวแทนฝ่ายกฎหมายของช่อง 7 หรือ บริษัท กรุงเทพโทรทัศน์และวิทยุ จำกัด ได้เข้ายื่นหนังสือขอความเป็นธรรมกับสำนักงาน กสทช. เมื่อวันศุกร์ที่ผ่านมา โดยขอให้ กสทช. แจ้งแผนการดำเนินการที่ชัดเจนที่สุด ถ้าเกิดว่าพ้นกำหนดของสำนักงาน กสท. แล้ว ช่อง 3 ยังขัดขืนและไม่ยอมออกอากาศคู่ขนานกันบนดิจิทัลทีวีเหมือนกับที่ช่อง 7 ทำ
วันนี้ตัวแทนของช่อง 3 ยื่นคำร้องกับศาลปกครอง ให้ทุเลาคำสั่งการบังคับคดีเดิม (ที่ช่อง 3 ฟ้องให้ยกเลิกมติ กสท. แต่ศาลปกครองไม่สั่งคุ้มครอง) ซึ่งทั้งฝ่ายของ กสทช. และช่อง 3 มีความเห็นร่วมกันว่าขอให้ศาลทุเลาการบังคับคดีไปอีก 15 วัน (นับจนถึงวันที่ 11 ตุลาคม 57 เวลา 16.30 น.) ซึ่งศาลมีคำสั่งทุเลาตามที่ขอ
ผลจากคำสั่งศาลครั้งนี้ทำให้ช่อง 3 จะยังไม่จอดำในระบบเคเบิล/ดาวเทียมไปจนถึงวันที่ 11 ตุลาคม และช่วยยืดเวลาให้ช่อง 3 สามารถเจรจาเรื่องการออกอากาศคู่ขนานกับ กสทช. ได้นานขึ้นอีก 15 วัน ซึ่งช่อง 3 จะต้องรีบเสนอแผนเข้ามาให้ กสทช. พิจารณาต่อไป
เมื่อวานนี้ นายฉัตรชัย เทียมทอง ผู้อำนวยการฝ่ายการเงิน บริษัท บางกอกเอ็นเตอร์เทนเมนท์ จำกัด ได้เข้ายื่นหนังสือสอบถามตรงต่อ พันเอกนที ศุกลรัตน์ ประธานคณะกรรมการ กสท. โดยมีหัวข้อให้พิจารณาสองหัวข้อ คือขอให้พิจารณาตัวข้อกฎหมายของ กสทช. ว่าช่อง 3 สามารถทำ Simulcast ขึ้นดิจิทัลทีวีได้หรือไม่ เนื่องจากสถานีเป็นคนละนิติบุคคล และขอให้ กสท. ทบทวนมติการยุติการออกอากาศของช่อง 3 ในวันที่ 30 กันยายนนี้
หลังจากที่เมื่อวันจันทร์ที่ผ่านมา (15 กันยายน) คณะกรรมการ กสท. มีคำสั่งให้ช่อง 3 แต่งตั้งบุคคลที่มีอำนาจเข้าร่วมหารือกับคณะกรรมการเมื่อวานนี้ (16 กันยายน) อย่างไรก็ดีการประชุมนัดนอกรอบเมื่อวานนี้ก็ยังไม่ได้ข้อสรุปและแนวทางที่แน่ชัด จนทำให้การประชุมคณะกรรมการ กสทช. ในวันนี้ ไม่สามารถยกประเด็นนี้ขึ้นมาหารือต่อได้
ทั้งนี้คุณสุภิญญา กลางณรงค์ กรรมการ กสท. กล่าวเพิ่มเติมด้วยความเห็นส่วนตัวว่า เบื้องต้นข้อเสนอของช่อง 3 ออริจินัล คือทำ Simulcast ขึ้นดิจิทัลทีวีช่อง 33 (ช่อง 3 เอชดี) แต่กลับกัน ช่อง 3 เองก็ได้เสนอเงื่อนไขการเยียวยามากจนเกินไป ซึ่งทั้งนี้ คณะกรรมการ กสท. ยังไม่ได้นำเงื่อนไขเยียวยานี้มาพิจารณาหาข้อสรุปแต่อย่างใด
หลังจากที่เมื่อคืนมีข่าวว่า กสท. จะนำข้อเสนอในการทำ Simulcast ของช่อง 3 มาพิจารณาในที่ประชุมวันนี้ ซึ่งหลังการประชุม ที่ประชุมคณะกรรมการ กสท. ได้ลงมติเป็นเอกฉันท์ 5 เสียง ให้ช่อง 3 สามารถทำ Simulcast หรือการออกอากาศคู่ขนานขึ้นดิจิทัลทีวีได้ แต่ช่อง 3 จะต้องแต่งตั้งผู้มีอำนาจมาเข้าร่วมประชุมเพื่อปรึกษาและชี้แจงข้อกำหนดในวันพรุ่งนี้
หลังเป็นเรื่องเป็นราวบนหน้าสื่อกันมาพักใหญ่ สำหรับกรณีช่อง 3-กสทช. (อ่านเหตุการณ์ย้อนหลังที่แท็ก TV3) ล่าสุดคุณสุภิญญา กลางณรงค์ กรรมการ กสท. เปิดเผยว่า ในที่ประชุมของ กสท. ในวันพรุ่งนี้ ทางคณะกรรมการจะหยิบข้อเสนอในการออกอากาศแบบ Simulcast บนดิจิทัลทีวีของช่อง 3 ขึ้นมาพิจารณา หลังจากที่ คุณประวิทย์ มาลีนนท์ ผู้บริหาร บริษัท บางกอกเอ็นเตอร์เทนเมนท์ จำกัด ได้บอกกับคุณสุภิญญาภายในงานเมื่อวันก่อนว่าทางสถานียินดีที่จะออกอากาศแบบคู่ขนานแล้ว
ต่อจากข่าว กสท.ส่งจดหมายถึงผู้ให้บริการเคเบิล ดาวเทียม หยุดออกอากาศช่อง 3 ภายใน 15 วัน เมื่อวันจันทร์ วันนี้ พล.ท.พีระพงษ์ มานะกิจ หนึ่งในกรรมการ กสท. ออกมาแถลงผลการหารือกับผู้ประกอบการทีวีบอกรับสมาชิก (ดาวเทียม-เคเบิ้ล) ได้ข้อสรุปว่าผู้ประกอบการทั้งหมดยินดีให้ความร่วมมือ โดยลำดับต่อไป กสท. จะส่งคำสั่งไปยังผู้ประกอบการทุกราย และคำสั่งจะมีผลหลังจากนั้นอีก 15 วัน - ช่อง 7, Nation TV
หลังจากที่เป็นเรื่องราวกันมาหลายวันพอสมควร ล่าสุดมีข่าวว่าผู้บริหารของสถานีวิทยุโทรทัศน์ไทยทีวีสีช่อง 3 ได้ยื่นหนังสือข้อเสนอต่อคณะกรรมการ กสท. ในกรณีที่คณะกรรมการต้องการให้ ช่อง 3 ออกอากาศ Simulcast หรือการออกอากาศคู่ขนานบนระบบดิจิทัลทีวี
ซึ่งข้อเสนอที่ทางสถานีได้ยื่นมาก็คือ สำนักงาน กสทช. จะต้องดำเนินการเจรจาเรื่องสัมปทานกับ บมจ. อสมท ที่เป็นคู่สัมปทานให้ โดยสถานีจะยอมรับทุกข้อเสนอ ไม่ว่าจะเป็นการลดระยะเวลาสัมปทาน หรือดำเนินการในเรื่องอื่นๆ ตามที่สำนักงาน กสทช. เห็นสมควร แต่ทั้งนี้ผลการเจรจาจะต้องไม่กระทบต่อค่าใช้จ่ายในการดำเนินธุรกิจของบริษัทที่ปัจจุบันมีค่าใช้จ่ายประมาณ 200-250 ล้านบาทต่อปีด้วย
จากการประชุมครั้งก่อนได้ข้อสรุปว่ากสท. เตรียมการส่งจดหมายแจ้งผู้ประกอบการโครงข่ายเคเบิล และดาวเทียมไปเมื่อวันที่ 3 กันยายน ในการประชุมครั้งนี้บอร์ดกสท. ได้ลงเสียงหาข้อสรุปของประเด็นนี้อย่างเป็นทางการแล้ว
โดยผลการลงมติของบอร์ดกสท. ว่าด้วยการส่งจดหมายแจ้งหยุดออกอากาศช่อง 3 ผ่านโครงข่ายเคเบิล และดาวเทียม ออกมาที่ 3-2 เสียง โดยมีเวลาให้บริการนำช่อง 3 ออกจากระบบเป็นเวลา 15 วัน
ที่มา - ทวิตเตอร์ของไทยรัฐ
สำหรับคนที่สนใจประเด็นปัญหาระหว่าง กสทช. กับ ช่อง 3 ทางกลุ่ม NBTC Rights ซึ่งเป็นทีมงานของ กสทช. ด้านคุ้มครองสิทธิเสรีภาพและส่งเสริมผู้บริโภคทั้งสองท่าน (คุณสุภิญญา กลางณรงค์ และ นพ.ประวิทย์ ลี่สถาพรวงศา) ได้จัดทำแผนภาพ infographic แสดงลำดับเวลาของเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นอย่างละเอียด
เริ่มตั้งแต่การออกประกาศ Must Carry ในปี 2555 และการออกมติ ประกาศ รวมถึงคดีฟ้องร้องต่างๆ ในปี 2557 ครับ (เนื้อหาจะคล้ายกับบทความ อธิบายปัญหา ช่อง 3 กับระบบดิจิตอล แต่ละเอียดกว่าในแง่ข้อมูลที่เป็นทางการ)
รูปขนาดใหญ่กดดูเพิ่มเองตามลิงก์ของรูป
ต่อเนื่องจากที่คสช. ออกมาประกาศว่าจะไม่ยุ่งกับประเด็นเรื่องช่อง 3 และบอกให้กสทช. จัดการเรื่องนี้เอง วันนี้บอร์ดกสท. ออกมาเตรียมการส่งหนังสือแจ้งผู้ประกอบการโครงค่ายเคเบิล และดาวเทียมให้ยกเลิกการออกอากาศช่อง 3 ในระบบอนาล็อกแล้ว หลังจากการประชุมหารือครั้งล่าสุด โดยคาดว่าจะมีผลหลังจากการแจ้งเตือนประมาณ 15 วันด้วยกัน
ทั้งนี้ ในการประชุมหารือครั้งล่าสุด ไม่ได้มีผู้บริหารของช่อง 3 มาเข้าร่วม ทำให้อาจยังไม่ได้ข้อสรุปที่ชัดเจน เนื่องจากบุคคลที่เข้าร่วมเป็นทนาย จึงไม่มีอำนาจในการตัดสินใจแต่อย่างใด
จากประเด็นเรื่องช่อง 3 กับทีวีดิจิตอล เมื่อวานนี้ (2 กันยายน) บอร์ด กสท. มีมติให้สำนักงาน กสทช. ทำหนังสือหารือไปยังคณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.) ถึงแนวทางการปฏิบัติตามประกาศ คสช. ฉบับที่ 27/2557 ว่าต้องทำอย่างไร และเชิญตัวแทนช่อง 3 พร้อมช่องดิจิตอลอื่นๆ ร่วมหารือในบ่ายวันนี้ (3 กันยายน) - กสทช.
วันนี้ (3 กันยายน) นายสรยุทธ สุทัศนะจินดา ผู้ประกาศข่าวของช่อง 3 จากรายการเรื่องเล่าเช้านี้ ได้อธิบายปัญหาเรื่องทีวีดิจิตอล และอ่านคำชี้แจงของทางช่อง 3 โดยมีประเด็นสำคัญดังนี้
จากข่าว กสท. ลงมติให้ "สถานีวิทยุโทรทัศน์ไทยทีวีสีช่อง 3" (ช่อง 3 Analog) สิ้นสุดการทำหน้าที่เป็นโทรทัศน์ทั่วไประดับชาติ ผมเชื่อว่ามีคนสับสนเรื่องนี้ไม่น้อยเพราะมันซับซ้อนมาก บทความนี้จะพยายามอธิบายปัญหาที่เกิดขึ้นระหว่าง ช่อง 3 กับทีวีดิจิตอลครับ
ก่อนอื่นเลยต้องแยกแยะกันสักนิดว่าคำว่า "ช่อง 3" ในปัจจุบันมี 4 ความหมายที่ต้องเจาะจงว่าหมายถึงอะไรกันแน่
เป็นเรื่องราวมายาวนานพอสมควร สำหรับกรณีที่สถานีวิทยุโทรทัศน์ไทยทีวีสีช่อง 3 หรือช่อง 3 Analog ที่บริหารสถานีโดย บริษัท บางกอกเอ็นเตอร์เทนเมนท์ จำกัด (มหาชน) ได้ยื่นฟ้องร้อง กสทช. ต่อศาลปกครอง และยื่นหนังสือตรงถึง คณะรักษาความสงบแห่งชาติ เพื่อขอความคุ้มครองให้ช่อง 3 Analog สามารถออกอากาศผ่านระบบจานดาวเทียม/เคเบิลทีวี/ไอพีทีวีได้ตามปกติหลังจากที่ผ่านการคุ้มครองขั้นต้น 100 วัน (เริ่มนับตั้งแต่ 25 พฤษภาคม ซึ่งจะหมดลงในคืนวันนี้พอดี) ตามกฎการให้บริการโทรทัศน์ดิจิทัลเป็นการทั่วไป หรือ Must Carry
ต่อเนื่องจากการเปิดทดลองออกอากาศดิจิตอลทีวีเมื่อวานนี้ มาในวันนี้บริษัท บีอีซี มัลติมีเดีย จำกัด ได้ประกาศเปิดตัวช่อง 3 รูปแบบใหม่ นั่นก็คือ ช่อง 3 SD ซึ่งเป็นหนึ่งในสามช่องที่บริษัทสามารถประมูลมาได้ครับ