คาดว่าคนแถวๆ นี้น่าจะใช้ Gmail กันแทบทุกคนนะครับ ตอนนี้ในสหรัฐ ยอดผู้ใช้งาน Gmail ต่อวัน (คิดเป็น UIP รวมต่อเดือน) ขึ้นมาแตะหลัก 37 ล้านแล้ว ซึ่งทำให้ Gmail เลื่อนขึ้นมาเป็นผู้ให้บริการอีเมลอันดับสามของสหรัฐ แซงหน้า AOL Mail ซึ่งมีผู้ใช้ 36.4 ล้าน UIP ต่อเดือน
ตัวเลขนี้เป็นตัวเลขประมาณการณ์โดย comScore โดย Gmail มีจำนวนผู้ใช้เติบโตต่อเนื่อง ในขณะที่ AOL Mail มียอดผู้ใช้ลดลง
ผู้ให้บริการอีเมลอันดับสองในสหรัฐคือ Hotmail ที่ 47 ล้าน ส่วน Yahoo! Mail ครองแชมป์แบบทิ้งห่าง มีผู้ใช้ถึง 106 ล้าน UIP ต่อเดือน และยังเติบโตด้วยอัตราเพิ่มขึ้น 16% เมื่อเทียบกับต้นปี 2009
ช่วงนี้เป็นช่วงแถลงผลประกอบการประจำปี ข่าวปลดคนงานรับข่าวขาดทุน-กำไรลดเลยออกมาค่อนข้างเยอะ
AOL ผู้ให้บริการอินเทอร์เน็ตและเว็บพอร์ทัลรายใหญ่ของอเมริกา ซึ่งกิจการย่ำแย่มานาน ประกาศปลดพนักงาน 10% หรือ 700 คน ด้วยเหตุผลเรื่องวิกฤตเศรษฐกิจ, รายได้จากค่าโฆษณาลดลง และการปรับโครงสร้างองค์กร
AOL เคยยิ่งใหญ่ขนาดซื้อกิจการ Time Warner เจ้าของสื่อขนาดยักษ์ และถูกคาดหมายว่าจะกลายมาเป็นคู่แข่งสำคัญของไมโครซอฟท์ แต่ภายหลังกิจการย่ำแย่เสียเอง จนต้องเปลี่ยนชื่อบริษัทจาก AOL Time Warner มาเป็น Time Warner เฉยๆ และมีข่าวว่าจะขาย AOL ออกไป ซึ่งผู้ซื้อที่มีข่าวก็คือยาฮูนั่นเอง
ดูท่าบริการทางด้านสื่อของ AOL หลายอย่างจะเป็นไปอย่างไม่ราบรื่นนัก ทาง AOL จึงเตรียมปิดบริการเบื้องต้น 3 อย่างคือ AOL Pictures, BlueString และ XDrive ในวันที่ 31 ธันวาคมที่จะถึงนี้ โดยเมื่อเลยกำหนดดังกล่าว AOL จะทำการลบเอกสารทั้งหมด
ผู้ที่ใช้บริการดังกล่าวอยู่สามารถสั่งซื้อ DVD ที่บรรจุเอกสารของตนเองภายในเวลาที่เหลือนี้ นอกจากนี้ผู้ใช้บริการ AOL Pictures สามารถย้ายรูปของตัวเองไปยัง PhotoWorks (ของ American Greetings) ได้ด้วย
Yahoo กับ Time Warner กำลังเตรียมปิดดีลการซื้อขายกิจการ โดย Yahoo จะควบรวมกับส่วนธุรกิจ Internet ของ AOL ซึ่งเป็นส่วนหนึ่งของบริษัท Time Warner เพื่อคานกระแสการเข้าซื้อของ Microsoft ที่มีเส้นตายในอีก 3 อาทิตย์ข้างหน้า
แหล่งข่าวที่เชื่อถือได้กล่าวว่า Yahoo จะได้รับเงินสดเพื่อการลงทุนจาก Time Warner เพื่อเป็นข้อแลกเปลี่ยนกับซื้อหุ้นส่วนจำนวน 20% ทั้งนี้ การเจรจานี้ไม่รวมถึงธุรกิจในส่วนของ Dial-up ที่กำลังอยู่ในช่วงขาลงซึ่งมีมูลค่าประมาณ 1 หมื่นล้านดอลลาร์สหรัฐ
แหล่งข่าวยังกล่าวอีกว่า การเจรจากับ Time Warner และ AOL ครั้งนี้ ถือเป็นส่วนหนึ่งของแผนกลยุทธ์ของ Yahoo ที่ต้องการ outsource ธุรกิจส่วนการโฆษณาในการค้นหาข้อมูลไปยัง Google
หลังจากการควบกิจการสะท้านโลกระหว่าง AOL กับ Time Warner ในปี 2000 และประสบความล้มเหลวจนต้องปรับโครงสร้างองค์กรใหม่กันหลายรอบ รวมถึงเอาชื่อ AOL ออกจากชื่อบริษัทในปี 2003 (เหลือแค่ Time Warner) ล่าสุดทางซีอีโอของ Time Warner ได้ออกมาเผยแผน "แยกส่วน AOL แล้ว"
แผนการที่ว่าคือแตก AOL เป็นสองบริษัท โดยบริษัทแรกคือกิจการอินเทอร์เน็ตแบบ dial-up ซึ่งเป็นรากเหง้าของ AOL มาตั้งแต่แรก อีกบริษัทคือพอร์ทัล AOL.com ซึ่งมีส่วนของโฆษณาออนไลน์รวมอยู่ด้วย ทาง Time Warner เองให้สัญญาณว่าพร้อมขายบริษัทใดบริษัทหนึ่งหรือไม่ก็ทั้งคู่
ถ้าใครยังจำกันได้ อดีตเบราว์เซอร์เจ้าตลาดอย่าง Netscape ซึ่งถูก AOL ซื้อไป ได้ถูกยุบไปหลัง Netscape 7.0 (ซึ่งเป็นเวอร์ชันแปลงร่างของ Mozilla Suite 1.0) ก่อนที่ AOL จะฟื้นแบรนด์ Netscape มาอีกครั้งในเวอร์ชัน 8.0 โดยจ้างทีมพัฒนาภายนอก ซึ่งเวอร์ชันล่าสุดคือ 9.0 ที่เพิ่งออกไปในปีนี้
แต่ล่าสุดทาง AOL ได้ประกาศหยุดพัฒนาเว็บเบราว์เซอร์ใต้ยี่ห้อ Netscape อีกครั้งแล้ว โดยระยะเวลาสนับสนุน Netscape 9.0 จะสิ้นสุดลงในวันที่ 1 กุมภาพันธ์ 2008 นี้ ส่วนเว็บพอร์ทัล Netscape.com และบริการอื่นๆ จะยังให้บริการต่อไป
ทีมงาน Netscape ได้ประกาศใน Netscape Blog ว่าเบราว์เซอร์ Netscape เวอร์ชัน 9 ที่อยู่ระหว่างการพัฒนานั้น จะนำชื่อ Navigator กลับมาใช้ใหม่ ทำให้มีชื่อเต็มๆ ว่า Netscape Navigator 9
ชื่อ Netscape Navigator ใช้มาจนถึงเวอร์ชัน 3.0 ก่อนจะรวมโปรแกรมอื่นๆ เข้ามาในชุด และเปลี่ยนแบรนด์เป็น Netscape Communicator พอหลังโดน AOL ซื้อ ตั้งแต่เวอร์ชัน 6 เป็นต้นมา ได้ตัดสร้อยทิ้งเหลือแต่ Netscape อย่างเดียว การเปลี่ยนชื่อครั้งนี้เพื่อลดความสับสนระหว่างเบราว์เซอร์ กับธุรกิจอื่นๆ ของ Netscape อย่างเว็บ Netscape.com หรือบริการอินเทอร์เน็ตราคาถูก
ไม่รู้เพราะีข่าวลือตั้งแต่ปีกลายว่า AOL อาจรวมกับ Yahoo! รึเปล่า จึงทำให้หน้าเว็บของ AOL ตัวล่าสุด เหมือนกับของ Yahoo! ที่พึ่งออกแบบใหม่เมื่อปีก่อนอย่างกับถอดกันมา (รูป) จน ผู้ใช้ AOL บางคนเรียกหน้าตาใหม่นี้ว่า "the Yahoo Portal" แทนชื่ออย่างเป็นทางการคือ AOL 3.0
นี่ไม่ใช่ครั้งแรกที่ยักษ์ใหญ่ในวงการได้รับ "แรงบันดาลใจ"(ลอก)จากคู่แข่ง กูเกิลเองก็เคย ในอนาคตเราคงได้เห็นส่วนติดต่อผู้ใช้ที่เป็นมาตราฐาน เหมือนร้านขายคอมในพันทิพย์ ชัวร์
ช่วงนี้มีข่าวลือว่า AOL อาจถูกรวมกับ Yahoo! ในช่วงปีหน้า เพราะบริษัทแม่ Time Warner กำลังคิดจะขาย AOL อยู่แล้วด้วย ข่าวลือนี้มันแพร่สะพัดมากเนื่องจากนิตยสาร Fortune เขียนเกี่ยวกับเรื่องนี้ไว้
แต่ก็มีข่าวอีกกระแสว่า ทั้ง AOL และ Yahoo! จะถูกอย่างไมโครซอฟต์ซื้อไปด้วย
ที่มา - ArsTechnica via Neowin.Net
สงสัยว่าผู้ให้บริการอินเทอร์เน็ตอย่าง AOL จะรำคาญเหล่าเวิร์มที่วิ่งไปมาเต็มอินเทอร์เน็ต เลยลงทุนออกโปรแกรม Active Virus Shield มาให้เล่นกันฟรีๆ อีกเจ้า
ที่น่าสนใจคือเจ้า Active Virus Shield นี้เป็นการพัฒนาร่วมกับทาง Kaspersky Lab หนึ่งในผู้ผลิตซอฟต์แวร์แอนตี้ไวรัสที่ได้ชื่อว่ามีคุณภาพสูงสุดรายหนึ่งในตลาดตอนนี้ ทำให้โปรแกรมตัวนี้น่าสนใจขึ้นมาเป็นเท่าตัว
งานนี้ผมยังสงสัยว่าทาง AOL จะทำเอาหน้ากันอย่างเดียวเลยหรือ เพราะไม่จำเป็นต้องเป็นสมาชิก AOL ก็สามารถใช้งานได้
ตอนที่ AOL ซื้อกิจการ Netscape ไป AOL มีมติว่าทรัพย์สินที่มีค่าที่สุดของ Netscape คือเว็บพอร์ทัล Netscape.com ไม่ใช่เว็บเบราว์เซอร์ Mozilla จึงโดนปล่อยวัดไปตั้ง Mozilla Foundation เองในที่สุด
พอมายุค social network รุ่งเรือง AOL จึงปรับปรุง Netscape.com ตามกระแสตลาด ไม่เชื่อลองดูได้ ยังกะลอก Digg.com มา เรื่องนี้เป็นผลงานของ Weblogs, Inc. ซึ่ง AOL ซื้อกิจการมาเมื่อปีก่อน นอกจาก Netscape.com จะมีระบบโหวตโดยผู้ใช้เหมือนกับ Digg แล้ว ยังมีแผนจะให้ผู้ใช้ส่งวิดีโอเข้ามา แบบเดียวกับ YouTube อีกด้วย
สองผู้ให้บริการอีเมลรายใหญ่เตรียมตัวเปิดบริการเก็บเงินค่าส่งอีเมลเข้ามาหาสมาชิก
โดยปกติแล้ว สำหรับการส่งอีเมลหาคนที่ใช้อีเมลของ AOL หรือยาฮู อีเมลนั้นจะต้องผ่านระบบกรองจดหมายขยะก่อนจะถึงมือผู้รับ แต่บริการนี้เสนอให้ผู้ส่งจ่ายเงิน 0.15 - 1 เซนต์ ต่ออีเมลหนึ่งฉบับ เพื่อเป็นค่าส่งอีเมลหาผู้ใช้โดยตรง ไม่ต้องผ่านระบบกรองจดหมายขยะ และได้เครื่องหมายรับรองว่าเป็น Certified Email
สำหรับอีเมลที่ส่งหาสมาชิกของ AOL หรือยาฮูโดยไม่ได้ใช้บริการนี้ จะต้องผ่านเข้าระบบกรองจดหมายขยะตามปกติ
หลังจาก HP ใส่ Netscape, Dell (UK) ใส่ Firefox, Sony เลยเตรียมใส่ AOL Explorer เป็นเบราว์เซอร์หลักแทน IE บน VAIO ทั้งแบบ เดสก์ท็อป และโน้ตบุ๊ก
โดย AOL Explorer นั้นถูกสร้างขึ้นมาจาก IE อยู่ดีเพียงแต่เพิ่มเรื่อง Tab, RSS, ป้องกันหน้าต่าง pop-up และรองรับการติดตั้งซอฟต์แวร์ extension ในไฟร์ฟ็อกซ์ยังไงอย่างงั้น หน้าตาคล้ายๆ MSN Explorer (เบราว์เซอร์ที่ไม่มีใครเคยใช้) และเหมือนยังไม่หนำใจ Sony เลยจะใส่ Netscape 8 เข้าไปด้วย กะให้ได้เลือกใช้กันอย่างเต็มที่
จริงๆ ข่าวนี้ก็หลายวันแล้วเหมือนกัน
ต้องเท้าความยาวมากว่า AOL หรืออเมริกันออนไลน์เป็น ISP รายใหญ่ของอเมริกา ตั้งแต่สมัยที่ยังไม่มีเว็บนู่น (คือล็อกอินเข้าไปใช้เครือข่ายของ AOL) ประมาณปี 98-99 ช่วงเว็บบูมๆ AOL ถือเป็นอันตรายอันดับหนึ่งของไมโครซอฟท์ สตีฟ เคส ซีอีโอตอนนั้นลงหนังสือเป็นว่าเล่น ยิ่งมีอยู่ช่วงนึง AOL รวมกิจการกับ Time Warner ด้วยมูลค่า 106 พันล้านเหรียญ (ตีเป็นเงินไทยประมาณ 4 ล้านล้านบาทฮับ) เป็นช่วงที่รุ่งเรืองที่สุดของ AOL ก่อนฟองสบู่ดอทคอมแตก และเคสต้องลาออกไปในปี 2003 หลังจากนั้น AOL อยู่ในช่วงขาลงมาตลอด
อเมริกันออนไลน์เลิกให้บริการยูสเน็ตกับลูกค้าของตนแล้ว หลังงจากที่มีลูกค้าไม่ถึงพันคนที่ใช้บริการดังกล่าว ขณะที่ AOL มีลูกค้าถึง 23 ล้านคน
ยูสเน็ตเป็นบริการถกประเด็นแบบแรกๆ ในอินเทอร์เน็ต แต่การเข้ามาของบริการที่สะดวกกว่าเช่น เว็บบอร์ด หรือบริการ IM ทั้งหลาย ก็ทำให้ยูสเน็ตไม่ได้รับความนิยมอีกต่อไป การที่ AOL เลิกให้บริการนี้ก็เป็นอีกจุดหนึ่งที่เทคโนโลยีบางอย่างถูกละทิ้งไปตามอายุขัย
อดีตยักษ์ที่คาดว่าจะมาแทนที่ไมโครซอพท์ แต่แป๊กไปเองในช่วงหลังๆ (จนซีอีโออนาคตไกลอย่างสตีฟ เคส ต้องลาออกไป) ตอนนี้จัดองค์กรใหม่แล้วครับ ด้วยเหตุผลที่ว่าแต่ละส่วนจะได้สนใจธุรกิจของตัวเองเพียงอย่างเดียว แบ่งเป็น 4 ส่วน คือ AOL Audience (AOLIM, ธุรกิจโฆษณา และพอร์ทัล), AOL Access (เป็น ISP), AOL Europe และ Digital Service (ขายเพลง หรือธุรกิจอื่นๆ ที่ต้องสมัครสมาชิก) หลังจากจัดองค์กรใหม่แล้วยังมีแผนจะปลดพนักงานอีก 700 คนด้วยครับ Yahoo! News
สถานการณ์บราวเซอร์โลกวันนี้ครับ
อย่างแรกคือ AOL เตรียมเข็นบราวเซอร์ตัวใหม่ที่ใช้ IE Engine โดยจะเพิ่มความสามารถพวก Tab Browsing และ Popup Blocker ด้วย AOL เองเคยซื้อ Netscape และเป็นสปอนเซอร์โครงการ Mozilla (ปัจจุบันปล่อยเกาะ Mozilla แล้ว) แต่ยังใช้ IE มาตลอดเพราะมีเงื่อนไขกับไมโครซอพท์ว่า แลกกับการให้มี AOL อยู่ในวินโดว์ออกใหม่น่ะเอง ส่วนบราวเซอร์ตัวใหม่นี้จะไม่ผูกกับบริการของ AOL แต่อย่างใด (คือใครก็โหลดมาใช้ได้) สาเหตุก็คงมาจากว่า AOL เซ็งกับ Microsoft IE เต็มทนแล้ว ข่าว eWeek