Google App Engine
ย้อนความก่อนนิดนึงนะครับ บริการกลุ่มเมฆรายใหญ่ๆ ในท้องตลาดตอนนี้แบ่งเป็นเมฆแบบ IaaS คือให้เช่าเครื่องเสมือน เข้าถึงโครงสร้างระดับฮาร์ดแวร์ แล้วจะมาติดตั้งซอฟต์แวร์อะไรก็เรื่องของผู้เช่า ตัวอย่างคือ Amazon EC2
ส่วนอีกแบบคือเมฆแบบ PaaS หรือเป็นแพลตฟอร์มซอฟต์แวร์มาให้ในตัว เรียกใช้ได้เฉพาะ API ที่กำหนด ลงซอฟต์แวร์ในเครื่องเองไม่ได้ ตัวอย่างเมฆแบบนี้คือ Google App Engine และ Microsoft Azure ซึ่งทั้งสองตลาดก็ซ้อนทับกันอยู่บางส่วน
แต่ล่าสุด ไมโครซอฟท์ลงมาลุยในตลาด IaaS แล้ว โดยขยาย Azure ให้ใช้งานเครื่องเสมือนที่ใช้ระบบปฏิบัติการอื่นๆ ได้ ทำให้ตลาด IaaS คึกคักมากขึ้น
คล้อยหลัง อเมซอนลดราคา EC2 สูงสุดถึง 37% เพียงวันเดียว ฝั่งกูเกิลก็ประกาศลดราคาลงบ้าง โดยลดราคาพื้นที่เก็บข้อมูลออนไลน์สำหรับนักพัฒนาแอพคือ Google Cloud Storage (เทียบได้กับ Amazon S3 มันเป็นคนละอย่างกับ Google Drive ที่มีข่าวลือนะครับ)
กูเกิลประกาศของใหม่ใน App Engine สี่ประการ
กูเกิลเปิดตัว Google Cloud SQL ฐานข้อมูลแบบ relational database สำหรับแพลตฟอร์มกลุ่มเมฆ App Engine
เดิมที App Engine มีระบบเก็บข้อมูลของตัวเองแบบ BigTable และภาษา GQL ที่ลดรูปมาจาก SQL ปกติ แต่ครั้งนี้ก็เพิ่มฐานข้อมูลแบบ relational database เข้ามา ให้รองรับแอพพลิเคชันได้หลากหลายมากขึ้น
แท้จริงแล้ว Cloud SQL คือ MySQL เวอร์ชันกลุ่มเมฆของกูเกิล โดยกูเกิลจะดูแลรักษาฐานข้อมูลให้เลย สามารถเชื่อมต่อกับ JDBC (สำหรับแอพภาษา Java) และ DB-API (สำหรับ Python) ช่วงแรกจะยังฟรีอยู่ และกูเกิลจะเปิดเผยราคาค่าใช้งานในภายหลัง
แม้จะไม่ได้แสดงตัวในส่วน keynote แต่ App Engine ก็เปิดฟีเจอร์ชุดใหม่ทันทีต่อจาก Android โดยการเพิ่มฟีเจอร์ส่วนมากเป็นการเพิ่มเอาใจลูกค้าองค์กร (ที่เป็นลูกค้าสำคัญของ App Engine)
ผลัดจากฝั่งอุปกรณ์มือถือ ฝั่งเซิร์ฟเวอร์ของกูเกิลเองก็มีการอัพเดตบริการ App Engine เป็นรุ่น 1.4 ที่นับว่าเป็นการอัพเดตที่ใหญ่ที่สุดในปีนี้ โดยมีสามความสามารถหลักเพิ่มเข้ามา
Google App Engine Python SDK ออกรุ่น 1.2.3 แล้วครับ และที่มาเขียนข่าวเรื่องนี้ก็เพราะว่ามีบรรทัดหนึ่งที่น่าสนใจจากหน้า Release Notes:
Last but not least, the 1.2.3 release is full of other new stuff as well! Stay tuned to the blog for more updates or check the release notes for exciting info on:
ถือว่าเป็นไปตามข่าวลือ เพราะหลังจากเปิดให้บริการมาหนึ่งปี Google App Engine ก็ประกาศเพิ่มภาษาที่สามแล้วคือจาวานั่นเอง และอยู่ในระหว่างพัฒนาปลั๊กอินสำหรับ Eclipse
ในระยะแรกนี้กูเกิลจะทำการทดสอบระบบโดยเปิดให้ผู้ที่สนใจจำนวน 10000 คน โดยจะต้องลงชื่อกับทางกูเกิล ก่อน จึงจะมีสิทธิเข้าใช้ก่อนที่จะเปิดโอกาสให้นักพัฒนาทั่วไปได้ใช้ในภายหลัง
สำหรับคนที่ใช้ Python อยู่ไม่ต้องน้อยใจ เพราะยังมีความสามารถใหม่อีก 2 - 3 อย่างออกมาให้เราใช้กันด้วยคือ
TechCrunch รายงานข้อมูลจากวงในว่ากูเกิลเตรียมสนับสนุนจาวาเป็นภาษาที่สองของ App Engine ในเร็วๆ นี้ หลังจากสนับสนุน Python เพียงภาษาเดียวมานาน
ข่าวนี้น่าจะประกาศอย่างเป็นทางการในงาน Google I/O ช่วงปลายเดือนพฤษภาคมนี้ ภาษาที่มีคนเรียกร้องให้ App Engine สนับสนุนมากที่สุดคือจาวาและ Ruby ส่วนภาษาที่ใช้เป็นการภายในของกูเกิลได้แก่ Python, จาวา และ C++
ที่มา - TechCrunch