ปีที่ผ่านมาประเด็นเรื่อง Loot Box กลายเป็นปัญหาใหญ่ในวงการเกม ที่เห็นได้ชัดก็กรณีของ EA และ Blizzard ทำให้เว็บ PCGamer ได้นำประเด็นไปถาม Marcin Iwinski นักพัฒนาและผู้ร่วมก่อตั้งสตูดิ โอ CD Projekt RED เจ้าของเกม RPG Open World ขึ้นหิ้งอย่าง Witcher 3 ว่ามีความเห็นอย่างไรเกี่ยวกับประเด็นนี้

Iwinski บอกว่า เขาเรียกเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นปีที่ผ่านมาว่าเป็นการเอาคืนของชุมชนคนเล่นเกม เห็นได้ชัดว่าผู้เล่นจำนวนมากเริ่มไม่พอใจกับระบบ Loot Box ขณะที่จุดยืนของ CD Projekt RED ที่ทำมาตลอดนั้นเรียบง่าย คือ "หากคุณซื้อเกมราคาเต็ม คุณควรจะได้เกมขนาดใหญ่พร้อมเนื้อเรื่องที่ถูกขัดเกลามาอย่างดี สามารถเล่นได้หลายชั่วโมง"

แฟนเกมซีรีส์ the Witcher น่าจะคุ้นเคยกับสตูดิโออินดี้อย่าง CD Projekt Red กันดี ซึ่งตอนนี้กำลังพัฒนาเกมใหม่อย่าง CyberPunk 2077

ประเด็นคือแชนแนล Pretty Good Gaming บน YouTube ซึ่งทำคอนเทนท์เกี่ยวกับเกม ได้โพสต์วิดีโอพร้อมทวีตระบุว่า CD Projekt กำลังพิจารณาหารายได้จาก CyberPunk 2077 แบบ Game as a Service (ประมาณจ่ายค่าสมาชิกเพื่อเล่น) โดยทางช่องอ้างอิงและตีความจากคำสัมภาษณ์ล่าสุดของ Michał Kiciński ผู้ก่อตั้งที่ระบุว่า CD Projekt ลงทุนกับ CyberPunk 2077 มากกว่าเกมก่อนๆ บริษัทจึงคาดหวังว่าเกมจะขายได้มากกว่าเกมก่อนๆ และโฟกัสกับการทำการค้าจากเกมนี้ (sales expectation are much higher and CyberPunk will be more commercially focused than the Witcher was)

สำหรับใครที่มีโอกาสได้ไปเข้าร่วมทดสอบ closed beta ที่ผ่านมาของเกม Gwent: The Witcher Card Games ทางทีมผู้พัฒนา CD Projekt Red ได้มีของขวัญเล็ก ๆ น้อย ๆ แจกให้แก่ทุกคนที่เข้าร่วม นั่นคือเกม The Witcher 2: Assassins of Kings

สามารถกดรับเกมได้ที่ลิงก์ The Witcher โดยใช้แอคเคาท์ GOG อันเดียวกับที่ใช้ทดสอบเบต้า Gwent สามารถกดรับได้ก่อนถึงวันที่ 29 พฤษภาคม เวลา 19:00 น.

เราเห็นข่าวเกมเก่าบางเกมยังขายดีต่อเนื่อง เช่น GTA V ที่มียอดขายติดท็อปมาโดยตลอด ล่าสุดเกม The Witcher 3 ก็มีพฤติกรรมคล้ายคลึงกัน

CD Projekt Red ต้นสังกัดของ The Witcher จากประเทศโปแลนด์ เปิดเผยว่ายอดขายของ The Witcher 3 ในไตรมาสแรกของปี 2017 กลับขายดีกว่าในไตรมาสแรกของปี 2016 ซะอีก (เกมออกเดือน พ.ค. 2015)

เมื่อปลายเดือนมีนาคม มีข่าวว่าทาง CD Projekt Red ทีมผู้สร้างซีรีส์เกม The Witcher และ Cyberpunk 2077 กำลังพยายามจดเครื่องหมายการค้าคำว่า “Cyberpunk” ด้วย

หลังจากที่ข่าวนี้ถูกเผยแพร่ได้ไม่นาน ก็มีการตั้งกระทู้โต้เถียงในประเด็นนี้บน reddit กันอย่างดุเดือด เพราะหลายคนกังวลว่าการจดเครื่องหมายการค้า “Cyberpunk” จะส่งผลให้ผู้อื่นไม่สามารถนำคำว่า “Cyberpunk” มาใช้ในเกมต่าง ๆ ได้อีกต่อไป

ล่าสุด CD Projekt Red ออกมาอธิบายถึงจุดประสงค์ของการจดเครื่องหมายการค้าครั้งนี้ ผ่านทางทวิตเตอร์แล้ว

จากที่เคยบอกไว้เมื่อปีก่อนว่าทาง CD Projekt RED จะหยุดพัฒนาซีรีส์เกม The Witcher และหันไปทำโปรเจคอื่นแทน หนึ่งในโปรเจคดังกล่าวก็คือ Cyberpunk 2077 เกม RPG ที่เปิดตัวมาตั้งแต่ปี 2012 เกมที่อ้างอิงเนื้อหามาจาก Cyberpunk 2020 ดำเนินเรื่องในโลกอนาคตแนวไซเบอร์พังก์

เมื่อเร็ว ๆ นี้ทาง CD Projekt RED อัปเดตความคืบหน้าของโปรเจคนี้ว่ากำลังไปได้ด้วยดี และอยู่ในขั้นตอนที่ “พัฒนาไปได้ไกลแล้ว” ด้วยจำนวนทีมพัฒนาที่หามาได้มากถึง 300 คน คิดเป็น 3 ใน 4 ของกำลังคนทั้งหมดที่ต้องการสำหรับโปรเจคนี้ และยังคงรับสมัครเพิ่มขึ้นเรื่อย ๆ

ในขณะที่หลายๆ เกมเข้มงวดกับระบบป้องกันการก้อปปี้ ค่ายเกมเล็กอย่าง CD Projekt กลับใช้วิธีตรงข้ามในการต่อสู้ปัญหานี้ คือการยกเลิก DRM ในเกม The Witcher 2 ลงอย่างสิ้นเชิงในแพทช์ใหม่ของเกม

Adam Badowski ผู้กำกับฝ่ายพัฒนากล่าวถึงการตัดสินใจในเรื่องนี้ว่า วิธีที่เขาใช้ต่อสู้กับการละเมิดลิขสิทธิ์ คือการทำให้ของแท้มีความคุ้มค่าเหนือของปลอมในทุกๆ ด้าน ไม่ว่าจะเป็น ความเรียบง่ายในการเล่นและติดตั้ง การให้การสนับสนุน และคอนเทนต์เสริมที่จะมีมาอย่างต่อเนื่อง เขารู้สึกว่าการคงระบบ DRM ไว้จะทำให้ผู้เล่นได้รับประสบการณ์ที่ไม่ดี