น่าจะเป็นเกมมาแรงที่สะดุดขาตัวเองแห่งปีสำหรับ Cyberpunk 2077 ที่จำนวนผู้เล่นหายไปเกือบ 80% หลังขายเพียงเดือนเดียว และโอกาสครบรอบ 1 เดือน Pawel Sasko หนึ่งในนักออกแบบเควสต์ของ Cyberpunk 2077 ได้ทวีตว่ายังไม่มีใครค้นพบทุกอย่างที่ทีมงานทำเอาไว้ในเกม ขนาด The Witcher 3 ยังใช้เวลาเป็นปี ๆ กว่าจะเจอกันหมด ฉะนั้นเกมนี้น่าจะนานเช่นกัน
Sasko บอกด้วยว่าเขาและทีมงานไล่เก็บคอมเมนท์และฟีดแบ็กให้ได้มากที่สุดเท่าที่ได้ และทุกเสียงบ่นเสียงด่า ทีมงานรู้เรื่องหมด แพตช์ที่ผ่านมาอย่างน้อยก็พอเป็นเครื่องพิสูจน์ได้ แต่ไม่ใช่ทุกปัญหาจะสามารถแก้ได้ทีเดียวพร้อมกัน
หลังจากมีโพสต์ใน Gamefaqs ที่อ้างว่าเป็นข้อมูลจากภายใน CD Projekt Red บอกว่าทีมพัฒนาถูกแทรกแซงจนต้องตัดเนื้อหาในเกมออก และเร่งเกมให้ออกทันปลายปี แต่อาจจะมีแพทช์ และ DLC เพิ่มเนื้อหาเหล่านี้กลับมาใหม่ ให้เหมือนตอน No Man’s Sky และ Blognone ลงข่าวไปเมื่อวานนี้
ล่าสุดมีอัพเดตในเว็บบอร์ดอย่างเป็นทางการของ CD Projekt Red เป็นแอคเคาท์ของทีมงานชื่อ Vattier ออกมาตอบกระทู้ที่เกี่ยวกับเรื่องนี้สั้นๆ ว่า “ถึงปกติเราจะไม่ให้ความเห็นเกี่ยวกับความลือ แต่คราวนี้คงต้องบอกว่า เรื่องนี้ไม่เป็นความจริงเลย”
ยูสเซอร์ JoeBuck80 แชร์ข้อมูลในกระทู้บนบอร์ด GameFaqs เกี่ยวกับปัญหาในช่วงพัฒนาเกม และคอนเทนต์ที่ถูกตัดออก โดยอ้างว่าเป็นการส่งต่อจากกระทู้ที่ทีมพัฒนา CD Projekt Red (CDPR) ออกมาเปิดเผยข้อมูลภายใน แบบไม่เปิดเผยตัวตน
ทีมงานที่เปิดเผยข้อมูลรายนี้เล่าว่าปัญหาที่เกิด มาจากทีมผู้บริหาร CDPR ยอมทำร้ายชื่อเสียงบริษัทเพื่อให้ผู้ลงทุนพอใจ แต่เขาก็ได้ยินมาว่าบริษัทมีแผนจะซ่อมเกมให้กลับมาดีขึ้น เหมือนในกรณีเกม “No Man’s Sky” โดยจะเพิ่มเนื้อหาเข้ามาในแพทช์ใหญ่ในเดือนมิถุนายนและ DLC แต่แพทช์ซ่อมเกมสองตัวหลักๆ น่าจะมาในช่วงกลางเดือนมีนาคม
บริษัท CD Projekt S.A. โดนนักลงทุนฟ้องแบบกลุ่ม (class-action) ด้วยข้อหาผู้บริหารโกหกเรื่องสถานะของเกม Cyberpunk 2077 บนคอนโซลรุ่นเก่า PS4 และ Xbox One ถือเป็นการปิดบังข้อมูลสำคัญที่มีผลกระทบต่อธุรกิจ และนักลงทุนเสียหายเมื่อข้อมูลปรากฏว่าเกมเล่นแทบไม่ได้ จนโดนถอดจาก PlayStation Store
ผู้นำในการฟ้องคือบริษัทกฎหมาย Rosen Law Firm ในสหรัฐอเมริกา ที่ยื่นฟ้องต่อศาลเขตแคลิฟอร์เนียกลาง และเชิญชวนให้นักลงทุนมายื่นเอกสารร่วมฟ้องด้วยกัน
ก่อนหน้านี้มีข่าวว่า นักลงทุนในโปแลนด์ก็เตรียมยื่นฟ้องเรียกค่าเสียหายแบบเดียวกันในโปแลนด์
CD Projekt แถลงข่าวยอดขายเกม Cyberpunk 2077 จำนวน 13 ล้านชุด (นับถึง 20 ธันวาคม) โดยเป็นยอดขายรวมทั้งแบบดิจิทัลและแบบแผ่นบนทุกแพลตฟอร์ม โดยหักยอดคำขอคืนเงินที่ส่งตรงทางอีเมลถึงบริษัทเรียบร้อยแล้ว
CD Projekt ระบุว่าเปิดเผยตัวเลขนี้ เพราะมีผลต่อการตัดสินใจของนักลงทุน (ที่ช่วงหลังเทขายหุ้นของ CD Projekt ออกนั่นเอง)
ที่มา - CD Projekt, IGN
หลัง Cyberpunk 2077 พบปัญหามากมายบนเวอร์ชั่นคอนโซลเจ็นปัจจุบัน จนถูก Sony ถอดจาก PlayStation Store แถมยังอาจถูกฟ้องจากนักลงทุนในโปแลนด์ และพนักงานในบริษัทเองก็ไม่พอใจทีมบริหาร
เมื่อสัปดาห์ที่แล้วไมโครซอฟท์ประกาศความร่วมมือกับค่ายเกม CD Projekt Red เพื่อนำ Quadra Turbo-R V-Tech รถยนต์จากเกมดังที่หลายคนรอคอยอย่าง Cyberpunk 2077 มาเพิ่มเป็นรถใหม่ที่สามารถถอยมาขับได้ฟรีๆ ในเกมแข่งรถ Forza Horizon 4
ผู้เล่น Forza Horizon 4 เพียงแค่ต้องชนะการแข่งรถแบบหนึ่งต่อหนึ่งใน event ภายในเกมที่มีชื่อว่า _NIGHTCITY.EXE_ ตัวเกมก็จะปลดล็อค Quadra ให้เลือกขับได้ทันที
ก่อนเกมวางขายหลายคนต่างคาดว่า Cyberpunk 2077 จะเป็นอีกหนึ่งขาขึ้นของ CD Projekt ก่อนจะพบความจริงที่ว่ามันเป็นเหว ส่วนหนึ่งก็จากการตัดสินใจของผู้บริหาร (ปัญหาคลาสสิคของสตูดิโอเกม)
ประเด็นปัญหาของเกม Cyberpunk 2077 ไม่ได้มีแต่เกมเมอร์ที่ไม่พอใจ CD Projekt Red เพราะพนักงานของบริษัท (ที่ทำงานหนัก 6 วันต่อสัปดาห์มาต่อเนื่องยาวนานช่วงก่อนเกมออก) ก็ไม่พอใจแนวทางของฝ่ายบริหารเช่นกัน
Bloomberg รายงานข้อมูลว่า CD Projekt Red จัดประชุมพนักงานเป็นการภายใน ซึ่งเหตุการณ์เกิดก่อนโซนี่ประกาศถอด Cyberpunk ออกจาก PlayStation Store พนักงานหลายคนก็เปิดฉากถล่มบอร์ดบริหารของบริษัท
ตัวอย่างคำถามของพนักงานได้แก่
CD Projekt Red ประกาศจุดยืนยินดีคืนเงินให้กับผู้ซื้อ Cyberpunk 2077 ทุกคน กรณีของการซื้อผ่านร้านออนไลน์อย่าง PlayStation Store และ Microsoft Store คงไม่มีปัญหา เพราะร้านมีนโยบายคืนเงินอยู่แล้ว
ความยากคงไปอยู่ที่การซื้อจากร้านค้าปลีก (ทั้งซื้อแบบแผ่น และซื้อโค้ดดิจิทัล) ที่มีความซับซ้อนสูงเรื่องการขอเงินคืน เพราะร้านค้าปลีกแต่ละแห่งมีนโยบายคืนเงินแตกต่างกัน
CD Projekt Red บอกว่าหากประสบปัญหาการขอเงินคืน ให้ส่งหลักฐานการซื้อไปทางอีเมล helpmerefund@cdprojektred.com ภายในวันที่ 21 ธันวาคมนี้ และ CD Projekt Red ยินดีควักเงินจ่ายคืนให้เองถ้าจำเป็น
คณะผู้บริหารของ CD Projekt นำโดย Adam Kicinski ซีอีโอร่วม จัดแถลงข่าวต่อนักลงทุน อธิบายสถานการณ์ของเกม Cyberpunk 2077 ที่ประสบปัญหามากมายในช่วงเปิดตัว โดยเฉพาะบนคอนโซลเจนเก่า PS4 และ Xbox One
Kicinski ยอมรับว่าสถานการณ์ช่วงก่อนหน้านี้ที่เกมดีเลย์ถึง 3 รอบ ทำให้ผู้บริหารต้องโฟกัสกับการเข็นเกมออกมาขายให้ได้ และมองข้ามความร้ายแรงของปัญหาเรื่องคุณภาพเกม โดยเฉพาะบนคอนโซลเจนเก่าที่ต้องใช้เวลาแก้ไขอีกมาก เขายอมรับว่าเป็นการประเมินสถานการณ์ที่ผิดพลาด และเป็นการทำลายชื่อเสียงของบริษัทที่สั่งสมมานาน
เสียงฮือฮาหลังการวางขายของ Cyberpunk 2077 ส่วนใหญ่มาจากทั้งปัญหาบั๊ก ปัญหาบนคอนโซลเจนเก่า รวมถึงการกินสเปคที่ค่อนข้างหนักของตัวเกมโดยเฉพาะการเปิด Ray Tracing
หากเล่นแบบปิด Ray Tracing อาจไม่มีปัญหามากนัก แต่หากเปิด Gizmodo ถึงกับบอกว่าแทบจะเป็นไปไม่ได้เลยที่จะเล่น Cyberpunk 2077 โดยไม่เปิด DLSS พร้อมกันไปด้วย เพราะเฟรมเรทจะอยู่ที่ราว 40 บนความละเอียด FHD และเซ็ตติ้ง Ultra เท่านั้นสำหรับ RTX 3080 (ไม่ต้องพูดถึงการเปิด Ray Tracing บน AMD)
Xbox และ CD Projekt Red ร่วมมือกับ Limbitless Solutions องค์กรไม่แสวงหาผลกำไรที่ทำแขนเทียมจากเครื่องพิมพ์ 3 มิติให้กับผู้พิการ ได้ทำโปรเจ็คแขนเทียมในลายแขนกลของ Johnny Silverhand ตัวละครที่ Keanu Reeves มาโมแคปและพากย์ใน Cyberpunk 2077
ก่อนหน้านี้ Limbitless ก็เคยทำแขนกลจากตัวละครป๊อปคัลเจอร์มาแล้วทั้งแขนกล Iron Man ที่ได้ Robert Downey Jr. ไปมอบให้ตัวเอง ในปี 2015 และในปีถัดมา ร่วมมือกับ Lucasfilm ทำแขนกลลาย Stormtrooper ไปมอบให้กับเด็กที่พิการตั้งแต่กำเนิดกับกองร้อย 501st Legion หรือร่วมมือกับ 343 Industries ทำแขนกลจากเกม Halo เมื่อปี 2018
หนึ่งในปัญหาใหญ่ที่สุดของ Cyberpunk 2077 คือเรื่องของบั๊กมหาศาล และโดยเฉพาะบนคอนโซลเจนเก่าที่มีเรื่องคุณภาพกราฟิคที่ต่ำซ้ำเข้าไปอีก ซึ่งล่าสุดสตูดิโอ CD Projekt Red ก็ออกมาขอโทษอย่างเป็นทางการแล้ว ที่ไม่ได้โชว์เกมเพลย์บนคอนโซลรุ่นเก่าก่อนเพื่อประกอบการตัดสินใจซื้อ (ก็งานมันเร่ง จะเลื่อนอีกก็คงไม่ได้)
CD Projekt บริษัทแม่ของ CD Projekt Red เปิดเผยว่ารายได้จากการขายเกม Cyberpunk 2077 เฉพาะรอบพรีออเดอร์อย่างเดียว ก็คืนทุนค่าพัฒนาเกมและค่าการตลาดทั้งหมดเรียบร้อยแล้ว ยอดขายที่เหลือเป็นกำไรล้วนๆ
ยอดขายช่วงพรีออเดอร์ที่ CD Projekt เปิดเผยคือทะลุ 8 ล้านชุด ยังไม่รวมยอดขายหลังจากนี้ บริษัทยังเผยตัวเลขยอดขายว่าทะลุ 50 ล้านดอลลาร์เฉพาะบน Steam อย่างเดียว ซึ่งสัดส่วนรายได้จะเข้า CD Projekt ราว 80%
หลังจากที่หนึ่งในเกมที่มีผู้ติดตามมากที่สุดในปีนี้อย่าง Cyberpunk 2077 ได้เปิดให้ pre-load พร้อมกันทั่วโลกใน Steam เมื่อเวลา 5 ทุ่มที่ผ่านมา (บน GOG ได้ตั้งแต่ 5 โมงเย็น) แบนด์วิดท์ที่ใช้ในการดาวน์โหลดของ Steam (48 ชั่วโมงล่าสุด) ก็พุ่งขึ้นมากกว่าช่วงเวลาปกติกว่า 3 เท่าจนไปพีคที่ 23.5 Tbps
Cyberpunk 2077 จะเปิดให้เล่นวันที่ 10 ธ.ค.นี้ 7 โมงเช้าตามเวลาประเทศไทยทั้งบน PC, PS4, PS5, Xbox One และ Xbox Series X/S
Adam Kaciński ซีอีโอของ CD Projekt บริษัทแม่ของ CD Projekt Red ระบุในการประชุมทางโทรศัพท์กับผู้ถือหุ้นว่าทีมงานมองเกมส่วน Multiplayer ว่าเป็นส่วนที่พัฒนาแยกต่างหาก และเป็นผลิตภัณฑ์ที่เป็นเอกเทศจากตัวเกมหลัก
ยังไม่มีข้อมูลว่าผู้ที่ซื้อตัวเกมจะต้องเสียเงินเพิ่มสำหรับตัวเกมฝั่ง Multiplayer หรือจะได้รับเป็นอัพเดตฟรีตามมาทีหลัง คล้ายคลึงกับ GTA Online ที่เปิดตัวหลังเกมภาคหลัก แต่ผู้ซื้อภาคหลักจะสามารถดาวน์โหลดได้ฟรี ก่อนจะนำมาจำหน่ายแยกในภายหลัง
พูดถึงเกม Cyberpunk 2077 ในปี 2020 เกมเมอร์น้อยคนที่ไม่รู้จักเกมนี้ แถมส่วนหนึ่งอาจอกหักจากการพรีออเดอร์เกมแล้วต้องคอยเก้อ จากการเลื่อนวางจำหน่ายเกมมาแล้วหลายต่อหลายครั้ง ก่อนมาจบในวันที่ 10 ธันวาคมนี้ ซึ่งทุกคนก็หวังว่าจะไม่เลื่อนอีก แต่น้อยคนนักที่รู้ว่าเกมแฟรนไชส์ Cyberpunk เป็นเกมสวมบทบาทแบบเล่นบนกระดาษ (Pen & Paper RPG) หรือเรียกง่ายๆ ภาษาบ้านเราว่า “เกมกระดานหรือบอร์ดเกม” มาก่อน
แม้เกม Cyberpunk 2077 จะเลื่อนวางจำหน่ายจาก 19 พฤศจิกายนไปเป็น 10 ธันวาคมนี้ แต่ในพรีเซนเทชั่นรายได้ของ CD Projekt ฝั่งพับบลิเชอร์ของเกม Cyberpunk 2077 (ฝั่งพัฒนาเกมคือ CD Projekt RED) เปิดเผยข้อมูลถึงสินค้าพาร์ทเนอร์ชิปมากมายที่ทีมงานจับมือผลิตกับแบรนด์ดังทั่วโลก
สินค้าต่างๆ มีทั้งเครื่องดื่ม Sprite เครื่องแต่งกาย Adidas, J!NX และ Bioworld รวมไปถึงอุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์ และเครื่องเกมต่างๆ เช่น Xbox, OnePlus, Razer, Steelseries, Nvidia, Alienware และ Seagate ยาวไปถึงแบรนด์น้ำหอมผู้ชายอย่าง Old Spice และหนังสือการ์ตูนจาก Dark Horse Comics
แฟนๆ Cyberpunk อาจเพิ่งเห็นข่าวดีว่าไม่เลื่อนวันวางขาย 10 ธันวาคม 2020 แน่ๆ แต่ก็มีข่าวร้ายตามมาเล็กน้อยว่า DLC และ expansion ที่เคยวางแผนเอาไว้ว่าจะเปิดตัวก่อนเกมวางขาย จะต้องเลื่อนไปประกาศในไตรมาส 1/2021 แทน
Adam Kiciński ประธานและซีอีโอร่วมของ CD Projekt กล่าวถึงเรื่องนี้ในงานแถลงผลประกอบการ ยอมรับว่าการเลื่อนตัวเกมหลัก ส่งผลกระทบต่อการประกาศข่าว DLC จึงตัดสินใจรอให้วางขายเกมให้เสร็จก่อน แล้วค่อยมาพูดถึงเนื้อหา post-launch ในภายหลัง
Kiciński เคยพูดเอาไว้ก่อนหน้านี้ว่า Cyberpunk 2077 มี DLC จำนวนไม่น้อยกว่า The Witcher 3 แน่นอน (16 DLC และ 2 story expansion)
ไม่น่าจะมีอะไรเซอร์ไพร์สอีกรอบแล้วกับ Cyberpunk 2077 ที่เลื่อนแล้วเลื่อนอีกจนล่าสุดคือวันที่ 10 ธันวาคม แม้หลายคนจะยังหวั่น ๆ แต่การประกาศผลประกอบการไตรมาสล่าสุด CD Projekt Group ยืนยันกับนักลงทุนว่าวันวางจำหน่ายจะไม่เลื่อนแล้ว
ในสไลด์แถลงผลประกอบการไตรมาส 3 / 2020 มีการยืนยันวันวางจำหน่ายทั่วโลกบนทุกแพลตฟอร์ม 10 ธันวาคม พร้อมระบุแผนการทำการตลาดที่จะค่อนข้างเยอะในช่วงเดือนธันวาคม ตามหัวเมืองใหญ่ทั่วโลก ทั้งหมดรวม 55 ประเทศ 34 ภาษา
ที่มา - CDProjekt
เมื่อวานมีข่าวลือจากคนที่เคยปล่อยข่าวลือเรื่องยกเลิกงาน E3 และ Half-Life: Alyx ที่อ้างคนวงใน CD Projekt Red ว่า Cyberpunk 2077 จะถูกเลื่อนไปอีกหลัง 10 ธันวาคมนี้
ล่าสุด CD Projekt Red ยืนยันแล้วว่าข่าวลือดังกล่าวไม่เป็นความจริง ทีมงานพยายามเร่งทำงานให้ทันกำหนดวันที่ 10 ธันวาคมนี้
ทั้งนี้หลังจากเห็นข่าวลือเมื่อวาน ส่วนตัวไม่ค่อยเชื่อ เพราะพนักงานส่วนใหญ่มีหุ้นของบริษัท และไม่น่ารู้เรื่องหากเกมจะเลื่อนจริง เพราะจะส่งผลต่อราคาหุ้นและผิดกฎหมาย insider trade ดังนั้นคนที่รู้ว่าเกมจะเลื่อนก็น่าจะมีแค่ผู้บริหารระดับสูง ซึ่งก็ไม่มีทางจะปล่อยข่าวหลุดลักษณะนี้
เก็บตกกับประเด็นการเลื่อนวางจำหน่ายครั้งที่ 3 ของ Cyberpunk 2077 อีกเล็กน้อย โดยเดิม CD Projekt Red ให้เหตุผลว่าเพราะการพอร์ทเกม 9 เวอร์ชัน ทำให้การส่งมอบต้องดีเลย์ออกไป
ล่าสุดมีรายงานว่าในการประชุมระหว่างผู้บริหารและผู้ถือหุ้น มีการเปิดเผยว่าสาเหตุที่ทำให้ต้องเลื่อน เป็นเพราะผลการทดสอบ Cyberpunk บนคอนโซลยุคปัจจุบันอย่าง PS4 และ Xbox One เป็นหลักที่ยังมีปัญหา ขณะที่บนพีซี, Xbox Series X และ PS5 มีความพร้อมที่จะให้เล่นแล้ว
หลังจากเลื่อนแล้วเลื่อนอีก จนกระทั่งเกมพัฒนาเสร็จสิ้นแล้ว ก่อนกำหนดวางจำหน่าย 19 พฤศจิกายนนี้ ทำให้แฟน ๆ ใจชื้นว่าได้เล่นเกมนี้เดือนหน้าแน่ ๆ แต่สุดท้ายก็ไม่แคล้วเลื่อนอีกจนได้
CD Projekt Red ประกาศเลื่อนการวางจำหน่ายเกมไปอีก 21 วันเป็นวันที่ 10 ธันวาคมพร้อมคำขอโทษ โดยทีมงานให้เหตุผลว่าต้องพอร์ทเกมทั้งหมด 9 เวอร์ชัน (Xbox One, Xbox One X, Xbox Series X, Xbox Series S, PS4, PS4 Pro, PS5, Stadia และพีซี) ประกอบกับการทำงานที่บ้านจากปัญหาโควิด ทำให้ทีมงานไม่สามารถส่งมอบเกมได้ตามกำหนดเวลา
เพจเฟสบุ๊กอย่างเป็นทางการของ Cyberpunk 2077 โพสต์ว่าตอนนี้เกม “gone gold” หรือเสร็จสิ้นขั้นตอนการพัฒนา พร้อมเข้าสู่กระบวนการผลิตแผ่นแล้ว พบกัน 19 พฤศจิกายนนี้แน่นอน
ถือว่าตัวเกมเสร็จได้ตามกำหนด หลัง CD Projekt Red เพิ่มวันทำงานของทีมงานเป็น 6 วันต่อสัปดาห์ แต่สัญญาจะจ่ายค่าล่วงเวลา และแบ่งกำไรจากผลประกอบการ 10% มาจ่ายเป็นโบนัส แต่ยังไม่มีข้อมูลว่าวันทำงานจะกลับมาลดเหลือ 5 วันเมื่อไร เพราะด้วยขนาดของเกม ทีมงานอาจต้องทำงานอย่างหนักในช่วงแรก เพื่อเตรียมแก้ไขปัญหาที่ผู้เล่นอาจพบได้ และออกแพทช์อัปเดตต่างๆ ต่อไป