Wear OS ระบบปฏิบัติการสำหรับสมาร์ทวอทช์ของ Google ที่ไม่แพร่หลายนัก เนื่องจากไม่มีฮาร์ดแวร์ที่ Google ทำเองและผู้ผลิตสมาร์ทวอทช์เจ้าใหญ่ๆ เช่น Samsung ใช้ระบบปฏิบัติการ Tizen บนสมาร์ทวอทช์ของตัวเอง มาวันนี้ Google จับมือกับ Samsung เตรียมประสานแพลตฟอร์ม Wear OS กับ Tizen เข้าด้วยกัน พร้อมเปลี่ยนชื่อ ตัดคำว่า OS ออก เหลือแค่ Wear เฉยๆ และจะอยู่บนสมาร์ทวอทช์ภายในปีนี้
ระบบฟิตเนสของ Fitbit ก็จะกลายเป็นส่วนหนึ่งของ Wear ด้วย โดย Google ซื้อ Fitbit เสร็จสิ้นในปีนี้ และในหน้าแนะนำ Wear ก็มีโลโก้ Fitbit คู่กับกลุ่มโลโก้บริการของ Google
หลังมีข่าวลือมาสักพัก และพบหลักฐานในซอร์สโค้ดเคอร์เนลว่า Samsung อาจกำลังทำสมาร์ทวอทช์รัน Wear OS
ล่าสุด SamMobile ลงข่าวจากแหล่งข่าวไม่ระบุที่มา ว่าระบบปฏิบัติการของ Galaxy Watch 4 จะเปลี่ยนจาก Tizen OS มาเป็น Wear OS จริงตามข่าวลือ แต่จะครอบทับด้วย One UI 3.x ของซัมซุงเองอีกที
One UI แบบใหม่ยังมีหน้าตาคล้ายคลึงกับ Tizen OS อยู่ ทำให้ผู้ใช้ไม่รู้สึกถึงความแตกต่างมากนัก พร้อมระบุจะมีฟีเจอร์ SmartThings (เช่นการตามหาอุปกรณ์และควบคุมสมาร์ทโฮม) และมีฟีเจอร์ใหม่ ส่งข้อความเสียงสั้นๆ ให้เพื่อนได้คล้ายเป็นวิทยุสื่อสาร
หลังก่อนหน้านี้มีข่าวลือว่า Samsung กำลังพัฒนาสมาร์ทวอทช์รัน Wear OS และอาจเลิกใช้ Tizen ล่าสุดนักพัฒนาชื่อ Ivan_Meler บนฟอรั่ม XDA Developer ค้นพบโค้ดในไดรเวอร์ WiFi บนซอร์สโค้ดเคอร์เนลของ Galaxy S20 ที่พูดถึงโค้ดเนมอุปกรณ์ชื่อ “Merlot WearOS” อยู่กับรหัสชิป BCM43013 ซึ่งเป็นชิป WiFi/Bluetooth ของ Broadcom
นอกจากนี้อีกจุดที่พบคำว่า Merlot คือจุดที่เป็นโค้ด config อยู่คู่กับโค้ดเนมอุปกรณ์อื่นที่ใช้ชิป Broadcom เช่น A7LTE (Galaxy Tab A7 LTE) และ NOBLESSE (Galaxy Watch 3) ทำให้มีความเป็นไปได้ที่อุปกรณ์ใหม่นี้อาจเป็นสมาร์ทวอทช์รุ่นต่อไปของ Samsung ที่รัน Wear OS แทน Tizen ตามข่าว ซึ่งคงต้องติดตามกันต่อไปว่าจะเป็นการทิ้ง Tizen ไปเลย หรือเป็นเพียงการเพิ่มตัวเลือกให้กับผู้ใช้
หลังจากหลุดกันมาหลายรอบ ในงาน Galaxy Unpacked วันนี้ Samsung ก็เปิดตัว Galaxy Watch 3 แล้ว มาพร้อมชิป Exynos 9110 มีสองขนาดคือ 41 มิลลิเมตร หน้าจอ 1.2 นิ้ว และ 45 มิลลิเมตร หน้าจอ 1.4 นิ้ว เป็นหน้าจอ OLED ครอบด้วย Gorilla Glass ตัวเรือนเป็นสแตนเลส (แต่จะมีรุ่นไทเทเนียมวางจำหน่ายทีหลัง) ตัวเรือน Samsung กล่าวว่ามีขนาดบางลง 14% เล็กลง 8% และน้ำหนักเบาลง 15% รองรับ NFC กันน้ำ 5ATM (50 เมตร) และมีรุ่น LTE
บริษัทวิจัยตลาด Strategy Analytics ออกรายงานภาพรวมตลาดสมาร์ทวอทช์ประจำไตรมาสที่ 2 ปี 2019 โดยยอดส่งมอบรวมเติบโต 44% จากช่วงเดียวกันในปีก่อน เป็นมากกว่า 12 ล้านเรือน
แอปเปิลยังครองส่วนแบ่งการตลาดสูงสุด มีจำนวนส่งมอบ 5.7 ล้านเครื่อง คิดเป็น 46.4% หรือเกือบครึ่งหนึ่งของทั้งตลาด
ส่วนอันดับ 2 คือ ซัมซุง 2.0 ล้านเรือน 15.9% ทั้งนี้นักวิเคราะห์มองว่า Galaxy Watch Active 2 ที่เพิ่งออกมา จะช่วยให้ซัมซุงครองส่วนแบ่งได้ดีตลอดถึงสิ้นปี และอันดับ 3 คือ Fitbit 1.2 ล้านเรือน คิดเป็น 9.8% ตกจากอันดับ 2 เมื่อปีก่อน ปัจจัยสำคัญคือสมาร์ทวอทช์รุ่นใหม่ Versa Lite ไม่ได้รับการตอบรับที่ดีตามที่บริษัทคาดหวัง
ซัมซุงเปิดตัว Galaxy Watch Active 2 ภาคต่อของนาฬิกาสมาร์ทวอทช์สายลุยรุ่นแรก (ที่เปิดตัวเมื่อต้นปี แปลว่าอัพเกรดรุ่นใหม่ภายใน 6 เดือน)
Galaxy Watch Active 2 มีหน้าจอให้เลือก 2 ขนาด (ตามสไตล์นาฬิกาผู้ชาย-ผู้หญิง) คือ
สเปกอย่างอื่นเหมือนกันหมด ซีพียูเป็น Exynos 9110 ดูอัลคอร์ 1.15GHz, แรม 768MB+4GB, ฟีเจอร์อื่นคือ Heart Rate Monitoring, ECG, กันน้ำ IP68, ผ่านมาตรฐานความทนทาน MIL-STD-810G, ระบบปฏิบัติการยังเป็น Tizen, ใช้สายนาฬิกาขนาด 20mm มาตรฐาน
Swatch Group ผู้ผลิตนาฬิกาแบรนด์ Tissot, Omega, Rado และ Swatch ได้ฟ้องซัมซุงเรื่องละเมิดเครื่องหมายการค้า ว่าหน้าปัดนาปัดลอกเลียนแบบดีไซน์ของ Swatch และเล็งจะเรียกค่าเสียหาย 100 ล้านดอลลาร์
Swatch Group ระบุว่าตัวหน้าปัดนาฬิกาของซัมซุงหลายรุ่น เช่น Samsung Gear Sport, Gear S3 Classic และ Frontier ที่สามารถดาวน์โหลดหน้าปัดจาก Galaxy Apps ได้นั้น มีหน้าปัดเหมือนของ Swatch โดยเว็บไซต์ต้นทางมีภาพเปรียบเทียบให้ดูด้วย ในเนื้อหาส่งฟ้องยังบอกด้วยว่าซัมซุงได้ให้ดีไซเนอร์ภายนอกมาออกแบบให้
ทาง Swatch Group ยังระบุด้วยว่า ได้ติดต่อไปหาซัมซุงโดยตรงเรื่องนี้ตั้งแต่เดือนธันวาคมปีที่แล้ว และซัมซุงก็ทำการลบหน้าปัดทันที แต่ Swatch ก็ยังไม่พอใจเพราะซัมซุงไม่ยอมรับโดยตรงว่าลอกเลียนแบบมา อย่างไรก็ตาม Swatch ยังคงเห็นว่าใน Galaxy Apps ที่มีหน้าปัดที่ผู้ใช้สามารถดาวน์โหลดไปใช้ได้นั้น ยังคงมีหลายตัวที่ดีไซน์คล้ายนาฬิกาในเครือ Swatch Group มาก
โดยส่วนมากแท่นชาร์จไร้สายที่เราเห็นกันตามท้องตลาด มักรองรับกับมือถือเพียงเครื่องเดียวเท่านั้น แต่ข่าวดีสำหรับผู้ใช้อุปกรณ์ Samsung Galaxy ไม่ว่าจะเป็นมือถือระดับไฮเอนด์หรือสมาร์ทวอทช์ จะสามารถชาร์จไร้สายบนแท่นชาร์จเดียวกันได้แล้ว ด้วยอุปกรณ์ที่มีชื่อว่า Samsung Wireless Charger Duo