iQiyi แพลตฟอร์มวิดีโอสตรีมมิ่งรายใหญ่ของจีน รายงานผลประกอบการประจำไตรมาสที่ 1 ของปี 2022 โดยมีประเด็นสำคัญคือผลประกอบการมีกำไรเป็นครั้งแรกที่ 169.1 ล้านหยวน ส่วนรายได้รวมอยู่ที่ 7,277.1 ล้านหยวน ลดลง 8.7% จากช่วงเดียวกันในปีก่อน
ซีอีโอ Yu Gong กล่าวว่าในไตรมาสที่ผ่านมา จำนวนสมาชิกของแพลตฟอร์มเพิ่มขึ้น จากการคัดสรรคอนเทนต์ นอกจากนี้ยังปรับปรุงต้นทุนในการดำเนินงาน ทำให้ผลประกอบการออกมามีกำไร ซึ่งบริษัทจะยังคงกลยุทธ์นี้ต่อไป
จำนวนสมาชิกเฉลี่ยในไตรมาสมี 101.4 ล้านราย มีรายได้เฉลี่ยต่อสมาชิกต่อเดือนที่ 14.69 หยวนต่อคน
จากประเด็นรัฐบาลจีนคุมเข้มวงการไอดอล แบนการจัดอันดับชาร์ตความนิยม กระทบรายการเซอร์ไววัลค้นหาไอดอล ล่าสุด iQiyi แพลตฟอร์มสตรีมมิ่งรายใหญ่ของจีนประกาศระงับการถ่ายทำรายการค้นหาไอดอลในช่วง 2-3 ปีข้างหน้า และจะยกเลิกระบบโหวตด้วย
iQIYI (อ้ายฉีอี้) เดินหน้ารุกตลาดสตรีมมิ่งในไทย ทำแคมเปญ “ชื่อแปลก ซีรีส์ปัง วาไรตี้ดังได้ใจ” โปรโมท ซีรีส์ วาไรตี้ ภาพยนตร์ การ์ตูนทั้งรูปแบบ iQIYI Original และซื้อลิขสิทธิ์ รวมแล้ว กว่า 21 รายการจากทั่วเอเชีย และดันโปรโมชั่นสมัครครั้งแรกเดือนละ 15 บาท ถึงวันที่ 17 ก.พ. ดูได้แบบไม่มีโฆษณาคั่น
iQiyi (อ้ายฉีอี้) สตรีมมิ่งใหญ่เปรียบได้กับ Netflix แห่งจีน ผู้ลงทุนเบื้องหลังคือ Baidu กำลังถูกสอบสวนโดย กลต.สหรัฐฯ หรือ SEC ว่ามีการโกงเลขรายได้และจำนวนผู้ใช้งานหรือไม่
การสืบสวนมาจากสำนักวิจัย Wolfpack Research กล่าวหาว่า iQiyi เพิ่มตัวเลขรายได้ในปี 2019 จากประมาณ 8 พันล้านหยวน (1.13 พันล้านดอลลาร์) เป็น 13 พันล้านหยวน (1.98 พันล้านดอลลาร์) หรือจาก 27% เป็น 44% และยังบอกด้วยว่าบริษัทโก่งตัวเลขผู้ใช้งานและค่าใช้จ่ายด้วย
บริษัทวิจัยตลาดแอป App Annie ได้เก็บข้อมูลแอปที่ไม่ใช่เกมแล้วผู้ใช้จ่ายเงินในแอปมากสุด 10 อันดับของปีนี้ตั้งแต่เดือนมกราคมถึงพฤศจิกายน 2019 ที่ผ่านมา มี Tinder, Netflix, Tencent Video (หรือ WeTV ในไทย) ครองสามอันดับแรกตามลำดับ
App Annie รายงานว่าโมเดลหาเงินแบบสมัครใช้บริการหาคู่สร้างรายได้ให้ Tinder มหาศาล ถ้าเทียบรายได้ของปี 2019 กับปี 2014 แล้ว Tinder นั้นเติบโตขึ้นถึง 920% และปีนี้ก็มีรายได้กว่า 2.2 พันล้านดอลลาร์ (ราว 66,440 ล้านบาท) นอกจากนี้ Tinder ก็เริ่มทดสอบให้ผู้ใช้จ่ายเงินโดยไม่ผ่าน Google Play อีกด้วย
Baidu รายงานผลประกอบการของไตรมาสที่ 3 ปี 2019 รายได้รวมเพิ่มขึ้น 3% จากช่วงเดียวกันในปีก่อนเป็น 3,929 ล้านดอลลาร์ แต่ขาดทุนสุทธิ 892 ล้านดอลลาร์
ในช่วงที่ผ่านมา Baidu พยายามสร้างรายได้จากธุรกิจอื่นนอกจากธุรกิจดั้งเดิมคือเสิร์ช ทำให้ค่าใช้จ่ายบริษัทเพิ่มสูงขึ้น ซึ่งก็เริ่มสะท้อนผลลัพธ์ โดยบริการวิดีโอสตรีมมิ่ง iQIYI มีผู้สมัครใช้งานเพิ่มขึ้นเป็น 105.8 ล้านบัญชี คิดเป็นรายได้มากกว่า 1 พันล้านดอลลาร์
รายได้จากธุรกิจหลักด้านการตลาดออนไลน์ (เสิร์ช-ข่าว) ลดลง 9% ส่วนจำนวนผู้ใช้งานแอป Baidu ผ่านมือถือเพิ่มเป็น 189 ล้านบัญชี
ที่มา: Reuters
ปีนี้นับเป็นช่วงเวลาที่โลกกำลังเข้าสู่สงครามสตรีมมิ่งรอบใหม่ หลังจาก Netflix สามารถสร้างฐานผู้ใช้ได้นับร้อยล้านราย ผู้เล่นรายใหญ่ทั้ง Disney+, Apple TV+, HBO Max, Peacock ต่างเตรียมจะเปิดบริการในเร็วๆ นี้ และยังมีบริการสตรีมมิ่งรายเดิมที่พยายามตีตื้น Netflix ขึ้นมาอย่าง Hulu, Amazon Prime Video, YouTube Original ซึ่งแต่ละเจ้าก็พยายามลงทุนทำซีรีส์ด้วยทุนสูงเพื่อดึงดูดผู้ใช้งาน ผู้บริโภคโดยเฉพาะฝั่งสหรัฐฯ จะมีทางเลือกจำนวนมาก และกำลังจะเข้าสู่สภาวะเลือกไม่ถูกเพราะมีให้เลือกดูเต็มไปหมด (แต่เวลาชีวิตมีเท่าเดิม)
iQiyi แพลตฟอร์มวิดีโอสตรีมมิ่งรายใหญ่ของจีน ที่มี Baidu เป็นจ้าของ เตรียมบุกตลาดต่างประเทศหลังบริษัทออกมาบอกว่าทำยอดผู้ใช้งานแบบจ่ายเงินได้ 100 ล้านรายแล้ว
Yang Xianghua ประธานด้าน Membership และตลาดต่างประเทศของ iQiyi เผยว่าประเทศที่เล็งไว้คือ อเมริกา ญี่ปุ่น สิงคโปร์ เกาหลีใต้ ซึ่งทางบริษัทพบความสนใจในคอนเทนต์จีนในประเทศดังกล่าวมากขึ้น
สหรัฐฯ เคยถูกรัสเซียแทรกแซงการเลือกตั้งในประเทศโดยใช้ Facebook ไต้หวันเองก็เตรียมรับมือกับปรากฏการณ์นี้ด้วย โดยไต้หวันเตรียมจะแบนวิดีโอสตรีมมิ่งของจีนจาก Baidu และ Tencent เพราะเกรงว่าจะมีเนื้อหาที่เป็นโฆษณาชวนเชื่อแทรกแซงการเลือกตั้งไต้หวันที่กำลังจะมีขึ้นในปี 2020
นาย Chiu Chui-Cheng รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงกิจการแผ่นดินใหญ่ของไต้หวันบอกว่า รัฐบาลเตรียมจะแบน iQiyi สตรีมมิ่งรายใหญ่ของจีนที่มี Baidu เป็นเจ้าของ รวมทั้งจะปิดกั้นการเข้ามาของสตรีมมิ่งจาก Tencent ที่จะเข้ามาตีตลาดในไต้หวันในปลายปีนี้ ด้วยเกรงว่าเนื้อหาสตรีมมิ่งจะมีอิทธิพลทางวัฒนธรรมและการเลือกตั้งในไต้หวัน ซึ่งเป็นไปได้มากว่า เนื้อหาจะมีส่วนหนึ่งที่เป็นส่วนหนึ่งของแคมเปญโฆษณาชวนเชื่อของจีน หรืออาจมีข้อความเนื้อหาที่เชื่อมโยงกับพรรคคอมมิวนิสต์จีน
iQiyi แพลตฟอร์มวิดีโอสตรีมมิ่งรายใหญ่ที่สุดของจีน ประกาศยกเลิกการแสดงจำนวนยอดวิวของวิดีโอบนแพลตฟอร์ม โดยให้เหตุผลว่าเพื่อให้แพลตฟอร์มมีการแนะนำคอนเทนต์ที่มีคุณภาพสูงสุด
โดย iQiyi บอกว่าการแสดงตัวเลขยอดวิวทำให้เกิดการพยายามปั่นตัวเลข ซึ่งทำให้คอนเทนต์ที่ไม่ดีมีโอกาสถูกแนะนำขึ้นมา โดยระบบจะเปลี่ยนมาใช้สิ่งที่เรียกว่า Heat Value มาใช้ในการแนะนำวิดีโอที่ได้รับความนิยม ซึ่งวัดจากจำนวนแชร์, คอมเมนต์, ไลค์ ซึ่งเป็นตัวชี้วัดที่ดีกว่าการใช้เลขยอดวิวอย่างเดียว