ต่อเนื่องจากข่าว ประเมินยอดสั่งซื้อ Kindle Fire วันแรก 95,000 เครื่อง โดยบริษัท eDataSource
ล่าสุดมีบริษัทวิจัยตลาดอีกแห่งคือ Strategy Analysis ออกมาประเมินว่ายอดขาย Kindle Fire ทุกรุ่นทั่วโลกจะอยู่ที่ 15 ล้านเครื่อง (นับถึงสิ้นปี 2013)
หมายเหตุ: ตัวเลขนี้เป็นการประเมินของนักวิเคราะห์ภายนอก ไม่ใช่ตัวเลขอย่างเป็นทางการของ Amazon ครับ
ถึงแม้ Kindle Fire จะยังไม่ส่งมอบเครื่องจนกว่าจะถึงช่วงกลางเดือนพฤศจิกายน และยังเปิดให้สั่งซื้อล่วงหน้าเฉพาะลูกค้าในสหรัฐเท่านั้น แต่ด้วยราคาเพียง 199 ดอลลาร์ หลายคนคงคิดเหมือนกันว่ามันน่าจะ "ขายดี"
บริษัทวิจัยตลาด eDataSource เป็นรายแรกที่ออกมาประเมินว่า ยอดสั่งซื้อ Kindle Fire วันแรกหลังเปิดให้สั่งบนหน้าเว็บ อยู่ที่ 95,000 เครื่อง ตัวเลขนี้มาจากการเก็บข้อมูลอีเมลของผู้บริโภค (เข้าใจว่าเป็นอีเมลที่ผู้บริโภคยินยอมให้เก็บนะครับ) และดูจากอีเมลที่เป็นใบเสร็จของการสั่งซื้อ
ราคา 199 ดอลลาร์ของ Kindle Fire อาจทำให้หลายคนฉงนสงสัยว่าทำได้อย่างไรกัน (ซึ่ง Amazon ก็คงไม่ยอมบอก) ก่อนหน้านี้มีนักวิเคราะห์ออกมาประเมินแล้วว่า Amazon ขายขาดทุนเครื่องละ 50 ดอลลาร์
หลังจากที่ Amazon เปิดตัวแท็บเล็ต Kindle Fire ด้วยราคาเพียง 199 ดอลลาร์ ทำให้เห็นว่า Amazon เลือกบุกตลาดแท็บเล็ตโดยวางตำแหน่งที่แตกต่างจาก iPad ของแอปเปิล แต่ถึงอย่างนั้นก็มีคนอื่นที่รู้สึกเดือดร้อนอยู่ดี
มีรายงานการประเมินจาก Gene Munster นักวิเคราะห์จาก Piper Jaffray ว่าอเมซอนอาจต้องขาดทุนจากการขาย Kindle Fire เครื่องละ $50
แม้ว่าจากตัวเลขนี้จะดูน่าเป็นห่วง แต่จริงๆ แล้วเรื่องราวอาจไม่ได้แย่อย่างที่คิด เพราะโมเดลการหารายได้หลักของอเมซอนอยู่ที่การขายเนื้อหาและบริการมากกว่า ซึ่งจุดนี้ดูจะเป็นจุดเด่นของอเมซอนที่น่าจะได้เปรียบกว่าแพลตฟอร์มคู่แข่งอื่นๆ อยู่พอสมควร ด้วยเหตุนี้ การใช้ราคาเป็นจุดขายสำคัญน่าจะเป็นทางเลือกที่ดีที่สุดแล้วของอเมซอนในปัจจุบัน
สำนักข่าว Bloomberg ปล่อยข่าวของแท็บเล็ต Kindle Fire มาก่อนการแถลงข่าวในคืนนี้
แท็บเล็ตตัวนี้ใช้หน้าจอขนาด 7" รองรับมัลติทัชสองจุด, พื้นที่เก็บข้อมูล 8GB, ไม่มีกล้องหรือไมโครโฟน, ไม่มี 3G ต่อได้แต่ Wi-Fi เท่านั้น ฟังดูจำกัดมาก แต่จุดขายของมันคือ ราคา เพียง 199 ดอลลาร์ หรือประมาณ 6 พันบาท
Kindle Fire ใช้ระบบปฏิบัติการ Android รุ่นปรับแต่งพิเศษ และผูกกับบริการสารพัดชนิดของ Amazon ไม่ว่าจะเป็น Amazon Appstore, Kindle e-book และมีสมาชิก Amazon Prime (บริการส่งของด่วน+สตรีมหนังเพลง) ให้ทดลองใช้ 30 วัน (ราคาเต็ม 79 ดอลลาร์ต่อปี)
Jeff Bezos ผู้ก่อตั้งและซีอีโอของ Amazon ให้สัมภาษณ์ว่า "เราไม่มองว่ามันเป็นแท็บเล็ต มันคือบริการของเราต่างหาก"