หลังจาก Instagram นั้นมียอดแชร์วิดีโอแซง Vine ไปแล้ว Twitter คงฮึดสู้อีกครั้งใหญ่ โดยออกแอพ Vine บน Kindle Fire เป็นที่เรียบร้อย

การที่ Vine ลง Kindle Fire นี้ น่าจะได้เปรียบ Instagram ไปแล้วส่วนหนึ่ง เนื่องจาก Kindle Fire เป็นแท็บเล็ตยอดนิยมที่กินส่วนแบ่งตลาดไม่น้อยเลยทีเดียว และนี่ก็อาจเป็นสัญญาณที่ดีที่ Twitter น่าจะนำ Vine มาลงในแพลตฟอร์มอื่น ๆ เช่น Windows Phone และ BlackBerry 10 อีกด้วย ซึ่งน่าจะทำให้ Vine ได้เปรียบมากขึ้นไปอีก เพราะ Instagram นั้นมีแอพแค่ 2 แพลตฟอร์ม คือ iOS และแอนดรอยด์ (แต่ 2 แพลตฟอร์มนี้รวมกันก็ไม่น้อยเลยทีเดียว)

หลังจากที่ Amazon เปิดให้บริการ Amazon Appstore เกือบ 200 ประเทศทั่วโลก แฟน ๆ ในไทยหลายคนต่างก็ตั้งหน้าตั้งตาว่าเมื่อไหร่ แท็บเล็ตจาก Amazon อย่าง Kindle Fire จะมาวางขายในไทยอย่างเป็นทางการเสียที ล่าสุด Amazon ประกาศเปิดให้จอง Kindle Fire HD ทั้งรุ่น 7 นิ้ว และ 8.9 นิ้วใน 170 ประเทศทั่วโลก (แน่นอน มีประเทศไทยด้วย!) ผ่านหน้าเว็บไซต์ของ Kindle Fire HD และจะจัดส่งวันที่ 13 มิถุนายนนี้

ช่วงนี้มีกระแสข่าวลือว่า Amazon จะวางขายแท็บเล็ต Kindle Fire HD ในราคาถูกเหลือเชื่อที่ 99 ดอลลาร์ (ประมาณ 3,000 บาท)

ล่าสุดโฆษกของ Amazon ออกมาปฏิเสธข่าวนี้แล้ว โดยระบุชัดเจนว่าราคาของ Kindle Fire HD ที่ 199 ดอลลาร์ (ประมาณ 6,000 บาท) ถือว่าต่ำที่สุดเท่าที่จะทำได้แล้วสำหรับต้นทุนการผลิตฮาร์ดแวร์ในปัจจุบัน

เว็บไซต์ Business Insider ตั้งข้อสังเกตว่า Amazon ใช้คำว่า "ฮาร์ดแวร์ในปัจจุบัน" (ต้นฉบับคือ that
hardware) แปลว่ายังอาจมีความเป็นไปได้ที่เราจะเห็น Kindle Fire 99 ดอลลาร์ด้วยฮาร์ดแวร์ใหม่ที่ต้นทุนถูกกว่าเดิมอีก

ที่มา - Business Insider

บริษัทโฆษณาออนไลน์ Chitika เผยสถิติที่น่าสนใจของวงการเว็บของสหรัฐและแคนาดา ในช่วงคริสต์มาสปลายปี 2012 ซึ่งเป็นช่วงที่คนซื้อสินค้าไฮเทคเป็นของขวัญให้กันเยอะมาก

• แท็บเล็ตที่คนใช้เข้าเว็บ (คิดเป็นสัดส่วน) มากที่สุดคือ iPad ซึ่งครองส่วนแบ่งมากถึง 78.86% ในกลุ่มแท็บเล็ตด้วยกัน แต่ตัวเลขนี้กลับลดลง 7.14% เมื่อเทียบกับตัวเลขช่วงก่อนคริสต์มาส
• แท็บเล็ตอันดับสอง Kindle Fire ครองส่วนแบ่ง 7.51% แต่ตัวเลขเพิ่มขึ้น 3.03%
• แท็บเล็ตอันดับสาม Galaxy Tab (นับรวมทุกขนาด) ครองส่วนแบ่ง 4.39%

สำหรับสมาร์ทโฟนที่มีส่วนแบ่งเพิ่มขึ้นมากที่สุดในช่วงคริสต์มาสคือ iPhone 5 ตามคาด ครองส่วนแบ่ง 8.27% (เพิ่มขึ้น 1.11%) ตามด้วย Galaxy S III ครองส่วนแบ่ง 4.29% (เพิ่มขึ้น 1%)

Amazon เผยสถิติที่น่าสนใจของ Amazon Appstore ดังนี้

• ยอดดาวน์โหลดแอพเพิ่มขึ้น 500% เมื่อเทียบกับปีก่อน เป็นผลมาจาก Kindle Fire นั่นเอง
• จำนวนเกมที่รองรับ GameCircle เพิ่มขึ้นเท่าตัว หลัง Kindle Fire HD วางขาย
• ยอดดาวน์โหลด SDK สำหรับฟีเจอร์ in-app purchase และ GameCircle เพิ่มขึ้นเท่าตัวหลัง Kindle Fire HD วางขาย
• แอพ 23 ตัวจากแอพรายได้สูงสุด 25 อันดับแรก ใช้เทคโนโลยี in-app purchase ของ Amazon

ที่มา - Amazon

ผู้ใช้กลุ่มเด็กเป็นตลาดที่ Amazon เน้นมากในช่วงหลัง โดย Kindle Fire HD เองก็มีโหมดชื่อ FreeTime สำหรับพ่อแม่กำหนดเนื้อหาให้ลูกใช้งานบนแท็บเล็ต

ล่าสุด Amazon เปิดบริการตัวใหม่ชื่อ Kindle FreeTime Unlimited หรืออธิบายง่ายๆ คือเป็นบริการดาวน์โหลดเนื้อหา (แอพ-เกม-หนังสือ-หนัง-รายการทีวี) สำหรับเด็กอายุ 3-8 ปีได้ไม่จำกัดจำนวน โดยคิดราคา 4.99 ดอลลาร์ต่อเดือนต่อบัญชีของเด็กหนึ่งคน หรือจะจ่ายเหมา 9.99 ดอลลาร์ต่อเดือนต่อครอบครัวก็ได้ (ถ้าเป็นสมาชิก Amazon Prime อยู่แล้วจะมีส่วนลดพิเศษ)

IHS iSuppli เผยว่า ต้นทุนผลิต Surface with Windows RT รุ่น 32 กิกะไบต์ กับ Kindle Fire HD ดังนี้

• Surface with Windows RT รุ่น 32 กิกะไบต์ มีต้นทุนที่ 271 ดอลลาร์ หรือราว 8,300 บาท โดยชิ้นส่วนจากซัมซุงอย่างหน้าจอ หน่วยความจำ และแบตเตอรี่นั้นมีต้นทุนรวมที่ 137 ดอลลาร์ หรือครึ่งหนึ่งของต้นทุน Surface รุ่น 32 กิกะไบต์ ส่วน Touch Cover เพียง 16 ดอลลาร์ หรือราว 490 บาทเท่านั้น
• Kindle Fire HD มีต้นทุนอยู่ที่ 165 ดอลลาร์ หรือราว 5,055 บาท

อนึ่ง ราคาขาย Surface with Windows RT รุ่น 32 กิกะไบต์ แบบไม่มี Touch Cover อยู่ที่ 499 ดอลลาร์ ส่วนราคาของ Touch Cover แยกขายต่างหาก อยู่ที่ 120 ดอลลาร์ และราคาขาย Kindle Fire HD อยู่ที่ 199 ดอลลาร์

สิ้นสุดการรอคอย Blendtec เจ้าของรายการ Will It Blend จับ iPad mini, Nexus 7 และ Kindle Fire HD มาแข่งกันว่าใครถูกปั่นไวกว่ากัน (ดูวิดีโอได้ท้ายเบรกครับ)

รายการ Will It Blend เป็นซีรีย์ที่มียอดคนดูรวมกันสูงถึง 200 ล้านครั้งแล้ว และถือเป็นรายการที่ประสบความสำเร็จมากที่สุดรายการหนึ่งบนโลกออนไลน์

ที่มา : Mashable

หลังจาก Amazon ออกมาบอกว่า Kindle Fire HD ขายดีที่สุดในวันที่ iPad mini เปิดตัว บริษัทก็ตามซ้ำด้วยกระสุนชุดที่สอง โดยลงตารางเปรียบเทียบระหว่าง Kindle Fire HD และ iPad mini บนหน้าแรกของ Amazon.com ให้เห็นกันชัดๆ

Amazon ใช้คำโปรยว่า Much More for Much Less ชูจุดขายว่า Kindle Fire HD ใช้จอความละเอียดสูงกว่า iPad mini (216 ppi ต่อ 163 ppi), มีระบบเสียงสเตอริโอ และเชื่อมต่อ Wi-Fi ได้เร็วกว่าด้วยเสาอากาศแบบ MIMO

ส่วนราคาของ Kindle Fire HD ก็ถูกกว่าคือ 199 ดอลลาร์ เทียบกับ iPad mini 329 ดอลลาร์

เราเห็นไมโครซอฟท์กับแอปเปิลออกมาเปิดสงครามน้ำลายระหว่างกันไปเยอะแล้ว ล่าสุด Amazon ที่ต้องเผชิญกับการแข่งขันของ iPad mini ก็ออกมาสยบกระแส ด้วยการประกาศว่า "Kindle Fire HD รุ่น 199 ดอลลาร์ มียอดขายสูงสุดเป็นประวัติการณ์ในวันที่ iPad mini เปิดตัว"

Amazon ไม่ยอมเปิดเผยตัวเลขของ Kindle ทุกชนิดเช่นเคย บอกเพียงว่ายอดขายของ Kindle Fire HD ในวันดังกล่าวเพิ่มขึ้น 3 เท่าตัวจากสัปดาห์ก่อนหน้านั้น

ที่มา - AllThingsD

Amazon.com ออกมาประกาศว่าแท็บเล็ตรุ่นล่าสุด Kindle Fire HD ทะยานขึ้นมาเป็นสินค้าขายดีอันดับหนึ่งของ Amazon ทั่วโลก อย่างไรก็ตามทางบริษัทก็ไม่ยอมเปิดเผยตัวเลขยอดขายเช่นที่แล้วๆ มา

ในข่าวเดียวกับ Amazon ยังประกาศอัพเดตซอฟต์แวร์ของ Kindle Fire HD ให้เพิ่มฟีเจอร์ FreeTime สำหรับพ่อแม่ควบคุมการใช้งานแท็บเล็ตของลูกๆ ด้วย

นอกจากนี้ Amazon ยังเตรียมวางขาย Kindle Fire HD รุ่นหน้าจอ 8.9" ที่ใหญ่ขึ้นกว่ารุ่นแรกในวันที่ 20 พฤศจิกายนนี้ ตั้งราคา 299 ดอลลาร์ครับ

Amazon อาจเป็นคู่แข่งที่น่ากลัวของกูเกิลในหลายวงการ และล่าสุดก็จับมือกับไมโครซอฟท์ นำ Bing มาเป็นเครื่องมือค้นหาหลักของ Kindle Fire จนเริ่มมีเสียงวิจารณ์ว่า Amazon อาจเปิดสงครามกับกูเกิลเต็มตัวในเร็วๆ นี้

แต่ Jeff Bezos ผู้ก่อตั้งและซีอีโอของ Amazon ก็ให้สัมภาษณ์ว่าบริษัทของเขายังรักกันดีอยู่กับแอนดรอยด์

Bezos บอกว่าเขามองแอนดรอยด์เป็นเหมือนลินุกซ์ คือเป็นระบบปฏิบัติการพื้นฐาน และมีทีมพัฒนาขนาดใหญ่ปรับแต่งแอนดรอยด์ออกมาอย่างที่เห็นบน Kindle Fire

เขาการันตีว่า Amazon ไม่มีแผนจะย้ายไปใช้ระบบปฏิบัติการตัวอื่น เพราะ "เรารักแอนดรอยด์"

ก่อนที่ใครจะขายอุปกรณ์ที่มีการรับส่งคลื่นวิทยุในสหรัฐอเมริกา อุปกรณ์นั้นจำเป็นจะต้องผ่านการตรวจสอบจาก FCC (คล้ายๆ กสทช.

Google ซึ่งขึ้นชื่อในด้าน Search Engine มานาน แต่รายรอง ๆ อย่าง Bing ก็ไม่ยอมแพ้ ซึ่งตอนนี้ Amazon ได้ใช้ Bing เป็น Search Engine หลักใน Kindle Fire HD แล้ว ซึ่งนี่เป็นการเรียกลูกค้าเข้ามายัง Bing ได้มากขึ้นนั่นเอง

และแน่นอนว่า Google และ Yahoo! ก็ยังคงเป็นออฟชั่นเสริมที่สามารถเลือกเปลี่ยนทีหลังได้

ที่มา: Gizmodo

"We're the People with the Smile on the Box" คือประโยคแรกใน คลิปวิดีโอ เปิดตัวของงานแถลงสินค้าตัวใหม่จาก Amazon.com ในวันที่ 6 กันยายน 2555 ณ เมือง Santa Monica รัฐ California หลังจากโฆษณาตัวนี้จบ, Jeff Bezos ผู้ก่อตั้ง และ CEO ของ Amazon.com ก็ออกมาพร้อมคำพูดที่ทักทายผู้ชมอย่างเป็นกันเองว่า "Thank you for joining us in Santa Monica this morning, Beautiful day."

สำหรับใครที่สนใจดูงานเปิดตัวแบบเต็มๆ สามารถดูได้ที่ http://bit.ly/OfCfkK ครับ (สามารถกด CC ใต้วิดีโอ เพื่อเปิดคำบรรยายใต้ภาพได้นะครับ)

เก็บตกประเด็นที่น่าสนใจในงานเปิดตัว Kindle Fire HD ที่ยังไม่ได้ลงเป็นข่าวใน Blognone ครับ

นอกจากเปิดตัวแท็บเล็ตใหม่แล้ว Amazon ยังเผยซอฟต์แวร์ใหม่ๆ สำหรับใช้ร่วมกับซีรีส์ Kindle Fire ด้วย เนื่องจากแต่ละตัวมีรายละเอียดพอสมควร เลยจับมาเขียนรวมกันเลยครับ

Whispersync for Voice และ Immersion Reading

สองฟีเจอร์ใหม่สำหรับผู้ใช้หนังสือเสียงบน Kindle โดยตัว Whispersync for Voice ทำหน้าที่เหมือนกับ Whispersync ตัวอื่นๆ คือซิงก์ว่าตอนนี้ฟังไปถึงช่วงไหนแล้ว และสามารถฟังต่อได้จากช่วงที่หยุดไป แม้ว่าจะเป็นคนละเครื่องก็ตาม

ส่วน Immersion Reading จะช่วยเน้นข้อความที่กำลังฟังอยู่ โดยร่วมมือกันพัฒนาระบบนี้กับเว็บไซต์ Audible.com

Whispersync for Games

นอกจาก Kindle Fire HD รุ่นธรรมดาแล้ว Amazon ยังเปิดตัวอีกรุ่นที่สามารถเชื่อมต่อกับเครือข่าย 4G LTE ของ Amazon เองอีกด้วย

สเปคของ Kindle Fire HD 4G LTE เหมือนกับรุ่น HD 8.9" เกือบทุกอย่าง ยกเว้นเพิ่มความจุเริ่มต้นเป็น 32GB และรุ่น 64GB เข้ามา พร้อมทั้งสามารถเชื่อมต่อ LTE ได้ทุกย่านสัญญาณ (Amazon บอกว่ารองรับ 10 ย่าน)

Amazon เปิดตัวแท็บเล็ต Kindle Fire รุ่นใหม่อย่างเป็นทางการแล้ว มาในชื่อ Kindle Fire HD สองขนาดหน้าจอ 7" และ 8.9" ส่วนรุ่นก่อนหน้าอย่าง Kindle Fire ก็อัพสเปคเพิ่มขึ้นมาด้วย

Kindle Fire HD

KIndle Fire HD เป็นแท็บเล็ตใหม่ของ Amazon ที่เน้นประสิทธิภาพ หน้าจอความละเอียดสูง และยังคงจุดเด่นเรื่องคอนเทนต์ และแบตเตอรี่เช่นเคย สเปคมีดังนี้ครับ

เว็บไซต์ The Verge เปิดเผยภาพล่าสุดของ Amazon Kindle Fire (มาจากแหล่งเดียวกันกับ Kindle with Paperwhite นั้นแหละ) ซึ่งในภาพนี้บอกไว้ด้วยว่ามีกล้องหน้าแล้ว และมีขนาดทั้ง 7 นิ้วและ 10 นิ้ว

ดูจากภาพแล้วไม่น่าจะแตกต่างจากรุ่นแรกเท่าไรนัก แต่ผู้อ่านก็คงจะเดาได้ว่า Kindle Fire ตัวนี้ต้องการต่อกรกับ Nexus 7 นั้นเอง จึงไม่น่าแปลกใจว่าทำไมถึงต้องมีกล้องหน้า สุดท้ายจะเป็นอย่างที่หลุดหรือไม่ ติดตามได้วันที่ 6 กันยายนนี้ครับ

สำนักข่าวรอยเตอร์สได้รับรายงานจากแหล่งข่าวลับแห่งหนึ่งว่า Amazon ติดต่อกับ Nokia เพื่อใช้ Nokia Maps ใน Kindle Fire รุ่นต่อไป โดยคาดว่าจะใช้ทั้งระบบแผนที่และระบบนำทาง

ทั้งนี้สำนักข่าว Engadget ตั้งข้อสังเกตว่า Amazon ต้องการลดการพึ่งพาจาก Google และต้องการเกิด ecosystem ใหม่ แต่ข่าวนี้จะจริงหรือไม่ต้องติดตามดูวันที่ 6 กันยายนนี้ครับ

ที่มา : สำนักข่าวรอยเตอร์ส ผ่าน Engadget

เป็นสัญญาณชัดเจนแล้วว่า Amazon เตรียมเปิดตัวแท็บเล็ตรุ่นใหม่อย่างแน่นอนแล้ว หลังจากประกาศว่า Kindle Fire ที่วางขายมาราว 9 เดือนนั้นขายหมดเรียบร้อยแล้ว

Jeff Bezos ซีอีโอของ Amazon บอกว่าตลอดเวลากว่า 9 เดือนที่ผ่านมา Kindle Fire กลายเป็นสินค้าขายดีอันดับหนึ่ง ที่มีลูกค้ากว่าหมื่นรายให้คะแนนเต็มดาวห้าดวง และกินส่วนแบ่งตลาดแท็บเล็ตในสหรัฐฯ ไปถึง 22%

ส่วนรุ่นใหม่จะเป็นอย่างไร อดใจรอดูวันที่ 6 กันยายนนี้

ที่มา - BusinessWire

Amazon ส่งบัตรเชิญนักข่าวร่วมงานแถลงข่าวในวันที่ 6 กันยายนนี้ (หลังงาน Windows Phone 8 เพียงวันเดียว) โดยยังไม่ระบุว่าเป็นการแถลงข่าวเกี่ยวกับอะไร

แต่รอบการออกผลิตภัณฑ์ตระกูล Kindle ของ Amazon ในอดีตก็อยู่ที่ช่วงเวลานี้ของปี และช่วงไม่กี่เดือนที่ผ่านมาเราก็เห็นข่าวลือของ Kindle Fire รุ่นใหม่กันมาตลอด (ข่าวล่าสุด) ต้องรอติดตามกันต่อไปอีกไม่นานเกินรอครับ

ที่มา - Computerworld

ข่าวลือของ Kindle Fire 2 (เรียกแบบนี้ละกัน) ยังมีออกมาเรื่อยๆ หลังจากที่กูเกิลเปิดตัว Nexus 7 คราวนี้มีรายละเอียดเพิ่มเติมจากข่าวก่อนๆ ที่มักจะบอกว่ามีสองรุ่น ขายกันยายน ว่า Kindle Fire 2 จะมีสองขนาดหน้าจอ และแบ่งอย่างน้อยสามรุ่นย่อย จากบริษัท NPD DisplaySearch ที่ได้ข้อมูลมาจากซัพพลายเออร์ที่กำลังผลิตอุปกรณ์ให้รุ่นดังกล่าวอยู่

สองขนาดหน้าจอที่ว่าคือ 7" และ 8.9" และจะแบ่งรุ่นตามความละเอียดหน้าจอ กล้อง และรองรับ 4G ได้แบบนี้

CNET รายงานโดยอ้างแหล่งข่าวว่า อเมซอนจะจัดงานเปิดตัว Kindle Fire รุ่นใหม่ในวันที่ 31 กรกฎาคมนี้ โดย Kindle Fire รุ่นใหม่จะมีกล้องและปุ่มควบคุมระดับเสียงบนตัวเครื่อง (รุ่นปัจจุบันมีแต่ปุ่มบนหน้าจอสัมผัสเท่านั้น) แต่แหล่งข่าวก็ไม่ได้กล่าวถึงสเปคด้านอื่น อาทิ ความละเอียดของหน้าจอ ซีพียู การรองรับบลูทูธ หรือหน่วยความจำภายใน เป็นต้น

แหล่งข่าวอีกรายให้ข้อมูลกับ CNET ว่า อเมซอนน่าจะเดินตามกลยุทธ์ของแอปเปิล คือ เพิ่มฟีเจอร์ใหม่ ปรับปรุงประสิทธิภาพให้กับฮาร์ดแวร์และซอฟต์แวร์ แต่ยังคงขายสินค้ารุ่นใหม่ในราคาเดิม

ที่มา: CNET