ข่าวการขายหุ้น IPO ที่น่าจับตามองคือ LINE ที่จะขายหุ้นวันที่ 15 กรกฎาคมนี้ คาดว่าจะระดมทุนได้ราว 1 พันล้านดอลลาร์ และน่าจะเป็นการขายหุ้น IPO ที่ใหญ่ที่สุดในปี 2016 นี้

อย่างไรก็ตาม ในแวดวงนักลงทุนกลับประเมินว่า LINE กำลังเผชิญปัญหาการเติบโตช้าลง โดยบริษัท Bayview Asset Management มองว่า LINE มีฐานที่มั่นใน 4 ประเทศคือญี่ปุ่น ไต้หวัน ไทย อินโดนีเซีย ซึ่งมีเพียงอินโดนีเซียประเทศเดียวที่ยังโตได้อีก นอกจากนี้นักลงทุนอีกรายหนึ่งที่ยังไม่ระบุชื่อแสดงความเห็นว่าโมเดลธุรกิจของ LINE ยังมีแค่การโฆษณาเพียงอย่างเดียว และยังไม่มีโมเดลการทำเงินแบบอื่นๆ ให้เห็นด้วย

วันนี้ LINE ประกาศวันขายหุ้น IPO แล้ว เป็นวันที่ 15 กรกฎาคม (ตรงกับ 14 กรกฎาคมในสหรัฐ) สำหรับตลาดหุ้นทั้งในกรุงโตเกียวและนิวยอร์ก

LINE ตั้งราคาเริ่มต้นที่หุ้นละ 26.21 เหรียญสหรัฐและตั้งเป้าว่าจะระดมทุนได้ไม่ต่ำกว่า 917 ล้านเหรียญสหรัฐ ซึ่งอาจทำให้ LINE เป็น IPO ที่ใหญ่ที่สุดของปีนี้ และจะทำให้บริษัทมีมูลค่าเกินกว่า 5 พันล้านเหรียญสหรัฐ

LINE มีผู้ใช้รายเดือนอยู่ที่ราว 218.4 ล้านคน แต่ทว่าในช่วงปีที่ผ่านมา จำนวนผู้ใช้รายเดือนเพิ่มขึ้นเพียง 13 ล้านคน ซึ่งถือว่าน้อยมากเมื่อเทียบกับ WhatsApp และ Facebook Messenger ที่มีผู้ใช้รายเดือนเพิ่มขึ้นหลายร้อยล้านคน

ช่วงงาน LINE Conference Tokyo 2016 ที่ผ่านมา LINE ได้แถลงข่าวเปิดตัว Pop-Up Stickers หรือสติกเกอร์ที่แสดงเต็มจอหน้ามือถือพร้อมดุ๊กดิ๊กได้ ล่าสุด LINE เริ่มปล่อยสติกเกอร์ประเภทนี้ลงขายแล้ว โดยชุดแรกนี้มีชื่อว่า Brown & Cony’s Big Love Stickers ในราคา 100 LINE Coin สามารถซื้อและดาวน์โหลดไปใช้งานได้แล้ว

ข้อสำคัญคือผู้ใช้ต้องอัพเดตแอพ LINE บนมือถือทั้งระบบ iOS และ Android เป็นเวอร์ชั่น 6.3.0 ขึ้นไปก่อนใช้ เพื่อให้ฟีเจอร์นี้สามารถทำงานได้สมบูรณ์

ที่มา : LINE Blog

สำนักข่าว Reuters รายงานว่า LINE จะจัดโรดโชว์เพื่อเตรียมขายหุ้นไอพีโอ ที่ตลาดหลักทรัพย์นิวยอร์ก และตลาดหลักทรัพย์โตเกียว ตั้งแต่วันที่ 10 มิถุนายนนี้ และราคาหุ้นจะถูกประกาศภายใน 1-2 สัปดาห์ต่อมา (ก่อนหน้านี้มีข่าวลือแต่ไม่ระบุช่วงเวลา)

ประเด็นที่น่าสนใจคือมูลค่าไอพีโอนั้นคาดว่า LINE จะระดมทุนได้ราว 2,000-3,000 ล้านดอลลาร์ ซึ่งหากเป็นไปตามแผนนี้ LINE จะกลายเป็นหุ้น IPO ที่ใหญ่ที่สุดของปีนี้

LINE มีผู้ใช้งานเป็นประจำทุกเดือน (MAUs) 218.4 ล้านคน อย่างไรก็ตาม LINE ถูกเปรียบเทียบกับ WhatsApp มากในเรื่องการเติบโต เพราะช่วง 12 เดือนที่ผ่านมา LINE มีผู้ใช้งานเพิ่มขึ้นราว 13 ล้านคนเท่านั้น

ที่มา: Reuters และ Tech In Asia

LINE เปิดตัวแอพวิดีโอเซลฟี่ที่มาพร้อมเอฟเฟกต์ต่างๆ ในชื่อ egg โดยผู้ใช้สามารถเลือกใช้เอฟเฟกต์ได้มากถึง 50 แบบไม่ว่าจะเป็นหน้าสัตว์, หน้าผีหรือหน้าน่ารักๆ ก็เลือกใช้งานได้ทันที นอกจากนี้ยังสามารถเลือกเอฟเฟกต์เล็กๆ น้อยๆ เพิ่มเข้าไปในวิดีโอได้เพื่อสร้างความแตกต่างของวิดีโอ และแอพ egg ยังมาพร้อมกับเอฟเฟกต์ดังอย่างการสลับหน้ากับคนอื่นอีกด้วย หลังจากนั้นเมื่อผู้ใช้บันทึกวิดีโอเสร็จก็สามารถเลือกแชร์คลิปไปยัง LINE, Facebook, Twitter หรือ Instagram ได้อีกด้วย

เปิดให้ดาวน์โหลดใช้งานได้ฟรีแล้วบน iOS และ Android หรือดูรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ http://egg.line.me/

ที่มา : LINE Blog

LINE เปลี่ยนชื่อบริการสะสมแต้ม LINE Free Coins เป็น LINE Points ตามที่เคยประกาศไว้เมื่อเดือนมีนาคม

รูปแบบการใช้งาน LINE Points ยังเหมือนเดิม (เปลี่ยนแค่ชื่อเรียก) นั่นคือสะสมแต้มจากการชมโฆษณาหรือการใช้บริการต่างๆ ในเครือ LINE แล้วนำแต้มไปแลกซื้อสินค้าหรือสติ๊กเกอร์ได้

หมายเหตุ: บริการที่เปลี่ยนชื่อคือ LINE Free Coins ไม่ใช่ LINE Coins ที่เป็นบริการคนละตัวกัน และผู้ใช้ยังสามารถนำ Points ไปแลก Coins ซึ่งเปรียบได้กับสกุลเงินในโลกของ LINE ได้เช่นเดิม

หลังเปิดให้บริการ LINE@ ทั้งแบบฟรีและแบบแพ็คเกจที่จำกัดจำนวนข้อความที่ร้านค้าสามารถส่งได้ในแต่ละเดือน ล่าสุด LINE ได้เพิ่มแพ็คเกจมาให้อีก 2 แพ็คเกจคือแบบ Pro และ Pro+ ที่ไม่จำกัดจำนวนข้อความแล้ว

สำหรับแพ็คเกจ Pro จะจำกัดจำนวนผู้ติดตามที่ 50,000 คน ขณะที่ Pro+ จำกัดจำนวนสมาชิกที่ไม่เกิน 300,000 คน แต่ทั้งสองแพ็คเกจสามารถส่งข้อความหาสมาชิก รวมถึงโพสต์บนวอลของร้านได้ไม่จำกัด โดยราคาแพ็คเกจ Pro อยู่ที่เดือนละ 1,998 บาทและ Pro+ อยู่ที่เดือนละ 6,888 บาท

ส่วนแพ็คเกจเดิมแบบไม่คิดเงิน แต่จำกัดปริมาณการส่งข้อความที่ 1,000 ข้อความต่อเดือน และแพ็คเกจ Basic ที่ส่งข้อความได้เดือนละ 50,000 ข้อความในค่าบริการเดือนละ 998 บาทยังคงมีอยู่ให้เช่นเดิมครับ

เมื่อวานนี้ LINE บน Windows 10 มีอัพเดตโดยไม่ได้ระบุรายละเอียดการปรับเปลี่ยน แต่เมื่ออัพเดตจะพบฟีเจอร์ใหม่สองอย่าง คือ สามารถพิมพ์ตอบผู้สนทนาได้ทันทีจากการแจ้งเตือน (notification) โดยไม่ต้องเปิดแอปขึ้นมา และ Live Tiles สามารถแสดงข้อความและภาพโปรไฟล์ของผู้ส่งข้อความที่ยังไม่ถูกเปิดอ่านได้แล้ว

อัพเดตแอปได้จาก Windows Store ครับ

ที่มา: MSPoweruser

LINE ประเทศไทย เปิดตัวแอพใหม่ LINE MAN อย่างเป็นทางการ แอพตัวนี้สร้างขึ้นเพื่อต่อยอด วิสัยทัศน์ Beyond Chat ไปไกลกว่าการแชท แนวคิดคือเชื่อมต่อโลกออนไลน์กับออฟไลน์เข้าด้วยกัน (Online-to-Offline หรือ O2O)

LINE MAN คือแอพเรียกผู้ช่วยส่วนตัวมาช่วยทำงานให้เรา (LINE พาร์ทเนอร์กับ Lalamove ที่เชี่ยวชาญเรื่องนี้อยู่แล้ว) ในระยะเบื้องต้น "มนุษย์ LINE" ช่วยงานเราได้ 3 อย่าง

LINE Thailand ประกาศตั้งทีมพัฒนาของตัวเองเป็นครั้งแรก และประกาศรับสมัครนักพัฒนาชาวไทยแล้ว

เดิมทีผลิตภัณฑ์ของ LINE พัฒนาโดยทีมจากสำนักงานใหญ่ที่ญี่ปุ่น และนำมาแปลภาษาหรือพัฒนาฟีเจอร์เพิ่มเติมให้เหมาะกับท้องถิ่นแต่ละประเทศ แต่การเปิดทีมพัฒนาในไทยจะช่วยให้ LINE มีโอกาสออกผลิตภัณฑ์ที่เหมาะกับประเทศไทยมากขึ้น

ใครอยากเป็นเพื่อนกับ Brown ก็ไปสมัครได้ตามรายละเอียดด้านล่าง

LINE ประเทศไทย ประกาศจัดงาน hackathon สำหรับพัฒนาเป็นครั้งแรก ในชื่อว่า LINE Hack Thailand 2016 วันที่ 14-15 พฤษภาคม 2016 ที่ SCB Innovation Center บริเวณสำนักงานใหญ่ธนาคารไทยพาณิชย์ ถ.รัชดาภิเษก

LINE จะเปิดรับสมัครทีมเข้าแข่ง hackathon ถึงวันที่ 30 เมษายนนี้ (สูงสุดทีมละ 5 คน) แล้วคัดเลือก 12 ทีมไปแข่งขันสร้างบริการใหม่ๆ ด้วย Business Connection API ของ LINE ผู้ชนะอันดับหนึ่งจะได้สิทธิใช้งาน API ของ LINE ฟรี 1 ปี

รายละเอียดอื่นๆ อ่านได้ตามลิงก์

เมื่อปี 2014 LINE เปิดให้ผู้ใช้ทั่วไปสามารถทำสติกเกอร์แล้วลงขายใน LINE Creators Market ล่าสุด LINE เปิดให้สร้างธีมและนำมาลงขายได้เช่นกัน

รายละเอียดของการทำธีมมาลงขายใน LINE Creators Market ใช้เกณฑ์เดียวกับการนำสติ๊กเกอร์ลงขาย (ดูรายละเอียดได้ที่นี่) และนอกจากนั้น LINE ยังปรับรายละเอียดการตั้งราคาขายได้มากกว่าเดิม จากแต่ก่อนผู้ขายสามารถกำหนดราคาสติ๊กเกอร์ได้แค่ 50 เหรียญต่อชุด แต่ตอนนี้สามารถตั้งราคาได้ตั้งแต่ 50 เหรียญ, 100 เหรียญ, 150 เหรียญ, 200 เหรียญและ 250 เหรียญ ส่วนธีมกำหนดราคาเริ่มต้นได้ตั้งแต่ 150 เหรียญ, 200 เหรียญและ 250 เหรียญ

เริ่มนำธีมลงขาย LINE Creators Market ได้ตั้งแต่บัดนี้เป็นต้นไปครับ

ที่มา : ข้อความประชาสัมพันธ์จาก LINE ประเทศไทย, LINE Creators Market

หน่วยงานกำกับด้านการเงินของญี่ปุ่นกำลังสอบสวน LINE เกี่ยวกับระบบ "เหรียญ" ซึ่งเป็นหน่วยเงินภายในแอพที่เอาไว้ให้ผู้ใช้ซื้อไอเทมและธีมต่างๆ

ตามกฎหมายของญี่ปุ่นนั้น ผู้ให้บริการเกมหรือแอพจะต้องรายงานข้อมูลเกี่ยวกับระบบเงินเสมือนภายในตัวเกมหรือแอพนั้นๆ ให้ทางการญี่ปุ่นรับทราบ อย่างไรก็ตาม LINE ถือว่าระบบ "เหรียญ" ของตนไม่เข้าเกณฑ์ดังกล่าว ด้วยเหตุนี้จึงไม่เคยรายงานข้อมูลเกี่ยวกับการใช้จ่าย "เหรียญ" ที่เกิดขึ้นภายในแอพให้ทางการรับทราบเลย

เมื่อวานนี้ในโลกออนไลน์ได้มีกระแสวิพากษ์วิจารณ์ถึงสติกเกอร์ไลน์ชุดหนึ่งบนแอพของไลน์ ซึ่งมีเนื้อหาล่อแหลม ทำให้ทาง LINE ตัดสินใจลบสติกเกอร์ชุดดังกล่าวออกจากระบบ พร้อมออกแถลงการณ์ขอโทษผู้ใช้ในประเทศไทยเป็นภาษาไทยและภาษาอังกฤษ

แถลงการณ์ของ LINE อย่างเป็นทางการระบุว่า ทางบริษัทรับทราบถึงกรณีของสติกเกอร์ดังกล่าว ซึ่งอาจกระทบต่อวัฒนธรรมและธรรมเนียมของประเทศไทย และสร้างความกังวลให้กับผู้ใช้งาน จึงขอถอนสติกเกอร์ดังกล่าวออกจากระบบแล้ว โดยขออภัยสำหรับเหตุการณ์ดังกล่าว

สติกเกอร์ชุดดังกล่าวมีเนื้อหาที่ล่อแหลม และเผยแพร่โดยเจ้าของซึ่งใช้ชื่อเป็นภาษาต่างประเทศ ด้านสำนักข่าว Reuters ระบุว่าเจ้าหน้าที่ตำรวจกำลังสืบสวนที่มาของสติกเกอร์ชุดนี้

ที่มา - The Guardian, ประชาไท, แถลงการณ์จาก LINE (ภาษาไทย,ภาษาอังกฤษ), Reuters

วันนี้วงการชำระเงินของบ้านเราเกิดการเปลี่ยนแปลงครั้งใหญ่ เมื่อ LINE Pay และบัตร Rabbit Pay ของบริษัท บางกอก สมาร์ทการ์ด ซิสเทม จำกัด (BSS) ในเครือรถไฟฟ้า BTS ประกาศเซ็นสัญญาร่วมทุน โดย BSS จะเข้าไปเพิ่มทุนให้กับบริษัท LINE Biz Plus Limited (ชื่อบริษัทของ LINE Pay) อีก 50% และเปลี่ยนชื่อบริการ LINE Pay เป็น Rabbit LINE Pay

การถือหุ้นใน LINE Biz Plus จะเป็นสัดส่วน 50:50 ระหว่าง BSS และ LINE เป้าหมายของการร่วมทุนครั้งนี้คือ Rabbit LINE Pay จะเป็นบริการชำระเงินที่มีทั้งออนไลน์และออฟไลน์เข้าด้วยกัน

ประกาศสำคัญของงานแถลงข่าว LINE คือการเปิด LINE Business Platform ให้คนอื่นเข้ามาใช้งานได้มากขึ้น (สักที!) รายละเอียดของการเปิดแพลตฟอร์มแบ่งออกเป็น 3 ส่วน คือ เปิดให้ Web Service, เปิดให้ SME, เปิดให้นักพัฒนา

รายละเอียดมีดังนี้ครับ

LINE ประกาศเพิ่มฟีเจอร์ใหม่ให้ LINE Business Account สำหรับภาคธุรกิจ อีก 3 อย่าง ดังนี้

• LINE Reward Cards เอาไว้สะสมแต้มหรือแสตมป์จากร้านค้าต่างๆ เพื่อรับส่วนลด แทนที่จะต้องใช้บัตรสะสมที่เป็นกระดาษ ก็เปลี่ยนมาใช้แอพ LINE แทน ฟีเจอร์นี้จะใช้งานได้ในไทย อินโดนีเซีย ญี่ปุ่น ไต้หวัน
• Coupon Book ใช้เก็บสะสมคูปองส่วนลดจากร้านค้าต่างๆ มีระบบแนะนำคูปองที่เราน่าจะสนใจ มีระบบเรียงคูปองตามวันหมดอายุ ฟีเจอร์นี้สามารถใช้งานได้ทั่วโลก
• Commerce ฟีเจอร์ใหม่ของ LINE@ โดยเจ้าของบัญชีสามารถเปิดหน้าร้านขายของได้โดยตรง ไม่เสียค่าใช้งานหรือค่ารายเดือนใดๆ เสียเพียงค่าธรรมเนียม 4.98% จากยอดขาย แต่ตอนแรกยังใช้ได้เฉพาะในญี่ปุ่นเท่านั้น

LINE ประกาศภารกิจองค์กรอันใหม่ชื่อ "Closing the distance" ไม่เพียงแค่ช่วยให้คนใกล้ชิดกันเท่านั้น แต่ยังนำพาคนไปใกล้กับบริการและผลิตภัณฑ์ต่างๆ ด้วย ส่วนยุทธศาสตร์ของ LINE คือทำตัวเป็น "Smart Portal" พอร์ทัลสำหรับเข้าถึงข้อมูลทุกสิ่งอย่างได้ตลอดเวลา ซึ่งขยายจากการเป็นแอพแชท Messenger อย่างที่แล้วมา

รวมสถิติที่น่าสนใจของ LINE ในงานแถลงข่าวเมื่อวานนี้ครับ

LINE MUSIC เป็นอีกธุรกิจของ LINE ที่เปิดตัวเมื่อ 11 มิถุนายน 2015 และค่อนข้างประสบความสำเร็จด้วยการมีเพลงในคลังถึง 15 ล้านเพลง และมียอดดาวน์โหลดแอพ 10 ล้านดาวน์โหลด และหลังจากมีฟีเจอร์ให้โชว์ว่ากำลังฟังเพลงอะไรใน LINE Profile ก็ทำให้มีผู้ใช้ในแต่ละวันเพิ่มขึ้น 4 เท่าจากปกติกันเลยทีเดียว

LINE มีแผนจะเชื่อมสองบริการเข้าหากันระหว่าง LINE MUSIC และ LINE Calls ก็คือสามารถเลือกเพลงมาทำริงโทนได้ โดยริงโทนจะถูกใช้เวลามีเพื่อนโทรหาผ่าน LINE นั่นเอง

ที่มา - LINE

การทำการตลาดผ่านทางสติกเกอร์เป็นสิ่งที่ LINE เชี่ยวชาญมาก จนมีสติกเกอร์ในรูปแบบต่างๆ เพื่อความสนุกสนานในการแชตมากขึ้น เช่น สติกเกอร์แบบดุ๊กดิ๊กได้ และสติกเกอร์แบบมีเสียง และล่าสุดในงาน LINE Conference Tokyo 2016 ก็มีการเปิดตัว Pop-Up Stickers หรือสติกเกอร์ที่จะปรากฎเต็มหน้าจอพร้อมดุ๊กดิ๊กได้ (ดูลักษณะสติกเกอร์ได้ท้ายเบรก) ซึ่งก็คงเป็นความสนุกอีกรูปแบบหนึ่ง แต่อีกใจหนึ่งก็อุทาน โอ้นี่มัน MSN ชัดๆ

อนึ่งสติกเกอร์แบบป๊อปอัพ จะเปิดให้ได้ใช้กันหน้าร้อนปีนี้

ที่มา - LINE

LINE ขยายบริการจ่ายเงิน LINE Pay ด้วยการจับมือกับบัตร JCB ออกบัตรจ่ายเงินแบบพรีเพดชื่อ LINE Pay Card และระบบสะสมแต้ม LINE Points ที่จะมาใช้แทน LINE Free Coins ด้วย

LINE Pay Card

บัตร LINE Pay Card จะใช้บัญชีเดียวกับแอพ LINE Pay แต่ช่วยให้เราซื้อของในโลกออฟไลน์ (ที่อาจไม่รองรับการจ่ายด้วยแอพ LINE Pay โดยตรง) ได้สะดวกขึ้น

บัตร LINE Pay Card สามารถขอใช้งานได้ฟรีผ่านแอพ LINE Pay (ตอนนี้ยังมีเฉพาะในญี่ปุ่น) จากนั้นบัตรจะส่งมาให้ทางไปรษณีย์ การใช้บัตรไม่มีค่าธรรมเนียมรายปี บัตรมีให้เลือก 4 ลาย ดังภาพ

ในงาน LINE Conference Tokyo 2016 นอกจากเป็นงานแถลงข่าวถึงวิสัยทัศน์ของ LINE และเปิดตัวบริการใหม่เยอะแยะมากมายนั้น

อีกเรื่องที่มีคนให้ความสนใจคงจะเป็นเรื่องการเปิดตัวคาแรกเตอร์ใหม่ของ LINE จากเดิมที่มี Brown, Cony, Moon, James, Sally และล่าสุดก็เปิดตัว Choco โดยเรื่องราวของ Choco คือเป็นน้องสาวของ Brown มีขนสีสว่างกว่า Brown ชอบการแต่งตัว เป็นต้นแบบด้านการแต่งตัว และชื่นชอบการเข้าสังคม ชอบเซลฟี่เป็นชีวิตจิตใจ

คาดว่า Choco ออกมาเพื่อเจาะตลาดกลุ่มผู้หญิงให้เข้าถึงได้ง่ายขึ้นนั่นเอง

เมื่อวานนี้ LINE มีแถลงข่าวที่กรุงโตเกียว เผยทิศทางธุรกิจหลายอย่าง ที่น่าสนใจคือการเปิดตัว LINE Mobile หรือผู้ให้บริการเครือข่ายเสมือน (MVNO) ในญี่ปุ่น

LINE จะเช่าโครงข่ายมือถือของ NTT DoCoMo โดยแพ็กเกจเบื้องต้นจะเริ่มที่ราคาเพียง 500 เยน (160 บาท) ต่อเดือน ใช้งาน LINE, Facebook, Twitter ไม่จำกัดปริมาณข้อมูล ซึ่งในจำนวนนี้รวมถึงการโทรศัพท์ผ่าน LINE ด้วย

แพ็กเกจของ LINE สามารถซื้อบรการเสริมเพิ่มเติม เช่น บริการเพลงหรือวิดีโอออนไลน์ ซึ่งมุมมองของ LINE มองว่าไม่ควรคิดเงินค่าข้อมูลจากบริการลักษณะนี้ แต่ยังไม่บอกรายละเอียดว่าจะคิดค่าบริการอย่างไร

ข่าวเก่าหน่อยนะครับแต่เห็นว่าน่าจะมีประโยชน์กัน

รัฐบาลอินโดนีเซีย โดยโฆษกของกระทรวงเทคโนโลยีและการสื่อสาร ออกมาให้สัมภาษณ์เมื่อเดือนที่แล้วว่ามีการร้องขอให้สื่อสังคมออนไลน์และระบบส่งข้อความต่างๆ ลบสติกเกอร์ที่สื่อถึงเพศทางเลือก (LGBT) ออกจากระบบของสื่อสังคมออนไลน์และระบบส่งข้อความต่างๆ ซึ่งหนึ่งในนั้นคือ LINE ที่ตอบรับคำขอดังกล่าวนี้

LINE อัพเดตแอพบน Windows 10 Mobile เป็นรุ่น 5.0.0 แล้ว

LINE 5.0.0 มากับดีไซน์ที่เรียบง่ายคล้ายแอพบน Windows 10 พีซีกับแท็บเล็ต เท่าที่ลองพบว่าสามารถบันทึกประวัติการสนทนา สามารถรับส่งไฟล์วิดีโอได้แล้ว รองรับ Letter Sealing เข้ารหัสแบบ End-to-End แต่ Live Tile ยังไม่ transparent เมื่อเทียบกับรุ่นก่อนหน้าครับ

ที่มา: เจอด้วยตัวเอง