ร้านสติกเกอร์ในแอพเวอร์ชันล่าสุดมีสติกเกอร์ที่มีความสามารถใหม่ คือเคลื่อนไหวได้นั่นเอง ใครสนใจก็สามารถซื้อได้ในราคา 60 บาท จะมีสติกเกอร์ที่เคลื่อนไหวได้ 24 ตัว แต่ไม่ได้เคลื่อนไหวแบบต่อเนื่องไม่รู้จบ สติกเกอร์จะเคลื่อนไหวแค่ครั้งเดียว แต่ถ้าอยากดูอีกครั้งก็กดที่ตัวสติกเกอร์ได้

ที่มา - LINE

LINE อัพเดตแอพเวอร์ชั่นใหม่ 4.4.0 เพิ่มสติ๊กเกอร์แบบเคลื่อนไหวได้เข้ามาในร้านขายสติ๊กเกอร์แล้ว โดยสติ๊กเกอร์ชุดที่เคลื่อนไหวได้จะมีสัญลักษณ์แสดงที่บริเวณมุมขวาล่างของรูปตัวอย่าง และขายในราคา 200 เยน ($1.99 สำหรับประเทศไทย) ต่อ 1 ชุด สำหรับ 24 สติ๊กเกอร์

ในส่วนวิธีการแสดงผล หลังจากผู้ใช้ส่งสติ๊กเกอร์ในแชทหรือไทม์ไลน์แล้วสติ๊กเกอร์จะเล่นอัตโนมัติ ถ้าหากผู้ใช้ต้องการให้เล่นซ้ำก็สามารถแตะที่สติ๊กเกอร์อีกครั้ง สำหรับผู้ใช้ที่ใช้ LINE เวอร์ชั่นที่เก่ากว่า 4.4.0 สติ๊กเกอร์จะแสดงผลเป็นภาพนิ่งเช่นเดียวกับสติ๊กเกอร์ทั่วไป

ถ้ายังจำกันได้ เมื่อต้นปีเรามีข่าวของ LINE whoscall แอพช่วยเช็คเบอร์โทรศัพท์ว่าเบอร์ที่โทรมาหาเราเป็นใครมาจากไหน ขายประกันหรือเปล่า

แอพตัวนี้เดิมเป็นผลงานของบริษัท Gogolook จากไต้หวันที่ถูก LINE ซื้อกิจการเมื่อปลายปี 2013 และกลายร่างมาเป็นแอพ LINE whoscall นั่นเอง

ผมมีโอกาสได้คุยกับคุณ Yuting Liu หนึ่งในทีมงานของ LINE whoscall ซึ่งเป็นคนไต้หวันที่เติบโตในประเทศไทย และตอนนี้ก็ดูแลกิจการของ LINE whoscall ในประเทศไทยด้วย

เมื่อเดือนกุมภาพันธ์ที่ผ่านมา เราเห็น LINE ประกาศเปิดตัวโครงการ LINE Creator Market ที่ให้บุคคลทั่วไปที่อยากทำสติ๊กเกอร์กับเขาบ้างแต่ไม่มีงบใหญ่ สามารถส่งสติ๊กเกอร์ขึ้นมาวางขายได้แล้วนั้น จนถึงวันนี้เวลาก็ผ่านมาสามเดือน เมื่อวานนี้ LINE ได้เปิดให้ผู้ใช้สามารถเลือกซื้อสติ๊กเกอร์ในหมวดนี้ได้แล้ว

LINE ประกาศผลประกอบการประจำไตรมาสที่ 1 ของปี 2014 มีรายได้รวม 1.46 หมื่นล้านเยน (143 ล้านดอลลาร์) เพิ่มขึ้น 14% เมื่อเทียบกับไตรมาสก่อนหน้านี้ และเพิ่มขึ้นถึง 223% หากเทียบกับไตรมาสเดียวกันในปีก่อน

ตัวเลขผู้ใช้งาน LINE ล่าสุดอยู่ราว 420 ล้านคนทั่วโลก โดยมีประเทศใหม่ๆ ที่ฐานผู้ใช้งานเติบโตอย่างแข็งแกร่งในภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้และประเทศสเปน

เกมในเครือ LINE ที่เป็นตัวทำเงินประกอบด้วย LINE Pokopang ซึ่งได้รับความนิยมจากปีก่อน ตลอดจนเกมใหม่ที่เปิดตัวปีนี้อย่าง LINE Cookie Run และ LINE Rangers ขณะที่ธุรกิจขายสติกเกอร์ก็เติบโตมีคาแรกเตอร์จัดจำหน่ายแล้วมากกว่า 500 คาแรกเตอร์

LINE อัพเดตแอพบน Windows Phone เป็นรุ่น 3.4.0.372 ซึ่งนอกจากมีการแก้ไขบั๊กและปรับปรุงประสิทธิภาพแล้ว แอพรุ่นล่าสุดยังมากับส่วนติดต่อผู้ใช้ (UI) ในหน้าหลัก (รายชื่อเพื่อน รายการห้องสนทนา เพิ่มเพื่อนใหม่) ใหม่ที่ดูสะอาดตา และรองรับการซื้อสติ๊กเกอร์บน LINE Web Store แล้ว

ทั้งนี้เฟซบุ๊กแฟนเพจของโนเกียประเทศไทยยังรายงานด้วยว่า ผู้ใช้สามารถเพิ่มเพื่อนที่เป็น official account ของหน่วยงานต่างๆ เพื่อดาวน์โหลดสติกเกอร์ฟรีได้แล้วเช่นกัน

ดาวน์โหลดแอพได้ที่ Windows Phone Store ครับ

LINE ยังคงสรรหาลูกเล่นใหม่ๆ ในการทำแผนการตลาด โดยล่าสุดได้ร่วมมือกับวงเกิร์ลกรุ๊ปชื่อดังในประเทศญี่ปุ่นอย่าง AKB48 เปิด Official Account ของวง ซึ่งทำให้สามารถสื่อสารข่าวสารกับแฟนคลับได้เข้าถึงมากขึ้น

เมื่อพูดถึง LINE ก็ต้องมีสติกเกอร์ ซึ่ง AKB48 ก็จะมีสติกเกอร์ออกมาให้ใช้งานเช่นกัน แต่มีลูกเล่นคือเฉพาะสมาชิกที่ได้รับการเลือกเป็นเซ็นบัตสึ (อันดับที่ 1-16) จากงานเลือกตั้งเซ็นบัตสึครั้งที่ 6 ของปีนี้เท่านั้นที่จะมีสติกเกอร์รูปตนเองออกมา

Official Account ของ AKB48 จะเปิดให้ติดตามตั้งแต่ 1 พฤษภาคมนี้ ส่วนสติกเกอร์จะเปิดให้ดาวน์โหลดหลังงานเลือกตั้งในวันที่ 7 มิถุนายนที่จะถึงนี้

ที่มา: Tokyo Pop Line

หลังจากที่ LINE ได้เปิดตัว LINE whoscall แอพกรองและตรวจสอบหมายเลขโทรศัพท์ลงบนระบบแอนดรอยด์ไปเมื่อต้นปีที่ผ่านมา

ทิ้งเวลาห่างกันไม่นานนัก LINE whoscall ก็ได้เดินทางมาถึงระบบ Windows Phone แล้ว โดยรองรับระบบปฏิบัติการทั้ง Windows Phone 8 และ 8.1

แอพสนทนาที่ฮิตที่สุดในประเทศไทยอย่าง LINE กำลังจะเพิ่มฟีเจอร์ใหม่ให้แก่ผู้ใช้งานอีกแล้ว โดยฟีเจอร์นี้มีชื่อว่า Sticons ซึ่งชื่อของมันก็มาจากลักษณะของฟีเจอร์นี้ที่เป็นการรวมเอาสติ๊กเกอร์กับอีโมติคอนมาไว้ด้วยกันนั่นเอง

การใช้งาน Sticons ก็เพียงแต่พิมพ์แทรกไปในข้อความตัวอักษร (ใช้งานเป็นอีโมติคอนนั่นเอง) แต่ตัว Sticons นี้จะแสดงผลในขนาดใหญ่เท่าสติ๊กเกอร์เมื่อมันถูกพิมพ์แยกออกมาเป็นรูปเดี่ยว

ฟีเจอร์ใหม่นี้เริ่มมีให้ผู้ใช้บนอุปกรณ์ที่รัน Android ได้ลองกันเป็นกลุ่มแรก โดยมีรูป Sticons มากกว่า 1,000 รูป ให้เลือกจาก 5 หมวดหมู่ อันได้แก่ ใบหน้า, สัตว์, สัญลักษณ์, กีฬา และยานพาหนะ อย่างไรก็ตามยังไม่ชัดเจนว่า LINE มีแผนที่จะเปิดร้านค้าเพื่อขาย Sticons อย่างเป็นทางการหรือไม่

หลายคนคงทราบว่าเมื่อวานได้เกิดเหตุแผ่นดินไหวขนาด 8.2 แมกนิจูดที่ประเทศชิลี LINE จึงออกมาประกาศเปิดให้ผู้ใช้โทรไปยังประเทศชิลีได้ฟรีผ่านบริการ LINE Call ที่เพิ่งเปิดตัวไป

เมื่อผู้ใช้โทรไปยังหมายเลขโทรศัพท์ในประเทศชิลีทั้งโทรศัพท์มือถือและโทรศัพท์บ้านจะไม่ถูกคิดค่าบริการใดๆ ทั้งสิ้น โดยสามารถโทรได้นาน 15-20 นาทีต่อครั้ง

LINE จะเปิดให้โทรฟรีเป็นเวลาหนึ่งสัปดาห์ (3-10 เม.ย. ตามเวลาชิลี) การโทรไปยังหมายเลขโทรศัพท์นอกชิลีจะถูกคิดค่าบริการตามปกติครับ

ที่มา - LINE official blog

LINE เปิดเผยตัวเลขจำนวนผู้ลงทะเบียนใช้งานล่าสุดรวมทุกแพลตฟอร์มว่าเกิน 400 ล้านบัญชีเรียบร้อยแล้ว ซึ่งเป็นระยะเวลาห่างจากเมื่อครั้ง 300 ล้านบัญชี อยู่ประมาณ 4 เดือน

สำหรับสถิติอื่นเพิ่มเติมนั้น มีผู้ใช้งานสมัครใหม่เฉลี่ย 1.7 ล้านคนต่อวัน, มีการส่งข้อความ 10,000 ล้านครั้งต่อวัน, สติกเกอร์มากกว่า 1,800 ล้านครั้งต่อวัน และมีการโทรเสียงหากัน 12 ล้านครั้งต่อวัน ส่วนประเทศใหม่ที่มีผู้ใช้งานเกิน 10 ล้านคนก็มีทั้งอเมริกา, เกาหลีใต้, มาเลเซีย และเม็กซิโก

ที่มา: LINE

ความน่าสนใจของสติกเกอร์ชุดนี้คือ เป็นการทำการตลาดของแบรนด์และ LINE ที่ผู้ใช้ต้องมีการซื้อของของแบรนด์ก่อนถึงจะสามารถใช้ Serial Number มากรอกเพื่อทำการดาวน์โหลดสติกเกอร์ได้ ในที่นี้จะต้องซื้อชุดไลน์สติกก้อนถึงจะได้รหัสมากรอกรับสติกเกอร์ Bar B Gon ไปฟรีๆ (1 รหัสรับสติกเกอร์ได้ 2 เครื่อง)

การตลาดแนวนี้เกิดขึ้นมาแล้วในญี่ปุ่น(เท่าที่รู้มี Pepsi กับ Pocky) ส่วนที่ไทยนั้นบาร์บีคิวพลาซ่าเป็นเจ้าแรก

ที่มา - Bar B Q Plaza

หลังจากเปิดตัวไปเมื่อเดือนที่แล้ว LINE Call บริการโทรผ่านอินเทอร์เน็ตไปยังหมายเลขโทรศัพท์ก็เปิดให้ใช้งานแล้ว ผู้ใช้สามารถใช้งานบริการนี้ได้จากในแอพ LINE โดยตรง โดยจะมีเมนู LINE Call เพิ่มเข้ามา และผู้ใช้ต้องลงทะเบียนหมายเลขโทรศัพท์มือถือกับ LINE ก่อนถึงจะใช้งานได้

สำหรับอัตราค่าบริการนั้นแตกต่างไปตามประเทศ (ตารางอัตราค่าโทร) โดยประเทศไทยมีอัตราค่าโทรดังนี้ครับ

สติกเกอร์ใน LINE ที่ทำโดยคนไทยและถูกวางขายนั้น มีสติกเกอร์ม Mamuang ของคุณวิศุทธิ์ พรนิมิตร ที่ทำออกมาขายในราคา 60 บาท และมีสติกเกอร์เอคโค่ จิ๋วก้องโลก จากกันตนา ที่ทำออกมาขายเช่นกัน ในว่วนของสติกเกอร์ขายหัวเราะที่ถูกปล่อยออกมาล่าสุดนั้น น่าจะเป็นสติกเกอร์จากคนไทยรายที่ 3 ที่ทำออกมาขายในราคา 0.99 เหรียญ หรืออยู่ที่ 30 บาท

ใครอยากอุดหนุนสติกเกอร์คนไทยก็ไปอุดหนุนกันได้

ที่มา - LINE Store

LINE บน PC เวอร์ชัน 3.5.1.36 มีสิ่งที่อัพเดตตามนี้

• แสดงสถานะ "ถูกอ่านแล้ว" เหมือนบนโมบาย
• ปรับปรุงระบบดูรูปในหน้าสนทนา
• ปรับปรุงระบบเลือกสติกเกอร์ (แสดงลิสต์ของสติกเกอร์ 3 แถว จากของเดิมเป็น 1 แถว)
• สามารถเขียนคอมเมนต์บนไทม์ไลน์ด้วยสติกเกอร์และข้อความ
• ลบเพื่อนที่ถูกซ่อนและบล็อกได้

สนใจก็อัพเดตที่คอมพิวเตอร์ของคุณ

ที่มา - Changelog จาก LINE

จากที่โนเกียประกาศว่า LINE บน Windows Phone จะมีร้านค้าสติ๊กเกอร์เร็ว ๆ นี้นั้น วันนี้ LINE สำหรับ Windows Phone 8 ได้มีอัพเดตเพิ่มร้านค้าสติ๊กเกอร์เข้ามาแล้ว (เวอร์ชั่น 3.3.0.312) โดยเท่าที่ผมลองใช้งานดูนั้นพบว่ายังไม่สามารถซื้อสติ๊กเกอร์ได้และมีสติ๊กเกอร์ให้เลือกอยู่จำนวนหนึ่งเท่านั้น

นอกจากนั้นการอัพเดทครั้งนี้ยังรวมไปถึง

โนเกียโพสต์ลงบนเว็บไซต์ Nokia Conversations เกี่ยวกับรายชื่อแอพที่จะเข้ามาใหม่บนอุปกรณ์ของโนเกีย ซึ่งมีตั้งแต่แอพ Photoshop Express, BBM, Foodpanda, Jusp (Lumia/WP), Viber (Nokia X, Asha) ฯลฯ (รายละเอียดอื่น ๆ สามารถดูได้ที่เว็บไซต์ที่มาท้ายข่าว)

แต่ประเด็นที่น่าสนใจที่สุดคงหนีไม่พ้นแอพ LINE เพราะว่าโนเกียประกาศอย่างเป็นทางการแล้วว่าฟีเจอร์อื่น ๆ รวมไปถึงร้านค้าสติ๊กเกอร์ จะมาบน Nokia Lumia และ Nokia X ในเร็ว ๆ นี้ พร้อมกับสติ๊กเกอร์ลายพิเศษสำหรับผู้ใช้สมาร์ทโฟนของโนเกียอีกด้วย

ที่มา: Nokia Conversations

LINE ออกมาประกาศความร่วมมือกับ Nokia ในการพรีโหลดแอปพลิเคชัน LINE บน Nokia X มือถือต้นทุนต่ำรันแอนดรอยด์ตัวแรกของ Nokia

ทั้งนี้ LINE จะต้องแข่งกับ WeChat และ Viber ซึ่งจะพรีโหลดบน Nokia X เช่นกัน

นี่ไม่ใช่ครั้งแรกที่ LINE ใช้แนวทางการพรีโหลดโปรแกรมบนมือถือรุ่นต่างๆ ก่อนหน้านี้ LINE เคยร่วมมือกับ Nokia พรีโหลดบน Nokia Asha มาแล้ว

LINE เป็น IM ที่นิยมอย่างมากในญี่ปุ่น ไต้หวัน และไทย ทว่า Nokia X นั้นจะไม่มีขายในญี่ปุ่นและบางประเทศ

ที่มา - The Wall Street Journal

จากข่าว SoftBank สนใจถือหุ้นใน LINE นั้น ตัวแทนของ LINE ได้ชี้แจงปฏิเสธข่าวดังกล่าว โดยระบุว่าบริษัทไม่เคยเจรจาพูดคุยกับ SoftBank เรื่องนี้แต่อย่างใด รวมทั้ง LINE เองก็ไม่มีเหตุผลที่จะขายหุ้นให้อีกด้วย

ช่วงนี้ LINE เป็นที่สนใจของสื่อโลกตะวันตกค่อนข้างมากครับ

ที่มา: Reuters

LINE เปิดตัว LINE Creators Market ให้ผู้ใช้งานทั่วไปสร้างสติ๊กเกอร์ของตัวเองแล้วนำมาขายในระบบของ LINE โดยไม่จำกัดความสามารถ อายุ หรืออาชีพ (และไม่คิดค่าธรรมเนียมในการสร้างสติ๊กเกอร์)

ผู้ขายจะไม่สามารถกำหนดราคาสติ๊กเกอร์เองได้ สติ๊กเกอร์แต่ละชุดจะถูกตั้งราคาไว้ที่ 100 เยน (ประมาณ 30 บาท) และรายได้จากการขายจะถูกแบ่งให้กับ LINE 50%

บริการนี้จะเริ่มเปิดให้ใช้ในช่วงฤดูใบไม้ผลิของญี่ปุ่น (มีนาคม-พฤษภาคม) สำหรับผู้ที่สนใจสามารถเข้าไปดูรายละเอียดต่างๆ ได้แล้วที่เว็บไซต์ creator.line.me ครับ

LINE เปิดตัวบริการใหม่ ให้ผู้ใช้สามารถโทรหาคนอื่นที่ไม่ได้มีบัญชีของ LINE ผ่านหมายเลขโทรศัพท์ได้แล้ว แถมยังมาในราคาที่ค่อนข้างถูกเอาเรื่องเสียด้วย

วิธีการโทรของ LINE เป็นแบบที่รายอื่นใช้กันคือโทรผ่านอินเทอร์เน็ตไปยังหมายเลขปลายทาง (แบบ Skype, Viber) จุดเด่นของบริการนี้อยู่ที่ราคา คำนวณจากโปรโมชันสามสิบวันของญี่ปุ่น โทรได้ 60 นาทีจะตกนาทีละ 6.5 เยน (ประมาณ 2 บาท) ส่วนโปรโมชันอื่นจะตกนาทีละ 14 เยน (ประมาณ 4.50 บาท) สำหรับโทรออกต่างประเทศ และโทรเข้ามือถือ ส่วนโทรเข้าเบอร์บ้านจะเหลือแค่ 3 เยน (ประมาณ 1 บาท)

ประเทศที่จะเปิดให้บริการนี้นอกจากญี่ปุ่นแล้ว จะมีสหรัฐฯ เม็กซิโก สเปน ฟิลิปปินส์ รวมถึงประเทศไทยด้วย โดยจะเปิดให้ใช้งานตั้งแต่เดือนมีนาคมเป็นต้นไป

ข่าวนี้ต่อเนื่องจากแอพ Telegram ประกาศว่ามีผู้ใช้เพิ่มขึ้นถึง 8 ล้านคน หลังข่าว WhatsApp ขายกิจการให้ Facebook โดย LINE ก็ประกาศตัวเลขว่ามีผู้สมัครใช้งานจากนอกเอเชีย ถึง 2 ล้านคน ในเวลา 24 ชั่วโมงนับจาก WhatsApp ระบบล่มเมื่อวันก่อน

ตัวเลข 2 ล้านอาจไม่หวือหวาเท่า Telegram แต่ข้อสังเกตคือ LINE ก็เน้นว่าผู้ใช้งานหน้าใหม่คราวนี้มาจากนอกทวีปเอเชียสูงกว่าปกติ 5 เท่า ซึ่งกลุ่มผู้ใช้งานนี้ไม่ใช่พื้นที่ตลาดหลักของ LINE

สำนักข่าว Bloomberg รายงานว่า SoftBank ผู้ให้บริการเครือข่ายมือถือในญี่ปุ่นได้แสดงความสนใจขอซื้อหุ้นในบริษัท LINE ที่ไม่มีการระบุจำนวนและมูลค่า

แหล่งข่าวที่ให้ข้อมูลระบุว่า Naver ซึ่งเป็นบริษัทแม่ของ LINE เองก็สนใจให้ SoftBank เข้ามาซื้อหุ้นใน LINE เพราะ LINE ยังคงเดินหน้าแผนเข้าตลาดหุ้น ซึ่งหากมีบริษัทใหญ่ถือหุ้นหนุนหลังอยู่ ก็จะช่วยให้มูลค่ากิจการสูงขึ้นไปอีก โดยตัวเลขประเมินล่าสุดอยู่ราว 14,900 ล้านดอลลาร์

ที่ผ่านมา SoftBank ได้เข้าไปซื้อหุ้นกิจการหลากหลาย ทั้งดีล Sprint หรือ Supercell ผู้สร้างเกม Clash of Clans

ถึงแม้ Facebook จะซื้อกิจการ WhatsApp ไป แต่สิ่งที่ปรากฏชัดคือผู้ใช้งานในทวีปเอเชียหลายประเทศรวมทั้งเมืองไทย ต่างก็มีแอพแชทที่นิยมใช้เป็นของตัวเองและไม่ใช่ WhatsApp ซึ่งจากดีลดังกล่าวเหล่าผู้บริหารแอพแชทในเอเชียก็ออกมาให้ความเห็นดังนี้

หลังจากปล่อยอัพเดตใน Android ล่วงหน้าไปสิบกว่าวัน ก็ถึงคราวที่ iOS จะได้มีฟีเจอร์ที่เท่ากับ Android แล้ว โดยมีฟีเจอร์ที่นอกเหนือจาก Android นิดหน่อยคือใช้ความสามารถของ iOS 7 ที่สามารถปัดจอเพื่อดูหน้าที่เราดูก่อนหน้านี้ (previous screen) ได้

สนใจก็อัพเดตกันได้ที่ App Store

ที่มา - LINE Blog