หนึ่งในปัญหาคอขวดของคอมพิวเตอร์ที่ใช้ในปัจจุบันก็คือฮาร์ดดิสก์ โดยทั่วไปแล้ว SATA ที่ใช้กันอย่างแพร่หลายในปัจจุบันนั้นมีความเร็วประมาณ 1.5-3 Gb/s (หรือประมาณ 150-300 MB/s -- แต่ความเป็นจริงทำได้เพียงประมาณ 200 MB/s) วันนี้ Seagate จูงมือเอเอ็มดีโชว์ฮาร์ดดิสก์ใหม่ที่มีความเร็วกว่า 6 Gb/s หรือคิดเป็น 2 เท่าของปัจจุบันทีเดียวครับ
เทคโนโลยีดังกล่าวนั้นจะใช้มาตรฐาน SATA รุ่น 3.0 โดยสามารถใช้สายและขั้วต่อแบบเดิมได้เพื่อความสะดวก อย่างไรก็ตามจำเป็นที่จะต้องมีชิปเซ็ตรุ่นใหม่ที่สนับสนุนด้วย สำหรับชิปเซ็ตที่จัดแสดงให้ดูเป็นตัวอย่างนี้เป็นรุ่นปรับปรุงของชิปเซ็ต 750 ที่ผลิตโดยเอเอ็มดี ซึ่งในการทดสอบระบบต้นแบบนี้สามารถทำความเร็วจริงได้ถึงกว่า 5.5 Gb/s
ปล่อยให้ Western Digital แซงหน้าไปได้ไม่ถึงสิบวัน ซีเกทก็ออกมาเปิดฮาร์ดดิสก์ขนาด 2 เทราไบต์แล้วในชื่อรุ่น Constellation ES พร้อมกับอ้างสรรพคุณว่านี่เป็นฮาร์ดดิสก์ขนาด 2 เทราไบต์ตัวแรกในโลกที่ทำงานที่ความเร็วรอบ 7200 รอบต่อนาที
ข่าวร้ายคือตระกูล Constellation นั้นเป็นตระกูลฮาร์ดดิสก์สำหรับองค์กร ซึ่งแม้จะยังไม่มีราคาออกมา แต่คาดได้ว่าน่าจะแพงกว่าทางฝั่ง Western Digital พอควร
ที่มา - PC World
Seagate นั้นเริ่มประสพปัญหาด้านเศรษฐกิจมาได้สักระยะหนึ่งแล้ว และมีแผนที่จะเลิกจ้างพนักงานทั่วโลกกว่าสามพันคน (ข่าวเก่าโดยคุณ mk: Seagate ปลดพนักงาน 2,950 คน) บัดนี้ผลกระทบดังกล่าวก็มาถึงประเทศไทยเรียบร้อยแล้วครับ
ปัญหาเศรษฐกิจยังซัดเข้าใส่อุตสาหกรรมไอทีอย่างต่อเนื่อง Seagate ซึ่งเป็นผู้ผลิตฮาร์ดดิสก์รายใหญ่ที่สุดของโลกได้ประกาศปลดพนักงาน 6% ของพนักงานทั้งหมดทั่วโลก หรือคิดเป็น 2,950 ตำแหน่ง โดยในจำนวนนี้อยู่ในอเมริกา 800 ตำแหน่ง
นอกจากปลดพนักงานแล้ว Seagate ยังประกาศลดเงินเดือนของพนักงานระดับบริหารด้วย โดยซีอีโอคนใหม่ซิงๆ คือ Stephen Luczo ซึ่งเป็นอดีตซีอีโอกลับมารับตำแหน่งใหม่ (เทร็นด์นี้กำลังฮิต) จะได้รับเงินเดือนน้อยกว่าเดิม 25%
Seagate คาดว่ามาตรการปลดพนักงานรอบนี้จะช่วยลดค่าใช้จ่ายได้ 130 ล้านดอลลาร์ ส่วนการลดเงินเดือนผู้บริหารจะลดได้ 80 ล้าน
อาจารย์ผมเคยว่าไว้ว่า "มนุษย์เป็นสิ่งมีชีวิตที่บริโภคทรัพยากรไม่จำกัด" หนึ่งในทรัพยากรนั้นคงเป็นพื้นที่ในฮาร์ดดิสก์ที่ดูเหมือนว่าเรากำลังก้าวเข้าไปสู่การใช้งานฮาร์ดดิสก์ระดับเทราไบต์กันเป็นเรื่องปรกติกันแล้ว เมื่อ Seagate ได้เปิดตัว Barracuda 7200.11 ฮาร์ดดิสก์ความจุ 1.5 เทราไบต์ ทำให้ทาง Seagate เป็นบริษัทผลิตฮาร์ดดิสก์ที่มีความจุต่อลูกสูงที่สุดในโลกตอนนี้
ก่อนหน้านี้ขีดจำกัดของความจุฮาร์ดดิสก์อยู่ในระดับ 1 เทราไบต์ โดยคู่แข่งของ Seagate ทั้ง Hitachi และ Western Digital นั้นก็ล้วนมีฮาร์ดดิสก์ในระดับเดียวกันทั้งสิ้น
แม้ช่วงนี้ทาง Seagate จะมีปัญหากับผู้ผลิต Solid State Disk (SSD) อยู่หลายคดี แต่ข่าวด้านดีๆ ก็ยังมีออกมาให้ชื่นใจเมื่อทางบริษัทประกาศตัวเป็นผู้ผลิตรายแรกที่ส่งมอบฮาร์ดดิสก์ได้ครบหนึ่งพันล้านตัว รวมเป็นความจุประมาณ 79 ล้านเทราไบต์ นับแต่ส่งมอบฮาร์ดดิสก์ตัวแรกของบริษัทเมื่อ 29 ปีที่แล้ว
ฮาร์ดดิสก์ตัวแรกของ Seagate นั้นคือ ST506 ที่มีความจุ 5 เมกกะไบต์ น้ำหนักรวม 2.2 กิโลกรัม และมีราคา 1,500 ดอลลาร์ เทียบกับทุกวันนี้ที่ฮาร์ดดิสก์ขนาด 500 กิกะไบต์มีราคาประมาณสามพันบาทหรือหนึ่งร้อยดอลลาร์เท่านั้น
ผมจำได้ว่าฮาร์ดดิสก์ตัวแรกในบ้านผมนั้นขนาด 10 เมกกะไบต์ และไม่เคยเต็มตลอดอายุการใช้งานของมัน มองเครื่องตัวเองตอนนี้ 250 กิกะไบต์เพิ่งเต็มไป ได้เวลาซื้อเพิ่มอีกตัว
แอปเปิลได้ออกมาตอบสนองและแสดงการรับรู้ถึงปัญหาเกี่ยวกับฮาร์ดดิสก์ใน MacBook และ MacBook Pro มีปัญหา
จากในข่าว โฆษกของแอปเปิลกล่าวว่าทางแอปเปิลได้รับทราบถึงปัญหานี้แล้ว และกำลังพยายามที่จะหาข้อมูลและกำลังตรวจสอบเพิ่มเติม
Retrodata บริษัทรับกู้ข้อมูลฮาร์ดดิสก์จากสหราชอาณาจักรก่อนหน้านี้ ได้ค้นพบปัญหานี้ใน MacBook และ MacBook Pro โดยเฉพาะในเครื่องที่มาพร้อมกับฮาร์ดดิสก์ของ Seagate ที่มาพร้อมกับเฟิร์มแวร์รุ่น 7.01 ซึ่งจะมีอาการผิดปกติในการอ่านและเขียนข้อมูล ทำให้เกิดรอยบนฮาร์ดดิสก์ ส่งผลให้การกู้ข้อมูลนั้นแทบจะเป็นไปไม่ได้เลย
จนถึงขณะนี้ Seagate ยังไม่ได้ออกมาให้ข้อมูลหรือแสดงความคิดเห็นแต่อย่างใด
Lenovo บริษัทไอทีจีนรายหนึ่งแสดงความสนใจจะเข้าซื้อกิจการของ Seagate ซึ่งเป็นหนึ่งในสองบริษัทผลิตฮาร์ดดิสก์ของสหรัฐที่เหลืออยู่ (อีกรายคือ Western Digital) ทำให้กระแสตื่นตัวต่อการเข้าซื้อกิจการบริษัทสหรัฐจากบริษัทในจีนแรงขึ้นมาอีกครั้ง หลังจากเคยขึ้นมาช่วงหนึ่งตอน Lenovo ซื้อกิจการพีซีของไอบีเอ็ม
ประเทศจีนมีเงินสำรองระหว่างประเทศอยู่ 1.33 ล้านล้านเหรียญซึ่งเป็นผลเสียต่อระบบเศรษฐกิจ การขนเงินออกมาลงทุนนอกประเทศจึงเป็นทางออกที่ดีกว่า เราจึงเริ่มเห็นการลงทุนของจีนทั้งจากฝั่งรัฐและเอกชน
ปัญหาโน้ตบุ๊กสูญหายหรือถูกขโมยเริ่มเป็นเรื่องที่บริษัทต่างๆ วิตกกังวลกันมากขึ้น สมัยก่อนเป็นประเด็นที่ว่าโน้ตบุ๊กนั้นราคาแพง แต่สมัยนี้ความน่ากลัวคือข้อมูลที่มีมูลค่ามากกว่าตัวโน้ตบุ๊กเองหลายเท่าตัวนั้นถูกพาไปกับตัวโน้ตบุ๊กด้วย ทางแก้ปัญหาในทุกวันนี้ที่มีใช้กันคือการเข้ารหัสที่ตัว File System เช่น NTFS แต่กรณีเช่นนี้ถ้าผู้ใช้เผลอเอาไฟล์สำคัญไปวางไว้นอกส่วนที่เข้ารหัส ข้อมูลนั้นก็มีความเสี่ยงอยู่ดี แถมการเข้ารหัสที่ระบบปฏิบัิิติการนั้นช้าอย่างไม่น่าให้อภัยกันทีเดียว
หลังจากโดน Seagate ซื้อไปเมื่อปีก่อน แบรนด์ Maxtor ได้กลับมาอีกรอบโดยจะจับตลาดล่างแทน
ฮาร์ดดิสก์ตระกูล DiamondMax จะออกรุ่นความจุ 320GB ออกมาสำหรับพีซีเดสก์ท็อประดับล่าง แล้วเลื่อนเอา Barracuda ไปจับตลาดบน ส่วนฮาร์ดดิสก์พกพาตระกูลใหม่ MobileMax สำหรับโน้ตบุ๊คระดับล่างจะมีเฉพาะรุ่น 5400 รอบและมีความจุสูงสุด 80GB เท่านั้น สิ่งที่ต่างกันคือฮาร์ดดิสก์ยี่ห้อ Maxtor จะรับประกัน 3 ปีเทียบกับของ Seagate โดยตรง 5 ปี
ใครใช้ Maxtor อยู่รายงานตัวด้วยก็ดีนะ
ที่มา - Ars Technica
เทคโนโลยี PMR (Perpendicular magnetic recording) กำลังทำให้เราได้เห็นฮาร์ดดิสก์เพิ่มขนาดขึ้นอย่างรวดเร็วในช่วงหลังๆ มานี้ ล่าสุดซีเกตต์ก็ประกาศความสำเร็จในการสร้างฮาร์ดดิสก์ความจุระดับ 421กิกะบิตต่อตารางนิ้วเป็นที่เรียบร้อยแล้ว
ด้วยความหนาแน่นระดับนี้เราคงได้เห็นเครื่องเล่น mp3 ที่มีความจุระดับร้อยกิกะไบต์ หรือฮาร์ดดิกส์โน้ตบุ๊กที่ความจุระดับ 500 กิกะไบต์ไปจนถึงฮาร์ดดิสก์สำหรับเครื่องเดสก์ทอปที่ 2.5 เทราไบต์เริ่มผลิตกันเป็นจำนวนมากภายในปี 2009
ใครรอไอพ็อดรุ่นใหม่แล้วผิดหวัง งานหน้าอาจจะไม่ต้องผิดหวังซ้ำสอง เพราะวันนี้ทางซีเกตต์ก็ออกมาเปิดตัวฮาร์ดดิสก์ตัวใหม่กับเรียบร้อยแล้ว กับฮาร์ดดิสก์ขนาด 1.8 นิ้วที่มีความจุถึง 120 กิกะไบต์ งานนี้แม้จะยังไม่มีการยืนยันจากทางแอปเปิลว่าจะมีการซื้อไปใส่ไอพ็อดหรือไม่ แต่ที่ผ่านมาแอปเปิลก็ยังไม่ค่อยพลาดการอัพเกรดเช่นนี้กันเท่าใหร่
ผมว่าเอามาใส่โน้ตบุ๊กก็ดีนะ น่าจะลดน้ำหนักไปได้เยอะเลย
ทีี่มา - PC Exposure
Seagate ผู้ผลิตฮาร์ดไดร์วอันดับหนึ่ง เข้าซื้อกิจการของอันดับสาม Maxtor (อันดับสองคือ WD) ด้วยมูลค่า 1.9 พันล้านเหรียญโดยวิธีการแลกหุ้น การควบกิจการจะแล้วเสร็จในครึ่งหลังของปีหน้า
ปีนี้เป็นปีแห่งการควบกิจการจริงๆ
ระยะหลังๆ ฮาร์ดดิสดูเหมือนจะเป็นส่วนที่เงียบเหงาที่สุด เช่นแลปทอปที่เห้นฮาร์ดดิส 60 กิกะไบต์กันเป็นเรื่องปรกติ แต่ซีเกตต์ก็ออกมาทำลายความเงียบนี้แล้ว ด้วยการประกาศฮาร์ดดิสรุ่นใหม่ถึงสิบรุ่นด้วยกัน โดยทั้งหมดจะออกมาภายในสิ้นปีนี้
รายการฮาร์ดดิสที่ประกาศดันให้ขนาดของฮาร์ดดิสในตลาด เดสทอป เพิ่มจุดสูงสุดไปอยู่ที่ 500 กิกะไบต์ ส่วนแลปทอปนั้นไปอยู่ที่ 120 กิกะไบต์ และคอมแพคแฟลชขนาด 8 กิกะไบต์
ซีเกตต์ยังมีแผนจะออกฮาร์ดดิสขนาด 2.5 นิ้วสำหรับแลปทอปขนาด 160 กิกะไบต์ในต้นปีหน้า
ต้องรอเจ้าอื่นออกมาแข่งเร็วๆ จะได้ถูกๆ...