Alibaba Group เปิดเผยสถิติหลังเกม Black Myth: Wukong วางขายในจีน ว่าเกิดอะไรขึ้นกับแพลตฟอร์มต่างๆ ในเครือ Alibaba
AIS ร่วมกับ สำนักงานส่งเสริมเศรษฐกิจดิจิทัลหรือดีป้า และ กลุ่มผู้ประกอบการบริหารจัดการท่าเรือ และสมาคมธุรกิจเรือยอชต์ไทย ทำโครงการ Digital Yacht Quarantine หรือโครงการกักตัวบนเรือยอชต์ โดยใช้ระบบติดตามจากสายรัดข้อมือบนเครือข่าย NB-IoT หวังจูงใจนักท่องเที่ยว กระตุ้นเศรษฐกิจในพื้นที่ภูเก็ตและภาคใต้
ททท. หรือการท่องเที่ยวแห่งประเทศไทยประกาศความร่วมมือกับบริษัท GrabTaxi ประเทศไทยเพื่อนำ Big Data ในส่วนของนักท่องเที่ยวต่างชาติที่ใช้แพลตฟอร์ม Grab มาประกอบการทำแคมเปญรณรงค์เรื่องการท่องเที่ยวในประเทศ
Grab ระบุว่าปัจจุบันลูกค้าที่ใช้บริการ เป็นนักท่องเที่ยวราว 30% ซึ่งข้อมูลที่ทาง ททท. นำไปใช้ไม่เพียงแต่ข้อมูลเรื่องการเดินทางเท่านั้น แต่ยังมีข้อมูลเรื่องร้านอาหารที่นักท่องเที่ยวสั่งซื้อผ่าน Grab Food ด้วย ซึ่งข้อมูลเหล่านี้สะท้อนพฤติกรรม สถานที่ยอดนิยม ระยะเวลาที่อยู่ในไทย ไปจนถึงไลฟ์สไตล์ของนักท่องเที่ยวหลากหลายชาติที่มาเที่ยวในไทยได้เป็นอย่างดี โดย Grab ยืนยันว่า Big Data ที่ให้กับทาง ททท. เป็นข้อมูลที่ไม่เปิดเผยตัวตน
Grab ประกาศความร่วมมือล่าสุด ซึ่งถือเป็นการขยับที่น่าสนใจเพราะที่อินโดนีเซีย Go-Jek ถือเป็นแอปเรียกรถโดยสารที่ได้รับความนิยมมากกว่า โดย Grab ร่วมมือกับกระทรวงการท่องเที่ยวของอินโดนีเซีย เพื่อให้ผู้ใช้ Grab ในสิงคโปร์สามารถวางแผนการเดินทางท่องเที่ยวในอินโดนีเซียได้เลยผ่านแอป Grab
แคมเปญนี้มีชื่อว่า #JelajahIndonesiaLebihDekat เป็นการร่วมประชาสัมพันธ์การท่องเที่ยวในอินโดนีเซีย ไปยังกลุ่มนักท่องเที่ยวจากประเทศภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ เริ่มต้นที่สิงคโปร์แห่งแรก และถือเป็นการเชื่อมต่อผู้ใช้ Grab ในอาเซียนเข้าไว้ด้วยกัน
รัฐบาลญี่ปุ่นประกาศแผนงานส่งเสริมการท่องเที่ยวประจำปี ซึ่งหนึ่งในนั้นคือเพิ่มบริการอินเทอร์เน็ตแก่นักท่องเที่ยว โดยตั้งเป้าจะติดตั้งระบบ Wi-Fi ให้ใช้งานฟรีบนรถไฟชินคันเซ็นทั้งหมดภายในเดือนมีนาคมปี 2019
แผนงานนี้มีเป้าหมายเพื่อจูงใจให้นักท่องเที่ยวออกเดินทางไปเที่ยวในพื้นที่นอกตัวเมืองมากยิ่งขึ้น โดยรัฐบาลญี่ปุ่นยังมีแผนที่จะแก้ไขระบบการสื่อสารที่ถูกตัดขาดในระหว่างรถวิ่งลอดอุโมงค์ให้หมดไปภายในปี 2020 ด้วย ทั้งนี้เป้าหมายหลักของแผนการส่งเสริมการท่องเที่ยวนี้ก็เพื่อเพิ่มจำนวนนักท่องเที่ยวจากต่างชาติให้ถึง 40 ล้านคนภายในปี 2020
เพื่อตอบรับการเพิ่มขึ้นของจำนวนนักท่องเที่ยวชาวจีนในมาเลเซีย อูเบอร์มาเลเซียจึงถือโอกาสเปิดตัว UberMandarin ที่คนขับสามารถพูดภาษาจีนได้ โดยจะให้บริการใน 3 พื้นที่คือ Johor Bahru, Kota Kinabalu และ ปีนัง
กระทรวงท่องเที่ยวในมาเลเซีย คาดการณ์ตัวเลขนักท่องเที่ยวจีนที่มาเที่ยวว่ามีถึง 3 ล้านคนในปีนี้ และปีหน้าจะมี 4 ล้านคน และจะมีมากถึง 8 ล้านคนภายในปี 2020
ต่อจากข่าว กระทรวงการท่องเที่ยวเตรียมนำสถานที่ท่องเที่ยวในไทยบรรจุลง Pokemon Go วันนี้ นายศิริปกรณ์ เชี่ยวสมุทร ผู้อำนวยการสำนักเทคโนโลยีสารสนเทศ การท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย (ททท.) ระบุว่าจะปล่อย "โปเกมอนหายาก" ใน 24 จังหวัดในกลุ่ม “12 เมืองต้องห้าม...พลาด” และ “12 เมือง ต้องห้าม...พลาดพลัส” ที่ ททท. สนับสนุน โดยจะปล่อยในพื้นที่ชนบทที่มีของดีน่าเที่ยว
24 จังหวัดในกลุ่มนี้ได้แก่ 1.น่าน 2.แพร่ 3.ลำปาง 4.ลำพูน 5.เพชรบูรณ์ 6.พิษณุโลก 7.เลย 8.ชัยภูมิ 9.บุรีรัมย์ 10.สุรินทร์ 11.ราชบุรี 12.สุพรรณบุรี 13.สมุทรสงคราม 14.นครปฐม 15.ตราด 16.ระยอง 17.จันทบุรี 18.สระแก้ว 19.ชุมพร 20.ระนอง 21.ตรัง 22.สตูล 23.นครศรีธรรมราช 24.พัทลุง
รัฐบาลท้องถิ่นจังหวัดอิวะเตะ, มิยางิ, ฟุกุชิมะและคุมะโมโตะ ได้จับมือกับ Niantic Labs ออกโปรเจ็คร่วมกันในการใช้ Pokemon Go ในการโปรโมทการท่องเที่ยว หลังจังหวัดทั้ง 4 ประสบกับภัยพิบัติทั้งแผ่นดินไหวและสึนามิ
การโปรโมทการท่องเที่ยว จะอาศัยตำแหน่งของ PokeStop และยิมใน Pokemon Go ที่จะตั้งอยู่ตามจุดน่าสนใจต่างๆ รวมไปถึงจะมีการจัดกิจกรรมเกี่ยวกับเกมร่วมกันทั้ง 4 จังหวัดด้วย โดยโปรเจ็คนี้จะเริ่มต้นในช่วงฤดูใบไม้ร่วงนี้ (ช่วงเดือนกันยายนเป็นต้นไป)
ที่มา - Anime News Network
กระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬาเตรียมใช้ Pokemon Go เป็นสื่อในการส่งเสริมการท่องเที่ยวในประเทศไทย ด้วยการนำสถานที่ท่องเที่ยวสำคัญทั้งเมืองหลักและเมืองรอง ไปบรรจุไว้ในเกม
ขณะเดียวกันทางกระทรวงก็ได้จับมือกับกระทรวง ICT ในการพัฒนาแพลตฟอร์มด้านการท่องเที่ยว รวมถึงแอพพลิเคชันที่แนะนำสถานที่ท่องเที่ยว ร้านค้า ร้านอาหาร และแหล่งช็อปปิ้ง เพื่ออำนวยความสะดวกและกระตุ้นให้นักท่องเที่ยวเดินทางเข้ามาเที่ยวในประเทศไทยมากยิ่งขึ้น
ที่มา - ฐานเศรษฐกิจ
แม้เราจะรู้จักกับ Ingress ในฐานะเกมตีป้อมค่ายมานาน (อ่านข่าวเก่าและคู่มือการเล่นประกอบ) แต่เราอาจจะคาดเดาการเอาไปใช้จริงได้ยังไม่ชัดเจนนัก จนกระทั่งเมื่อวันจันทร์ที่ผ่านมา เว็บไซต์ของหนังสือพิมพ์ The Japan Times รายงานว่าเจ้าหน้าที่ประจำจังหวัด Iwate ของประเทศญี่ปุ่น เตรียมใช้ Ingress เป็นเครื่องมือส่งเสริมการท่องเที่ยวอย่างเป็นทางการ
Ben Southall นักระดมทุนเพื่อการกุศล วัย 34 ปีจากเมืองแฮมเชอร์ประเทศอังกฤษ ได้รับเลือกให้เป็นผู้ดูแลเกาะแฮมมิลตัน ประเทศออสเตรเลีย เอาชนะผู้เข้าแข่งจาก 200 ประเทศ 35,000 คน โดยเขาจะได้รับหน้าที่เป็นเจ้าหน้าที่ดูแลเกาะสวรรค์แห่งนี้ พร้อมค่าจ้างเป็นเงิน 110,000 เหรียญสหรัฐ หรือประมาณ 4 ล้านบาท ภายในระยะเวลา 6 เดือน
Best Job in The World เป็นแคมเปญที่จัดหาเจ้าหน้าที่ดูแลเกาะที่ได้ชื่อว่าสวยที่สุดแห่งหนึ่งของโลก โดยนอกจากรายได้ที่เป็นตัวเงินแล้ว ยังมีสวัสดิการณ์อีกมากมายไม่ว่าจะเป็นห้องพักหรูขนาด 3 ห้องนอน, บริการอาหาร, สปาหรู, ตั๋วเครื่องบินไปกลับประเทศบ้านเกิด รวมทั้งงานที่ต้องทำก็ไม่ได้ยากเย็นอะไร คือตื่นเช้ามาให้อาหารปลา ถ่ายรูป วิดีโอ เขียนบล็อกและทำหน้าที่ประชาสัมพันธ์เกาะ