ในงานแถลงข่าวของ Xiaomi วันนี้ นอกจากการเปิดตัว Mi 9 Pro 5G, Mi Mix Alpha และทีวี MI Full Screen TV Pro ก็ยังพูดถึงรอม MIUI 11 เวอร์ชันใหม่ด้วย
การเปลี่ยนแปลงที่สำคัญของ MIUI 11 คือการปรับหน้าตาของ UI โดยรวม (อีกรอบ) โดยยังคงธีมสีขาว-ไอคอนสีสดใสตามสไตล์ MIUI ของเดิม แต่ปรับหน้าตาให้เรียบง่ายขึ้น ใช้โทนสีเน้นที่เป็นระบบมากขึ้น
นอกจากสมาร์ทโฟนแล้ว Xiaomi ก็เปิดตัวทีวีรุ่นใหม่ "MI Full Screen TV Pro" มาพร้อมความละเอียด 4K พร้อมราคาเริ่มต้นเป็นมิตรต่อกระเป๋าตามสไตล์ โดยสเปคของทีวีรุ่นนี้คือ
นอกจาก Xiaomi MI 9 Pro 5G ที่เปิดตัวไปแล้ว Xiaomi ยังส่ง Xiaomi MI MIX Alpha กับดีไซน์ล้ำที่หน้าจอโอบถึงด้านหลังตัวเครื่อง โดยมีสเปคดังนี้
เมื่อวานมีข่าวหลุด Xiaomi MI MIX Alpha กับ MI 9 Pro 5G มาแล้ว ตอนนี้ Xiaomi เปิดตัว Xiaomi MI 9 Pro 5G มากับฟีเจอร์เด่นอย่างระบบชาร์จไร้สาย 30W ส่วนสเปคมีดังนี้
Xiaomi เปิดตัว Redmi K20 Proไปเมื่อพฤษภาคมที่ผ่านมา แต่ไม่ทันครบปีก็มีรุ่นอัปเกรดในชื่อ Redmi K20 Pro Premium มาวางจำหน่ายโดยอัปเกรดสเปคตัวเครื่องและติดตั้งชิปเซ็ต Qualcomm Snapdragon 855+ มาให้ รายละเอียดมีดังนี้
กระแสหน้าจอโค้งถือว่ามาแรงจนค่ายใหญ่อย่าง Huawei, Vivo ก็เริ่มเปิดตัวมือถือที่จอโค้งทั้งสองฝั่งมาแล้ว ล่าสุด Xiaomi มาเหนือกว่า โพสต์ภาพ Mi MIX Alpha บน Weibo ที่โชว์หน้าจอของตัวเครื่องที่โค้งกินพื้นที่ขอบเครื่องไปจนถึงด้านหลัง โดยพื้นที่ตรงสันสามารถแสดงวันที่และเวลาได้
Xiaomi ระบุว่าจะเปิดตัว Mi MIX รุ่นใหม่วันที่ 24 กันยายนนี้
แม้เทคโนโลยีชาร์จไร้สายมีการใช้งานมาแล้วสักระยะ แต่ก็ยังถือว่าไม่ค่อยเป็นที่นิยมนัก ส่วนหนึ่งก็เกิดจากความช้าของการชาร์ตที่จ่ายไฟแค่ 5W-10W หรืออย่างมากก็ 15W
ล่าสุด Xiaomi เปิดตัวเทคโนโลยีชาร์จไร้สายตัวใหม่ที่จ่ายไฟได้ถึง 30W พร้อมรองรับมาตรฐาน Qi ช่วยชาร์จแบตเตอรี่ขนาด 4,000mWh ได้ถึง 50% ใน 25 นาที พร้อมสามารถทำ Reverse Charging ได้ในตัว โดยสมาร์ทโฟนรุ่นแรกที่รองรับฟีเจอร์นี้คือ Mi 9T Pro เวอร์ชัน 5G
นอกจากนี้ Xiaomi ยังโปรยด้วยว่าเทคโนโลยีชาร์จไร้สาย 40W กำลังอยู่ในช่วงทดสอบอยู่ด้วยและจะมาเร็ว ๆ นี้
ที่มา - Xiaomi
Xiaomi ประเทศไทยเพิ่งวางขาย Mi 9T ไปเมื่อเดือนกรกฎาคม มาวันนี้ก็ประกาศวางขายมือถือรุ่นอัพเกรด Mi 9T Pro แล้วเช่นกัน
Xiaomi Mi 9T Pro เป็นการอัพเกรดมาใช้หน่วยประมวลผลเรือธง Snapdragon 855 (รุ่นธรรมดาเป็น Snapdragon 730) โดยยังคงแรม 6GB เท่าเดิม, กล้องหลัง 3 ตัว 48MP เหมือนเดิม, กล้องหน้าป๊อปอัพ 20MP, หน้าจอ AMOLED ขนาด 6.39"
Mi 9T Pro รุ่นที่ขายในไทย แบ่งเป็น 2 รุ่นย่อยตามขนาดสตอเรจคือ 6GB+64GB ราคา 13,990 บาท (2 สีคือ Glacier Blue, Carbon Black) และรุ่น 6GB+128GB ราคา 14,990 บาท (3 สีคือ Flame Red, Glacier Blue และ Carbon Black) เริ่มเปิดพรีออเดอร์แล้วจนถึงวันที่ 23 กันยายน
ผู้ใช้รอม MIUI ของ Xiaomi คงทราบกันดีว่ามีโฆษณาด้วย ซึ่งถือเป็นวิธีการหารายได้อีกทางของ Xiaomi แม้จะส่งผลต่อประสบการณ์ใช้งานของผู้ใช้ก็ตาม
แต่ล่าสุดเหมือนว่า Xiaomi ยอมเปลี่ยนท่าทีแล้ว โดยหัวหน้าทีม MIUI experiece ได้โพสต์ผ่าน Weibo ของจีนว่า Xiaomi กำลังแก้ปัญหานี้ โดยะเปิดให้ผู้ใช้ "ปิด" การแสดงผลโฆษณาได้จากหน้า Settings โดยเริ่มจากในรอม MIUI 9.8.29 Beta เวอร์ชันในประเทศจีน
ส่วนผู้ใช้นอกจีนคงต้องรอดูกันว่าจะได้ฟีเจอร์นี้ตามมาในตอนไหน หากพิจารณาจะสถานะของ MIUI 10 ที่กำลังจะออกรุ่นเสถียร ก็น่าจะเป็น MIUI 11 เวอร์ชันหน้าแทน
เราเพิ่งเห็น Xiaomi ออกโน้ตบุ๊ก RedmiBook 14 ไปเมื่อเดือนพฤษภาคม เวลาผ่านไม่กี่เดือน มันก็ถูกอัพเกรดเป็น RedmiBook 14 Pro เรียบร้อย
การเปลี่ยนแปลงสำคัญคือการอัพเกรดซีพียูมาใช้ Intel 10th Gen Core ส่วนจีพียูยังคงเป็น NVIDIA GeForce MX250 แรม 2GB
สเปกอื่นคือแรม 8GB DDR4, สตอเรจ 512GB, หน้าจอ 14" Full HD ขอบจอบาง 5.75 มิลลิเมตร, นำหนัก 1.5 กิโลกรัม, แบตเตอรี่อยู่ได้นาน 10 ชั่วโมง และรองรับ quick charge ในตัว
RedmiBook 14 Pro มีให้เลือก 3 รุ่นย่อย เริ่มขายในจีน 6 กันยายน
เราเห็นทีวีแบรนด์ Xiaomi มาได้สักพักใหญ่ๆ แล้ว คราวนี้แบรนด์ลูกอย่าง Redmi ก็เข้าสู่วงการทีวีเช่นกัน ด้วยทีวีรุ่นแรกคือ Redmi TV 70"
Redmi TV รุ่นแรกมีขนาดใหญ่ถึง 70 นิ้ว ความละเอียด 4K ใช้ดีไซน์แบบ minimal เรียบง่าย ตัวหน่วยประมวลผลเป็น Amlogic 8 คอร์, แรม 2GB, สตอเรจ 16GB, เชื่อมต่อ Wi-Fi 2.4/5GHz, รองรับ Bluetooth และมีระบบผู้ช่วยสั่งงานด้วยเสียงในจีน XiaoAI
ราคาขายอยู่ที่ 3,799 หยวน หรือประมาณ 16,500 บาท เริ่มขายในจีน 10 กันยายน
Xiaomi บอกว่าในครึ่งแรกของปี 2019 ขายทีวีไปแล้ว 5.4 ล้านเครื่องทั่วโลก และตั้งใจออกทีวีแบรนด์ Redmi โดยมีจุดขายเรื่องความคุ้มค่าแบบสุดๆ (extreme performance-to-price ratio)
สัปดาห์ที่ผ่านมา Xiaomi เปิดตัวมือถือแบรนด์ Redmi รุ่นใหม่คือ Redmi Note 8 Pro และ Redmi Note 8
Redmi Note 8 Pro มีจุดเด่นคือใช้เซ็นเซอร์กล้องตัวใหม่ของซัมซุง GW1 ความละเอียด 64MP ถือเป็นกล้องมือถือตัวแรกที่สามารถใส่กล้องความละเอียดระดับนี้ ส่วนกล้องหลังตัวอื่นอีก 3 ตัวคือ เลนส์มุมกว้าง 120 องศา ความละเอียด 8MP, เลนส์มาโคร 2MP, เลนส์วัดระยะลึก 2MP
ส่วนหน่วยประมวลผลเป็น MediaTek G90T แปดคอร์, จีพียู Mali-G76, ตัว SoC ใช้ระบบระบายความร้อนด้วยของเหลว LiquidCool ทำให้เร่งประสิทธิภาพได้เต็มที่, หน้าจอ 6.53" ติ่งกล้องหน้าหยดน้ำ, แบตเตอรี่ขนาด 4,500 mAh, ระบบชาร์จเร็ว 15W และยังมีช่องเสียบหูฟัง 3.5 มม.
Reuters รายงานข่าวว่า Xiaomi แบรนด์สมาร์ทโฟนชื่อดังจากประเทศจีน เตรียมสยายปีกไปยังธุรกิจ FinTech ในอินเดีย ซึ่งเป็นประเทศที่ Xiaomi มีส่วนแบ่งการตลาดสูงเป็นอันดับหนึ่ง โดยเริ่มจากการปล่อยกู้แบบ Microlending ให้ลูกค้าสมาร์ทโฟนของตัวเอง
บริการปล่อยกู้มีชื่อว่า Mi Credit โดยจะปล่อยกู้เป็นเงินไม่เกิน 100,000 รูปี (ประมาณ 43,000 บาท) ที่อัตราดอกเบี้ยเริ่มต้น 1.8%
Xiaomi รายงานผลประกอบการประจำไตรมาสที่ 2 ของปี 2019 รายได้รวม 5.19 หมื่นล้านหยวน (7.3 พันล้านดอลลาร์, 2.3 แสนล้านบาท) เพิ่มขึ้น 14.8% จากช่วงเดียวกันในปีก่อน และมีกำไรสุทธิ 1.96 พันล้านหยวน (277.7 ล้านดอลลาร์, 8.5 พันล้านบาท)
สมาร์ทโฟนในไตรมาสที่ผ่านมาขายได้ 32.1 ล้านเครื่อง ส่วนยอดขายรวมนับตั้งแต่เปิดตัวนั้น Xiaomi บอกว่าตระกูล Redmi Note 7 ขายได้แล้วมากกว่า 20 ล้านเครื่อง ส่วนตระกูล K20 ขายได้มากกว่า 1 ล้านเครื่อง ในเดือนแรกที่เริ่มจำหน่าย
3 ผู้ผลิตสมาร์ทโฟนรายใหญ่ของจีน ได้แก่ Xiaomi, Oppo และ Vivo ประกาศความร่วมมือในการพัฒนาโปรโตคอลสำหรับส่งไฟล์แบบไร้สายระหว่างอุปกรณ์ร่วมกัน โดยจะทำงานบนระบบปฏิบัติการที่พัฒนาต่อจาก Android ของแต่ละค่าย นั่นคือ MIUI ของ Xiaomi, ColorOS ของ Oppo และ FuntouchOS ของ Vivo
โปรโตคอลดังกล่าวจะจับคู่อุปกรณ์ผ่านบลูทูธ และส่งข้อมูลหากันด้วย Wi-Fi ความเร็วสูงสุด 20MB ต่อวินาที คล้ายกับการทำงานของ AirDrop บน iOS ทั้งนี้ Xiaomi บอกว่าเวอร์ชันเบต้าจะมีออกมาให้ใช้งานภายในเดือนนี้ และผู้ผลิตสมาร์ทโฟนค่ายอื่นก็สามารถเข้าร่วมพันธมิตรนี้ได้
หากดูเฉพาะส่วนแบ่งยอดขาย 3 ค่ายสมาร์ทโฟนนี้ในจีนก็สูงถึง 49% โปรโตคอลดังกล่าวจึงมีโอกาสได้รับความนิยมสูง
ซัมซุงเปิดตัวเซ็นเซอร์กล้อง ISOCELL รุ่นใหม่ Bright HMX ที่มีความละเอียดสูงถึง 108 เมกะพิกเซล ถือเป็นเซ็นเซอร์กล้องมือถือตัวแรกที่มีความละเอียดสูงเกิน 100 ล้านพิกเซล เทียบเท่ากับกล้อง DSLR ระดับโปร
คุณสมบัติอื่นของ ISOCELL Bright HMX คือใช้เซ็นเซอร์ขนาดใหญ่ 1/1.33 รองรับปริมาณแสงได้มากขึ้น และเทคนิค Tetracell รวมแสงจากพิกเซลที่อยู่ติดกัน 4 เม็ดพิกเซลเพื่อให้ได้ภาพที่สว่างขึ้น (ภาพที่รวมแล้วจะความละเอียด 27 เมกะพิกเซล)
นอกจากนี้ เซ็นเซอร์ HMX ยังมีฟีเจอร์ Smart-ISO ช่วยเลือกระดับการขยายสัญญาณ เพื่อให้การแปลงสัญญาณแสงเป็นกระแสไฟฟ้า (light-to-electric signal conversion) มีประสิทธิภาพมากขึ้น เพราะเลือกใช้ ISO ต่ำในสภาพแสงปกติ และ ISO สูงในสภาพแสงน้อยเพื่อลด noise
Xiaomi Thailand เปิดราคาของ Mi A3 มือถือ Android One ในประเทศไทย
Mi A3 เริ่มวางขายในประเทศไทยแล้ววันนี้ (7 สิงหาคม) เป็นวันแรก
Xiaomi เปิดตัวเกมมิ่งโฟน Black Shark 2 Pro ซึ่งเป็นเวอร์ชันอัพเกรดของ Black Shark 2 ที่ออกเมื่อต้นปี
การเปลี่ยนแปลงสำคัญที่สุดคือ อัพเกรดหน่วยประมวลผลเป็น Snapdragon 855 Plus ตัวใหม่ล่าสุด (เทียบเท่ากับ ASUS ROG Phone II ที่เพิ่งเปิดตัวเมื่อไม่กี่วันก่อน) และอัพเกรดตัวสตอเรจเป็น UFS 3.0
Xiaomi เปิดตัวมือถือ Android One ประจำปี 2019 นั่นคือ Mi A3 ที่หลายคนรอคอยกัน โดยรอบนี้อิงจาก Xiaomi CC9e มือถือแบรนด์ย่อยที่เพิ่งเปิดตัวไม่นานมานี้
สเปกของ Xiaomi Mi A3 มีดังนี้
ช่วงที่ผ่านมาตลาด Smart Band หรือ Fitness Tracker กลับมาคึกคักอีกครั้ง เมื่อ Xiaomi เปิดตัว Mi Band 4 ด้วยคุณสมบัติที่จัดเต็มใกล้เคียงกับคู่แข่งที่ราคาหลายพัน แต่มาในราคาแค่ 1,290 บาทเท่านั้น หรือหากสั่งซื้อจากบนเว็บก็พอมีราคาต่ำพันขายด้วยซ้ำ
รีวิวนี้จะพาไปดูความสามารถของ Mi Band 4 ว่ามันคุ้มสมชื่อมันจริงหรือไม่
Disclaimer: บทความนี้ไม่ได้รับการสนับสนุนใดๆ จาก Xiaomi ผู้เขียนซื้อมาใช้เอง
Xiaomi เปิดจำหน่าย Mi Box S ที่เป็น Android TV ในประเทศไทยอย่างเป็นทางการที่ราคา 2,599 บาท หลังจากเปิดตัวในสหรัฐฯ ตั้งแต่ปลายปีที่แล้ว
การเป็น Android TV ทำให้ Mi Box S รองรับ Google Cast ยิงภาพจากโทรศัพท์มือถือขึ้นทีวีได้เลย หากใครต้องการใช้ Google Cast ที่ภาพระดับ 4K ก็น่าจะเป็นตัวเลือกที่น่าสนใจ
Xiaomi เปิดตัวโทรศัพท์ตัวรอง Mi 9T ในประเทศไทย สเปคดังนี้
รุ่นสตอเรจ 64GB ราคา 11,990 บาท รุ่น 128GB ราคา 12,990 บาท มีโปรโมชั่นติดสัญญากับ AIS แถม Mi Band 4
Xiaomi ได้เปิดตัวสมาร์ทโฟนชุดใหญ่ซีรี่ส์ CC9 โดยมีประเด็นที่หลายคนสนใจคือฟีเจอร์สร้างอวาตาร์ 3D สำหรับสนทนา เรียกชื่อว่า Mimoji ซึ่งหน้าตาการ์ตูนนั้นค่อนข้างคล้ายกับฟีเจอร์แนวเดียวกันใน iMessage ของแอปเปิลที่เรียกชื่อว่า Memoji
แอปเปิลเปิดตัว Memoji ใน iOS 12 ไปเมื่อปีที่แล้ว และไม่ถือว่าเป็นผู้ริเริ่มเสียทีเดียว เนื่องจาก Galaxy S9 มีฟีเจอร์แบบนี้มาก่อนอยู่แล้ว
พร้อมๆ กับ Mi Band 4 ทาง Xiaomi ได้เปิดตัวสมาร์ทโฟนระดับล่างอย่าง Redmi 7A ด้วยขนาดหน้าจอ 5.45 นิ้ว ความละเอียด FHD+ ชิปเซ็ต Snapdragon 439 กล้องหลัง 12 ล้านพิกเซล กล้องหน้า 5 พิกเซล มีระบบ AI ทั้งคู่
Redmi 7A ยังรองรับวิทยุ, หูฟัง 3.5 มม., microSD และกันละอองน้ำได้ด้วย แบตเตอรี 4,000 mAh มีสองสีคือ Matte Black และ Matte Blue โดยรุ่น 2GB+16GB ราคาอยู่ที่ 2,999 บาท ส่วนรุ่น 2GB+32GB ราคาอยู่ที่ 3,399 บาท เปิดให้พรีออเดอร์ผ่าน Lazada ถึงวันที่ 10 กรกฎาคมนี้ พร้อมรับฟรี microSD 32GB (ของแถมมีจำกัด)
Xiaomi เปิดราคา Mi Band 4 ฟิตเนทแทรคเกอร์ในประเทศไทย ด้วยสเปคหน้าจอ AMOLED, กันน้ำ 5 ATM, วัดอัตราการเต้นของหัวใจ รองรับการควบคุมเพลง แบตเตอรี่อยู่ได้สูงสุด 20 วัน ตัวจับการเคลื่อนไหวเป็น accelerometer 3 แกนและ gyroscope 3 แกน
ส่วนราคาเปิดมาที่ 1,290 บาท ราคาเดียวกับ Galaxy Fit e ของคู่แข่ง