หลายคนที่ชื่นชอบสมาร์ทโฟน Xiaomi ส่วนหนึ่งก็คือสเป็กเทียบกับราคาที่มีความคุ้มค่ามาก เมื่อเทียบกับแบรนด์คู่แข่ง อย่างไรก็ตามเมื่อสินค้ามีราคาไม่สูง หลายคนก็คงด่วนเชื่อว่าสินค้านั้นคุณภาพคงไม่ดีมากนัก Xiaomi ก็เลยคิดว่าต้องทำอะไรสักอย่าง

Lei Jun ซีอีโอของ Xiaomi ให้สัมภาษณ์กับสื่อของจีน บอกว่าในอนาคต สมาร์ทโฟนรุ่นใหม่ของ Xiaomi อาจมีราคาสูงมากขึ้นจากฐานราคาเดิมที่มีอยู่ แต่การขึ้นราคานั้นไม่ใช่แค่อยากจะขึ้นก็ขึ้น เขาบอกว่า Xiaomi ต้องการเปลี่ยนตัวเองจากการจำกัดให้ขายสมาร์ทโฟนราคาต่ำกว่า 2,000 หยวน (ประมาณ 9,500 บาท) แต่ต้องการลงทุนเพิ่มเติมเพื่อให้ได้สินค้าที่ดีมากขึ้น

Xiaomi Thailand ประกาศราคาของ Redmi Go มือถือราคาถูกพลัง Android Go ใต้แบรนด์ลูก Redmi ที่ 2,699 บาท เริ่มขายวันที่ 4 มีนาคม 2562 นำเข้ามาขายในไทยเพียงสีเดียวคือสีน้ำเงิน

สเปกคร่าวๆ ของ Redmi Go คือหน้าจอ 5" 720p, Snapdragon 425, แรม 1GB, สตอเรจ 8GB + microSD แต่ระบบปฏิบัติการยังเป็น Android Oreo อยู่ ในขณะที่ท้องตลาดตอนนี้มีสมาร์ทโฟน Android Go ที่เป็น Pie เปิดตัวแล้ว

Xiaomi ยังร่วมมือกับ AIS ออกโปรโมชั่น Hot Deal ลดค่าเครื่องเหลือ 790 บาท แต่ต้องจ่ายแพ็กเกจของ AIS ร่วมด้วย

คนที่กลัวรู (Trypophobia) อาจได้เจอสมาร์ทโฟนที่ชวนขนลุกมากกว่านี้อีกก็ได้หลัง Xiaomi ประกาศเป็นพาร์ทเนอร์กับ Light บริษัทที่อยู่เบื้องหลังกล้อง 5 ตัวใน Nokia 9 PureView และกล้องคอมแพค 16 เลนส์

อย่างไรก็ตามในประกาศที่ Xiaomi แถลงออกมาถึงความร่วมมือดังกล่าว แทบไม่มีรายละเอียดบอกใบ้ใดๆ เกี่ยวกับความร่วมมือนี้ นอกจากว่า Xiaomi จะได้ Light เข้ามาช่วยเรื่องโซลูชันภาพถ่ายบนมือถือ

ทั้งนี้นอกจาก HMD Global และ Xiaomi แล้ว Light ยังเป็นพาร์ทเนอร์กับโซนีด้วย

หลังจาก Xiaomi เปิดตัว Mi 9 และ Mi 9 SE ในประเทศจีนไปเพียงไม่กี่วัน บริษัทก็ใช้เวทีงาน MWC 2019 เปิดตัว Mi 9 รุ่นขายนอกจีน (Global) ด้วย

สเปกของ Mi 9 รุ่นขายนอกจีนเหมือนกับรุ่นในจีนทุกประการ อันที่เป็นของใหม่คือราคา โดยตอนนี้ยังมีเฉพาะราคาที่ขายในยุโรป ดังนี้

• รุ่นแรม 6GB + 64GB ราคา 449 ยูโร (ประมาณ 16,200 บาท)
• รุ่นแรม 6GB + 128GB ราคา 499 ยูโร (ประมาณ 18,000 บาท)

Mi 9 มี 3 สีให้เลือก ได้แต่ สีดำ Piano Black, น้ำเงิน Ocean Blue, และม่วง Lavender Violet ส่วน Mi 9 รุ่นแรม 8GB และ Mi 9 SE รุ่นจอเล็ก ไม่ได้ตามมาเปิดตัวในยุโรปด้วย

Xiaomi เปิดตัวโทรศัพท์มือถือ Mi Mix 3 5G อัพเกรดสเปกเล็กน้อยจาก Mi Mix 3 เปลี่ยนมาใช้ Snapdragon 855, ชิปโมเด็ม Snapdragon X50 5G และแบตเตอรี่ 3800 mAh

ดีไซน์และสเปกอื่นๆ ของ Mi Mix 3 5G ไม่ต่างจากรุ่นปกตินัก ยังใช้หน้าจอ 6.39 นิ้ว กล้องหลังคู่ 12MP + 12MP, กล้องหน้าคู่แบบสไลด์ ความละเอียด 24MP + 2MP เซ็นเซอร์ Sony IMX576

Mi Mix 3 5G จะวางขายเดือนพฤษภาคมนี้ ราคา 599 ยูโร หรือประมาณ 21,000 บาท โดยร่วมกับพาร์ทเนอร์อย่าง Orange, Vodafone, Sunrise, TIM, Telefonica สำหรับให้บริการ 5G

นอกจาก Xiaomi Mi 9 เรือธงรุ่นปกติ ทาง Xiaomi ยังมี Xiaomi Mi 9 SE รุ่นหน้าจอเล็กลง ลดสเปก SoC ลง แต่ยังใช้กล้องตัวเดียวกับ Mi 9 รุ่นหลักออกมาขายด้วย

จุดแตกต่างของ Mi 9 SE กับ Mi 9 รุ่นปกติ

Xiaomi เปิดตัวเรือธงรุ่นใหม่ Mi 9 ตามที่พรีวิวมาก่อนหน้านี้ ใช้ดีไซน์จอไร้ขอบ กล้องหน้ารูปหยดน้ำตามสมัยนิยม มาพร้อมกล้องหลัง 3 ตัว ความละเอียดสูงสุด 48MP

สเปกโดยละเอียดมีดังนี้

Wang Xiang รองประธาน Xiaomi โพสต์ภาพโทรศัพท์มือถือรุ่นใหม่ Mi 9 ในทวิตเตอร์และ Weibo เผยดีไซน์ด้านหลังสีน้ำเงินที่มีความเงางาม ขอบด้านค้างโค้งเล็กน้อย กล้องหลัง 3 ตัว ไร้ปุ่มสแกนลายนิ้วมือด้านหลัง และยืนยันเตรียมเปิดตัว 24 กุมภาพันธ์นี้

รองประธาน Xiaomi ระบุว่าตัวเครื่องใช้การสลักด้วยเลเซอร์ระดับนาโน พร้อมด้วยนาโนโค้ดติ้ง เพื่อให้ได้งานสีที่เป็นเอกลักษณ์เฉพาะ

นอกจาก ยอดขายมือถือในประเทศไทย บริษัท Canalys ยังเผยยอดขายมือถือในยุโรปประจำไตรมาส 4/2018 ออกมาพร้อมกัน

ตลาดรวมของยุโรปในไตรมาส 4 ขายมือถือได้ 56.6 ล้านเครื่อง หดตัวลง 2.3% ลงจากปีก่อน (ถ้านับทั้งปี 2018 ตกลง 4%) โดยอันดับหนึ่งและสองยังเป็นของซัมซุงและแอปเปิล แต่ทั้งคู่ก็มียอดขายลดลงจากปีก่อน

ที่น่าสนใจคืออันดับสามและสี่เป็นของแบรนด์จีน Huawei และ Xiaomi ตามลำดับ มีอัตราเติบโตสูงมากคือ 55.7% และ 62% โดยเฉพาะกรณีของ Huawei ที่เติบโตจนมียอดขาย 13.3 ล้านเครื่อง ขึ้นมาไล่หลังแอปเปิลที่ขายได้ 14.7 ล้านเครื่องแล้ว ถ้ายังรักษาโมเมนตัมต่อไปได้ก็น่าจะแซงแอปเปิลในอีกไม่ช้า

Xiaomi ประกาศยอดขายสมาร์ทโฟนแบรนด์ลูก Redmi Note 7 ว่าขายไปได้แล้ว 1 ล้านเครื่อง ภายในเดือนแรกหลังเริ่มจำหน่าย ซึ่ง Xiaomi มองว่าเป็นการยืนยันว่ากลยุทธ์แยกแบรนด์ออกมานั้นได้ผลลัพธ์ที่ดี ในภาวะที่ตลาดสมาร์ทโฟนจีนเริ่มชะลอตัว

ตัวเลขสถิติยอดขายที่น่าสนใจเพิ่มเติมของ Redmi Note 7 คือสามารถขายได้ถึง 1 แสนเครื่อง ภายใน 10 นาที ของการเปิดจำหน่าย ทั้งนี้ Xiaomi มองว่าด้วยการวางตำแหน่งแบรนด์ และการตั้งราคาที่ไม่สูง ทำให้ลูกค้าให้การตอบรับเป็นอย่างดี

IDC เผยส่วนแบ่งตลาดสมาร์ทโฟนอินเดีย (ถือเป็นตลาดใหญ่อันดับสองรองจากประเทศจีน) ประจำไตรมาส 4/2018 และตัวเลขรวมของปี 2018 ทั้งปี

ข้อมูลของ IDC สอดคล้องกับ ข้อมูลของ Counterpoint Research ที่ออกมาก่อนหน้านี้ นั่นคือ Xiaomi เป็นแชมป์แบบทิ้งห่าง ด้วยยอดขาย 41.1 ล้านเครื่อง เติบโตถึง 58.6% จากปีก่อน ครองส่วนแบ่งตลาด 28.9%

IDC เผยยอดขายสมาร์ทโฟนจีนประจำไตรมาส 4/2018 จุดที่น่าจับตาคือยอดขายของแอปเปิลลดลงถึง 19.9% จากปีก่อน ทำให้ส่วนแบ่งตลาดอยู่อันดับ 4 ลดจาก 12.9% มาเหลือ 11.5%

แต่บริษัทที่แย่กว่าแอปเปิลก็ยังมี เพราะ Xiaomi ยอดตกลงถึง 34.9% ตกลงมาอยู่อันดับ 5 โดยภาพรวมของตลาดสมาร์ทโฟนจีนมียอดขายลดลง 9.7% จากปีก่อน

ส่วนบริษัทที่เติบโตสวนกระแสคือ Huawei ที่ยอดพุ่งแรงถึง 23.3% ยังครองอันดับหนึ่งอย่างมั่นคง อันดับสองคือ Oppo เติบโตเล็กน้อย 1.5% และอันดับสาม Vivo เติบโต 3.1%

IDC บอกว่าความสำเร็จของ Huawei เกิดจากการใช้สองแบรนด์คือ Huawei และ Honor แยกกันทำตลาด โดยการเติบโตมาจากฝั่งของ Honor เป็นหลัก

Lu Weibing ผู้จัดการทั่วไปของ Redmi โพสต์ข้อความบนเวยป๋อ (Weibo) โซเชียลมีเดียรายใหญ่ตัวหนึ่งของจีน ยืนยันว่า Redmi เตรียมออกโทรศัพท์มือถือใหม่ระดับเรือธงในปีนี้ใช้ชิป Snapdragon 855

ในโพสต์ของ Lu Weibing ยังระบุถึงโทรศัพท์มือถือใหม่อีกหนึ่งรุ่นที่ยังไม่เปิดตัว คือ Redmi Note 7 Pro ซึ่งไม่ได้ให้รายละเอียดของรุ่นดังกล่าวแต่อย่างใด

Redmi แบรนด์ลูก Xiaomi เปิดตัว Redmi Go โทรศัพท์มือถือรัน Android Go ในราคา 80 ยูโร หรือประมาณ 2,900 บาท เตรียมวางขายในยุโรปเดือนกุมภาพันธ์ ส่วนจะวางขายนอกยุโรปด้วยหรือไม่ยังไม่มีรายงานในตอนนี้

ตลาดสมาร์ทโฟนในประเทศอินเดีย เกิดการเปลี่ยนแปลงสำคัญในปี 2018 เมื่อ Xiaomi สามารถโค่นซัมซุง ขึ้นมาครองส่วนแบ่งตลาดอันดับ 1 ได้สำเร็จเป็นครั้งแรก

ล่าสุดมีตัวเลขจาก Counterpoint Research สรุปส่วนแบ่งตลาดสมาร์ทโฟนของอินเดียตลอดทั้งปี 2018 ออกมาแล้ว ซึ่ง Xiaomi ก็ครองแชมป์ตามคาดที่ 28% ส่วนซัมซุงตามมาอันดับสองที่ 24%

อันดับสามคือ Vivo 10%, Oppo 8%, Micromax 5% และรายอื่นๆ รวมกันอีก 25% ของตลาด

Xiaomi เปิดตัว ShareSave แพลตฟอร์มสำหรับการซื้อสินค้าของแบรนด์ Xiaomi และพาร์ทเนอร์สาย IoT จำนวนมากผ่านระบบอีคอมเมิร์ซ โดยชูจุดเด่นเรื่องความเป็นโซเชียล ช่วยกันซื้อเยอะๆ ทุกคนจะได้ของในราคาถูกลง

ShareSave มีโมเดลย่อย 3 แบบ

1. Pair-up ซื้อเป็นคู่ ได้ลดราคาทั้งคู่
2. Drop ช่วยกันซื้อเป็นกลุ่มใหญ่ หากระดมคนได้มากพอ ราคาจะลดลงถึง 100%
3. Kickstart ช่วยกันระดมทุนรายละ 0.2 ดอลลาร์ให้สินค้าพัฒนามาขายได้จริง และลูกค้าจะได้คะแนนสะสมเพิ่มสูงสุด 10 เท่า

Xiaomi ยังบอกว่าสินค้าในเครือของตนเองจำนวนมาก ไม่ถูกนำมาขายนอกจีนเพราะติดข้อจำกัดหลายอย่าง แต่สินค้าเหล่านี้จะถูกนำมาขายผ่านช่องทาง ShareSave โดยยังคงบริการหลังการขายให้ด้วย

ก่อนหน้านี้เคยมีคลิปหลุดมือถือพับได้ของ Xiaomi แต่รอบนี้ Xiaomi ตั้งใจเผยให้เห็นแบบเต็มๆ เป็นคลิปการใช้งานโทรศัพท์มือถือพับจอสองด้าน เปลี่ยนจากแท็บเล็ตเป็นมือถือได้ แต่ไม่ได้เปิดเผยรายละเอียดว่าโทรศัพท์มือถือรุ่นนี้จะวางขายหรือไม่

Xiaomi เผยคลิปสาธิตการใช้สแกนลายนิ้วมือในจอแบบใหม่ที่มีขนาดใหญ่ขึ้น อ่านลายนิ้วมือได้พร้อมกัน 2 นิ้ว สามารถแตะริมหน้าจอเพื่อสแกนนิ้วและปลดล็อกหน้าจอได้

คลิปดังกล่าวถูกโพสต์บนเวยป๋อ (Weibo) โซเชียลมีเดียรายใหญ่ตัวหนึ่งของจีน โดย Lin Bin ผู้ร่วมก่อตั้งและประธาน Xiaomi ระบุความสำคัญของการสแกนลายนิ้วมือในจอที่ใหญ่ขึ้นไว้ 2 ประเด็น คือ ผู้ใช้สามารถปลดล็อกหน้าจอได้เพียงแตะครั้งเดียว และพื้นที่สแกนลายนิ้วมือมีขนาด 25 มิลลิเมตร x 50.2 มิลลิเมตร ใหญ่พอที่จะสแกนลายนิ้วมือในจอได้โดยไม่ต้องมองที่จอเพื่อหาจุดสแกน

Lin Bin ไม่ได้ให้รายละเอียดอื่นๆ เพิ่มเติมว่าจะนำเทคโนโลยีดังกล่าวไปใช้กับสมาร์ทโฟนรุ่นใดในอนาคต

เมื่อเร็วๆ นี้ Xiaomi ประกาศผ่านหน้าเว็บไซต์ว่าจะมีการเปิดตัว Redmi ในฐานะแบรนด์ลูกแบรนด์ใหม่ในวันที่ 10 มกราคมนี้ ล่าสุดสมาร์ทโฟน Redmi รุ่นใหม่เปิดตัวอย่างเป็นทางการแล้ว คือ Redmi Note 7 มากับความละเอียดของกล้องหลัง 48 ล้านพิกเซล และโลโก้ใหม่ปักด้านหลังเครื่องว่า Redmi by Xiaomi

หลังจากปล่อยให้ค่ายอื่นเช่น Anker และ Aukey ขาย power bank ที่รองรับมาตรฐาน USB Power Delivery (USB-PD) มานาน ล่าสุด Xiaomi ก็ได้ปล่อยของแบบเดียวกันออกมาบ้างในชื่อ Mi Power Bank 3

Mi Power Bank 3 มีช่อง USB-A จำนวนสองช่อง จ่ายไฟ 5V/2.4A, 9V/2A, 12V/1.5A หากมีการใช้งานเพียงช่องเดียว และจะจ่ายไฟ 5V/3A หากใช้งานพร้อมกันสองช่อง และมีช่อง USB-C จำนวนหนึ่งช่องซึ่งรองรับมาตรฐาน USB-PD จ่ายไฟได้สูงสุดถึง 45 วัตต์

กำลังไฟ 45 วัตต์นี้นอกจากจะชาร์จโทรศัพท์มือถือได้ ยังรองรับการชาร์จ MacBook, MacBook Pro 13 และ 15 นิ้ว, ThinkPad X270 และ T470, Dell Latitude 5480 และ XPS 13 รวมถึงแลปท็อปอื่นๆ อีกหลายรุ่น

Xiaomi Mi MIX 3 สมาร์ทโฟนรุ่นเรือธงในตระกูล MIX เน้นการออกแบบที่โดดเด่นเป็นหลัก
จุดเด่นของรุ่นนี้คือหน้าจอขนาด 6.39 นิ้ว เต็มตาไร้ขอบ โดยใช้เทคนิคการซ้อนกล้องหน้าด้วยกลไกแม่เหล็กสไลด์ด้วยมือ แยกหน้าจอแสดงผลกับตัวเครื่องหลัก สเปคโดยรวมยังคงใช้ชิป Snapdragon 845, แรมเริ่มต้นที่ 6GB รอมเริ่มต้นที่ 128GB, กล้องหน้า-หลังคู่, รองรับการชาร์จไร้สายแบบเร็ว 10W และแถมแท่นชาร์จไร้สายมาให้ด้วย วางขายในไทยเมื่อวันที่ 28 ธันวาคม 2018 ราคา 18,990 บาท

ทิศทางของมือถือในอนาคตกำลังก้าวเข้าสู่ดีไซน์แบบพับได้เพื่อใช้งานเป็นมือถือ กางออกเป็นแท็บเล็ต ซึ่งซัมซุงโชว์ต้นแบบให้เห็นกันไปแล้วในงาน Samsung Developer Conference 2018 และล่าสุด @evleaks นักปล่อยภาพหลุดข่าวลือวงการมือถือเผยคลิปการใช้งานมือถือแบบพับได้จาก Xiaomi

เว็บไซต์ XDA-Developers ชุมชนนัก mod รอมมือถือที่ใหญ่ที่สุดในโลก อ้างข้อมูลจากยูสเซอร์นาม franztesca รายงานการค้นพบโค้ดชื่อ orchid_sprout ภายในเฟิร์มแวร์ MIUI 10 รันบน Android 9 Pie ในสมาร์ทโฟน Xiaomi Mi 8 ซึ่งโค้ดดังกล่าว XDA คาดว่าอาจสื่อถึงสมาร์ทโฟน Android One รุ่นใหม่ Mi A3

XDA ระบุด้วยว่าจากโค้ดที่มีคำว่า sprout ต่อท้าย คล้ายกับโค้ดในสมาร์ทโฟน Android One ของ Xiaomi ก่อนหน้านี้ ไม่ว่าจะเป็นรุ่น Mi A1 (โค้ด tissot_sprout), Mi A2 (โค้ด jasmine_sprout) และ Mi A2 Lite (โค้ด daisy_sprout)

อย่างไรก็ตามข้อมูลของ XDA ยังไม่มีการยืนยันว่าโค้ด orchid_sprout จะหมายถึง Mi A3 หรือไม่ รวมถึงยังไม่มีรายละเอียดใดๆ ของสมาร์ทโฟน Android One รุ่นใหม่ของ Xiaomi

Xiaomi ประกาศผ่านหน้าเว็บไซต์ว่าจะมีงานแถลงข่าวเปิดตัวสมาร์ทโฟนรุ่นใหม่ในวันที่ 10 มกราคมนี้ ซึ่งจะเป็นการเปิดตัว Redmi ในฐานะแบรนด์ลูกแบรนด์ใหม่ จากที่ก่อนหน้านี้ Redmi เป็นชื่อตระกูลหนึ่งของสมาร์ทโฟนในเครือ

ยังไม่มีรายละเอียดว่าสมาร์ทโฟน Redmi ที่จะเปิดตัวนี้มีสเป็กอย่างไร โดยคำบอกใบ้มีเพียงเงา 4800 ที่น่าจะหมายถึงความละเอียดของกล้องหลัง 48 ล้านพิกเซล

หากแยกแบรนด์เพิ่มของ Xiaomi นั้น ถือเป็นการเดินเกมที่น่าสนใจ เพราะก่อนหน้านี้ก็เพิ่งเปิดตัวแบรนด์ลูก POCO ไป

Xiaomi เปิดตัวมือถือรุ่นใหม่ Xiaomi Play ในประเทศจีน จุดเด่นคือใช้ติ่งรูปหยดน้ำ ซึ่งถือเป็นมือถือรุ่นแรกของ Xiaomi ที่ใช้การตัดหน้าจอลักษณะนี้ สเปกคร่าวๆ มีดังนี้

• SoC: MediaTek P35
• หน้าจอ: 5.84 นิ้ว Full HD
• แรม: 4GB LPDDR4X
• สตอเรจ: 64GB eMMC ใส่ MicroSD เพิ่มได้
• กล้องหลัง: 12MP + 2MP, กล้องหน้า: 8MP
• แบตเตอรี่: 3,000 mAh
• พอร์ต: USB-C พร้อมหูฟัง 3.5mm, เซ็นเซอร์สแกนลายนิ้วมือด้านหลัง
• ระบบปฏิบัติการ: MIUI 10 (Oreo)

ราคาขายในจีนอยู่ที่ 1,099 หยวน หรือประมาณ 5,200 บาท ตอนนี้ยังไม่มีข้อมูลว่าจะเป็นรุ่นวางขายในจีนอย่างเดียวหรือจะทำตลาดนอกประเทศจีนด้วย