ล่าสุด Ming-Chi Kuo นักวิเคราะห์จาก TF International Securities เจ้าเดิม ได้รับข้อมูลจากหนึ่งในผู้ผลิตสินค้าให้แอปเปิลว่า แอปเปิลอาจจะเปิดตัว iPad mini รุ่นใหม่ และเริ่มจำหน่าย AirPods และ AirPower เร็วที่สุดในงานเปิดตัววันที่ 30 ตุลาคมที่จะถึงนี้
สำหรับ iPad mini รุ่นล่าสุดในตอนนี้คือ iPad mini 4 ที่เปิดตัวมาตั้งแต่ กันยายน 2015 รวมเวลากว่า 3 ปีแล้วที่ไม่มีการอัปเกรดสเปกแต่อย่างใด โดยสเปกเทียบเท่ากับ iPad Air 2 สำหรับ iPad mini 5 รุ่นใหม่ที่มีข่าวลือว่าจะเปิดตัวเร็ว ๆ นี้ จะมาพร้อมสเปกใหม่แรงขึ้นกว่าเดิม เพื่อเอาใจคนต้องการ iPad รุ่นจอเล็ก พกพาสะดวก แต่คาดว่าจะยังคงใช้ดีไซน์เดิม เพื่อเปิดทางให้ iPad Pro รุ่นใหม่ที่มีกำหนดการจำหน่ายแน่นอนในเดือน พ.ย.นี้
นอกจากนี้ Kuo ยังระบุอีกว่า แอปเปิลอาจพร้อมที่จะเริ่มจำหน่าย AirPower หรือแท่นชาร์จอัจฉริยะ ที่สามารถชาร์จ iPhone, AirPods และ Apple Watch พร้อมกันได้ทั้ง 3 อุปกรณ์ อีกด้วย หลังจากที่เปิดตัวมาตั้งแต่ปีที่แล้วพร้อมกับ iPhone X
อย่างไรก็ตาม Kuo ไม่ได้ออกมาเผยว่าราคาของ iPad mini รุ่นใหม่, AirPods และ AirPower จะมีราคาเท่าไหร่ แต่เขาคาดการณ์ว่าถ้าแอปเปิลไม่ได้เปิดตัวในงานวันที่ 30 ตุลาคมนี้ เขาเชื่อว่าอย่างช้าที่สุดแอปเปิลจะเปิดตัวในช่วงต้นปี 2019
สุดท้ายก็ต้องมาคอยลุ้นกันว่าในงานเปิดตัวที่จะจัดขึ้นในวันที่ 30 ตุลาคม เวลา 21.00 น.ตามเวลาในประเทศไทยนั้น จะมีสินค้าอะไรบ้าง จะมี iPad mini, AirPods 2, AirPower ออกมาวางจำหน่ายหรือไม่ต้องมาคอยติดตามกันต่อไป
ที่มา – 9to5Mac
The post [ลือ] วันที่ 30 ต.ค.นี้ อาจเปิดตัว iPad mini รุ่นใหม่ และเริ่มจำหน่าย AirPods 2, AirPower appeared first on Macthai.com.
สำหรับใครที่เล่น YouTube แล้วอยากจะบันทึกวิดีโอมาเก็บไว้ใน iPhone และ iPad วันนี้ทีมงานมีวิธีการดาวน์โหลดวิดีโอจาก Instagram ด้วยคำสั่งลัด (Shortcuts)
การดาวน์โหลดวิดีโอจาก YouTube เดิมทีเราจะต้องดาวน์โหลดผ่านแอปพลิเคชันฟรีที่ต้องแลกมาด้วยโฆษณากวนใจ แต่วันนี้เราจะมาใช้ประโยชน์จากคำสั่งลัด (Shortcuts) ให้ดาวน์โหลดวิดีโอจาก YouTube มาเก็บไว้ในเครื่อง ซึ่งคำสั่งลัดนี้เป็น Library ที่สร้างโดย Varoeldurr
วิธีดาวน์โหลดวิดีโอจาก YouTube ด้วยคำสั่งลัด (Shortcuts) 1. ติดตั้งคำสั่งลัด (Shortcuts)ดาวน์โหลดคำสั่งลัด (Shortcuts) ด้วยการเปิดลิงก์นี้ YouTube Download ใน Safari > แตะ รับคำสั่งลัด (Get Shortcut) คำสั่งลัด YouTube Download ก็จะถูกเพิ่มเข้าไปยังคลัง (Library) ในแอปคำสั่งลัด (Shortcuts) อัตโนมัติ
เมื่อติดตั้งคำสั่งลัด (Shortcuts) เรียบร้อยแล้ว เราก็สามารถใช้งานเพื่อดาวน์โหลดวิดีโอจาก YouTube กันได้เลย
2. วิธีเปิดใช้คำสั่งลัด (Shortcuts)เปิดแอป YouTube พร้อมกับเลือกวิดีโอที่ต้องการดาวน์โหลด > แตะไอคอนแชร์ > แตะไอคอน เพิ่มเติม (…) > แตะไอคอนเพิ่มเติม (…)
แตะเปิดคำสั่งลัด (Shortcuts) > แตะเสร็จสิ้น (Done) > แตะไอคอนคำสั่งลัด (Shortcuts) > แตะเลือกคำสั่งลัด Download YouTube ที่เราติดตั้งไว้
รอให้คำสั่งลัดทำงานโดยการดาวน์โหลดไฟล์วิดีโอจาก YouTube > เมื่อดาวน์โหลดเสร็จเรียบร้อยแล้วให้แตะ Save to photo album
วิดีโอก็จะถูกบันทึกในแอปรูปภาพ (Photos) ผู้ใช้สามารถเข้าไปดูได้เลย
และนี่ก็เป็นคำสั่งลัด (Shortcuts) สำหรับการดาวน์โหลดวิดีโอจาก YouTube มาไว้ในเครื่อง ระหว่างที่เปิดใช้คำสั่งลัดนั้น ขั้นตอนการดาวน์โหลดวิดีโอจะช้าหรือเร็วขึ้นอยู่กับขนาดไฟล์ของวิดีโอด้วยนะคะ หากไฟล์มีขนาดใหญ่การดาวน์โหลดก็จะนาน แนะนำว่าให้รอจนกว่าการทำงานของคำสั่งลัดจะเสร็จและควรใช้ Wi-Fi ในการดาวน์โหลด (หากคุณไม่ได้ใช้อินเตอร์เน็ต 4G แบบ Unlimited)
ขอบคุณ Varoeldurr
The post วิธีดาวน์โหลดวิดีโอจาก YouTube ด้วยคำสั่งลัด (Shortcuts) appeared first on iPhoneMod.
หลังจากที่แอปเปิลประกาศเปิดร้าน Apple Store สาขา Iconsiam อย่างเป็นทางการแล้ว แอปเปิลก็ได้ติดป้ายโลโก้ Apple Iconsiam ด้านหน้าร้านซึ่งโดดเด่นสวยงามมากเลยทีเดียว
จากภาพจะเห็นว่ามีการแปะโลโก้ร้านที่สาขา Iconsiam แล้ว โดยใช้ภาพโลโก้แอปเปิลเป็นสีทอง มีรูปคล้ายตัว อ. อ่าง ซึ่งน่าสนใจทีเดียว
ด้านหน้าร้านมีที่นั่ง และสวนขนาดกำลังพอดีๆ
ร้าน Apple Iconsiam จะตั้งอยู่ชั้น 2 ของห้าง Iconsiam และสามารถมองได้เห็นทั้งจากฝั่งแม่น้ำ รวมถึงฝั่งตรงข้ามแม่น้ำเจ้าพระยา
ยังไม่ได้มีการเปิดเผยด้านในว่าจะสวยงามแค่ไหน คาดว่าจะเปิดให้ชมในรอบสื่อวันที่ 9 พฤศจิกายนนี้ก่อน จากนั้นเปิดตัวให้เข้าชมอย่างเป็นทางการ 10 พฤศจิกายนนี้
ภาพโดย – Pisut Jarintippitack
The post [ชมภาพ] ร้าน Apple Store สาขา Iconsiam ติดป้ายสวยงาม พร้อมเปิด 10 พ.ย. นี้ เวลา 10.00 น. appeared first on Macthai.com.
ขั้นป้ายแล้ว !! แอปเปิลประกาศเปิดร้าน Apple Store ในไทยอย่างเป็นทางการ ใช้ชื่อว่า Apple Iconsiam โดยกำหนดเปิดร้านคือ 10 พฤศจิกายน 2018 เวลา 10.00 น. พร้อมโชว์โลโก้แอปเปิลมีตัวอักษร อ. อ่าง
ตามที่ทีมงาน MacThai เคยรายงานไปเรื่องวันเปิดร้าน Apple Store ในไทย ที่จะมีรอบสื่อในวันที่ 9 พ.ย. และรอบสำหรับคนทั่วไปวันที่ 10 พ.ย. วันนี้แอปเปิลได้ประกาศคอนเฟิร์มแล้ว
[ชมภาพ] ร้าน Apple Store สาขา Iconsiam ติดป้ายสวยงาม พร้อมเปิด 10 พ.ย. นี้ เวลา 10.00 น.
จากภาพจะเห็นว่ามีการแปะโลโก้ร้านที่สาขา Iconsiam แล้ว โดยใช้ภาพโลโก้แอปเปิลเป็นสีทอง มีรูปคล้ายตัว อ. อ่าง ซึ่งน่าสนใจทีเดียว
นอกจากนี้แอปเปิลยังเปิดหน้าเว็บสำหรับร้าน Apple Iconsiam ซึ่งเราสามารถจับจองการซ่อมสินค้า, การเข้าร่วม Today at Apple กิจกรรมสนุกๆ ในร้าน และอีกมากมาย
สาวกพบกัน 10 พ.ย.นี้ที่ Iconsiam !!
ที่มา – Apple
ภาพโดย @Spin9
The post Apple ประกาศเปิดร้าน Apple Store สาขา Iconsiam อย่างเป็นทางการ 10 พ.ย. เวลา 10.00 น. !! พร้อมโลโก้อักษร อ. อ่าง appeared first on Macthai.com.
Apple จะเปิดทำการ Apple Iconsiam เป็น Apple Store แห่งแรกในไทยวันที่ 10 พ.ย. 61 นี้ โดยโลโก้ที่ใช้เป็นตัว “อ” สวยงาม มาโหลดภาพพื้นหลัง Apple Iconsiam ไปใช้กันเลย
ภาพพื้นหลัง Apple Iconsiam สำหรับ iPhoneแตะที่ลิงก์ “ดาวน์โหลด” เพื่อดาวน์โหลด และ Save ภาพจากลิงก์ที่เปิด (เปิดใน Safari จะดีที่สุด) จะได้ความละเอียดสูงสุด หาก Save จากโพสต์นี้เลยภาพจะไม่ค่อยคมชัด
iPhone – ดาวน์โหลด
สำหรับอุปกรณ์อื่นดาวน์โหลดที่นี่
ข้อมูลเเพิ่มเติม – Apple Iconsiam
The post ดาวน์โหลดพื้นหลัง Apple Iconsiam สำหรับ iPhone [U: MacBook, iMac, iPad] appeared first on iPhoneMod.
มีความเคลื่อนไหวและได้รับการยืนยันเป็นที่เรียบร้อยหลังจากที่มีการลือไปมาของข้อมูลเกี่ยวกับ Apple Store สาขาแรกที่จะเปิดในประเทศไทย วันนี้ทาง spin9.me ได้รายงานยืนยันเป็นที่เรียบร้อยแล้วว่า Apple Store สาขานี้จะเปิดให้บริการในวันที่ 10 พ.ย. 2561 นี้ พร้อมทั้งนำภาพการขึ้นป้ายหน้าร้านมาให้ได้ชมกันแล้ว
ยืนยัน Apple iConsiam เตรียมเปิดให้บริการ 10 พ.ย. 2561 นี้นอกจากนี้ที่เว็บของ Apple ก็ได้ลงข่าวไว้เป็นที่เรียบร้อยยืนยันให้เรามั่นใจอีกรอบว่า “เปิดแน่นอน 10.11.2018” นี้ คนไทยจะได้เห็นร้านค้าปลีกเต็มรูปแบบของ Apple อย่างที่เคยๆ เห็นในเมืองนอกสักที จะงานดีขนาดไหนต้องรอชมกันนะครับอีกไม่กี่วันแล้ว
Apple Iconsiam ตั้งอยู่ริมแม่น้ำเจ้าพระยา ติดกับโรงแรมมิลเลนเนียม ฮิลตัน กรุงเทพ
สำหรับรายละเอียดการออกแบบและกำหนดการต่างๆ คาดว่าจะได้ทราบเพิ่มเร็วๆ นี้หากมีความคืบหน้าอย่างไร ทีมงาน iMoD จะเกาะติดสถาการณ์มาให้ครับ ส่วนแฟนๆ ที่อยากจะไปร่วมงานเเปิดตัว Apple Store สาขาแรกนั้น เรามานัดกันและไปร่วมงานครั้งนี้ด้วยกันนะครับ มาสร้างประวัติศาสตร์ด้วยกัน
ขอบคุณ Spin9 , Apple Thailand
The post ยืนยัน Apple Store สาขา iConsiam เตรียมเปิดให้บริการ 10 พ.ย. 2561 นี้ appeared first on iPhoneMod.
สำหรับใครที่รับเครื่องหรือซื้อ iPhone XS, iPhone XS Max และ iPhone XR ใหม่ล็อตแรก จากผู้ให้บริการในวันที่ 26 ต.ค. 61 นี้ ชมจุดที่ต้องตรวจเช็คเครื่องก่อนออกจากร้านกันเลย
ซื้อ iPhone XS, iPhone XS Max และ iPhone XR ใหม่ ต้องเช็คจุดไหนบ้างวิธีการเช็คเครื่องต่อไปนี้ เป็นวิธีเบื้องต้นที่ผู้ซื้อ iPhone XS, iPhone XS Max และ iPhone XR เครื่องใหม่จำเป็นจะต้องเช็คให้เรียบร้อยก่อนออกจากร้านผู้ให้บริการ พร้อมกับดาวน์โหลดเอกสารประกอบการตรวจเช็คที่ได้ที่นี่ >> เอกสารตรวจเช็ครับเครื่อง iPhone ใหม่ (ไฟล์ PDF)
ตรวจเช็คกล่องต้องไม่มีการแกะซีลใดๆ เมื่อแกะกล่องให้ตรวจเช็คตัวเครื่อง ดูริ้วรอยต่างๆ อุปกรณ์ต้องไม่มีรอยแตกหรือรอยถลอก และเช็คดูว่าอุปกรณ์ภายในครบหรือไม่
2. ตรวจเช็คประกันความคุ้มครองดูเลข Serial No. หลังกล่อง iPhone กับเลข Serial No. ในเครื่อง (เมนูการตั้งค่า (Settings) > ทั่วไป (General) > เกี่ยวกับ (About)) ต้องตรงกัน
หลังจากนั้นก็ให้นำเลข Serial No. ไปตรวจเช็คประกันความคุ้มครองได้ที่ https://checkcoverage.apple.com/th/th/ หรือจะดาวน์โหลดแอป Apple Support ก็ได้ ชมวิธี (ต้องตั้งค่า Apple ID ให้เรียบร้อยก่อน ถ้าไม่มี Apple ID แนะนำให้สมัครเอง) เครื่องใหม่จากศูนย์มือหนึ่ง ประกันเครื่องต้องหมดในอีก 1 ปี นับจากวันที่เปิดใช้เครื่อง ประกันต้องไม่เดินไปก่อน
3. เช็คเครื่องศูนย์ไทยไปที่ เมนูการตั้งค่า (Settings) > ทั่วไป (General) > เกี่ยวกับ (About) > เช็คโมเดล (Model) ถ้าเป็น iPhone เครื่องศูนย์ไทย เลขโมเดลจะต้องลงท้ายด้วย TH เสมอ เช่น MLXQ2TH/A
ใส่ซิมการ์ดของคลื่นในไทยเข้าไปซึ่งใส่นาโนซิมได้เป็นซิมหลักเข้าไปก่อน การแสดงผลเครือข่ายจะต้องรับสัญญาณได้ และสามารถรับสายโทรเข้าหรือโทรออกได้ปกติ
ส่วนอีกซิมนั้นต้องใช้ eSIM ในการลงทะเบียนเครือข่าย ซึ่งตอนนี้ผู้ให้บริการทุกเครือข่ายยังไม่เปิดใช้ อาจจะต้องรออีกสักพัก
5. ระบบ Face IDตั้งค่า Face ID เพื่อสแกนใบหน้า โดยตั้งค่าในขั้นตอนการ Activate (เปิดใช้งานตัวเครื่อง) ตั้งแต่เริ่มเปิดเครื่อง จากนั้นลองปลดล็อคด้วยใบหน้าของตนเองดู เพื่อให้มั่นใจว่าส่วนนี้ใช้งานได้ดีและถูกต้อง
เช็คปุ่มทั้งหมด โดยไล่กดและเช็คการทำงานทีละปุ่ม ว่าหลวมไปหรือไม่ และเช็คการทำงานของปุ่ม อาจจะเริ่มจากปุ่ม Power เปิด-ปิดเครื่อง และปิดหน้าจอ, ปุ่มโฮม เมื่อกดแล้วต้องกลับมาหน้าจอโฮม, ปุ่มเพิ่ม-ลดเสียงต้องทำงานได้ถูกต้อง
7. ปุ่มปิดเสียง Mute และการสั่นปุ่มที่ใช้ปรับให้สั่นจะอยู่ด้านข้างซ้ายของเครื่องเหนือปุ่มปรับเสียง ลองปิดเปิด Vibrate on Ring (สั่นเวลาเสียงเรียกเข้า) และ Vibrate on Silent (สั่นเวลาเงียบ) ถ้าเครื่องสั่นก็ถือว่าปกติ
การตั้งค่าการสั่นไปที่ การตั้งค่า (Settings) > เสียง (Sounds) > การสั่น (Vibrate)
8. กล้องหน้าและกล้องหลังเช็คเสียงจากลำโพงจากเสียงเรียกเข้าหรือเปิดเพลง ลำโพงจะต้องดังและไม่แตก
10. เสียงลำโพงหูฟังทดสอบการโทรเข้าหรือโทรออกและฟังเสียงจากลำโพงหูฟัง ว่าได้ยินชัดเจนหรือไม่ และลองปรับเพิ่มลดเสียงว่าการทำงานปกติดีหรือไม่
11. เช็คโมโครโฟนเช็คการใช้งานของไมโครโฟน ว่าทำงานได้ปกติหรือไม่ โดยเข้าเข้าแอปกล้อง (Camera) แล้วลองอัดวิดีโอดู เมื่ออัดเสร็จแล้ว ลองกดเล่นวิดีโอและฟังเสียง หรือจะลองโทรเข้าและพูดผ่าน iPhone เลยก็ได้
12. เซ็นเซอร์ปิดจอขณะโทรลองกดโทรออกแล้วเอามีปิดที่เซ็นเซอร์ด้านซ้ายในส่วนรอยบาก เพื่อดูว่าหน้าจอดับหรือไม่ขณะโทร ถ้าเอามือปิดเซ็นเซอร์ หน้าจอจะต้องดับ และถ้าเอามือออกหน้าจอต้องแสดง
ทดสอบการชาร์จแบตเตอรี่กับอุปกรณ์ชาร์จที่มาพร้อมกล่องว่ามีไฟเข้าและสามารถชาร์จได้ปกติหรือไม่ และให้ลองเสียงหัวชาร์จ Lightning ทั้ง 2 ด้านว่าสามารถชาร์จแบตเตอรี่ได้หรือไม่ หากที่ร้านมีแท่นชาร์จไร้สาย ก็อาจจะขอทดสอบการชาร์จไร้สายด้วยว่าทำงานได้ปกติหรือไม่
15. 3D Touch และ Haptic Touchตรวจสอบระบบ 3D Touch ใน iPhone XS และ iPhone XS Max และระบบ Haptic Touch ใน iPhone XR
เริ่มจากระบบ 3D Touch เปิดใช้งานได้ที่ การตั่งค่า (Settings) > ทั่วไป (General) > การช่วยการเข้าถึง (Accessibility) > เปิด 3D Touch
จากนั้นออกไปที่หน้าจอหลักแล้วเปิด Control Center ขึ้นมา และลองแตะแบบกดน้ำหนักลงที่เมนูการตั้งค่า ถ้ามีเมนูแสดงดังรูป แสดงว่า 3D Touch ใช้งานได้ปกติ
ส่วนการทดสอบระบบ Haptic Touch ใน iPhone XR ให้ลองเปิด Control Center แล้วแตะค้างไว้ที่บริเวณการเชื่อมต่อ Wi-Fi หรือ Blutooth จะต้องมีการตอบสนองการสั่น Haptic Touch และเปิดหน้าจอตัวเลือกการเชื่อมต่อทั้งหมดขึ้นมา
วาง iPhone XS, XS Max และ XR ไว้เฉยๆ ให้หน้าจอดับดำสนิท จากนั้นใช้นิ้วแตะที่จอ 1 ครั้ง ดูว่าหน้าจอแสดงหรือไม่
17. หน้าจอ Dead & Bright Pixelทดสอบหาจุดของ LCD และ OLED ที่เสียวิธีสังเกตุง่ายๆ คือ เมื่อเปิดดูสีใดๆ ใน 5 สีคือ ดำ ขาว แดง เขียวและน้ำเงิน สีนั้นๆ จะต้องแสดงเป็นสีเดียวกันทั้งหมด เช่น ทดสอบสีดำจอต้องดำหมดห้ามมีจุดสีขาวขึ้นมา (ถ้ามีจุดสีขาวโผล่มาเรียก Bright Pixel) หรือทดสอบสีขาวห้ามมีสีดำโผล่มา (ถ้ามีดำโผล่มาเรียก Dead Pixel)
ดาวน์โหลดแอป YouTube และเปิดวิดีโอ Dead Pixel Test หมุนหน้าจอเป็นแนวนอนและเปิดหน้าจอวิดีโอให้เต็มจอ พร้อมกับเช็คหาจุดเสีย ถ้าหน้าจอปกติดี จะต้องไม่มีจุดดำโผล่ขึ้นมาบนหน้าจอ
หรือทดสอบเปิด Safari ให้ไปที่เว็บ http://jasonfarrell.com/misc/deadpixeltest.php ผ่านทาง iPhone จากนั้นหมุนจอให้เป็นแนวนอนแล้วเลือกสีที่ต้องการทดสอบ ซูมเพื่อให้สีนั้นเต็มจอและเปลี่ยนไปเรื่อยๆ เช็คดูว่ามีจุดที่เสียหรือเปล่า
18. เซ็นเซอร์การหมุนจออาจจะลองเปิดแอปแล้วหมุนหน้าจอเป็นแนวนอนและแนวตั้ง และสังเกตการทำงานว่าหมุนได้ตามปกติหรือไม่ เช่น เปิดแอป YouTube แล้วหมุนหน้าจอแนวนอนดู และให้ทดสอบการล็อคหน้าจอที่ Control Center ด้วยว่าเมื่อล็อคแล้วหน้าจอยังหมุนอยู่หรือไม่
ตั้งค่าเปิด GPS ได้ที่ การตั้งค่า (Settings) > ความเป็นส่วนตัว (Privacy) > บริการหาตำแหน่งที่ตั้ง (Location Services) > เปิด บริการหาตำแหน่งที่ตั้ง (Location Services)
จากนั้นเปิดแอปแผนที่ (Maps) และลองแตะระบุตำแหน่งที่ตั้งด้านบนขวา เพื่อเช็คดูว่า GPS สามารถบอกตำแหน่งถูกต้องหรือไม่ อาจจะลองค้นหาสถานที่หรือตำแหน่งอื่นๆ ดูด้วยก็ได้
20. เช็ค Siriตั้งค่าเปิดใช้งาน Siri ที่ การตั้งค่า (Settings) > Siri และการค้นหา (Siri & Search) > เปิดใช้งาน ฟัง “หวัดดี Siri” และตั้งค่าให้เรียบร้อย และเปิดใช้งาน กดปุ่มโฮมเพื่อคุยกับ Siri ด้วย
การทดสอบก็ลองเรียก หวัดดี Siri และตอบโต้พูดคุยดูว่าทำงานได้ปกติหรือไม่ จากนั้นลองกดปุ่มโฮมค้างไว้ เพื่อเรียก Siri ดู อย่าลืมเปิดใช้งานอินเตอร์เน็ตด้วยนะ
21. ทดสอบเข็มทิศเปิดแอปเข็มทิศหรือ Compass ขึ้นมาจากนั้นลองหันไปยังทิศทางที่เรารู้จัก เช็คว่าทิศทางถูกต้องหรือไม่
Gyroscope เป็นเซ็นเซอร์การเคลื่อนไหวของอุปกรณ์ โดยจับทิศทางการหมุนและเอียงของอุปกรณ์ ให้ลองดาวน์โหลดเกมหรือแอปแนว Gyroscope มาลองเล่นดูว่าสามารถเอียงหรือเคลื่อนไหวได้ตามที่เราบังคับหรือไม่ หากไม่มีการเคลื่อนไหวแสดงว่าอุปกรณ์อาจจะมีปัญหา
ทดสอบ Gyroscope ผ่านแอป Sensor Kinetics
23. ทดสอบเชื่อมต่อคอมพิวเตอร์ถ้าซื้อที่หน้าร้านของ TrueMove H, AIS, Dtac หรือ Studio 7 แนะนำว่าให้พนักงานลองเชื่อมต่อ iPhone เข้ากับคอมฯ แล้วดูว่า iTunes มองเห็น iPhone เครื่องนั้นๆ หรือเปล่า
ทั้งหมดนี้ ก็เป็นวิธีการเช็ค iPhone แต่ละจุดที่ทำควบคู่กับเอกสารตรวจเช็คที่ทีมงานแจกให้ดาวน์โหลดด้านบน หากพบปัญหาระหว่างการเช็คแนะนำว่าให้แจ้งพนักงานหรือสอบถามโดยทันที แต่ถ้าหากซื้อเครื่องมาแล้วพบปัญหาภายหลัง ภายใน 1 ปี (อยู่ในประกัน) ก็สามารถติดต่อเคลมกับ Apple ได้ผ่าน AASP เช่น iCare ทั่วประเทศไทยได้
The post ซื้อ iPhone XS, iPhone XS Max และ iPhone XR ใหม่ ต้องเช็คจุดไหนบ้าง (ดาวน์โหลดเอกสารตรวจเช็คได้ที่นี่) appeared first on iPhoneMod.
Apple แชร์ภาพถ่าย Portrait ด้วย Depth Control จากผู้ใช้ iPhone XS ที่สามารถปรับระดับความเบลอของฉากหลังได้ สวยงามขนาดไหน ไปชมกัน
ภาพถ่าย Portriat ด้วย Depth Control จากผู้ใช้ iPhone XS #ShotoniPhoneA post shared by Scott A. Woodward (@scottawoodward) on Oct 2, 2018 at 2:54am PDT
A post shared by Ashish Parmar (@ashishjparmar) on Oct 4, 2018 at 1:39am PDT
A post shared by Felicia Fang (@feliciafang11) on Oct 15, 2018 at 7:32pm PDT
A post shared by xs_ᴠɪsᴜᴀʟs (@xs_visuals) on Oct 9, 2018 at 1:49am PDT
Spaziergang bei dem schönen Wetter #Herbst #shotoniphone #ShotOniPhoneXSMax #iPhoneXS #portraitphotography #family #kids pic.twitter.com/WBT1YZRVyU
— heisenberg0512 (@heisenberg05122) October 6, 2018
A post shared by H A Y I M (@hayimheron) on Oct 18, 2018 at 12:37pm PDT
ที่มา – Apple Newsroom
The post Apple แชร์ภาพถ่าย Portrait ด้วย Depth Control จากผู้ใช้ iPhone XS #ShotoniPhone appeared first on iPhoneMod.
วันนี้สามารถฝากเงินกับ KBANK ที่ Family Mart ใน 5 สาขา ผ่านระบบ CenPay ได้แล้ว รับฝากเงินสูงสุด 2,500 บาทต่อครั้ง ไม่เกิน 5,000 บาทต่อวัน ค่าธรรมเนียม 20 บาทต่อรายการ
กลายเป็นปรากฎการณ์ที่ธนาคารมีการปรับลดสาขาลง แต่ได้แต่งตั้งร้านสะดวกซื้อเป็น Banking Agent หรือตัวแทนธนาคารกันมากขึ้น โดยล่าสุดธนาคารกสิกรไทย หรือ KBANK ได้แต่ตั้ง CenPay ในเครือเซ็นทรัลเป็น Banking Agent สำหรับฝากเงินตลอด 24 ชั่วโมงผ่านเคาท์เตอร์ที่ร้านสะดวกซื้อ Family Mart
แต่เดิม CenPay เป็นบริการรับชำระเงินของกลุ่มเซ็นทรัล ที่ทำตลาดมาได้ 4 ปีแล้ว เป้นการรับชำระบิลต่างๆ เติมเงิน จนได้เริ่มปรับจุดยืนจากจุดรับชำระเงินมาเป็นบริการครบวงจร
จนเมื่อต้นปีได้รับแต่งตั้งเป็น Banking Agent ของธนาคารกรุงไทย เริ่มต้นกับบริการรับชำระใบสั่งแบบไม่เรียกเก็บใบขับขี่ โดยผู้ใช้บริการสามารถนำใบสั่งแบบใหม่ที่มีบาร์โค้ดมายื่นที่จุดรับชำระ 8,000 จุดทั่วประเทศ มีค่าธรรมเนียม 20 บาท
อมร สุวจิตตานนท์ ผู้ช่วยกรรมการผู้จัดการ ธนาคารกสิกรไทย กล่าวว่า
“ธนาคารกสิกรไทยเปิดให้บริการเคแบงก์ เซอร์วิส เพื่อเปิดช่องทางบริการรูปแบบใหม่ๆ ให้ลูกค้าของธนาคารแบบเข้าถึงตัวลูกค้า ผ่านพันธมิตรซึ่งเป็นตัวแทนของธนาคาร หรือแบงกิ้ง เอเย่นต์ โดยบริการดังกล่าวเป็นทางเลือกที่ตอบโจทย์ไลฟ์สไตล์ของลูกค้า และยังช่วยให้ลูกค้าที่ไม่คุ้นเคยกับดิจิทัล แบงกิ้ง ซึ่งยังคงกระจายอยู่ทั่วประเทศสามารถทำธุรกรรมได้สะดวกมากยิ่งขึ้น”
การแต่งตั้ง CenPay ให้เป็นตัวแทนธนาคารกสิกรไทยในการให้บริการ “เคแบงก์ เซอร์วิส” ที่ร้านสะดวกซื้อแฟมิลี่มาร์ท ถือเป็นการร่วมกันพัฒนาศักยภาพด้วยการขยายช่องทางใหม่ในการเข้าถึงบริการให้กับลูกค้าของธนาคารกสิกรไทยได้มีทางเลือกเพิ่มมากขึ้น
เบื้องต้นจะเปิดให้บริการรับฝากเงินเข้าบัญชีธนาคารกสิกรไทยในสาขาร้านแฟมิลี่มาร์ทที่มีความพร้อมจำนวน 5 แห่ง โดยรับฝากเงินสูงสุด 2,500 บาทต่อครั้ง ไม่เกิน 5,000 บาทต่อวัน ค่าธรรมเนียม 20 บาทต่อรายการ และจะขยายสาขาให้บริการเพิ่มเติมในอนาคต
โดยในปีนี้ CenPay จะเปิดบริการรับฝากเงินนำร่องที่ Family Mart ก่อน และจะขยายไปทั่วประเทศทุกสาขา ทุกกลุ่มธุรกิจของเครือเซ็นทรัลในปีหน้า
สรุปในยุคนี้ทุกธุรกิจมีการปรับตัวกันถ้วนหน้า ทั้งค้าปลีก ธนาคาร เพื่อให้เท่าทันต่อความต้องการของผู้บริโภค การที่ทั้ง 2 ผนึกกำลังกัน นำจุดแข็งของทั้งคู่มารวมกัน ยิ่งทำให้ตลาดน่าสนใจมากยิ่งขึ้น เชื่อว่าการแข่งขันจะดุเดือดมากขึ้นอีกแน่นอน
ติดตามข่าวสารจาก Brand Inside ได้จาก Facebook ของเรา
ปกติแล้วเวลาฝนตก คนที่ใช้งาน Grab เป็นประจำก็ไม่กล้าใช้บริการ เพราะพอเห็นราคาที่ถูกชาร์จหลายเท่าตัวก็คงรู้สึกเสียดายเงิน แต่ปัญหานี้จะหมดไป หลังบริษัทประกันจากสิงคโปร์ออกบริการช่วยจ่ายค่าโดยสารช่วงฝนตกให้แล้ว
ด้วยการใช้งานบริการร่วมเดินทางอย่าง Grab ในสิงคโปร์นั้นได้รับความนิยมมากขึ้นเรื่อยๆ ทำให้บริษัทประกันชั้นนำในสิงคโปร์ NTUC Income ตัดสินใจสร้างผลิตภัณฑ์ใหม่ขึ้นมาในชื่อ Droplet เพื่อตอบโจทย์ผู้บริโภคที่ใช้งาน Grab ในเวลาฝนตกโดยเฉพาะ
เนื่องจาก Droplet นั้นจะช่วยผู้บริโภคชำระค่าโดยสารเวลาฝนตกสูงสุด 60% ของราคา (จำกัดการจ่ายคืนสูงสุดที่ 36 ดอลลาร์สหรัฐ/วัน หรือราว 1,200 บาท) เพียงแค่ผู้บริโภคเลือกวันที่ต้องการให้ Droplet ช่วยคุ้มครองค่าเดินทาง จากนั้นก็ชำระค่าบริการที่ไม่ถึง 7 ดอลลาร์/วัน (ราว 230 บาท) ผ่านเว็บไซต์ชื่อเดียวกับบริการก็ใช้ได้ทันที
ส่วนการคืนเงินค่าโดยสารนั้น ผู้ซื้อผลิตภัณฑ์ Droplet ต้องสำรองจ่ายค่าโดยสารไปก่อน จากนั้นให้ Forward ใบเสร็จค่าเดินทางของ Grab ที่ส่งมาในอีเมลไปที่อีเมลของระบบ จากนั้นตัวระบบก็จะตรวจสอบ และโอนเงินคืนมาให้ผ่านบริการโอนเงินระหว่างบุคคล PayNow ที่ถูกใช้งานในสิงคโปร์อย่างแพร่หลาย
อย่างไรก็ตามบริการดังกล่าวยังใช้งานได้แค่ในสิงคโปร์ และบนบริการร่วมเดินทางแค่ Grab เท่านั้น แต่ทาง NTUC Income ก็มีแผนที่จะขยายไปในบริการร่วมเดินทางอื่นๆ ส่วนการขยายไปในต่างประเทศนั้น ทางบริษัทยังไม่มีการแจ้งออกมาในตอนนี้
อ้างอิง // Tech in Asia
ติดตามข่าวสารจาก Brand Inside ได้จาก Facebook ของเรา
ใครที่กำลังมองหาวิธีนำเพลง mp3 จาก PC มาฟังบน iPhone แบบออฟไลน์ โดยไม่ต้องเสียบสายให้ยุ่งยาก ไม่ต้องลงโปรแกรมเพิ่ม แอป Cloud Music Player ช่วยได้ครับ จะมีวิธีการอย่างไร? มาติดตามกันได้เลย
Cloud Music Player – Listenerแอปที่ช่วยให้คุณสามารถนำเพลง mp3, m4a, wav และอื่นๆ จาก PC/Mac ลงสู่ iPhone และ iPad ของคุณได้แบบง่ายๆ เพียงเชื่อมต่อผ่านเครือข่ายสัญญาณ WiFi เดียวกัน ช่วยให้คุณฟังเพลงแบบออฟไลน์ได้ทุกที่ทุกเวลาผ่านแอป Cloud Music Player
ไม่ต้องเสียบสายให้ยุ่งยาก ไม่ต้องลงโปรแกรมเพิ่ม
ก่อนอื่นก็เชื่อมต่อสัญญาณ WiFi เดียวกันทั้งใน iPhone และใน PC (ผ่านสาย LAN ก็ได้)
1. เข้าแอปและเลือกไปที่ “WiFi Transfer”
2. Copy หรือจำ URL ดังที่เห็นไว้ เพื่อนำไปวางในเบราว์เซอร์บน PC
3. วางหรือพิมพ์ URL ดังที่เห็นในช่อง Address ในเบราว์เซอร์บน PC (ใช้เบราว์เซอร์อะไรก็ได้) ซึ่งหน้าตาเว็บไซต์ก็จะเป็นอย่างที่เห็นด้านล่างนี้แหละครับ โดยจะบอกชื่อ iPhone ของคุณที่เชื่อมต่ออยู่
4. กดปุ่ม “Upload Files…” เพื่ออัปโหลดเพลง mp3 ของคุณเข้าสู่ iPhone (อัปโหลดทีละหลายไฟล์ได้)
5. เข้าแอปกลับมาดูที่แท็บ “Songs” ก็จะเห็นเพลงของคุณแล้วครับ กดฟังได้เลย (ง่ายมั้ยละครับ)
สำหรับใครที่มีเพลงบน Google Drive, Dropbox หรือ OneDrive อยู่แล้ว ก็สามารถไปดาวน์โหลดมาเก็บไว้ใน iPhone ได้ ดังนี้ครับ
เนื้อที่: 40.2 MB รองรับ iOS 9.0 ขึ้นไป (ใช้ได้กับ iPhone และ iPad)
สามารถดาวน์โหลดแอปได้ฟรีที่: Cloud Music Player – Listener on App Store
The post วิธีนำเพลง mp3 จาก PC ลงสู่ iPhone ผ่านสัญญาน WiFi ด้วยวิธีง่ายๆ ผ่านแอป Cloud Music Player appeared first on iPhoneMod.
นักวิเคราะห์จาก บริษัท หลักทรัพย์ กสิกรไทย จำกัด มีมุมมองถึงเรื่อง LTF ถ้าหากทางกระทรวงการคลังยกเลิก แต่ท้ายที่สุดแล้วคาดว่าจะมีกองทุนใหม่ทดแทน ส่วนทางด้านหุ้นไทยคาดว่าจะกลับมารีบาวด์ได้ และรวมไปถึงเดือนหน้าที่ประเด็นหลายๆ เรื่องดูคลี่คลายลง
ประกิต สิริวัฒนเกตุ ผู้อำนวยการฝ่ายวิเคราะห์หลักทรัพย์ บริษัท หลักทรัพย์ กสิกรไทย จำกัด เปิดเผยถึงเรื่อง LTF ที่กำลังจะหมดอายุสิทธิทางภาษีในปลายปี 2562 โดยมีมุมมองว่าเหตุผลหลักคือเพิ่มรายได้ให้กับรัฐบาล ซึ่งถ้าหากยกเลิกแล้วรัฐจะมีรายได้ทันที 10,000 ล้านบาท / ปี และลดความเหลื่อมล้ำของสังคมลง แต่อย่างไรก็ดี FETCO เตรียมที่จะเสนอกองทุนใหม่ ที่ให้สิทธิประโยชน์ทางภาษีน้อยลงกว่าเดิม
LTF ใหญ่กว่า 3.8 แสนล้านปัจจุบันมูลค่าของ LTF อยู่ที่ 380,000 ล้านบาท ถ้าหากยกเลิก LTF ไปเลยจะทำให้เม็ดเงินหายไปจากตลาดหุ้นไทยเฉลี่ยต่อปีประมาณ 60,000 ล้านบาท สำหรับปีนี้เม็ดเงินไหลเข้า LTF ไปแล้วประมาณ 26,000 ล้านบาท คาดว่าในช่วง 3 เดือนสุดท้ายจะมีเม็ดเงินไหลเข้าอีกประมาณไม่ต่ำกว่า 30,000 ล้านบาท
ประกิต ยังมองว่า ประเด็นการยกเลิก LTF นั้นจะมีก็ต่อเมื่อมีกองทุนใหม่เข้ามาทดแทน LTF แล้ว คาดว่าเงื่อนไขของกองทุนใหม่จะต้องมีสิทธิการถือครองบางอย่าง เช่น การถือครองที่ยาวขึ้น เพื่อสิทธิทางภาษีที่มากขึ้น สามารถให้ประชาชนทั่วไปลงทุนได้มากขึ้นจากเงินลงทุนขั้นต่ำที่ลดลง เป็นต้น
ประกิต ยังได้เสริมอีกว่าถ้าหากไม่มีกองทุนทดแทน LTF ก็จะเกิดเหตุการณ์เม็ดเงินไหลออกจากตลาดหุ้นไทยมหาศาล โดยปี 2562 เงินไหลออก 140,000 ล้านบาท ปี 2563-2564 ไหลออกประมาณ 150,000 ล้านบาท และก้อนสุดท้ายที่จะไหลออกในปี 2567-68 อีกประมาณ 90,000 ล้านบาท
ซึ่งท้ายที่สุดแล้วคาดว่าน่าจะมีกองทุนใหม่ออกมาทดแทน LTF เพราะว่าไม่งั้นแล้วจะกลายเป็นว่าไม่มีเม็ดเงินเข้ามาพยุงตลาดหุ้นไทย
สำหรับมุมมองของหุ้นไทย ประกิต คาดว่าปลายสัปดาห์นี้ SET Index จะเกิด Technical Rebound กลับไปเกิน 1,680 อีกครั้ง ส่วนพอร์ตการลงทุน บล. กสิกรไทย ยังไม่รีบให้เพิ่มน้ำหนักการลงทุนในหุ้น ซึ่งปัจจุบันให้ถือหุ้น 60% เงินสด 40% โดย บล. กสิกรไทย ขอให้ดูสถานการณ์ปลายๆ ที่มีสัญญาณที่ดีก่อนจะตัดสินใจเพิ่มน้ำหนักการลงทุนอีกครั้ง
ภาพรวมสำหรับเดือนหน้านั้นคาดว่าปัจจัยหลายๆ เรื่องจะคลี่คลายมากขึ้น ไม่ว่าจะเป็นประเด็นต่างๆ เช่น
กลุ่มอุตสาหกรรมที่ บล. กสิกรไทย แนะนำเพิ่มน้ำหนักการลงทุนคือ ธนาคาร อสังหา สื่อสาร ค้าปลีก สินค้าอุปโภคบริโภค
ติดตามข่าวสารจาก Brand Inside ได้จาก Facebook ของเรา
Samsung เป็นหนึ่งในไม่กี่แบรนด์ที่ยังหลงเหลืออยู่บนโลก และไม่ยอมทำรอยบากตามแนวทางของ Apple โดยก่อนหน้านี้ถึงขนาดแซว iPhone X ตลอดเวลาไปยันโฆษณาและนอกจากนี้ตอนเปิดตัว Galaxy S9 ในช่วงนี้ขึ้นเวลาโฆษณาหน้าจอ Infinity Display ไปพร้อมกับแซวเรื่องรอยบาก รวมถึงการไร้สแกนลายนิ้วมือของเครื่อง iPhone X
You could land a plane on it.
— Samsung Mobile US (@SamsungMobileUS) October 9, 2018
Samsung แซวรอยบาก Pixel 3 ว่าใหญ่ขนาดจอดเครื่องบินได้เมื่อต้นเดือนตอนงานเปิดตัว Pixel 3 XL บัญชีทวิตเตอร์ @SamsungMobileUS ซึ่งเป็นบัญชีอย่างเป็นทางการในอเมริกา ได้ทำการตอบกลับ (Reply) ผู้ใช้งานรายหนึ่งซึ่งมีการกล่าวถึงแบรนด์ในโพสต์ของ @MadeByGoogle โดยคำพูดดังกล่าวคือคำว่า “You could land a plane on it.” หรือก็คือคุณสามารถจอดเครื่องบินบนนั้นได้เลยนะ! ซึ่งแน่นอนว่านั่นหมายถึงรอยบากขนาดใหญ่ยักษ์ใน Pixel 3 XL นั่นเอง สำหรับทาง Google ไม่ได้ตอบโต้อะไร
หลังจากนั้นก็มีผู้ใช้งานทวิตเตอร์หลายรายตอบกลับด้วยความขำขัน ล้อเลียนบ้าง รวมถึงมีการตัดต่อรูปภาพดังกล่าวว่าจอดเครื่องบินได้จริง ๆ เลยนะ! เป็นเรื่องสนุกสนานขำขันกันไป ซึ่งก็หวังว่าใน Galaxy S10 ที่กำลังจะเปิดตัวเป็นรุ่นต่อไป คงจะไม่มีรอยบากเหมือนเดิม เพราะว่าแบรนด์นี้แซวคนอื่นเขาไว้เยอะจริง ๆ
ที่มา – @SamsungMobileUS
The post Samsung แซวรอยบาก Pixel 3 XL ว่าใหญ่ขนาดจอดเครื่องบินได้ appeared first on iPhoneMod.
ปกติการเขียนเว็บไซต์หนึ่งครั้ง จะมีส่วนประกอบหลักก็คือโปรแกรมเมอร์และดีไซน์เนอร์ และจะเกิดอะไรขึ้นหากสองคนนี้ไม่ถูกกัน หรือดีไซน์เนอร์เกิดอยากจะควบงานสองตำแหน่งขึ้นมา ในวันนี้ AI แสดงให้เห็นว่าหากเราไม่พัฒนาฝีมือ สักวันคงถูกแย่งงานเข้าจริง ๆ ด้วยการที่ Microsoft เปิดตัว AI ที่ช่วยเขียนโค้ด HTML อัตโนมัติจากภาพร่าง ชนิดที่ว่าหากสมบูรณ์เมื่อนไหร่งานนี้ (ลูกค้า) อาจจะไม่ต้องจ้างทั้งสองคนเลยก็ได้
สำหรับไอเดียก็เริ่มจากการร่างภาพด้วยกระดาษ (ซึ่งเป็นเรื่องปกติในกระบวนการทำงานอยู่แล้ว) จากนั้นจึงส่งต่อให้โปรแกรมเมอร์เป็นผู้เขียนโค้ดลงไปตามโจทย์ที่ได้มา ยกตัวอย่างเช่นช่องกรอกข้อมูลสารพัดรูปแบบ เพื่อให้กลายเป็น HTML ในการจัดจำเว็บไซต์ต่อไป
กระบวนการนี้ทุกอย่างจะง่ายดายขึ้น เพราะทาง Microsoft ได้พัฒนา AI ผ่านทางเครื่องมือที่มีชื่อว่า Sketch2Code ซึ่งทุกคนสามารถใช้งานได้ฟรีผ่านหน้าเว็บไซต์ เพียงแค่อัปโหลดไฟล์ที่เราร่างเสร็จแล้วเข้าไป โดยเบื้องหลังการทำงาน AI ได้เรียนรู้ลายเส้นหลักล้านรูปแบบ ในการสร้างแบบฟอร์มหน้าเว็บไซต์ (และอนาคตมันจะฉลาดขึ้น)
แน่นอนว่าสุดท้ายแล้วเราก็ต้องลงมือทำที่เหลือด้วยตัวเอง (อยู่ดี) แต่ถึงอย่างไรก็ช่วยประหยัดเวลาในการเขียนโค้ดลงได้หน่อยนึง แถมยังเป็นการย้ำตัวเองด้วยว่าอนาคตของ AI กำลังใกล้เข้ามา แล้วเราคงอยู่เฉยไม่ได้แล้ว!
ที่มา – ailab.microsoft.com
The post Microsoft เปิดตัว AI ที่ช่วยเขียนโค้ด HTML อัตโนมัติจากภาพร่าง appeared first on iPhoneMod.
AIS ไม่ได้หยุดนิ่งแค่การพัฒนาบุคลากรในองค์กร แต่ยังส่งต่อภารกิจ ACADEMY for THAIs ให้คนไทยได้เรียนรู้ตื่นตัวกับโลกดิจิทัล ผนึกองค์กรเอกชนจัดสัมมนาใหญ่ มีผู้เข้าร่วมกว่า 4,000 คน
หลังจากทาง “สมชัย เลิศสุทธิวงค์” CEO ของ AIS ได้ประกาศวิสัยทัศน์ใหญ่เมื่อ 4 ปีก่อน ในการทรานส์ฟอร์มตัวเองจากโอเปอเรเตอร์โทรศัพท์มือถือ สู่ Digital Life Service Provider ถือว่าเป็นการปรับตัวครั้งใหญ่ทั้งภายในและภายนอกองค์กรเลยทีเดียว
เพราะฉะนั้น ภารกิจหลักของ AIS จึงเริ่มพัฒนาจาก “คน” ภายในองค์กรก่อน เพื่อเป็นการอัพความรู้ อัพสกิลพนักงานให้เหมาะกับโลกดิจิทัล ผ่าน AIS Academy ที่เป็นเหมือนสถาบันให้พนักงานได้เรียนรู้เรื่องเทคโนโลยีด้วยรูปแบบที่หลากหลาย ภายใต้แนวคิด Anywhere Anytime Any Device นั่นคือสามารถเรียนรู้ได้ทุกที่ ทุกเวลา
กานติมา เลอเลิศยุติธรรม หัวหน้าคณะผู้บริหารด้านทรัพยากรบุคคล บริษัท แอดวานซ์ อินโฟร์ เซอร์วิส จำกัด (มหาชน) หรือเอไอเอส เล่าให้ฟังว่า
“แนวคิดการสร้าง AIS Academy มาจากการที่มองเห็นรูปแบบการฝึกอบรมในการพัฒนาศักยภาพพนักงานแบบเดิมๆ ไม่ตอบโจทย์การทำงานในยุคปัจจุบันแล้ว เพราะยุคสมัยเปลี่ยนไป บุคลากรไม่สามารถรอคลาสฝึกอบรมได้ ตอนนี้ถ้าอยากรู้อะไรสามารถค้นหาในอินเทอร์เน็ตได้หมด การนั่งรอความรู้จึงไม่ตอบโจทย์เท่าที่ควร”
AIS Academy จึงเข้ามาเปลี่ยนรูปแบบของ Human Resource Development แบบเดิมๆ มีการดีไซน์ทีมงานใหม่ๆ ทำคลาสรูมแบบเดิมๆ ไม่ได้ ต้องให้พนักงานทันโลกไม่หยุดนิ่งอยู่กับที่ และที่สำคัญคือต้องใส่ Passion ให้เหลือล้น เพื่อให้อยากทำงานมากขึ้นเรื่อยๆ
เพราะด้วยบุคลากรของ AIS สัดส่วน 70% เป็นกลุ่ม Gen Y ส่วนอีก 30% เป็นกลุ่มที่มี Passion กับเทคโนโลยี จึงต้องพัฒนาโปรแกรมการเรียนรู้ผ่านดิจิทัล แพลตฟอร์มที่สามารถเรียนที่ไหนก็ได้ ไม่มีข้อจำกัดเรื่องเวลา และสถานที่
ต่อยอดสู่ ACADEMY for THAIS ส่งต่อความสู่สังคมไทยหลังจากที่ AIS ได้เปิด AIS Academy ขับเคลื่อนองค์กรมาเป็นเวลากว่า 3 ปีแล้ว ก็ได้มองเห็นว่าน่าจะส่งต่อการเรียนรู้สู่คนไทยทั้งประเทศ จึงเป็นแนวทางที่จะทำประโยชน์คืนสู่สังคมอีกรูปแบบหนึ่งด้วย จึงกลายเป็นที่มาของงาน ACADEMY for THAIs หนึ่งในภารกิจที่ส่งต่อองค์ความรู้ด้านดิจิทัลแก่คนไทย
ACADEMY for THAIs เป็นโครงการที่มีจุดประสงค์ในการส่งต่อความรู้ให้คนไทยตื่นตัวเกี่ยวกับดิจิทัล และเทคโนโลยี ซึ่งไม่ได้ยึดติดกับแพลตฟอร์มว่าจะต้องเป็นการเรียนรู้ผ่านดิจิทัล หรือแอปพลิเคชัน เว็บไซต์ต่างๆ
แต่ได้ประเดิมด้วยงานสัมมนาครั้งใหญ่ ACADEMY for THAIs เป็นเวทีพูดคุยถึงบทบาทของภาคธุรกิจที่ต้องเปลี่ยนแปลงองค์กร หรือ Digital Transformation โดยร่วมมือกับพันธมิตรองค์กรเอกชนชั้นนำของไทย ร่วมแชร์มุมมองของแต่ละอุตสาหกรรม และที่สำคัญที่สุด คือการนำเอาองค์ความรู้จากผู้เชี่ยวชาญด้าน Digital Disruption ระดับโลก มาถ่ายทอดให้คนไทยได้เห็นภาพความเปลี่ยนแปลงได้อย่างชัดเจนมากยิ่งขึ้น ซึ่งงานในครั้งนี้มีผู้เข้าร่วมงานกว่า 4,000 คน
“พอทำ AIS Academy ในองค์กรได้พอสมควร ก็ได้ทำ ACADEMY for THAIs เป็นความคิดที่เกิดจากความสำนึกความเป็นไทย ที่ว่า AIS เป็นองค์กรไทยที่อยู่ในตลาดมา 29 ปี พนักงาน 99.9% ก็เป็นคนไทย คนไทยต้องมีสำนึกในแผ่นดินตัวเอง
จึงกลายเป็นการทำเผื่อสังคมไทยไปด้วยเลย เปิดโอกาสออกไปข้างนอก ซึ่ง AIS เป็นตัวกลางที่รวมองค์กรเอกชนในการส่งต่อความรู้สู่คนไทย เปลี่ยนจากทำเพื่อตัวเอง เป็นทำเพื่อสังคม”
เหตุผลที่หยิบประเด็นเรื่อง Digital Transformation มาพูดนั้น กานติมาบอกว่า ตอนนี้ประเทศไทยตื่นตัว และกังวลเรื่อง Digital Disruption อย่างมาก เป็นศัพท์แฟชั่นที่พูดกันแพร่หลาย จึงอยากสร้างความเข้าใจ และให้คนไทยตื่นตัวเรื่องนี้กันมากขึ้น
งาน ACADEMY for THAIs โดย AIS ร่วมกับพาร์ทเนอร์หลายองค์กรชั้นนำทั้งในและต่างประเทศ ได้แก่ ตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย, ธนาคารกสิกรไทย, เมืองไทยประกันชีวิต, Minor International และ SEAC
โดยมุ่งหวังให้เกิดเป็นองค์ความรู้ด้านเทคโนโลยีสำหรับสังคมไทย ที่จะพร้อมก้าวและเติบโตด้วยศักยภาพและความสามารถบนโลกยุคดิจิทัลนี้ไปด้วยกัน ซึ่ง AIS เชื่อมั่นในโมเดลพาร์ทเนอร์ที่จะเติบโตไปพร้อมกัน อาสาเป็นตัวกลางเพื่อให้ภาคเอกชนมาร่วมมือร่วมใจกัน สร้างโมเมนตัมในสังคม
สำหรับงานสัมมนา ACADEMY for THAIs ที่จัดขึ้นครั้งแรกนั้น เรียกว่าสร้างความพอใจให้กับผู้จัดงานอย่างมาก ส่วนแผนต่อไปในอนาคตนั้น กานติมาบอกว่ายังไม่ยึดติดกับฟอร์แมตใดๆ แต่ก็เป็นการบ้านที่ต้องไปทำต่อ สานต่อ คิดหาช่องทางในการส่งต่อความรู้ให้คนไทย
และที่สำคัญคือต้องทำแบบ Beyond Expectation ต้องทำให้เหนือกว่าที่ตั้งไว้ ทำแค่แบบเดิมไม่ได้ ต้องมีโจทย์การทำงานหนักขึ้น เพื่อเร่งสร้างความแข็งแรงให้คนไทย หวังสร้าง Ecosystem ในเมืองไทยให้แข็งแรงเช่นกัน
สรุปการที่จะทรานส์ฟอร์มองค์กรตัวเอง จำเป็นต้องเริ่มจากบุคลากรภายในองค์กรก่อน เริ่มจาก AIS Academy ที่ดีไซน์การเรียนรู้แบบใหม่ๆ ให้เรียนรู้ได้ทุกที่ทุกเวลา เมื่อถึงจุดหนึ่งที่พิสูจน์แล้วว่ามันเวิร์ก ทาง AIS จึงทำเผื่อคนไทยในสังคม ให้ได้รับกาเรรียนรู้เช่นกัน จึงเกิดเป็น ACADEMY for THAIs ถือว่าเป็นแนวคิดที่ทำเพื่อสังคมไทยอีกทางหนึ่งด้วย
ติดตามข่าวสารจาก Brand Inside ได้จาก Facebook ของเรา
Apple ได้เตรียมเปิดขาย iPhone XR วันที่ 26 ต.ค. 2561 นี้และ Apple ก็ได้รวบรวมข้อมูลจากนักวิจารณ์ที่มีโอกาสได้ทดสอบตัวเครื่องมาให้ติดตามกัน
ข้อมูลทั้งหมดนี้อ้างอิงจาก Apple Newsroom
iPhone XR : เสียงจากนักวิจารณ์นักวิจารณ์ทั่วโลกได้ทดลองใช้งาน iPhone XR และออกมาบอกเล่าความประทับใจที่มีต่อสมาชิกใหม่ล่าสุดในตระกูล iPhone ซึ่งรุ่นนี้มีครบทุกสิ่งทุกอย่าง ตั้งแต่จอภาพ Liquid Retina ขนาด 6.1 นิ้ว ระบบกล้องสุดล้ำที่รังสรรค์ภาพถ่ายบุคคลพร้อมเทคนิคตื่นตาได้ด้วยกล้องเลนส์เดี่ยว แบตเตอรี่ที่ใช้งานได้ยาวนานตลอดวัน ตลอดจนตัวเครื่องที่มีให้เลือกหกสีสันสวยงาม ได้แก่ สีขาว สีดำ สีฟ้า สีเหลือง สีส้มคอรัล และสีแดง (PRODUCT) RED
นี่คือเสียงส่วนหนึ่งจากนักวิจารณ์
“สีสันสวยงามมาก แบตเตอรี่ยอดเยี่ยม Face ID ยังคงเป็นเทคโนโลยีระดับท็อปของอุตสาหกรรม คำสั่งนิ้วบน iOS ใช้งานง่าย กล้องสุดยอดมาก และประสิทธิภาพการทำงานก็ดีจนน่าทึ่ง นี่คือ iPhone ที่คุณต้องซื้อ”
“ถ้าเทียบราคากันแบบดอลล่าร์ต่อดอลล่าร์ [iPhone] XR น่าจะเป็น iPhone ที่ดีที่สุดเท่าที่ Apple เคยทำมา”
“iPhone XR มีประสิทธิภาพการทำงานที่รวดเร็ว กล้องที่ยอดเยี่ยม และแบตเตอรี่ที่ใช้งานได้ยาวนานกว่าโทรศัพท์รุ่นเรือธงของแบรนด์อื่น ทั้งหมดนี้อยู่ในตัวเครื่องสีสันสดใสและราคาสบายกระเป๋า”
“iPhone XR คือความลงตัวของ iPhone ที่มีทั้งจอภาพขนาดใหญ่ กล้องชั้นยอด และแบตเตอรี่พลังอึด”
“[iPhone] XR น่าจะเป็นการผสมผสานที่ลงตัวที่สุดระหว่างขนาดของตัวเครื่องและการใช้งาน คุณภาพของตัวเครื่องเป็นไปตามมาตรฐานของ Apple ซึ่งบอกได้เลยว่าไม่มีที่ติ”
“Apple ยังใส่ใจรายละเอียดมากเป็นพิเศษในการทำขอบมนของจอภาพ LCD ให้พอดีกับขอบของตัวเครื่อง ซึ่งเป็นสิ่งที่ผมอยากให้บริษัทอื่นๆ ทำมาตั้งนานแล้ว”
“แม้ว่า [iPhone] XR จะเป็น iPhone รุ่นกลางของ Apple แต่กลับให้ความรู้สึกเหมือนเครื่องประดับชิ้นหนึ่งที่สร้างสรรค์ขึ้นอย่างปราณีต ตัวเครื่องค่อนข้างมีน้ำหนัก ด้านหลังทำมาจากกระจกที่ผ่านกระบวนการลงหมึกถึง 7 ชั้น จึงดูสวยงามเปล่งประกาย ราวกับว่าไม่ใช่อุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์”
“[iPhone] XR ถ่ายภาพได้สวยงามมากในโหมดภาพถ่ายบุคคล และให้คุณปรับระยะชัดลึกในฉากหลังได้ด้วย นอกจากนี้ยังมี HDR อัจฉริยะ ที่ให้คุณถ่ายหลายภาพพร้อมกันได้ โดยแต่ละภาพจะมีค่าแสงไม่เท่ากัน เพื่อให้คุณได้รูปภาพที่ดีที่สุด”
“เราคิดว่า iPhone XR ยอดเยี่ยมมาก และยังเป็นสมาร์ทโฟนเครื่องเดียวที่ทุกคนควรต้องมี รุ่นนี้มีพลังการประมวลผลมากกว่าทุกรุ่นของคู่แข่ง แบตเตอรี่ก็ใช้งานได้นานมาก ส่วนกล้องก็น่าทึ่งสุดๆ”
Techradar (สหราชอาณาจักร)
“กล้องอัพเกรดใหม่ เรื่องการใช้งานแบตเตอรี่หายห่วงได้เลย และดีไซน์โดยรวมถือว่าก้าวหน้าไปอีกขั้น”
news.com.au (ออสเตรเลีย)
“รู้สึกว่าเร็วขึ้นและตอบสนองได้ดีขึ้นจริงๆ การเปิดหรือสลับใช้งานแอพหนักๆ ก็ทำได้เร็วอย่างน่าประทับใจ”
Auburn Lane (แคนาดา)
“คุณจะต้องรัก รัก และรักคุณสมบัติภาพถ่ายบุคคลสุดล้ำแน่นอน เพราะมีโหมดต่างๆ มากมาย เช่น โหมดแสงไฟเวทีที่จะเปลี่ยนฉากหลังให้เป็นสีดำ การควบคุมระยะชัดลึกแบบใหม่หมดให้คุณปรับระยะชัดลึกหลังจากภาพที่ถ่ายไปแล้วได้ด้วย ซึ่งจะทำให้รูปภาพของคุณดูคมชัดและน่าตื่นตาตื่นใจยิ่งกว่าเดิม”
PC Mag (อินเดีย)
“คุณจะได้สุดยอดโทรศัพท์ตัวจริงที่ทำได้ทุกอย่าง และทำได้ในระดับที่เรียกว่ามืออาชีพเลยทีเดียว ถ้าเทียบราคากันแบบปอนด์ต่อปอนด์ นี่เป็นรุ่นเรือธงที่ดีที่สุดในตลาดกระแสหลักตอนนี้”
Apple ได้เปิดให้สั่งซื้อ iPhone XR ล่วงหน้าที่ Apple Store Online ประเทศไทย และจะวางขายในประเทศไทยวันที่ 26 ต.ค. 2561 นี้ ทั้งที่ Apple Store Online, ตัวแทนจำหน่ายและผู้ให้บริการเครือข่ายโทรศัพท์อีกหลายราย (ราคาอาจแตกต่างกัน)
ที่มา – Apple Newsroom
The post เสียงจากนักวิจารณ์ที่ได้ลองใช้ iPhone XR appeared first on iPhoneMod.
Xiaomi เปิดตัว Black Shark Helo หรือก็คือ Black Shark รุ่นอัปเกรดที่ยังไม่ใช่รุ่นที่สองนั่นเอง โดยความเปลี่ยนแปลงด้านสเปกในครั้งนี้ยังคงไม่มีอะไรมาก เพราะเป็นการเลือกใช้หน่วยประมวลผลตัวเดิม แต่ที่น่าสนใจก็คือนี่เป็นรุ่นแรกของสมาร์ตโฟนเกมมิ่งที่มาพร้อมกับ RAM 10GB ซึ่งก็มาถึงจุดที่ RAM เยอะกว่าคอมพิวเตอร์หลายเครื่องเสียอีก
ถึงแม้จะใช้หน่วยประมวลผล Snapdragon 845 เหมือนรุ่นก่อนหน้า แต่มีการปรับดีไซน์ใหม่หมด โดยมาพร้อมกับเอกลักษณ์ไฟ LED สีเขียว (ที่หลายคนอาจเข้าใจผิดว่าเป็น Razer) นอกจากนี้ยังมีความบางลงกระชับมือมากกว่าเดิม โดยเหลือความหนาเพียงแค่ 8.7 มม. เท่านั้นเอง
ด้านหลังมาพร้อมกับกล้องคู่พร้อมกับ LED ที่สามารถเปลี่ยนสีโลโก้ได้ถึง 16.8 ล้านสี รวมถึงยังสามารถเปลี่ยนตามเกม ส่วนสแกนลายนิ้วมือจะอยู่บริเวณด้านหลังเครื่องถัดลงมาจากกล้องคู่
อย่างที่บอกคือหน่วยประมวลผลเป็นตัวเดิม Snapdragon 845 เพียงแต่มี RAM 10GB เพิ่มเข้ามา (ซึ่งยังไม่รู้ว่าตัวเกมและระบบปฏิบัติการจะได้ใช้จริงมั้ย) แต่ถึงอย่างไรทาง Xiaomi ก็ได้ซอยออกเป็น 3 รุ่นย่อย RAM 6, 8, 10 GB ตามลำดับ (รุ่นสูงสุดมาพร้อม ROM 256GB)
และด้วยความที่มีลำโพงสเตอริโออยู่บริเวณด้านหน้า นิ้วจึงไม่บดบังเสียงเวลาเล่นเกม มีการเลือกใช้แอมป์ขยายเสียงและระบบเสียงสนทนาพิเศษที่มีลำโพงแยกอีกตัว เพื่อที่จะสามารถสนทนากับเพื่อนได้ชัดเจนกว่าเคย
นอกจากนี้ยังมีการเปิดตัวจอยเกมรุ่นใหม่อีกด้วย โดยมาพร้อมกับปุ่มควบคุมทั้งสองด้าน นอกจากนี้ยังมีอุปกรณ์เสริมเป็นเคสระบายความร้อน (จากตัวเครื่องเองก็ระบายความร้อนด้วยของเหลวอยู่แล้วเพียงแต่อัปเกรดเป็น 2 ท่อ) และเคสกันกระแทกพร้อมขาตั้ง
รายละเอียดอื่นเพิ่มเติมก็จะเป็นระบบปฏิบัติการ Android 8.1 Oreo, กล้องหลังคู่ 12 + 20 MP f/1.7 พร้อม AI, กล้องหน้า 20 MP f/2.2, พอร์ท USB-C และไม่มีช่องหูฟัง 3.5 มม., แบตเตอรี่ 4000 mAh
ราคาเปิดตัวที่มา – mi.com
The post Xiaomi เปิดตัว Black Shark Helo สมาร์ตโฟนเกมมิ่ง RAM 10GB appeared first on iPhoneMod.
มีรายงานข้อมูลว่า Apple ได้ลงทะเบียนรหัสโมเดล Mac รุ่นใหม่ในฐานข้อมูล Eurasian คาดว่าเป็นรุ่นใหม่ที่จะเปิดตัวงาน Event 30 ต.ค. 2018 นี้
พบรหัสโมเดล Mac รุ่นใหม่ลงทะเบียนที่ฐานข้อมูล Eurasianสำหรับรหัสโมเดล Mac รุ่นใหม่ 3 รุ่นประกอบไปด้วย A1993, A2115 และ A2116 ซึ่งใช้ระบบปฏิบัติการ macOS 10.14 คาดว่าเป็นสินค้า Mac รุ่นใหม่
ข้อมูลจาก Eurasian เผยว่าเป็น “คอมพิวเตอร์ส่วนบุคคลของ Apple” (Apple personal computers) และ 9to5Mac คาดการณ์ว่ารหัสโมเดล Mac ที่ลงทะเบียนน่าจะเป็น Mac mini, iMac รุ่นใหม่ ที่จะเป็นรุ่นเน้นปรับสเปคภายในเป็นหลักเพราะ Apple ไม่ได้ได้อัปเกรดสเปคสินค้าดังกล่าวมานานแล้ว
นอกจาก Mac mini, iMac รุ่นปรับสเปคแล้วเราอาจได้เห็น Apple เปิดตัว MacBook 13 นิ้วรุ่นใหม่ที่อาจมาแทน MacBook Air หรือ MacBook 12 นิ้ว ซึ่ง MacBook 13 นิ้วใหม่นี้จะมีราคาย่อมเยาในกลุ่มสินค้า MacBook, ใช้จอ Retina ซึ่งจะเป็น MacBook สำหรับผู้เริ่มต้น
Apple ประกาศจัดงาน Event วันที่ 30 ต.ค. 2018 นี้ โดยสินค้าหลักๆ ที่คาดว่าจะเห็นกันคือ iPad Pro ใหม่, MacBook 13 นิ้วใหม่ และสินค้ากลุ่ม Mac รุ่นอัปเกรดสเปคซึ่งต้องรอติดตามกันในวันงานว่าจะมีอะไรบ้าง
ที่มา – 9to5mac
The post พบรหัสโมเดล Mac รุ่นใหม่ลงทะเบียนที่ฐานข้อมูล Eurasian คาดเปิดตัว 30 ต.ค. 2018 นี้ appeared first on iPhoneMod.
ธนาคารไทยพาณิชย์ หรือ SCB ประกาศ SCB EASY เฟสใหม่ที่มาพร้อมกับแนวคิด #เป็นทุกโมเมนต์เพื่อคุณ จากเดิมที่เคยสร้างแบรนด์ว่า #เป็นทุกอย่างเพื่อคุณ มาตลอดระยะเวลา 1 ปี การเปลี่ยนแปลงครั้งนี้ เพราะต้องการแสดงให้เห็นว่า SCB คือ Moment Banking หรือเป็นธนาคารในทุกจังหวะเวลาที่ผู้ใช้ต้องการ
แล้วมีอะไรใหม่บ้างกับ SCB EASY เฟสใหม่ ที่ไม่ใช่แค่การ Redesign แพลตฟอร์ม แต่เป็นเรื่องของผู้ใช้งานล้วนๆ
ธนา เธียรอัจฉริยะ รองผู้จัดการใหญ่อาวุโส Chief Marketing Officer ธนาคารไทยพาณิชย์ บอกว่า หมดยุคการมองโปรดักส์ หรือธนาคารเป็นศูนย์กลางแล้ว แต่ต้องมองลูกค้าเป็นหลัก จึงเกิดเป็นแนวคิด #เป็นทุกอย่างเพื่อคุณ เมื่อปีที่ผ่านมาและต่อยอดสู่ #เป็นทุกโมเมนต์เพื่อคุณ หรือ Moment Banking คือ SCB จะอยู่กับผู้ใช้ตลอดเวลา
ด้วยเป้าหมาย ผู้ใช้ SCB EASY 10 ล้านรายภายในสิ้นปี 2561 มียอดสมัครสินเชื่อดิจิทัลผ่านแอปฯ กว่า 8 แสนราย พร้อมตั้งเป้ายอดผู้ใช้งาน SCB EASY สู่ 12.5 ล้านราย ภายในสิ้นปี 2562 วิธีการคือ SCB EASY จะต้องก้าวข้ามผ่านสิ่งที่เป็นปกติคือ โอน-จ่าย-เติม-กด ซึ่งเป็นบริการหลักที่ผู้ใช้รู้จักและใช้งานกันเป็นประจำแล้ว นำไปสู่บริการอื่นๆ อีกมากมายที่ SCB EASY สามารถทำได้
“ตลอด 1 ปี SCB EASY ทำการ Digital Transformation ใน 3 ขั้น เริ่มต้นด้วย 1. Digital Product ปรับโฉม Platform ใหม่ทั้งหมด เพื่อให้ใช้งานง่าย สะดวก เสถียร เช่น การกดเงินสดแบบไม่ใช้บัตร (Cardless ATM) สู่ขั้นที่ 2. Digital Marketing ทำตลาดดึงให้ลูกค้ามาใช้ Mobile Banking การยกเลิกค่าธรรมเนียมการทำธุรกรรมผ่าน SCB EASY และตอนนี้กำลังเข้าสู่ขั้นที่ 3. Digital Fufillment ธนาคารจะไม่นำเสนอแค่ฟีเจอร์ แต่ต้องอยู่ในช่วงเวลาของผู้ใช้”
SCB EASY สามารถให้บริการได้หลากหลายฟีเจอร์มาก แต่เพื่อให้ทุกคนเห็นภาพชัดเจน จึงคัด 20 ฟีเจอร์เด่นที่ SCB EASY ทำได้มานำเสนอ เช่น บริการเปิด-ปิดบัตรเครดิตได้ด้วยตนเอง, บริการขอสเตทเมนต์ย้อนหลัง 1 ปี, บริการโอนเงินได้สูงสุด 10 รายการพร้อมกัน, บริการจ่ายบิลค่าน้ำ ค่าไฟ ได้ทุกที่ทั่วโลก, บริการเติมเงินบัตรทางด่วนได้ทุกที่ทุกเวลา, ซื้อตั๋วหนัง SF, เลือกรายการผ่อนชำระได้เองตามต้องการ และฟีเจอร์ EASY E-KYC หรือการเปิดบัญชีโดยไม่ต้องไปที่สาขา
เพื่อให้การสื่อสารทำได้เข้าใจ SCB เลือกนำเสนอผ่านโฆษณาแบบแนวตั้ง (Vertical Add) จำนวน 20 เรื่อง โดยเป็น Digital ทั้งหมดผ่าน 3 ช่องทางหลักคือ Facebook, YouTube และ IG Story ซึ่งเป็นช่องทางที่สามารถเข้าถึงกลุ่มคนได้ทุกเพศทุกวัยและตลอดเวลา
สำหรับ 20 ฟีเจอร์ใหม่ยังจะมีบริการใหม่ๆ ทยอยตามออกมาในอีก 6 เดือนข้างหน้า โดยมาจากการประมวลผลและวิเคราะห์ข้อมูลจาก Big Data เช่น เช็คประวัติทุกรายการชำระเงินกู้ได้ทุกงวดทันที สมุดบัญชีดิจิทัลในมือถือ (E-Passbook) ออกสลิปใหม่ได้เองทันที (Slip Regeneration) ขอและรับเอกสารทางการเงินในมือถือได้ทันที กดเงินสดจากยอดวงเงินคงเหลือในบัตรเครดิตที่ตู้เอทีเอ็มได้เลยทันที เป็นต้น
ธนา โพธิกำจร ผู้อำนวยการอาวุโส ผู้บริหารสาย Digital Banking ธนาคารไทยพาณิชย์ บอกว่า SCB เปิดฟีเจอร์กดเงินไม่ใช้บัตรไปแล้ว ได้รับความนิยมอย่างมาก แต่ล่าสุดมีฟีเจอร์ กดเงินได้แม้ไม่มีเงินในธนาคาร คือ สามารถกดเงินสดจาก ATM ได้แม้จะไม่มีเงินในบัญชี
โดยเป็นการถอนเงินจากบัตรเครดิตที่ผูกไว้กับ SCB EASY (แต่ผู้ใช้ต้องเป็นหนี้บัตรเครดิต ดอกเบี้ยตามที่เจ้าของบัตรเครดิตกำหนด) ซึ่งปกติเจ้าของบัตรเครดิตสามารถกู้เงินจากบัตรได้อยู่แล้ว โดยการกดรหัสที่บัตรเครดิตให้มาตอนเปิดบัตรใหม่ (แต่ใครจำรหัสนั้นได้บ้าง?) โดยคาดว่าบริการนี้จะเปิดได้ภายใน 6 เดือนข้างหน้า
ปัจจุบัน SCB EASY มียอดผู้ใช้งานกว่า 8 ล้านราย เป็นลูกค้าใหม่ตั้งแต่ยกเครื่องปีที่แล้วกว่า 4.3 ล้านราย มีลูกค้าเข้าใช้ SCB EASY กว่า 2,000 ล้านครั้ง ทำธุรกรรมโอนเติมจ่ายไปกว่า 590 ล้านครั้ง กดเงินไม่ใช้บัตรกว่า 38 ล้านครั้ง จองบัตรชมภาพยนตร์กว่า 300,000 ใบ รวมถึงขอสินเชื่อกว่า 486,000 ครั้ง
ธนา เธียรอัจฉริยะ บอกว่า การให้บริการเรื่องจ่าย โอน ถอน เติม และกำลังต่อยอดสู่บริการด้านลงทุน (Investment) เกิดขึ้นกับธนาคารแล้ว แต่สิ่งที่ยังมีอยู่น้อยคือ Access to Fund หรือ Digital Lending หรือสินเชื่อดิจิทัล ซึ่งธนาคารยังทำได้น้อยมาก ซึ่ง SCB มองว่านี่จะเป็นภาพใหญ่ของธนาคารในปี 2019
“สินเชื่อดิจิทัล กลุ่ม Non-Bank สามารถทำได้แล้ว แต่ Bank ยังทำไม่ได้ ปีต่อไปลูกค้าต้องสามารถเข้าถึงแหล่งเงินทุนได้ทุกที่ทุกเวลา ธนาคารมั่นใจว่าแนวคิดทางการตลาดดังกล่าวจะสามารถผลักดันให้เกิดการทำธุรกรรมทั้งหมดบนแอปฯ ตอบสนองแนวคิดบริการ ธนาคารจะอยู่ทุกที่ยกเว้นที่ธนาคาร
ติดตามข่าวสารจาก Brand Inside ได้จาก Facebook ของเรา