แอปเปิลได้ยิงโฆษณาซีรีส์ Get a Mac ชุดใหม่ โดยโฆษณา 4 แบบใหม่นี้เป็นโฆษณาชุดแรกที่ออกอากาศหลังจากที่ไมโครซอฟท์ปล่อยโฆษณาชุด I'm a PC ที่ตั้งใจสื่อว่าราคาเครื่องแมคนั้นสูงไป ที่เว็บต่างประเทศเรียกกันว่า "ภาษีแอปเปิล" (Apple's Tax)
ไม่ว่าอย่างไรก็แล้วแต่โฆษณาชุดใหม่นี้ ยังคงความเป็นสไตล์เดิมของซีรีส์ Get a Mac ไม่มีการดัดแปลง หรือเปลี่ยนคอนเซ็ปต์เพื่อแก้ต่างให้กับตัวเองเกี่ยวกับเรื่องราคาแต่อย่างใด
โฆษณาชุดใหม่นี้มีปัญหาเกี่ยวกับวินโดวส์หลายรูปแบบ (เช่นเคย) เช่นปัญหาไวรัสตัวใหม่, ปัญหาทางด้านกฏหมายเกี่ยวกับการดูแลส่งซ่อม, และปัญหาเครื่องค้าง สำหรับโฆษณา Stacks แอปเปิลได้ทำการอธิบายคุณสมบัติ Facial Recognition ใน iPhoto ที่สามารถบอกได้ว่าใบหน้าของใครเป็นของใคร
สำหรับโฆษณาคลิกเข้ามาดูได้เลยครับ
ที่มา - MacRumors
Comments
ผมไม่เจอที่ว่านี่สักอย่างแฮะ :P
ปล.แต่เชื่อว่าคนส่วนใหย่เจออย่างแรกกับอย่างหลัง อันที่สองคนไทยส่วนใหญ่ไม่น่าจะเจอกัน 55+
ไม่เจอได้ไงครับ อย่างอันแรกที่มีคนใส่ชุดหมีกันไวรัสนั่นล่ะครับ เค้าก็แนะนำตัวตอนแรกว่า I'm a PC แล้วก็โดนล้อว่า จะใส่ชุดนี้ไปตลอดเลยหรอ
ต้องฟังตีๆครับ เค้าใช้สำนวน
Pitawat's Blog :: บล็อกผมเองครับ
Mac ถาม PC ประมาณว่า จะต้องมีโปรแกรม Anti-Virus ติดตั้งไว้ตลอดเลยหรอ ?
คือผมฟังดีแล้วครับ โฆษณาจะบอกว่าต้องอยู่กับชุดไบโอฮาซาร์ดไปตลอดเลยเหรอ ? (พวกโปรแรกมป้องกันไวรัส)
คืิอ คุณต้องอ่านดีๆด้วยครับ ผมบอกว่าผมไม่เจอปัญหาพวกนี้ (แต่คนอื่นเจอ) แค่นั้นเอง -*-
แสดงว่าไม่ได้ติดตั้ง software Anti-Virus , Firewall ใดๆในการใช้งานเลย ฤ ครับ แล้วก็ออนไลน์ทำงานด้วย ไม่เจอปัญหา malware เลย สุโค่ยมากๆครับ
สำหรับผมเอง Windows ที่ใช้งาน ไม่ได้ใส่ใจเรื่องไวรัส malware ใดๆ แม้แต่น้อย ใช้มา 5 ปีแล้ว ยังไม่เคย format ลงใหม่ๆใดๆทั้งสิ้น ผมกับไวรัสนี่อยู่กันเหมือนมะเร็ง เราต้องอยู่ร่วมกับเขาให้ได้ อย่าไปคิดว่าเป็นเรื่องแปลก อย่าไปคิดว่าเป็นปัญหา เหมือนเป็นส่วนหนึ่งของเรา
วันดีคืนดีเครื่องผมแพร่ไวรัสใน network ไปติดเครื่องคนอื่น แล้วเขาโวย ผมก็ให้เขามาจัดการเอง ไม่ได้ลำบากลำบนผมแต่อย่างใด 5555
ผมแสดงความคิดเห็นเฉยๆนะครับ มิได้มา"รุม"ใดๆ คุณ MrWhisper โปรดเข้าใจเจตนารมณ์
ครับ ไม่ได้ติดตั้งซอฟท์แวร์พวกนั้นเลย ปัญหา malware ผมก็ไม่เจอครับ (คือปกติผมจะไม่ได้กดติดตั้งอะไรมั่วซั่วครับ ลงแต่อันที่ต้องใช้จริงๆ) อาการต่างๆที่คนอื่นเจอกันเพราะไวรัส ก็ไม่เกิดกับผม ไวรัสผมก็เคยโดนนะครับ แต่นานมากๆแล้ว (สองสามปีก่อน) ก็แก้กลับมาได้ จะฟอร์แมตก็เฉพาะตอนอยากเปลี่ยน OS แค่นั้นครับ (สลับไปมา XP,7 Beta,Ubuntu เวลา 80% อยู่บน XP)
My Processes
My CPU Usage (ให้ดู เผื่อมีโพรเซสไวรัสที่ผมไม่รู้จัก - -)
ปล.เหลือโปรแกรมอีก 2 ตัวกับ 1 ชุดที่ไม่ได้ลง คือ OO.o กับ Adobe Photoshop CS2 และ WAMP
ปล.ใครสักคนหนึ่งบอกว่าถ้าไม่อยากโดนไวรัส ก็ไม่ต้องลง AntiVirus เพราะถึงโดนก็ไม่รู้ว่าโดน 55+
ไม่ได้ว่าใครจะมารุม เพราะผมก็ทำงานแบบนี้ของผมจริงๆ ลั้ลลาลั้ลลา~
ผมแค่แสดงความคิดเห็นเฉยๆนะครับ มิได้ "ว่า" อะไร โปรดเข้าใจเจตนารมณ์
+1 เครื่องใช้ส่วนตัวของผมจริงๆ ที่ไม่มีใครมาใช้ด้วยเลย ใช้ Windows XP Home ผมก็ไม่ติดตั้ง antivirus เหมือนกัน และแน่ใจเหมือนกันว่าไม่ติดไวรัสหรือ malware อะไรด้วย ^^
ถ้า End-user มีประสพการณ์ซักหน่อยก็ไม่เป็นไรครับ แต่บ้านเรา enduser ระดับนี้มัน....น้อยไปหน่อย แถมระดับนี้มักโดน end user ระดับรากหญ้าเรียกไปซ่อมรายเดือนซะด้วยสิ ;p
"ไม่เจอ" นี่แปลว่า ไม่เจอในการใช้งาน หรือ ไม่เจอในโฆษณา อ่ะครับ ?
twitter.com/exfictz
ไม่เจอในการใช้งานครับ
คือผมเห็นท่าน BlackMiracle ตอบอีกแบบน่ะครับ
twitter.com/exfictz
ครับ เหมือนว่าจะสื่อสารกันผิดพลาด
555+
สื่อได้ดีมากครับ ออกแนวฮานิดๆ จี้จุดอ่อนของ PC ได้เป๊ะ ^^
Pitawat's Blog :: บล็อกผมเองครับ
ที่จริงน่าจะเป้นจี้จุด Windows มากกว่านะ (จ็อบส์มันไม่เห็นหัวน้อง Tux แล้วรึ - -")
แต่เอาเข้าจริง ไมโครซอฟท์ก็ใช้ PC แทน Windows เหมือนกัน เหอๆ
ปล.ไม่มีใครเห็นหัวน้อง Tux แล้ว - -
ว่าไป โฆษณาของแมคนี่จะมีไอ้แว่นใส่สูทหน้าตาเชยๆ กับผู้ชายแต่งตัวธรรมดาๆ นี่เขาจะสื่อถึงเกตส์กับจ็อบส์ใช่มั๊ยครับ ?
ปล.ไม่เข้าใจอันที่ 4 ครับ ช่วยอธิบายที - -
ไม่ไหวแล้ว ท่องไปอนาคตดีกว่า (เพื่อที่จะรู้ว่าปัญหา PC ได้รับการแก้ไขหรือยัง)
ไปถึง จ้ะเอ๋ PC อนาคตค้าง
@TonsTweetings
อันที่ 4 หรอ เอิ้กๆ
ก็แค่พีซีไปโลกอนาคตเพื่อดูว่าพีซีในอนาคตแก้ปัญหาพวก crash, hang, ฯลฯ ได้หรือยัง
ไปถึงปุ๊บ ก็ยิงคำถามใส่พีซีในอนาคตทันทีว่าแก้ปัญหาพวกนั้นได้ยังฟะ แล้วแมคในอนาคตก็บอกว่า พีซีในอนาคตมันตกใจจนแฮงก์ไปแย้ว เอิ้กๆ ^^"
ชอบโฆษณา Stacks ที่พูดถึง iPhoto มาก ๆ อ่ะ
I'll let you do it !!
twitter.com/exfictz
อันที่ 2 คืออะไรครับ ไม่เข้าใจ
Legal copy คือเวลาจะอธิบายอะไรทางกฏหมายต้องแก้ต่างไว้ก่อนครับ
เช่น ว่า "PC ใช้ง่ายนะ" ต้องเขียนไว้ว่า "การที่เราพูดว่า PC ใช้ง่ายหมายความว่าเมื่อคุณใช้เครื่อง PC กับซอฟต์แวร์ที่ผลิตแล้วได้รับการรับรองมาก่อน ต้องใช้ในทีที่ไม่ร้อนไม่เย็นเกินไป .........บลาๆ"
@TonsTweetings
Legal copy อาจจะอธิบายได้ง่ายๆ อีกแบบว่า ภาษาเฮียเล๊ง
ลึกๆ เหมือนจะเข้่าใจ แต่เอาเข้าจริงก็เปล่า มารู้ตัวอีกทีก็ได้แต่งง นี่เรามานั่งฟัง(อ่าน)อยู่ทำไม...
ฮามากครับ ชอบๆ
เทคโนโลยีไม่ผิด คนใช้มันในทางที่ผิดนั่นแหละที่ผิด!?!
เทคโนโลยีไม่ผิด คนใช้มันในทางที่ผิดนั่นแหละที่ผิด!?!
ยังฮาเหมือนเดิม
ไม่ฮาเลย สงสัยแอปเปิลฟอร์มตก
อ่านจากใน tuaw เค้าว่าโฆษณาชุดนี้ถ่ายทำก่อนโฆษณา laptop hunter ของไมโครซอฟท์
---
Khajochi Blog : It's not a Bug ... It's a Feature
แฟนพันธุ์แท้สตีฟจ็อบส์ | MacThai.com
แอบชอบ legal แฮะ มีคนแกะตัวอักษรใน ads ออกมายาวเฟื้อยดังนี้ ไม่แน่ใจว่าแอปเปิลเอามาจากหลังกล่องของโปรแกรมอะไร ถ้าเดาไม่ผิดน่าจะ Windows ซักตัว
ที่มา - Macrumors
---
Khajochi Blog : It's not a Bug ... It's a Feature
แฟนพันธุ์แท้สตีฟจ็อบส์ | MacThai.com
อะไรเนี่ย Incredibly easy to use PC ... ยาวมากกก - -"
โคตรขยัน ยอทมรับเลยคนแกะออกมาเนี่ย - -
ฮาแค่อันนี้แหละ
แต่จริงๆ Laptop Hunter มันก็ไม่มีการพูดถึงประเด็นว่า Windows ดีกว่า Mac อย่างไรแบบ “ตรงๆ” นะ จะเน้นไปเรื่องราคาของเครื่องยี่ห้ออื่น ถูกกว่า Mac อย่างไร ด้วยข้อมูลประมาณ 60-80%
ezybzy.info blog
จุดขายของ PC อยู่ที่ราคากับชิ้นส่วนที่มีให้เปลี่ยนเยอะมากครับ
ส่วนจุดขายของแมคอยู่ที่ R&D...
แต่มันโฆษณาของ Microsoft นี่ครับ ทำไมถึงไม่คิดจะขายผลิตภัณฑ์ของตัวเองล่ะ? (จนมีคนแซวว่าโฆษณา 2 ตัวแรกนี้ HP ออกค่าผลิตให้รึเปล่า?)
คือถ้าเทียบกับ Get a Mac ผมมองว่าแอปเปิ้ลพยายามขายตัวเอง (ส่วนใหญ่มองไปที่ OS นะ น้อยครั้งที่จะขายตัว Hardware ตรงๆ) แต่เหมือนจะตรงกันข้ามกับแนวทางของ Laptop Hunter เลย
ezybzy.info blog
ดูจากโฆษณาของไมโครซอฟท์ ผมรู้สึกว่าไมโครซอฟท์ไม่ได้เน้นที่ขายระบบปฏิบัติการครับ แต่เน้นที่ตัวเครื่องที่ราคาถุกกว่า
อาจจะเป็นเพราะเศรษฐกิจกำลังแย่ด้วยครับ เลยต้องดึงเรื่ิองราคามาสู้ (โฆษณาว่าถูก ใครๆก็สนใจครับ)
เอ้าก็เขาเป็นบริษัทที่เน้นขายระบบปฏิบัติการนี่ครับ มันเลยแปลก
ถ้ามองว่าเอาราคาเข้าสู้ ก็คงเป็นยุทธการที่ดี แต่ทำแบบนี้ผู้ผลิตรายอื่น (ที่ไม่ปรากฏในโฆษณาที่ผ่านมาทั้งสามตัว) จะไม่น้อยใจแย่เหรอ? คือถ้าออกมาว่า HP ทำโฆษณา Dell ทำโฆษณา Toshiba ทำโฆษณา Acer ทำโฆษณา ฉันถูกกว่า Mac มันจะดูเข้าท่ากว่ารึเปล่า?
ezybzy.info blog
ผมว่าไมโครซอฟท์ ไม่ได้เน้นขายแค่ OS นะครับ
Product อื่นๆของเค้ามีเยอะมาก~
นั่นสิ น่าจะเน้นอันอื่นที่ตัวเองผลอตด้วย
ดันมาขาย hp กับ vaio ซะได้ - -"
^ ^'' ก็ที่ MS เอามาใช้ในโฆษณานี่มี Vista OEM แถมไปทุกตัวหนิครับ
อ๊ะ...จริงด้วย ลืมไป ไมโครซอฟท์ไม่ได้ผลิตโน้ตบุค
แล้วมันมีมุมไหนที่เขาหยิบมาบดขยี้ทางฝั่ง Mac ว่า OS ของฉันดีกว่าไหมเอ่ย?
ไม่รู้ซิ ผมคิดว่า Microsoft น่าจะทำโฆษณาเนื้อหาประมาณนี้ออกมาตอบโต้บ้างนะเอาอะไรที่มันเห็นได้ชัดเช่น Compatible อะไรพวกนั้น (เหมือนจะเคยทำรึเปล่าแต่มันอ๊าดดดเกิน?)
ezybzy.info blog
ถ้าอย่างนั้นแล้วการตลาดของไมโครวอฟท์คงไม่ได้เรื่องจริงๆแหละครับ เหอๆ
ปล.กระทู้โฆษณาของแอปเปิล แต่มาเถียงกันเรื่องโฆษณาของไมโครซอฟท์ เห็นได้ชัดว่าโฆษณาอะไรมันเรียกความสนใจได้มากกว่ากัน 55+
Topic FireFox ยังมีพาโลไป iPhone , iPod เลยครับ 555555555
ผมแสดงความคิดเห็นเฉยๆนะครับ มิได้มา"รุม"ใดๆ คุณ MrWhisper โปรดเข้าใจเจตนารมณ์
จริงๆ ทางด้าน OS MS เองก็มีข้อได้เปรียบนะครับ ถ้าจะบอกว่า Application เยอะกว่า Games เยอะกว่า คนก็ยอมรับ จะบอกว่า AutoCAD และอีกหลายๆ top title ไม่มีใน Mac คนก็ยอมรับ ^^)
ผมแสดงความคิดเห็นเฉยๆนะครับ มิได้มา"รุม"ใดๆ คุณ ezy โปรดเข้าใจเจตนารมณ์
ทำระบบควบคุมตู้เย้น ไม่ให้โฆษณาตู้เย็นแล้วจะให้โฆษณาเครื่องปิ้งขนมปังเหรอครับ
onedd.net
onedd.net
ก็โฆษณาว่าระบบของคุณดีอย่างไรซิครับ
ก็อย่างที่เขียนไว้ ก็ชี้มาเลยว่าดีกว่าอย่างไร ไม่อย่างนั้นผมว่าเสียเงินเปล่าๆ นะ อันนี้เขาก็พยายามชี้ว่าของเขาดีกว่าอย่างไร (ชัดและง่าย)
เหมือนพวกเครื่องปรับอากาศก็เห็นเขาชอบโชว์ว่าเทคโนโลยีข้างในเขาเป็นอย่างไร ดีกว่าล้ำหน้ากว่า ฯลฯ (เราก็ไม่รู้หรอกว่ามันจริงหรือไม่ จนกว่าจะลอง)
ezybzy.info blog
สุดท้ายลูกค้าเค้าซื้อตู้เย็นยี่ห้อไหนเค้าก็ได้เงินอยู่ดี แถมลูกค้าก็มีตัวเลือกเยอะขึ้น ข้อดีของ Windows ชัดๆ ไม่ผูกติดกับฮาร์ดแวร์ ลูกค้ามีอิสระที่จะเลือก
ส่วนเครื่องปรับอากาศแต่ละเจ้าก็มีระบบควบคุมของตัวเอง เค้าก็ต้องโฆษณาแต่ของตัวเองสิ
onedd.net
onedd.net
ไม่ผูกติดจริงอ้ะ?
ทำไมผมต้องมาใช้ Windows บน x86 ละเนี่ย เอาไปใช้บน ARMS หรือ Power ไม่ได้เหรอ เอิ้กๆ :P
เป็นผมคงไปหาเอาระบบควบคุมตู้เย็นแบบ Opensource มาใช้แทนละครับ
lol
<mOkin/>
ตรู่ว่าแล้วในโลกนี้มีปัญหา เขาไม่ด่า ก็ชื่นชม หรือเฉยๆ
สามประเภทที่ว่านี้มิเปลี่ยนเลย จงวางเฉยใครถือสาเป็นบ้าตาย<mOkin/>
ยาว ไม่อ่าน !
------
Unlimited Asian Music (ดูเอ็มวี ไทย, เกาหลี และญี่ปุ่น ฟรีๆ)
มารอดูว่าจะทำลายสถิติมั้ย สำหรับคอมเมนต์ข่าวนี้
โฆษณาชิ้นนี้มันทำมาก่อนหน้านี้แล้วหรือเปล่า ดูๆก็ไม่มีอะไรใหม่นะ ประเด็นพวกนี้ Mac พูดได้ไม่เต็มปากแล้วนี่นา
ไม่รู้สิ รู้สึกว่าประเด็นพวกนี้ Mac เอามาหากินไม่ได้แล้วอ่ะ ไม่รู้ทำไมไม่ทำ Ads ชุดใหม่ออกมา Ads ชุดนี้ถึงจะทำมาแล้วก็ทิ้งๆไปเหอะ ทำประเด็นใหม่ๆออกมาดีกว่า แบบนี้มันเหมือนหมดมุกแล้วอ่ะ
7blogger.com
3 เรื่องนี้เป็นจุดขายของแมคมานานครับ นอกจาก 3 เรื่องนี้แล้ว เรื่องอื่นก็โดนระบบอื่นตามทันหมดแล้ว
ถึงปัจจุบันจะหากินกับเรื่องนี้ได้ไม่เต็มที่นัก แต่ถ้าทิ้ง 3 เรื่องนี้ไป ก็หาเรื่องมาต่อกรกับระบบอื่นค่อนข้างยากครับ
เรื่องอื่นมันก็ยังมี โดยส่วนตัวคิดว่าเรื่องให้ user experience ที่ดีนี่ยังหาใครเทียบยากนะ
แต่เรื่องแบบนี้ เอาไปทำโฆษณาแล้วคนทั่วไปจะเข้าใจมั้ยเนี่ย - -"
ผู้ใช้ "ทั่วไป" ผมว่าน่าจะเสพติด UI ของ Windows XP มากกว่า (ขนาดเอารุ่นผ่าตัดไปให้ใช้ ยังใช้ไม่เป็นเลย) ถ้าเอาเรื่องนี้ไปโฆษณากับคน "ทั่วไป" คน "ทั่วไป" คงจะงง "เหย ปุ่ม Start แม่มก็ไม่มี" (มีคนไม่ใช้ Windows Vista เพราะหาคำว่า Start ไม่เจอ - อ.ท่านหนึ่งครับ...)
no comment แต่ผมอ่านละขำนะ
ถ้าจะวัดกันเรื่องนี้ ต้องเริ่มด้วยที่ผู้ใช้คนนั้นไม่เคยผ่านระบบปฏิบัติการใดมาก่อนครับ
ผมมองว่า User คิือคนที่เคยใช้คอมแล้วครับ
แต่ผมคิดว่าถ้าเป็น "first look" ผมคิดว่า Windows "น่าจะ" ดูเข้าใจได้ง่ายกว่า OSX ครับ อย่างน้อยคือคนใช้สามารถรู้ได้ว่านึกไม่ออกบอกไม่ถูก จะไปเริ่มตรงไหน (Start โลด) และผมคิดว่า Taskbar ของ Windows สามารถดูได้รู้เรื่อง "ง่ายกว่า" Dock ของ OSX ครับ (คนที่ใช้ไม่เป็น เขาไม่รู้หรอกครับว่าโปรแกรมที่ย่อลงไปที่ Dock มันยังทำงานอยู่หรือเปล่า บางทีจะหาโปรแกรมที่เพิ่งย่อลงไปไม่เจอ - ไอ้หาไม่เจอนี่มักจะเกิดกับ Dock ยาวๆ ที่มีไอคอนเยอะมาก)
ทั้งพวกปุ่มย่อ/ขยาย/ปิด หน้าต่างของ Windows แค่มองเฉยๆก็พอจะเดาออก (แต่ของ OSX นี่บางคนเอาเมาส์ไปชี้ยังไม่รู้เลยครับว่ามันใช้ทำอะไร รู้แค่ปุ่มแดงใช้ปิด)
แต่เรื่องความประทับใจในความสวยงาม ยกให้ OSX ครับ ตรงนี้ทำได้ดีจริงๆ
อ่า ถูกต้องครับ อันนี้เห็นด้วย
คำว่า start นี่เป็นจุดแข็งเลย เพราะว่า user จะรู้ได้โดยปริยายว่าจะเริ่มจากจุดไหนก่อน แต่ในทางกลับกัน มันกลับไปตีกรอบความคิดของ user คนเดิมว่าทุกอย่างมีอยู่แค่ในปุ่ม start ทำให้เวลามีอะไรที่มันไม่ได้อยู่ใน start หรือ desktop เค้าจะหาไม่เจอ หรืออีกในกรณีนึง เค้าคิดว่าทุกสิ่งทุกอย่างตรงนั้นหมายถึงทุกสิ่งทุกอย่างในเครื่อง เวลาลบโปรแกรม ก็ลบ(ชอทคัท)แค่ในเดสก์ท็อปเท่านั้นแหละ - -'
dockยาวๆนี่ไล่หากันคลื่นไส้เลยทีเดียว- -' หลังๆเอาไว้แต่โปรแกรมที่ไอค่อนสวยๆ เท่ๆ นอกนั้นเรียกผ่าน quicksilver ลูกเดียว - -'
ผมแก้ปัญหาเรื่องปุ่ม Start ให้กับตัวเองและผองเพื่อนด้วยการแนะนำให้ใช้ Launchy น่ะ ชีวิตง่ายขึ้นเยอะ alt+space bar
my blog
ผมเข้าใจว่าสำหรับผู้ใช้ทั่วไปยังถือว่าปลอดภัยมากๆอยู่นะครับ เมื่อเทียบกับ Windows ส่วนเทียบกับ Linux แล้วก็ยังถือว่าใช้ง่ายกว่ามากๆ ถ้าเทียบกับ Windows ก็น่าจะแค่ง่ายกว่ามาก(ไม่มีไม้ยมก)
ส่วนไวรัสกับแฮงค์ ผมเห็นล่าสุดเค้าไม่ได้ใช้ว่าไม่มี แต่เหมือนกับใช้คำว่าน้อยกว่ามากจนแทบไม่พบแทน
โอ๊ะ ไม่ได้ใช้แอปเปิล ไม่มีสิทธิพูดถึง ลืมไปเดี๋ยวจะโดนฟ้อง งุบงิบๆ
onedd.net
onedd.net
พูดความจริงแล้วต้องกลัวถูกฟ้องด้วย? (ฮา)
ezybzy.info blog
ads เรื่องแฮงค์ในแคมเปญนี้ก็มีออกมานะครับ
เนื้อหาประมาณว่า พีซีแฮงค์ตายไปเลย แต่แมคแฮงค์แล้วมีบีชบอลหมุนๆขึ้นมา แล้วซักพักก็หาย เท่าที่ใช้มาก็เจอแต่แบบนี้นะ เคยเจอ kernel panic ไปครั้งเดียวตอนเล่นพิเรนกับไดร์เวอร์ของ usb ตอนเจลเบรคไอโฟน
เรื่องอื่นถึงมันอาจจะมีบ้าง แต่เมื่อเทียบกับวินโดวส์แล้ว มันก็ดีกว่าเยอะ (ในระดับผู้ใช้ทั่วไปส่วนใหญ่) ที่ผมชอบที่สุดคือเรื่องจัดสรรหน่วยความจำเนี่ยแหละใช้ทำเลย์เอาท์เป็นร้อยหน้า ทำ pts ไฟล์ขนาด a1 300dpi 50 กว่าเลเยอร์ วันสองวันมันก็ยังไม่มีอาการอืดเหมือนวินโดวส์ที่ต้องคอยรีสตาร์ทบ่อยๆ (ลินุกซ์อาจจะทำได้เหมือนกัน หรือาจจะทำได้ดีกว่า แต่มันไม่มี adobe for linux อ่ะนะ)
เท่าที่ลองใช้มา Linux ยังตาม OSX อยู่ครับ คือที่ใช้มา การใช้งานลีนุกซ์ไม่ลื่นเท่ากับ Windows และ OSX ครับ (ไม่รู้ว่าเป็นที่ส่วนไหนของลีนุกซ์กันแน่)
อีกอย่างผมก็ไม่รู้ว่าทำไม โปรแกรมแต่ละตัวบน Linux มันซดแรมค่อนข้างมาก (เคยเจอ Rhythmbox ซดแรมไป 300 กว่า MB)
+1
คุณรู้ไหมครับ linux เอาเงินทุนจากไหนมาพัฒนา
เค้าเอามาจากผู้ผลิตแรมครับ ผู้ผลิตแรมเตี๊ยมกับลินุกซ์ไว้ว่า
"ไอจะออกเงินค่าพัฒนาosให้ยูนะ แต่ยูต้องออกแบบให้มันซดๆแรมหน่อย คนจะได้มาซื้อแรมของไอมากขึ้น"
ฮ่าๆๆๆ -"-
พระเจ้า !
ฮา
ิเพิ่มจาวาอีกตัว อันนี้ไม่ได้แค่ซดเฉย ๆ เรียกว่ายกซดเลยดีกว่า
อีกตัวก็ Solaris เรียก delete ไปพี่ท่านก็ไม่คืนเมมมาให้ - -'
java + Mac
คู่หูมหันตภัย
Nobody use Java anymore??? :P
ต้องยกเป็นความชอบให้กับ FreeBSD kernel ที่ OSX (Darwin) พอร์ตมาใช้ เพราะมีระบบจัดการ Virtual Memory ที่ดีมาก ๆ และตัวจัดการ thread / Multi-Processor ที่ยอดเยี่ยม คิดว่า Linux kernel ก็ยังสู้ไม่ได้นะ
ส่วน windows ได้ข่าวว่าดีขึ้นใน server 2008 และใน 7
โดนครับ จี้ได้ถูกจุด สู้กันเรื่องประสิทธิภาพ OS ไม่ใช่เอาราคา Hardware ที่ตัวเองไม่ได้ผลิตมาเป็นจุดขาย
ชอบใจโฆษณาอันสุดท้ายครับ
time travel ขำโคตร
ถ้าอยากสู้ คงต้องสู้ด้วย SpinningBeachBallofDead ;)
ยังเหลือไม้ตาย
คอนฟาบ... อุ๊ปส์
มันก็จะเข้าตัวเองด้วยสิครับ Windows Sidebar and Gadget :)
ผมว่าไม่เข้านะ
เพราะปีที่ลอกคอนฟาอุ๊บ... ทางค่ายผลไม้ก็ประกาศว่า "redmon มาลอกฉันสิ" อีกต่อ.... ทำนองเยาะเย้ยว่าอีกฝั่งลอกตัวเองทั้งๆ ทีี่่ตัวเองก็อุ๊บ
ทำไมจะไม่เข้าละครับ ค่ายผลไม้ไปก๊อปเขามา แล้ว ค่ายหน้าต่างเห็นว่าดี เลยก๊อปไปอีกที แล้วถ้าเอามาแขวะค่ายผลไม้ว่าไปก๊อปคนอื่นมา ตัวเองนั่นแหละจะโดนด่า ไม่ได้มองตัวเองเลย
Redmon คืออะไรหว่า ?
Redmon = Redmond ?
ไอ้ Sidebar and Gadget มันเป็นร่างอวตาร Active Desktop ของ Microsoft เขาไม่ใช่เหรอครับ ?
ซึ่งถ้าจำไม่ผิด มีมาตั้งแต่ 95 OSR2?
iPAtS
iPAtS
ส่วนท่าไม้ตาย ถ้าไม่ผิดถือกำเนิดมาเมื่อปี 1999 ?
คอนฟา...อ๊างงง
Redmond, start your copier.
เอาจริงๆแล้ว แมคมีไอ้ widget นี่มาตั้งแต่คลาสสิคแล้วล่ะครับ
http://en.wikipedia.org/wiki/Desk_Accessory
http://en.wikipedia.org/wiki/Dashboard_(software)
สมัยนั้นดูแล้วแยกไม่ออกกับ Application ธรรมดาเลยแฮะ
นึกถึงโปรแกรมใน Accessories ของ Windows เลย
ขนาด Active X คุณยังแก้ต่างให้ Microsoft ว่ามีส่วนเกี่ยวข้องกับ Active Desktop เลย
ขอแขวะมั่งเหอะ ...
ผมเคยพูดเรื่องนี้ด้วยเหรอเนี่ย (เรื่อง ActiveX กับ Active Desktop เนี่ย ผมว่าผมพูดถึง Active Desktop ครั้งแรกนา) ลืมแฮะ
แล้วผมแค่บอกว่าสมัยนั้นไอ้พวกนี้มันดูเหมือนกับ Application ธรรมดา ไม่เหมือน Widget เลย เห็นแล้วนึกถึงโปรแกรมในหมวด Accessories ของ Windows ที่ผมใช้
ร้อนตัวไปใย ?
เค้าคงหมายถึงข้างบนที่คุณพูดถึง Sidebar กลายมาจาก Active Desktop มั๊ง
คือผมจำได้ว่าผมเจอจากใน blognone นี้แหละครับ ที่บอกว่า Gadget นั้นพัฒนาด้วย HTML+JavaScript แบบเดี๋ยวกับ Active Desktop เพียงแต่คราวนี้มันออกมาหน้าตาเหมือนโปรแกรม ไม่ใช่ไปแปะไปเฉยๆแบบ Active Desktop
แต่ผมงงว่าที่ผมพูดนี่มันไปเกี่ยวกกับ ActiveX ยังไงครับ ?
งงว่า Active X กับ Active Desktop มันเกี่ยวกันแบบตรงๆยังไง
onedd.net
onedd.net
แก้คำผิดไม่ทันละครับ
พิมพ์ผิดครับ มันคือ Active Desktop
ไม่ใช่ Active X
ไปกันใหญ่เลย ...
ที่คุณบอกผมก็ยังงงอยู่ดี ขนาด Active Desktop คุณยังแก้ต่างให้ MS ว่ามีส่วนเกี่ยวกับ Active Desktop
คุณจะบอกว่าขนาด Gadget คุณยังแก้ต่างให้ MS ว่ามีส่วนเกี่ยวกับ ActiveDesktop หรือเปล่า ?
อย่างนั้นแหละครับ ...
กลายเป็นผมแก้ต่างไปซะงั้น เหอะๆ ที่ผมจะบอกก็คือว่า Gadgets มันใช้ JS+HTML สร้างได้เหมือนกับคอนเทนท์ที่เอามาแปะใน Active Desktop นี่ครับ
แต่ผมก็จำไม่ค่อยได้ เคยแงะดูแค่สองสามครั้ง ปกติไม่ได้ใช้ Gadgets
สงสัยจะรีบแขวะไปหน่อย ขนาดมาแก้ต่างยังแก้ไม่ครบ - -"
Cupertino, start your copy machine.
onedd.net
onedd.net
เล่นอย่างอื่นบ้างสิครับ เบื่อแล้ว เล่นกันอยู่อันเดียวเนี่ยแหละ เบื่อและ ;p
ท่าไม้ตาย มีเยอะไม่ดีครับ
อันอื่นก็จะมี Fast User Switching อย่างนึงล่ะ อันนี้เป็น best practice ลอก Microsoft กลับ :P
แน่ใจเหรอครับว่าอยากรู้ รู้แล้วเดี๋ยวรับไม่ได้เอานะ
onedd.net
onedd.net
ครับ พูดมาเถอะครับ อยากรู้ ขอrefด้วยละกันครับ
http://www.osnews.com/story/15421/Redmond-Start-Your-Photocopiers/
อ่านเองแล้วกัน
onedd.net
onedd.net
อ่าครับ ขอบคุณครับ ^^
ได้ยินมาเยอะมาก
สงสัยอ่ะครับว่า คอนฟาบ คืออะไร? (ไม่รู้จริงๆ)
Konfabulater ของ Yahoo ครับ
เค้าบอกว่าแอปเปิ้ลไปลอกมาเป็น Widget (แล้ววินโดวส์ก็...Gadget)
แต่จริงๆแล้วก็ตามลิงค์ข้างบน apple มีแนวคิดนี้มาตั้งแต่ os7 เรียกมันว่า Desk Accessories ครับ
งั้นคงต้องบอกมั้ยว่า Apple ก็ลอก GUI มาจาก Xerox parc อีกที
onedd.net
onedd.net
Apple ไม่ได้ลอกมาครับ แค่ Xerox เค้าไม่ทำต่อ ป๋าแกเลยฮุบซะั
แบบ IXI อุ๊ปส์!
Windows เห็นว่าดี เลยไปลอกมาอีกที อุ๊ปส์!
คนที่คิดว่า ทำไม Microsoft ไปโฆษณาให้ HP ให้ Sony
เออ..อธิบายให้เข้าใจคงลำบาก ยกตัวอย่างให้ดูละกัน
มีบริษัทผลิตบรรจุภัณฑ์ใส่น้ำแบบกระดาษ(กล่องนม น้ำผลไม้ etc...) อยากออกโฆษณาเพิ่มยอดขาย
รู้มั้ย เค้าทำยังไง
เค้าออกแคมเปญว่า ให้คนหันมาดื่นนม ยิ่ง spot TV ออกมาเกี่ยวกับนมล้วนๆ ตอนจบมีแต่ logo บริษัทตัวเล้กๆ
ต้องยอมรับว่าการตลาดดีครับ
แต่มันเหมือน Microsoft ไม่อยากจะชนกันจังๆในแง่ OS
สมัย Tetrapack ผมว่าชัดนะ คือบอกว่าดื่ม xxx จริง แต่ก็ไม่ได้เห็นยี่ห้อของชาวบ้านเท่าไร เน้นตัวกล่องเป็นพิเศษ
ezybzy.info blog
อืมม พอเข้าใจประเด็นละ เหมือนอยากให้คนใช้ MS เยอะๆ ก็ต้องโฆษณา PC เยอะๆ (เพราะยังไงส่วนใหญ่คงจะลง OEM ไว้ให้แล้ว)
(สมมติ)ไปๆมาๆ เหล่า user ลง Linux แทนกันหมด MS จะทำยังไง(ฮา อิอิ)
เห็นบ้านเรามีแต่ OEM Linux แล้วก็ลงวินเถื่อน ต่างประเทศก็ไม่ค่อยต่างกัน แต่ไม่รู้ว่าลงแท้หรือเถื่อน
MS ได้เงินแล้วนี่หน่า ใครจะสนว่าซื้อแล้วจะลงอะไร จะเอาไปทุบทิ้งหรือไรก็ช่าง แต่คุณจ่ายค่า OEM ไปแล้ว
7blogger.com
true cost to own pc
http://plus.cnbc.com/rssvideosearch/action/player/id/1096873496/code/cnbcplayershare
ไปเจอมาเลยเอามาฝากครับ
บางอันก็ดูแปลกๆ เช่นเรื่อง photoshop
อืมมม แปลกพิลึกเหมือนกันแฮะเรื่อง Photoshop เนี่ย - -?
แล้ว Photoshop $140 นี่มันซื้อได้แค่รุ่น Element เอง และแมคก็ไม่ได้แถมให้ด้วย
หรือเดี๋ยวนี้เขาใช้คำว่า Photoshop เป็นคำสามัญสำหรับโปรแกรมแต่งรูปกันหว่า -*-
หรือว่าเค้าเทียบกับ iPhoto หว่า -"-
ไม่เคยใช้ PTS Element ด้วย ไม่รู้เป็นไง ถ้าใช่ มันก็น่าเกลียดเกินไปนะ ที่จะเอามาเทียบกัน
ดูเอาขำขำครับ แต่ข้อมูลอีกเรื่อง มันก็ไม่ได้ถูกทั้งหมดหรอก เพราะของที่เขาหยิบมาเอา true cost บางอย่างมันก็ไม่จำเป็น (เช่น Games)
ezybzy.info blog
แอบสังเกต
กระทู้เกี่ยวกับ Apple มักจะเกินร้อย
และจะเห็นคุณ MrWhisper ขยันเม้นท์เป็นพิเศษ อิอิ
เหย - -"
มันก็ปกติแหละ แต่บังเอิญว่าพอเป้นข่าวแอปเปิล คอมเมนต์ของผมชอบไปสะดุดให้คนมาคอมเมนต์ต่อ มันเลยได้คอมเมนต์บ่อยกว่าข่าวค่ายอื่นน่ะ - -
สังเกตได้ว่าหน่วยทะลวงฟันที่ไม่เคยเก็บข้อมูลว่าตัวเองเอาข้อมูลมาจากไหนแบบผมเลิกแกว่งคอมเมนต์หาสาวก เพราะขี้เกียจคุ้ยหาข้อมูลมาเถียงกลับ
ก็จริงนะ ผมเองก็ไม่เคยเก็บแหล่งยืนยัน เพราะคิดว่าคงไม่ต้องเถียงกับสาวกตลอดเวลา มันเลยทำให้ข้อมูลที่เคยจำได้มันเพี้ยน
แต่หลักๆผมคุยเล่นมากกว่า แต่คุยเล่นมันก็มีเรื่องได้ - -
ปล.สาวกคงเหม็นหน้าผมสุดๆแล้วแหละ
แหล่งข้อมูลของคุณก็คือตัวคุณเองไม่ใช่เหรอ
ล่าสุดยังไม่ตอบผมเลย
เออช่างมันเถอะ
อ้าว ผมโดนคุณ montimedia ด้วยเหรอครับ ;p นึกว่าโดนแต่คุณ coloragent เล่นซะอีก แหล่งข้อมูลของผมคือหนังสือครับ (แน่นอนว่าบางเล่ม ไม่สิ ทุกเล่มไม่ได้เขียนโดยสตีฟ และไม่มีปุ่ม ctrl+f ให้ผมกดหาคำตอบมาเป็นแหล่งยืนยัน)
อ่อ นึกว่ามาจากประสบการณ์ที่ได้เครื่องเพื่อนมาใช้แป๊บๆแล้วมาด่าปาวๆซะอีกแน่ะ
ผมอาจจะบ่น อาจจะต่อว่าผิดๆบ้าง เสียหายบ้าง แต่ไม่เคย "ด่า" นะครับ
บางที การต่อว่าหรือการพูดถึงผลิตภัณฑ์แอปเปิลแบบผิดๆ อาจจะหมายถึงการด่าก็ได้ครับ
เราเอาแน่เอานอนกับผู้ใช้ตัวพ่อไม่ได้หรอก
ต้อง Command + f สิ :P
หรือไม่ก็ Command + Space เรียก Spotlight ไปเล๊ย เอิ้กๆ :P
เออช่างมันเถอะ แรกๆมันก็หงุดหงิดไปงั้นล่ะ
แต่ผ่านไปนานๆก็คิดว่าเรื่องแค่นี้เองจะคิดมากไปทำไม
เอาเวลาไปพักผ่นดีกว่า
ใช่ไม่ใช่ พี่น้องงงงง
เถียงกันไป เถียงกันมา...
Let the marketing judge it...
จบ