หากใครที่เล่นคอมพิวเตอร์มานานพอ คงยังจำโลกที่ไมโครซอฟท์ไม่ได้ครอบครองทุกสิ่งได้ ราวๆ ปี 1991-1992 ถ้าถามว่า โปรแกรมประมวลคำที่ฮิตที่สุดคืออะไร คำตอบคือ Word Perfect โปรแกรมตารางคำนวนที่ดังสุดคือ Lotus 1-2-3 ฐานข้อมูลล่ะ ต้อง Dbase กับ Foxbase ครับ เบราว์เซอร์ยังไม่เกิดเลย ตอนนั้น DOS ยังครองโลกที่ยังเป็น text และ command line อยู่ เราลองมาดูว่าโลกที่ไมโครซอฟท์ออฟฟิศครองโลกนี้เกิดมาได้อย่างไร
แรกสุด โลตัสเป็นคนเสนอแนวคิดเรื่องซอฟต์แวร์รวม (Integrated Software) โดยทำตารางคำนวณที่พิมพ์งานได้หน่อยๆ เป็นฐานข้อมูลได้นิดๆ มาให้ใช้ ก็ดังมากๆ แต่ซอฟต์แวร์ทุกตัวยังทำงานแยกกัน ต้องซื้อซอฟต์แวร์ ประมวลคำ ตารางคำนวณและฐานข้อมูลแยกกันหมด สงสัยไหมครับว่าไมโครซอฟท์ทำอะไรอยู่ คำตอบคือขายระบบปฏิบัติการไงครับ แต่ตอนนั้นเริ่มมี Word, Excel รุ่นแรกๆ แล้ว แต่ไม่ค่อยมีคนใช้เพราะช้าเนื่องจากทำงานในโหมดกราฟิก อ้อเครื่องตอนนั้นก็ราวๆ 33 MHz 486DX น่ะครับ
อ้าว แล้วศึกนี้ทำไมไมโครซอฟท์รบชนะมาได้ละครับ ก่อนจะอธิบายเรื่องนี้ขอตัดไปว่าเรื่องสามก๊กบ้างครับ
ในศึกสามก๊กก่อนศึกผาแดงที่โจโฉแตกทัพเรือ เป็นจุดน่าสนใจในประวัติศาสตร์ครับ อันที่จริงถ้าดูแผนที่แล้วจะดูเหมือนก๊กโจโฉก็ไม่ได้ใหญ่โตอะไร แต่ในความเป็นจริงทางเหนือของจีนเจริญและมีประชากรมากกว่าเขตอื่น ส่วนเขตกังตั๋งของซุนกวนนั้น เป็นที่ลุ่มหนองคลองบึงมากพอควร เสฉวนที่เล่าปี่ยึดในภายหลังก็ไม่ได้ใหญ่โตมากนัก
ที่จริงแล้วคนที่มีกำลังรบมากสุดก่อนนั้น คือ อ้วนเสี้ยว แต่โจโฉอาศัยความชำนาญศึก ใช้คนน้อยกว่ารบชนะมาได้โดยเฉพาะศึกกัวต๋อที่สร้างชื่อให้โจโฉในประวัติศาสตร์ ตอนที่เดินทัพมาทางใต้ โจโฉมีกำลังทหารและขุนศึกที่พร้อมที่สุด เล่าปี่นั้นยังหนีหัวซุกหัวซุนอยู่เลย ส่วนซุนกวนก็ไม่ได้มีกำลังมากมายนัก
โจโฉน่าจะชนะมากกว่าใครๆ นะครับ โจโฉเป็นคนฉลาดและมีลูกน้องที่ดี อาจจะดีกว่าฝ่ายซุนกวนและเล่าปี่ด้วยซ้ำไป
เอาว่าโจโฉเป็นเสมือนบริษัทซอฟแวร์ต่างๆ ที่ครองตลาดอยู่นะครับ ส่วนซุนกวนคือไมโครซอฟท์
จุดเปลี่ยนของศึกผาแดงมีสองสามจุด
ดังนั้น ทางฝ่ายซุนกวนอาศัยคนน้อยที่คล่องตัว ความชำนาญพื้นที่ และจุดเปลี่ยนในสภาพแวดล้อมทำให้กุมชัยชนะครั้งใหญ่ที่สุดในประวัติศาสตร์มา
สำหรับสงครามออฟฟิศ จุดเปลี่ยนที่มาถึง (เหมือนลมเปลี่ยนทิศ) คือการแพร่กระจายของ ไมโครซอฟท์วินโดวส์ 3.1 ครับ ตอนนั้นสภาพแวดล้อมของผู้ใช้มาเป็นกราฟิกโดยทางไมโครซอฟท์เป็นเจ้าถิ่น ดังนั้นทุกผลิตภัณฑ์ต้องมารบกันบนวินโดวส์ครับ วินโดวส์คือผาแดง เป็นถิ่นที่ไมโครซอฟท์เลือกได้และชำนาญกว่าใคร
สิ่งที่เป็นไฟเผาเรือคือการที่ไมโครซอฟท์ออกเทคโนโลยีให้โปรแกรมประยุกต์ คุยกันได้ผ่านโปรโตคอลบนวินโดวส์เพื่อแลกเปลี่ยนข้อมูล
เมื่อก่อนเราทำเอกสารมีตารางกับกราฟ ต้องมาทำเป็นไฟล์รูปใส่เอกสารหรือพิมพ์แยก แต่ไมโครซอฟท์ทำให้โปรแกรม Excel, Word และ Access กับ PowerPoint แลกข้อมูลกันได้ ทำให้คล่องตัวมาก และการทำงานแบบนี้ทำงานได้ดีเพราะซอฟต์แวร์ทุกตัวเป็นของไมโครซอฟท์หมด สุดท้ายจับมารวมกันเป็นตัวเดียวคือ ไมโครซอฟท์ออฟฟิศ ด้านราคาก็ตั้งให้ถูกกว่าซื้อซอฟต์แวร์แยกกัน
ผ่านไปสองสามปี ซอฟต์แวร์อื่นๆ ตายหมด ไม่รอดเลย ไมโครซอฟท์ก็ครองแผ่นดินไป
เรื่องนี้บอกว่าการทำธุรกิจนั้น เราต้องมีสายตาแห่งอนาคต เมื่อกระแสลมแห่งความเปลี่ยนแปลงพัดมาต้องปรับตัวให้ทัน ใครเกาะกุมจุดเปลี่ยนได้ก่อนและใช้โอกาสนั้นเป็นก็จะพุ่งออกไป
ที่ดีกว่านั้นคือการเป็นคนกำหนดจุดเปลี่ยนและสภาพแวดล้อมได้เอง สิ่งเหล่านี้ทำให้ทำไมไมโครซอฟท์ต้องยึดระบบวินโดวส์ไว้อย่างหนาแน่น และกูเกิลต้องสร้าง Google App API หรือแอปเปิลสร้างระบบนิเวศน์ iPod/iPhone/iTunes/App Store ขึ้นมาแบบเดียวกัน
หากสามารถบีบให้คู่แข่งมารบกับเราที่ผาแดงได้ย่อมมีโอกาสเผาเรือฝ่ายตรงข้ามได้ง่ายครับ
ใครอย่างรู้เรื่องสามก๊กมากกว่านี้แนะนำให้อ่านหนังสือ อ่านสามก๊กถกบริหาร ของ ท่านก่อศักดิ์ ไชยรัศมีศักดิ์ ครับ
อ่านได้สาระและบันเทิงจริงๆ ครับ
แถมท้าย: ในภาคหนังชุดนั้น ฉากหนึ่งที่ผมชอบ คือ หลังจากโจโฉแตกทัพหนีมาได้กับผู้ติดตามไม่กี่คน โจโฉหันไปเห็นทุกคนทำหน้าเศร้า โจโฉก็หัวเราะขึ้นมาและปลอบลูกน้องว่า บอกแตกทัพแค่นี้เองไม่เห็นเป็นไร ไว้กลับไปพักสักหน่อยก็เกณฑ์คนเท่านี้มาได้อีก เดี๋ยวมาปราบมันกันใหม่ ในชีวิตเราจะรู้สึกเหมือนแตกทัพเรือบางครั้ง คนเรานั้นพลาดกันได้ คนจริงคือคนที่มีมานะคิดสร้างตัวกลับมาใหม่ได้ครับ
Comments
+1 บทความดีๆ ครับ สนับสนุน
บทความน่าสนใจดีครับ
ฝากนิดหนึ่ง ตาม http://lib.blognone.com/Glossary
Microsoft - ไมโครซอฟท์ (ท การันต์ ตามชื่อเป็นทางการ)
Office - ออฟฟิศ
Windows - วินโดวส์
เดี๋ยวแก้ให้ครับ ปกติทีม editor เขาช่วยแก้ให้บ้างเลยเคยตัว อะครับ
โจโฉโลกไอทีจะมีกี่คนละเนี่ย - -"
พวกที่แพ้สงครามออฟฟิศไปนี่ ไม่เห็นกลับมายิ่งใหญ่ได้สักรายเลยวุ้ย
+1
+1
เห้นจะเหลือแต่ Microsoft Office , OpenOffice.org และ Apple iWork เท่านั้นที่เหลือรอด ซึ่งต่างก็ครองตลาดอยู่เฉพาะแค่คนละแพลตฟอร์ม ซึ่งคงไม่ีต้องบอกว่าอันไหนครองตลาดมากที่สุด
iWork ยังคงอยู่ได้ด้วยสองกรณีคือ
1.Keynote
2.MS Office for Mac มันห่วย
ได้ยินว่า OO.o for Mac มันห่วยกว่า MSO for Mac อีกแน่ะ :P
คงเป็นเพราะ Java แหละครับ
Java บนแมคเป็นอะไรที่....
ขนาดบน Windows ผมยังไม่ค่อยอยากใช้เลยครับ แหะๆ
หลักๆ เป็นเพราะ OOo มันใช้ toolkit ของมันเอง ซึ่งแต่ดั้งแต่เดิมไม่มีบนแมค และซันเองก็ไม่ใช่บริษัทที่สนใจเรื่องแมคเสียเท่าไร ทำให้ OOo ไม่ได้ใช้ฟีเจอร์หลายๆ อย่างของ OS แต่ว่าใช้วิธีสร้างขึ้นมาเอง (ซึ่งก็ไม่ค่อยดีเท่าไรนักเมื่อเทียบกับฟีเจอร์ของ OS)
แต่ผมมองว่า OO.o น่าจะได้เปรียบที่สามารถทำงานบน platform ไหนๆ ก็ได้ อีกหน่อยถ้าหาก บ. ทั้งหลายต้องการประหยัดงบประมาณในเรื่อง software ให้ได้มากที่สุด MS Office น่าจะเป็นหนึ่งในตัวเลือกที่ถูกตัดออกไป เพราะมันสามารถใช้ OO.o แทนได้เกือบ 100%
แต่ความคิดนี้คงใช้ไม่ได้กับหน่วยงานราชการไทย
CMDEVHUB
เขียนเอามันส์ ลองเข้าไปดูความมันส์ได้ครับ
ขอยกเว้นเรื่อง Presentation ได้มั๊ยครับ Impress มันห่วยจริงๆ...
ปล.ฟอร์แมตมันไม่น่าห่วย คงเป็นที่ตัวโปรแกรมมากว่า เพราะเอา odp ไปเปิดใน MSO2007SP2 มันก็สวยดูดีกว่าเปิดใน Impress
หลังจากผมใช้ OOo มาทั้งบน Windows และ Ubuntu ทำให้ผมรู้ว่า
"ผมจะไม่พยายามใช้ OOo เปิดไฟล์เดียวกันข้าม Platform" ครับ :)
My FingerSports Site
Jusci - Google Plus - Twitter
ผมไม่เจอปัญหานะ (odt,ods)
หรือเพราะผมไม่ได้ใช้อะไรพิศดาร ?
ทำเสร็จแล้ว export เป็น PDF โลด
เคยสะอึกตอนเครื่องที่เอาไปเปิดไม่มี Adobe Acrobat Reader ต้องนั่ง Export เป็นรูปทีละหน้าๆ
onedd.net
onedd.net
ผมอาจจะปรับแต่งไม่ถูกต้องหรือยังไงก็ได้นะครับ
รูปแบบตัวอักษรเปลี่ยนไป ทั้ง ๆ ที่ลงฟอนท์เดียวกัน (ก๊อปปี้ฟอนท์ทั้งหมดใน Windows มาใส่ Ubuntu ด้วย) มันแปลง TH Sarabun PSK เป็น Cordia New เฉยเลย
ผมใส่สูตรคำนวณในตัวบน Windows แต่พออยู่บน Ubuntu มันคำนวณแล้วหายไป 130 (อันนี้อาจจะเพราะผมทำอะไรพลาดก็ได้ แต่ว่า ใน Windows มันออกเหมือนกันตลอดแม้จะเปลี่ยนจาก XP > 7 ก็ตาม และ Ubuntu 8.04 > 9.04 ก็ผิดเหมือนกัน)
และสุดท้าย ทั้ง ๆ ที่เป็นไฟล์เดียวกัน ฟอนท์เดียวกัน แต่ดูมัน Ubuntu มันตัวใหญ่กว่า ทำให้การจัดหน้าเพี้ยน (ขี้เกียจ SS ละ)
ปล. จะว่าผมเกลียดตัวกินไข่ก็ได้ เพราะยังไงผมก็ใช้มันอยู่ดี (MS Office มันไม่มีบน Ubuntu ก็ไม่ต่างกัน)
My FingerSports Site
Jusci - Google Plus - Twitter
Mono จะทำให้ Office รุ่นต่อๆไป ใช้งานบนแพลตฟอร์มไหนๆก็ได้ เหมือนกัน นะครับ
ในโลกไอทีไม่มีใครหายจริงๆ หรอกครับ พอรบแพ้เขาก็แยกไปทำกองทัพอื่นแล้วทำศึกอื่นๆ ต่อครับ
นับหนุนบทความแบบนี้คราบบ +๑
ผมอ่าน "อ่านสามก๊กถกบริหาร" ไปได้หน่อยนึงก็ประทับใจเช่นกันครับ มีการวิเคราะห์ที่น่าสนใจอย่างการเพิ่มมิติตัวละครด้วยพิจารณาจากอายุจริงในขณะนั้นว่าสภาพชีวิตเป็นอย่างไรจึงตัดสินใจอย่างที่เราอ่าน ซึ่งไม่ค่อยเคยเห็นในหนังสือเล่มไหน
แล้ว openoffice เปรียบเทียบได้กับอะไรครับ
คนอ่าน ?
เปรียบกับสุมาอี้ได้ป่าวหว่า แต่ก็ไม่ค่อยใกล้เคียงเท่าไรมั้ง
คงคล้ายในแง่มาทีหลัง แต่ความสำเร็จยังห่างไกลกันนัก
ถ้าในประวัติศาสตร์จีน แล้ว Open Office เป็นเหมือนกบฏชาวนาครับ บางครั้งก็ชนะ เช่น
จูหยวนจางที่สถาปนาราชวงศ์หมิง บางครั้งก็แพ้ เช่น กบฏไท้ผิงสมัยซูสีไทเฮา แต่ไม่ว่าแพ้หรือชนะ
กบฏชาวนาก็มทักนำมาซึ่งความเปลี่ยนแปลง
อันที่จริงแล้ว กระแส Open Source นี่จัดเป็นกิจกรรมของ Prosumer หรือการผลิตบริโภค
ขอให้ไปอ่าน ส่วนที่ 6 ในหนังสือ ความมั่งคั่งปฏิวัติ ซึ่ง คุณ สฤณี อาชวานันทกุล
แปลมาจาก Revolutionary Wealth ของ Alvin and Heidi Toffler
ได้สรุปแนวโน้มการเกิดประชาคมคนที่ใช้เทคโนโลยีสร้างสรรค์ผลิตภัณ์กันเอง และัแจกจ่ายแบ่งปัน
ทำให้เกิดผลทางเศรษฐกิจแฝงเร้นที่กระทบกับระบบอย่างแรงครับ
วิเคราะห์ได้ดีมาก แต่ในสายตาผมยังขาดรายละเอียดทางฝั่งเราพอควร
+10
ออฟฟิศ ไม่ได้สะกดแบบนี้เหรอครับ??? (เริ่มสับสน จำไม่ค่อยได้)
แม้จะรู้เรื่องสามก๊กไม่มากนัก
แต่บทความยอดเยี่ยมครับ
Oakyman.com
+10000 เลยครับ สำหรับ node นี้
ว่าจะไม่อ่านละ มันยาว อ่านไปอ่านมา อาวจบซะละ
สนุกดีมีความรู้ และแนวคิด
อ่านชื่อเรื่อง ผมก็ทราบทันทีว่าเป็นบทความของอาจารย์ครับ เป็นบทความดีจริงๆครับ
My Blog / hi5 / Facebook / Follow me
My Blog
พยายามเขียนแบบบันเทิงบนสาระบ้าง อ่านเล่นก็ได้จริงก็ได้ครับ ขอบคุณครับ ว่าแต่สบายดีนะครับ
ขอบคุณครับอาจารย์ ผมสบายดีครับอาจารย์ ตอนนี้ผมอยู่เซี่ยงไฮ้ที่งาน ccgrid ครับ คิดถึงอาจารย์และสมาชิกทุกท่านนะครับ
My Blog / hi5 / Facebook / Follow me
My Blog
ไหนๆก็สองเรืองแล้วขอเป็น ไตรภาคเลยนะครับ
+100 ความจริงอ่านจบตั้งแต่ชาวมืดแล้ว
เพิ่งมาอ่านล่ะเอียดตอนนี้สนุกปนสาระดี่ครับ
<mOkin>
ตรู่ว่าแล้วในโลกนี้มีปัญหา เขาไม่ด่า ก็ชื่นชม หรือเฉยๆ
สามประเภทที่ว่านี้มิเปลี่ยนเลย จงวางเฉยใครถือสาเป็นบ้าตาย<mOkin/>
ขอไตรภาคด้วยคนครับ แหมขอบอกว่าชอบมากๆเลย
บทความให้แง่คิดจริงๆ เลย สรุปได้ใจความสำคัญๆที่ชอบคือการมองการไกลนี่แหละครับ
สามก๊กมักถูกเอาไปเปรียบเทียบกับหลายวงการ ดีครับน่าสนใจดี :)
แต่อ่านแล้วติดจริงๆ นะสามก๊กเนี่ย
---
Khajochi Blog : It's not a Bug ... It's a Feature
แฟนพันธุ์แท้สตีฟจ็อบส์ | MacThai.com
อยากจะบอกว่า ไม่ได้อ่าน 3 ก๊ก ........ งงมากมาย 555+
อันนี้มาเขียนเกี่ยวกับสามก๊กอย่างเดียว ไม่เกี่ยวกับเทคโนโลยีครับ
ด้วยว่าได้อ่านมาแทบทุกฉบับที่วางขาย และ ฉบับภาษาอังกฤษ และ ฉบับญี่ปุ่นแปลอังกฤษ
*ผมกลับมองว่า ซุนกวน เป็นเจ้าบ้าน จิวยี่อยู่กังตั๋งมาตั้งแต่เกิด ทำไม่ต้องให้ ขงเบ้ง ที่เก็บตัวอยู่แค่บนเขามาตลอดชีวิตวัยรุ่น
มาอ่านทิศทางลมให้ครับ
คนในท้องถิ่นย่อมต้องรู้เรื่องนี้ดีครับ
อ่านฉบับงิ้วไปมากๆ ระวังจะเป็นแบบชาติจีนที่ล่มสลายเพราะคนติดงิ้วสามก๊กนะครับ ถ้าเอาขำๆก็พอว่า
แต่เล่นยกย่องคนที่หน้าไหว้หลังหลอกทำตัวเป็นปรสิตมาตลอด แต่กลับได้ครองจิตใจผู้คนเพราะเพียงแค่มีเชื้อเจ้า
และยังได้มีโอกาสเป็นใหญ่ในภายหลัง จากการทรยศหักหลังผู้มีพระคุณแบบเล่าปี่ ว่าเป็นคนมีคุณธรรม อันนี้มันก็น่าคิดนะครับ
ขงเบ้งยกตนว่าเก่าระดับเทพพระเจ้า แต่พอคุมทัพรบเองจริงๆ ก็แพ้ศึกทั้ง 7 ครั้งรวด พาคนไปตายหลายแสน ถึงเวลาจะตายยังมีทำพิธีต่ออายุ อันนี้มันงิ้วครับ
ซุนกวนทรยศพันธ์มิตรหลายครั้ง กลับกรอก ซ่อนท่าทีที่แท้จริง *ในตำนานซุนง่อ กล่าวว่า ซุนกวนเป็นผู้ตักหัวกวนอูด้วยตนเอง หลังจากที่ถูกทหารร่างยักษ์ของฝั่งง่อพลีชีพหยุดยั้งใว้
โจโฉ วีรบุรุษคนโฉด ที่ยอมทำให้คนทั้งประเทศเกลียด เพื่อบรรลุเป้าหมายในการรวบรวมจีนให้กลับเป็นปึกแผ่น *ในช่วงชุลมุนที่สุด เมื่อลิโป้สังหารตั๋งโต๊ะแล้ว กลับไม่มีใครมีใจจงรักภักดิ์ดีพอที่จะเ อื้อมมือข้าช่วยฮ่องเต้เด็กที่ถูกชันทีโฉดลิฉุย กุยกี กดขี่ที่เมืองฉางอาน ในที่สุดแล้วโจโฉจะช่วยฮ่องเต้ด้วยผลประโยชน์ใดๆก็ตาม มันสรุปได้ว่า
ตัวละครทุกตัวเป็นมนุษย์จริง ที่อยู่ในยุคที่ป่าเถื่อนและ กฎหมายไม่อาจใช้การได้ ถ้ามองในมุมนี้แล้ว ถ้าคุณได้เป็นผู้นำของคนกลุ่มนึงในยุคที่ คนกินคนเพื่อให้อยู่รอด คุณจะรู้สึกอย่างไร แล้วลองเข้าไปค้นในความคิดของตัวละครเหล่านั้นดูว่าแต่ละเหตุการณ์ที่เรียงร้อยก่อให้เกิดเหตุผลแห่งการกระทำมากมาย แล้วจะเห็นภาพแห่งประวัติศาสตร์ได้ชัดเจนยิ่งขึ้น
ถ้าอ่านขำขัน ก็คิดซะว่ามันเป็นนิยาย ถ้าอ่านวิเคราะห์ ก็กรองความจริงออกมาจากแก่นของเรื่องด้วยครับ แล้วจะพบอรรถรสของการศึกษาประวัติศาสตร์ ในมุมที่นำมาเปรียบเทียบกับเหตุการณ์ปัจจุบันได้อย่างถึงกึ๋น
เรื่องนี้เป็นอะไรที่อ้างเอาเองว่ามีเชื้อเจ้ามากกว่ามั้งครับ
หึๆ โจโฉ เป็นคนที่ผมนับถือที่สุดนะ
+1
ป.ล. เหมือนข่าวเช็คอายุกลายๆ - -"
ผ่านมาหมดแล้วทั้งนั้น Word Perfect, Lotus, dBase ทั้ง Dos ทั้ง Windows .......
อ่า ผมใช้ CU Word อ่ะคับ
ตอนนั้นใช้ CUword เหมือนกันครับ
+1 อ่านแล้วอยากไปดู DVD สามก๊กเลยแหะ
Pawoot.com
Pawoot.com
จ๊ากกกกกกก
ผมไม่เคยอ่านสามก๊กหรือดูหนังสามก๊กเลยครับ
แต่อ่านบทความนี้แล้วเห็นภาพดีมาก
ขอบคุณที่เสียเวลามาแบ่งปันความรู้ครับ
แล้ว Google ล่ะ? ม้ามืดที่ถูกมอกข้าม ตอนนี้ฉุดไม่อยู่ แถมยังดึงตลาดจากไมโครซอฟท์ไปทีละนิด ถึงจะไม่ได้ทำ OS แข่ง แต่ผลิตภัณฑ์อื่นๆ แย่งตลาดจากไมโครซอฟท์ไปได้ไม่น้อยเลย ไหนจะมี Chrome ไหนจะมี Androi แล้วยัง Office แบบ Online อีก แล้วถ้าถึงยุค Clound Computing จริงๆ เมื่อไหร่ ผมว่า Google ก็พร้อมพอสมควรเลยล่ะ แบบนี้จะเทียบ Google เป็นใครดีหนอ?
เทคโนโลยีไม่ผิด คนใช้มันในทางที่ผิดนั่นแหละที่ผิด!?!
เทคโนโลยีไม่ผิด คนใช้มันในทางที่ผิดนั่นแหละที่ผิด!?!
ผมว่าไม่มืดหรอกครับอาศัยเกาะ windows ของ ms กินไปเรื่อยๆน่าจะ work กว่า chrome ก็งั้นๆ เปิดตัวซะดังโครมแล้วก็เงียบ.... androi ดูดีขึ้นมาหน่อยพอจะมีอนาคตบ้างส่วน office แบบ online นะถามจริงๆเคยเห็นใครใช้บ้าง
ใช่ครับ Office แบบ Online ไม่เป็นที่นิยม อันนี้ไม่เถียง แต่ผมมองว่ามันเหมือนเป็นสิ่งการันตีได้ส่วนหนึ่งว่ามันพร้อมจะ Cloud Computing แล้วนะ ในระดับหนึ่ง ในขณะที่คนอื่นเขายังไม่มีให้เห็นเป็นรูปเป็นร่างชัดเจน
และอีกอย่างที่ผมว่า Google ก็น่ากลัว เพราะ Google พยายามทำให้ผลิตภัณฑ์ของตัวเองเกือบทุกอย่างเกี่ยวข้องกันไม่ทางใดก็ทางหนึ่ง แถมทุกอย่างยังเกี่ยวกับ Online ทั้งนั้น เพราะงั้นถ้าเปลี่ยนยุคปุ๊บ Google ก็มีสิทธิ์กินเค้กชิ้นใหญ่ได้ทันทีเลยเชียว
ป.ล. ว่าแต่ Cloud Computing มันจะเกิดรึเปล่าเนี่ยสิ = =
เทคโนโลยีไม่ผิด คนใช้มันในทางที่ผิดนั่นแหละที่ผิด!?!
เทคโนโลยีไม่ผิด คนใช้มันในทางที่ผิดนั่นแหละที่ผิด!?!
อือม คนชอบเข้าใจผิดเรื่องขนาดบริษัท พอดีบริษัท ไอทีดัง ติด Fortune 500 ปี 2009 หมด
ขอเอามาให้ดู
http://money.cnn.com/magazines/fortune/fortune500/2009/full_list/101_200.html
Rank, Company, Revenue, Profit
9 Hewlett-Packard 118,364.0 8,329.0
14 IBM 103,630.0 12,334.0
==============
33 Dell 61,101.0 2,478.0
35 Microsoft 60,420.0 17,681.0
==============
57 Cisco Systems 39,540.0 8,052.0
61 Intel 37,586.0 5,292.0
71 Apple 32,479.0 4,834.0
===============
113 Oracle 22,430.0 5,521.0
117 Google 21,795.6 4,226.9
IBM กับ HP ใหญ่สุด ขนาดใกล้กัน
Microsoft และ Dell ขนาดครึ่งหนึ่งของสองบริษัทแรก
กูเกิลและออราเคิลขนาดแค่ หนึ่งในสามของไมโครซอฟต์ และขนาดแค่ หนึ่งในหกของ IBM ครับ
การแข่งขันใดๆ ต้องดูทรัพยากรด้วยครับ เพราะหักโค่นกันหลายปี
ขอบคุณสำหรับข้อมูลครับ เพิ่งจะรู้ขนาดบริษัทต่างๆ วันนี้เองครับ :D
ว่าแต่กำลังจะบอกว่าขนาดของ Google มันแค่ 1 ใน 3 ของไมโครซอฟท์ จึงดูไม่น่ากลัวหรือเปล่า?
เทคโนโลยีไม่ผิด คนใช้มันในทางที่ผิดนั่นแหละที่ผิด!?!
เทคโนโลยีไม่ผิด คนใช้มันในทางที่ผิดนั่นแหละที่ผิด!?!
กูเกิลน่ากลัวตรงที่เป็นนักประดิษฐ์คิดค้นดีครับ
ไมโครซอฟต์น่ากลัวตรงมีโครงสร้างอยู่ตัว ทรัพยากรด้านคนและเงินมากกว่า สายผลิตภัณฑ์มากกว่าทำให้ทนการคุกคามได้มากถึงจะแพ้บางในบางเรื่องก็จะทำได้นานเพราะเอาส่วนอื่นๆ มาทุ่ม
แต่บางทีขนาดก็เป็นโทษ ไอบีเอ็มเกือบตายมาแล้วตอนยุค 1990 ก็เพราะขนาดทำให้ปรับตัวกับ Change ได้ยากกว่า