บริษัท Canonical ประกาศจับมือกับ SanDisk เพื่อพัฒนาให้ Ubuntu ทำงานบนเน็ตบุ๊กที่ใช้ SSD ได้ดียิ่งขึ้น เป้าหมายคือยืดอายุการใช้งานแบตเตอรี่, ลดความร้อน, และให้ระบบตอบสนองได้รวดเร็วขึ้น
SanDisk ยังจะส่งวิศวกรเข้าร่วมงาน Ubuntu Developer Summit ซึ่งเป็นงานที่ชุมชน Ubuntu ใช้วางแผนสำหรับ Ubuntu รุ่นหน้า
ความร่วมมือครั้งนี้ถ้าสำเร็จก็เป็นประโยชน์กับทั้ง Ubuntu และ SanDisk นั่นคือ ผู้ผลิตฮาร์ดแวร์สั่งซื้อ SSD จาก SanDisk มากขึ้นและเลือกลง Ubuntu มากขึ้นนั่นเอง
ที่มา - Canonical
Comments
ก็ดีนะ
แต่คงยังไม่ได้ใช้ SSD เร็วๆนี้แน่ๆ
รอ SSD ราคา GB ละ 10 บาทก่อน พอกัดฟันซื้อได้ล่ะครับ ตอนนี้ยังแพงไปอยู่
อยากได้ Intel X18 จัง แรงสุดๆ
CMDEVHUB
เขียนเอามันส์ ลองเข้าไปดูความมันส์ได้ครับ
เป้นแนวโน้มที่ดีของ linux เลยทีเดียว
ปัญหาของลีนุกซ์คือแอปพลิเคชั่นที่บางตัวมีแต่บนวินโดว์ ถึงแม้จะมีตัวใช้แทนได้แต่ก็ไม่สมบูรณ์แบบตามนิสัยเคยชิน
ไม่ปรับที่นิสัยล่ะครับ?
สมมุติ ผมอยากเล่นเกมส์ออนไลน์ Pangya!
Linux มันไม่มี
ก็เลยเป็นเหตุผลที่ว่า ทำไม linux ยังไม่เป็นที่นิยม
อยากเล่นเกมส์ แล้วใช้ลินุกซ์ทำไมครับ
ก็รู้อยู่แล้วว่าค่ายเกมส์เค้าไม่ทำมาลงหรอก (อย่างน้อยก็ในปัจจุบัน)
ผมว่าพูดเรื่องการใช้งานโปรแกรมทั่วไปดีกว่านะ
Acting Reporter & My Elder Brother Blog + Spread HIA'08 Books
ก็ไปเล่นเกมอื่นแทนสิครับ
กะอีแค่เกมที่โคลนเกมอื่นมาอีกที น่าจะมีตัวเลือกอื่น ๆ อีกเยอะ
(ถ้ายกตัวอย่างเป็นพวก Warcraft ก็ว่าไปอย่าง 555)
จริง ๆ เล่นผ่าน Emulator ก็น่าจะได้นะ (Wine ไง)
ใช้แทนได้แต่ไม่เคยชินเอง
กับ
ไม่มีให้ใช้
มันคนละเรื่องกันเลยนะครับ
เห็นด้วยครับ ... และเกมส์ออนไลน์ส่วนใหญ่ ไ่ม่สามารถใช้บน Wine ได้ด้วย (รวมไปถึง VirtualBox .. แต่ vmware ยังไม่ได้ลองนะ)
สรุป สำหรับผมคงต้องใช้ windows ต่อไป
How I destroy my VAIO in 2 weeks with Ubuntu
เคยเจอประสบการณ์แบบนี้เหมือนกัน (แต่ไม่ใช่เรื่อง overheat นะ) แต่สำหรับ End-user อย่างผมที่พยายามเรียนรู้ Linux อย่างจริงจัง ตอนลง Ubuntu ครั้งแรกใช้เวลาถึง 3 เดือนกว่าจะ fix อะไรหลายๆอย่างให้กลับมาใช้งานได้(ใช้เวลานานเพราะไม่ค่อยมีเวลา)
พอ 3 เดือนผ่านไป Ubuntu ออกตัวใหม่ ทั้ง upgrade และ update ใหม่ปรากฏว่า driver หายไปหลายตัวอีก -*-
ใช้งานจริงๆจังๆไม่ได้ซักที(เฉพาะกับผมนะ)เสียเวลาแก้ไข สูญเสียกำลังภายในเยอะ(แต่ก็ได้ความรู้มาเยอะ)
สุดท้ายผมยอมแพ้จริงๆ แล้วก็มากอด Windows 7 RC แทน อิอิ
ใช้ได้แต่ไม่ยอมปรับนิสัย กับ ใช้ไม่ได้ (เพราะมันมีปัญหาทางเทคนิค) ก็คนละเรื่องกันนะครับ
ผมเห็นด้วยว่า อะไรที่มันห่วยก็สมควรด่าครับ ผมใช้อยู่กล้องไม่ขึ้นก็เซ็งๆ เหมือนกัน แต่เอาหลายประเด็นมาปนกันก็ไม่ใช่เรื่องที่ดีเท่าไร
อ่อ ผมจับประเด็นผิดจุดไป ขออภัยด้วยครับ = ="
ต้องปรับนิสัยให้ชินกับการใช้ Console แก้ปัญหาบางอย่างแทน GUI
แต่บางอย่างผมว่า Application บน Linux ก็ดีไม่เทียบเท่าของที่อยู่บน Windows อยู่ดี ตัวอย่าง Classic ที่สุดคงไม่พ้น Photoshop
ถึงแม้ผู้ใช้ Linux หลายคนจะบอกว่ามี Gimp มาให้ใช้แทนแล้วแต่ในความเป็นจริง ความสะดวกในการใช้งาน คุณภาพของงาน รวมไปถึง Feature ที่มีให้ใช้ของ Gimp นั้นยังห่างไกลจาก Photoshop อยู่มาก
ผมเชื่อว่าพอผมตอบไปแบบนี้แล้วคงจะมีหลายคนออกมาให้เหตุผลแก้ต่างหลาย ๆ อย่าง เ่ช่น ของฟรีจะดีเท่าของที่เสียเงินได้อย่างไร เป็นต้น ซึ่งคำพูดนี้ก็บอกความหมายในตัวมันเองอยู่แล้วว่า Gimp ยังดีไม่เท่า Photoshop
สิ่งนี้ผมว่าเป็นเรื่องของคุณภาพมากกว่าความเคยชิน Linux อาจจะมี Application หลายอย่างที่ทำงานประเภทเดียวกันกับของที่อยู่บน Windows แต่นั่นไม่ได้หมายความว่ามันจะทดแทนกันได้เสมอไป
That is the way things are.
+10
แต่สิ่งที่ผมอยากให้ ubuntu ปรับให้ดีขึ้นคือเรื่อง usability อ่ะครับ ถ้าคิดจะสู้กับโอเอสเท็น ก็ต้องแก้ตรงนี้ให้ได้ก่อนล่ะ ไม่ใช่เอะอะอะไรก็ต้องใช้ console เนี่ย ถ้ามันง่ายขึ้น เข้าถึงคนทั่วไปได้มากขึ้น เดี๋ยวผู้พัฒนาแห่มาทำ application บน linux แน่ๆ แล้วคนใช้ก็มากตามเอง
ผมบอกเลยว่า Photoshop สู้ GIMP ไม่ได้
ผมใช้ Windows ตลอดมา พยายามหลีกหนีจากมันตลอด ด้วย learning curve ที่สูงมากๆ ของมัน (เครื่องมือไม่ทราบว่าจะซ่อนไปทำไมครับ กระจายๆ ออกมาแบบ gimp ก็ได้) จนผมต้องไปแต่งภาพด้วย Paint
บน Linux มันไม่มีทั้งสองตัว ผมก็เลยต้องใช้ GIMP และพบว่า tool ต่างๆ มันไม่ได้แอบซ่อน ไม่ต้องไปจำมันอยู่ไหน ไปจำ hotkey อะไรเพราะมันก็คลิกทีเดียว
ที่สำคัญ ที่ผมเห็นชัดเจนคือ Photoshop CS ไม่มีปุ่ม Flatten Layer ที่เดียวกับ GIMP คือคลิกขวา layer แล้วกด flatten ซึ่งมันควรจะอยู่ตรงนั้น ใน "context" menu มากกว่าจะไว้ใน menu bar ที่เดียว
ที่สะดวก ของ Photoshop คือสามารถคลิกขวาปรับขนาดบลัชได้ แต่ถ้าจะใช้เมนูต้องไปคลิกแล้วค่อยลากปรับ ส่วน GIMP ผมชอบมากกว่า คือไปชี้ภาพบลัชใน toolbox แล้วลาก mouse wheel ได้โดยไม่ต้องคลิก (เมนูคลิกขวา คือ main menu แห่งที่สอง ที่ผมยังไม่เห็นความจำเป็นจะใช้สักที)
อีกอันหนึ่งของ GIMP ที่ผมใช้บ่อยๆ คือการปรับ threshold โดยเวลาใช้ magic wand/select by color ก็แค่คลิกค้างไว้ แล้วลากซ้ายขวาเพื่อปรับ โดยจะแสดงเส้นใหม่ให้เลย
แต่ขณะเดียวกัน scissor tool ก็สู้ magnetic lasso tool ไม่ได้ เพราะของ Photoshop ปรับ threshold ได้ และไม่ต้องคลิกแช่ไว้
ตอนนี้ผมก็ยังพยายามจะหนีจาก Photoshop อยู่ด้วยการเลือกใช้ GIMP ทุก OS แต่ดันต้องมาเรียน Photoshop ที่ผู้สอนไม่มีความเข้าใจว่า GIMP มันก็คล้ายกับ Photoshop (แต่เหตุผลที่อ้างมาก็ถูก คือความยากไม่เหมือนกัน (GIMP ง่ายกว่าเห็นๆ) เหมือนโปรแกรมพวก Picasa ที่ตัดต่องานง่ายๆ ได้ไวมาก)
ปล. Select by Color ของ GIMP เจ๋งมากๆ (คลิกที่สีฟ้า จะเลือกสีฟ้า ทั้งภาพเหมือน magic wand แต่จะเลือกทั้งภาพ ไม่ใช่เฉพาะส่วนติดกัน)
เพิ่งจะเจอความเห็นของคนที่ใช้ทั้ง 2 Application จริงๆ
ปกติผมไม่ออกความเห็นเกี่ยวกับ Photoshop VS The GIMP เลย เพราะไม่เคยเจอ "มือใช้" ตัวจริง พอที่จะคุยด้วยได้ ปกติจะเจอความคิดเห็นของ "มือ Photoshop" ที่ได้แค่สัมผัส The GIMP อย่างผิวเผิน
ผมอยากพูดสั้นๆ แค่ว่า ปัจจุบันนี้ The GIMP น่ะ กำลังขยับขึ้นไปเป็นคู่ปรับ Adobe Illastrator แล้วครับ กับ Photoshop น่ะ มันจบไปตั้งแต่ The GIMP 2.0 แล้วครับ
ผมว่าเขาเป็นคนที่ใช้ GIMP เป็นหลัก และใช้ Photoshop แค่ผิวเผินมากกว่านะ
CMYK?
แล้วแต่อุตสาหกรรมที่ใช้งานกันอยู่ครับ ถ้าตามบ้าน GIMP คงไม่มีปัญหา
ปล.แต่ผมกลับเป็นคนชอบ hotkey แฮะ
นั่นไงครับ "ลึกไม่ถึง" จริงๆ
ตั้งแต่ The GIMP 2.4.5 เรื่อง CMYK หมดปัญหาไปแล้วครับ
ถ้าก่อนหน้านั้น ลงไปถึง 2.0 ยังมีปัญหาเรื่องสีเพี้ยนเวลาสั่งพิมพ์
http://wiki.archlinux.org/index.php/CMYK_support_in_The_GIMP
http://www.blackfiveservices.co.uk/separate.shtml
http://registry.gimp.org/taxonomy/term/258
ผมถึงกล่าวว่า ไม่ค่อยเจอผู้ใช้ที่ใช้ทั้ง 2 ข้างเท่ากันจริงๆ ผู้ใช้ส่วนใหญ่ใช้มามากแต่ Photoshop เพราะ Photoshop เกิดก่อน The GIMP หลายปีนัก หนังสือหนังหามีมากมาย มือโปรเผยแพร่ก็เยอะ
แต่ The GIMP ไม่!!
เลยยังมีแต่ผู้ใช้ผิวเผิน และแทบไม่มีผู้ใช้ที่ติดตามการพัฒนาจริงๆ
อุตสาหกรรมสิ่งพิมพ์ที่เป็นลูกค้าผมอยู่ ก็ใช้ได้อย่างไม่มีปัญหาครับ ทั้งในและต่างประเทศ นับตั้งแต่ Fedora 7 Release ออกมานะครับ ก่อนหน้านั้นผมยอมรับว่ายังมีปัญหาในการ Implement The GIMP เข้าแทนที่ แต่ปัจจุบัน ไม่มีแล้วครับ (ทางเทคนิคนะครับ เรื่องความเคยชินของผู้ใช้ผมไม่รับเป็นเหตุผลในกรณีนี้)
อันนี้ผมยอมรับครับว่าลึกไม่ถึงจริงๆ เพราะผมไม่ได้ทำงานวงการกราฟฟิคดีไซน์เลย
และถ้าอ่านจากคห.บนๆที่ผมตอบไว้(reply ต่อจากคุณ mk) จะเห็นว่าผมเคยใช้ Linux แค่ 6 เดือนเท่านั้นเองและก็ไม่มีเวลาศึกษาทุก application และสมัยที่ผมหัดใช้ตอนนั้น The GIMP ยังไม่ support CMYK เลย และผมก็ยอมรับครับว่าผมไม่ได้ติดตามเทคโนโลยีนี้ต่อแต่อย่างใด
วินๆเน้ออ
quote "ปล. Select by Color ของ GIMP เจ๋งมากๆ (คลิกที่สีฟ้า จะเลือกสีฟ้า ทั้งภาพเหมือน magic wand แต่จะเลือกทั้งภาพ ไม่ใช่เฉพาะส่วนติดกัน)"
นี่แปลว่ายังใช้ Magic Wand ไม่เป็น :P
ต้องพูดว่ายังใช้ Photoshop ยังไม่หมด Photoshop มี select -> color range :P
มันไม่ง่ายเลยที่จะทำ GIF ให้มีขนาดน้อยกว่า 20kB
ก็ มันถูกซ่อนไงครับ
แต่ Magic Wand และตัวเลือก Contiguous เพื่อกำหนดการต่อเนื่องของพื้นที่ของ Magic Wand ไม่ได้ซ่อนนะ
อีกนิดนึง เท่าที่ได้ใช้ GIMP บน Windows มาระยะหนึ่ง
สิ่งหนึ่งที่ผมไม่ค่อยชอบใจ (หรือยังเข้าไม่ถึงมันก็ไม่รู้?) คือการจัดการบางอย่างของ Layer นี่แหละ รู้สึกมันขัดกับความเคยชิน (หรือคอมมอนเซนส์ก็ไม่แน่ใจนะ) ในการทำงานชอบกล รู้สึกมันลำบากผิดปกติ
edit: เพิ่มอีกหน่อย สำหรับ CS, CS2 นั้นไม่แน่ใจ/จำไม่ได้
แต่ CS3 ถ้าคลิกขวาที่ layer ใน Layer Palette ก็จะมี context menu พร้อมที่มีคำสั่ง Flatten Image ให้ใช้นะ อย่าคิดไปเองว่ามีแต่ GIMP ที่ทำได้
เรื่องเครื่องมือก็เช่นกัน Photoshop สามารถเลือกซ่อนหรือแสดงหรือย่อเครื่องมือและ Palette ต่างๆ ได้โดยสะดวก แล้วแต่การจัดการ Workspace ของเราเอง
สำหรับตัวผม การจัดการของ GIMP นั้นรกมาก ตอนที่ใช้บน netbook นั้นนรกแท้ๆ เลย
สรุปเลยแล้วกัน การเอาแค่เรื่องเครื่องมือจิ๊บจ๊อยมาเทียบแล้วบอกว่า "Photoshop สู้ GIMP ไม่ได้" นี่มันแปลกดี - -"
สำหรับผม เท่าที่ใช้ GIMP 2.6.1 อยู่ บอกได้เลยว่า ยังห่างกับ Photoshop อีกเยอะ
GIMP ผมไม่แคร์เท่าใหร่นะ แต่ Dia vs. Visio นี่มันใช้งานไม่ได้เลยจริงๆ
LewCPE
lewcpe.com, @wasonliw
เอารูปที่แต่งด้วย gimp มาโชว์กันบ้างครับ ^^
เอ่อ ผมไม่แน่ใจว่า Ubuntu ดูหนัง / ฟังเพลง ได้สมบูรณ์ (เร็ว, ชัด, บลาๆ) เท่า Windows รึยังน่ะครับ? เข้าใจว่า Codec / Filter ส่วนใหญ่จะ Work ที่สุดบน Windows รึเปล่า? (CoreAVC / DXVA / Vobsub / บลาๆ)
Yume Nikki
ไม่เท่าครับ ยังไงก็ด้อยกว่า ทำได้แค่ไกล้เคียง แต่ถ้าเทียบกันด้านราคานี่ Window$ ทำราคาได้ไม่ไกล้เคียงกับ ubuntu เลยครับ
แล้วอย่างนี้ตระกูลอื่น ๆ ที่ไม่ได้เป็นญาติกับ Ubuntu และ Debian จะได้อานิสงฆ์ไปด้วยไหม ?
My Experiences : Pexeriences
ทำไมต้องมาพัฒนาระบบ SSD ให้ Ubuntu ด้วยละเนี่ย?
ในเมื่อ SSD มันทำหน้าที่เป็นฮาร์ดดิสก์ เจ้า Ubutu ก็ควรจะทำงานร่วมกันตามปกติได้ทันทีสิ หรือมันมีอะไรซับซ้อนกว่านั้น?
ที่จริง Ubuntu ต่างหากที่ควรพัฒนาตัวเองให้เหมาะกับ SSD โดยลด Disk read/write ที่ไม่จำเป็นลงได้แต่แรก ไม่ใช่ปล่อยให้ผู้ใ้ช้งานไปงมเอาเองอย่างปัจจุบัน
Sandisk คงเล็งเห็นศักยภาพ + ทิศทาง OS สำหรับเน็ตบุ๊ค ของ Ubuntu กระมังครับ ถึงได้ร่วมมือกันพัฒนา คงไม่มีอะไรทับซ้อน เอ้ย ซับซ้อนไปกว่านี้ครับ
ที่จริง Vista ต่างหากที่ควรพัฒนาตัวเองให้เหมาะกับ SSD ไปลดความอ้วนลงซะบ้าง จะได้ทำงานเร็วขึ้น น้ำหนักตัวน้อยลง และยัดลงใส่ใน SSD ได้ ไม่ใช่ปล่อยให้ผู้ใช้งานต้องหนีไปใช้ระบบปฏิบัติการอื่น เช่น ubuntu อย่างในปัจจุบัน
มีการลด Disk read/write แล้วใน ext4 ครับ
แต่คราวนี้ sandisk อยากให้ SSD โตเร็วๆ เลยช่วยพัฒนาระบบของ ubuntu ให้เข้ากับ SSD ใด้ดีขึ้น เพราะ SSD ต่างกับ HDD ตรง Random Access ที่ยังรีดความเร็วใด้อีก
การจับมือกันครั้งนี้ น่าจะเป็นเพราะที่สำหรับ SSD และ Linux ในตลาด netbook เล็กลงมาก ^^
samsung ใหญ่แค่ใหน ?
https://youtu.be/6Afpey7Eldo
ext4 ปรับปรุงแล้วรึ ดีๆ
เมื่อก่อนยังต้องมาจัดการเอง เปลี่ยนไปใช้ ext2 ไำม่สร้าง swap แล้วก็ไปแก้ไฟล์ fstab เอาเอง ยุ่งยากจิ๊บ - -"
How to: Reduce Disk Writes to Prolong the Life of your Flash Drive
ประสิทธิภาพ+ประหยัดไฟขึ้นคงดีกว่าเดิม
เลิกทะเลาะกันเรื่อง OS ซะทีได้มั๊ย ถ้าไม่นับเรื่องลิขสิทธิ์ จำไว้แค่นี้ว่า
Windows เอาใจผู้ใช้
Linux เอาใจกู(คนเขียน)+บั๊กหนาๆ+terminal+ด่าคนใช้ไม่เป็นในเว็บบอร์ด(หลายที่)