Linux Foundation ออกรายงานชื่อ Linux Kernel Development (PDF) ซึ่งอัพเดตสถานการณ์การพัฒนาเคอร์เนลของลินุกซ์ ตั้งแต่เดือนเมษายน 2008-สิงหาคม 2009
สรุปตัวเลขคร่าวๆ ได้ดังนี้
- จำนวนนักพัฒนาโตขึ้น 10%
- จำนวนโค้ดที่ส่งเข้าเคอร์เนลต่อวัน เพิ่มขึ้น 3 เท่า
- จำนวนโค้ดรวมเพิ่มขึ้น 2.7 ล้านบรรทัด (โค้ดรวม 11.5 ล้านบรรทัด)
- เคอร์เนลแต่ละรุ่นมีแพตช์ใหม่ประมาณ 10,000 แพตช์ จากนักพัฒนาราว 1,000 คน และบริษัท 200 แห่ง
- ถ้านับตั้งแต่รุ่น 2.6.11-2.6.30 มีนักพัฒนาทั้งหมดเกือบ 5,000 คน และบริษัทอีก 542 แห่ง
- เคอร์เนลแต่ละรุ่น ทิ้งช่วงห่างกันเฉลี่ย 81 วัน หรือประมาณ 12 สัปดาห์
- จำนวนแพตช์เฉลี่ยที่รับเข้าเคอร์เนล ระหว่าง 2.6.11-2.6.30 อยู่ที่ 5.45 แพตช์ต่อชั่วโมง
- อัตราการส่งแพตช์โตขึ้นเรื่อยๆ ของรุ่น 2.6.30 อยู่ที่ 6.4 แพตช์ต่อชั่วโมง
- Linus Torvalds ไม่ติดอันดับ 30 นักพัฒนาที่ส่งแพตช์เข้ามามากที่สุด (แต่เป็นคนสั่ง merge commit) ส่วน Andrew Morton อยู่ที่ 10 และ Alan Cox อยู่ที่ 14
- บริษัทที่ร่วมพัฒนาเคอร์เนลมากที่สุดคือ Red Hat, IBM, Novell และ Intel ตามลำดับ
Linux Foundation ให้ความเห็นว่าการเติบโตอย่างมากของนักพัฒนาเคอร์เนล เกิดจากการแยกสาย --staging ซึ่งยอมรับแพตช์ของไดรเวอร์ที่ยังไม่เสถียรมากนักเข้าในเคอร์เนล ส่วนรายงานสนุกดีครับ แนะนำให้ดาวน์โหลดมาอ่านกัน อ่านง่ายมีแต่กราฟและตาราง
ที่มา - Ars Technica
Comments
ผมคิดว่า kernel ในตอนนี้แข็งแกร่งมาก ความร่วมมือก็เยอะขึ้นกว่าเดิม
สิ่งที่คิดว่ายังขาดอยู่ก็มีเยอะ ตั้งแต่ระบบจัดการฮาร์ดแวร์และไดรเวอร์ให้มันอยู่เป็นที่เป็นทาง ระบบแกนกราฟฟิก(แบบ DirectX ใน MS)จะได้รีดประสิทธิภาพจากฮาร์ดแวร์ให้เต็มที่ และนอกเหนือจากkernel ในส่วนของ X-window ควรเอาใจผู้ใช้ให้มากขึ้น(ไม่ใช่ตามใจกู(คนเขียน)) ลดการใช้งาน Terminal ที่สำคัญ geek ผู้เชี่ยวชาญก็ไม่ควรต่อว่ามือใหม่ว่าใช้ไม่เป็นด้วย(เว็บไหนคงรู้ดี)
"ที่สำคัญ geek ผู้เชี่ยวชาญก็ไม่ควรต่อว่ามือใหม่ว่าใช้ไม่เป็นด้วย(เว็บไหนคงรู้ดี)"
+1,000,000
@pexza
ร่วมด้วยช่วย +1 แต่เว็บไหนนู๋ไม่รู้อ่ะ แต่เว็บที่ไม่ค่อยต่อว่านี่ไม่ค่อยมี หลังๆ เริ่มทำใจเขียน blog เองเท่าที่ตัวเองรู้
Moss 's blog
สงสัยว่าทำไมต้องเอาใจผู้ใช้ด้วยละครับ เงินก็ไม่ได้จ่าย
นั่นสิครับ ถ้าไม่เอาใจผู้ใช้ทั่วไปแล้วเขาอยากจะมาใช้opensourceเป็นหลักไหมล่ะ?
Friendly GUI ถ้าทำไม่ได้รณรงค์ไปก็ไม่มีความหมาย ซ้ำยังโดนมือใหม่ด่ากลับ devเสียกำลังใจเปล่าๆ
คำตอบของเรื่องนี้อยู่ในบทความ "Linux ไม่ใช่ Windows" อ่านซ้ำไปซ้ำมาจนเข้าใจและตรงกับสิ่งที่ผมเผชิญอยู่ในตอนนี้(กำลังอธิบายวิธีใช้ให้คนอื่น)
"ใช้ยังไงวะ" "เข้าterminalสิ" "โอ๊ยยุ่งยากจัง โปรแกรมเดียวเซ็ตเป็นชั่วโมง ไม่ใช้แ-่งแล้ว"
Windows เอาใจคนใช้ แต่ Linux เอาใจคนเขียน(หลังๆมาเนี่ยลดอคตินี้ไปได้พอสมควรแล้ว)
"เราไม่ขอให้คุณใช้ แต่เราคือทางเลือกให้คุณใช้" ฉะนั้นแล้ว "ถ้าไม่ได้เรื่องเราก็ไม่ใช้" จบ
พอเถอะครับกับOSสองฝั่งเนี่ย เถียงไปก็ไม่ได้ประโยชน์อะไร นอกจากจะช่วยกันพัฒนาให้เป็นจริงน่าจะเป็นทางออกที่ดี
ประเด็นของผมคือ เราจ่ายเงินให้ผู้พัฒนาวินโดวส์นะครับ
ตามที่ผมเข้าใจ นักพัฒนาเขาไม่ได้อ้อนวอนขอร้องให้ใครมาใช้ หรือทำตัวเป็นคู่แข่งของ Windows นะครับ ดังนั้นใครพอใจจะใช้ก็ใช้ ถ้าไม่พอใจคิดว่า Windows เหมาะกับตัวเองมากกว่าก็ไม่ต้องใช้ (ไม่ได้ประชด แต่พูดเรื่องจริง เพราะถึงผมจะชอบ Linux แต่ก็ไม่เคยไปยัดเยียดให้คนที่เขาไม่เต็มใจจะใช้ต้องมาใช้) ส่วนใครจะเอา Linux ไปรณรงค์ให้คนมาใช้กัน นั่นไม่ใช่ความตั้งใจแต่แรกของ Linus เขานะครับ เขาสร้างมันขึ้นมาก็เพราะเขาทำแล้วสนุกก็เท่านั้นเอง
user แจ้ง bug แจ้งความต้องการของตัวเองเข้าไปได้ แต่นักพัฒนาจะทำให้หรือเปล่ามันก็อีกเรื่องหนึ่ง อย่าลืมว่าเราไม่ได้ไปจ่ายตังค์อะไรให้เขานะครับ เขาถึงจะต้องมางอนง้อทำตามความต้องการของ user
รักจะใช้ Linux ก็อย่าเอามันไปเปรียบกับ Windows อย่าไปคิดว่ามันต้องใช้ง่ายเหมือน Windows มันต้องเล่นเกมฮิตๆ ได้เหมือนบน Windows มันต้องสามารถรองรับฮาร์ดแวร์ได้หมด เพราะเจตนารมณ์และสถานะของ OS ทั้งสองตัวนี้แตกต่างกันโดยสิ้นเชิง ถ้าอยากให้มันเหมือน Windows ก็เสียเงินใช้ Windows ไปไม่ดีกว่าเหรอ
นั่นน่ะสิ มันเริ่มมาจากไหนหนอ
ผมคิดว่าคงเป็นเพราะคนรัก opensource พยายามให้คนทั่วไปหันมาใช้และพยายามบ่งบอกข้อดีต่างๆรึเปล่า จึงทำให้คนใช้ทั่วไปลองเข้ามาใช้ดู
ปรากฏว่าใช้ไม่เป็นและหาข้อมูลไม่ถูก(หรือไม่เป็น) ทำให้เจอ geek ต่อว่าเอา
มันก็เลยกลายเป็นว่า นักพัฒนา(ที่อยากให้คนทั่วไปหันมาใช้ Linux) ต้องมาพัฒนา UI และลด command line ให้มากที่สุด
เพราะแบบนี้รึเปล่าไม่แน่ใจ?
ปล.อันนี้คิดจากประสบการณ์ตรงน่ะครับ มีคนชวนผมใช้ Linux ชื่อดัง ก็เลยลองดู แล้วก็หาข้อมูลต่างๆ โดยเฉพาะเวบชื่อดังแห่งหนึ่ง แล้วก็โดน geek แถวนั้นต่อว่าเอา (T_T) หลังเกิดสงครามกับเขา ผมก็เลยยอมแพ้ไปหาข้อมูลที่เวบ official แทนน่ะครับ
เว็บไหนเหรอครับ
น่าจะเป็นเว็บไทย สีฟ้าๆ(ไม่ใช่เว็บนี้) ถามอย่างนึง ได้คำตอบอีกอย่างนึง บางโพสต์สามารถไล่เรียงออกมาได้หนึ่งหน้ากระดาษ A4 เลยทีเดียว แถมด่ามือใหม่ตบท้ายเป็นของรางวัลที่ตั้งกระทู้ ซึ่งตัวผมเองที่ search เข้าไปหาข้อมูลทุกครั้งก็สมเพชทุกครั้ง
ไปหาข้อมูลจากเว็บนอกแล้วมาทดสอบกับตัวเอง แค่ออกแรง ScreenShot โพสแค่เนี๊ยมันไม่เดี้ยงหรอกมั๊ง ดีกว่าโพสข้อความให้เขาไปตรัสรู้เอง+ถามกลับไปกลับมา สุดท้ายเขาก็ไปใช้ MS + ด่า geek ว่าหยาบคายเหมือนเดิม
สิ่งที่ดีที่เกิดขึ้นก็คือ มันทำให้ผมเรียนรู้ว่า Google คืออาจารย์ที่ดีที่สุดครับ :D
ทำให้เราแทบไม่ต้องเข้าเวบนั้นอีกเลย :)
google ตอบไม่ได้ทุกอย่างหรอกครับ คำตอบของ google ก็มาจากคนเขียนตอบเนี่ยแหละครับ ถ้าไม่มีใครเขียนไว้หาให้ตายใน google ก็หาไม่เจอหรอกครับ เค้าเลยต้องถามกัน แล้วสมัยนี้ seo ครองโลกครับหาไปเจอแต่ขยะดักคำ มีคำครบเลยแต่อ่านไม่รู้เรื่องหรือไม่ก็ไม่ใช่ที่เราต้องการหาจริงๆ
Moss 's blog
+1 เข้าอยู่บ้างแต่เลิกเม้นต์ไปแล้ว
เอาจริงๆ แล้วตอนนี้ linux ก็แทบไม่มีอะไรต้องใช้ command line แล้วนะครับ แต่ในทางปฎิบัติคนใช้ลินุกซ์ยังรู้สึกว่าการทำงานหลายๆ อย่างผ่าน cmd มันตรงไปตรงมากว่า
โดยเฉพาะคนทำ tutorial ทั้งหลายนี่ให้มานั่ง capture หน้าจอนี่หมดแรงครับ ขี้เกียจกันหมดก่อน
LewCPE
lewcpe.com, @wasonliw
ขออนุญาติยกข้อความจะบุคคลท่านหนึ่งในแวดวงลีนุกซ์มาเล่าสู่กันฟังนะครับ
http://www.blognone.com/node/12791#comments
อ่านคอมเมนท์บางส่วนจากลิงค์ข้างบน และ "บ่นนอกเรื่อง" ของโพตท์นี้แล้ว เจ็บปวดหัวใจจริงๆ
แล้ว ผมจะไม่พูดถึง Community ที่อื่นๆ แต่พูดเฉพาะเว็บแห่งนี้เท่านั้น เพราะหลังๆจะมักมีการค่อนแคะเกี่ยวกับเรื่อง Geek กับวิธีการ Command Line ตามเว็บต่างๆ เสมือนเราเป็นมนุษย์ประหลาด นอกจาก "ชายคนหนึ่ง" ที่แสดงตัวตนว่าตัวเองเป็น Geek นอกนั้นผมถือว่าเขาก็เป็นผู้ใช้คอมพิวเตอร์ปกติ เพียงแต่ผู้คนที่ไม่เข้าใจและยัดเยียดให้พวกเราเป็น Geek พวกเราแค่มีประสบการณ์ในการใช้ที่อาจจะมากกว่าเท่านั้นเอง แต่ประสบการณ์ก็จะจำกัดของเครื่องคอมพิวเตอร์ที่ตัวเองมีเท่านั้น เช่นผมมีเครื่องอยู่ 3 เครื่องที่ใช้ ผมก็จะรู้วิธีการแก้ปัญหาเฉพาะสภาพแวดล้อมที่ตัวเองมี เรื่องอื่นเยอะแยะมากมายที่ผมไม่รู้และมีประสบการณ์ เพื่อนๆท่านอื่นๆก็เช่นกัน คิดว่าไม่แตกต่างๆ ...
ทำไมบนวินโดว์สถึง ไม่มีปัญหาเกี่ยวกับฮาร์ดแวร์ อย่าลืมว่าอุปกรณ์ต่างๆผู้ผลิตเขาจัดทำไดร์เวอร์ให้วินโดว์ส และกับโอเอสอื่นๆเขาเตรียมไดร์เวอร์มาให้ก็จะไม่มีปัญหาเหล่านี้เลย เคอเนลลินุกส์ปัจจุบันที่รู้จักอุปกรณ์ต่างๆมากมาย โดยที่ไม่ได้พึงพาไดร์เวอร์จากผู้ผลิตฮาร์ดแวร์ แค่นี้ก็ถือว่าสุดยอดแล้ว แต่อุปกรณ์บางอย่างที่เบื้องต้นทำงานผิดปกติหรือไม่รู้จัก มีปัญหาถามมา ก็ตอบไป เดาๆกันบ้าง ยากที่จะหลีกเลี่ยงการวิธีการแก้ไขด้วยคอมมานด์ไลน์ เหตุเพราะต้องแก้ไขเข้าในในระบบลึกๆ ยิ่งใช้งานอินเตอร์เน็ตไม่ใช่เรื่องยากเลย เปิดโปรแกรมเทอมินัลขึ้นมา คัดลอกคำสั่งไปแปะใช้งานเลยไม่ต้องพิมพ์คำสั่งเอง ส่วนที่คุณจะคิดว่าวิธีการคอมมานด์ไลน์ล้าสมัยก็เป็นสิทธิของคุณ แต่ความเห็นของผมคือเครื่องมืออันทรงประสิทธิภาพที่สุด ...
ทุกคนมักจะเข้าใจว่าคนที่ใช้ลินุกส์มาบ้างเช่นพวกเรา จะต้องรู้ทุกเรื่องเกี่ยวกับลินุกซ์ ซึ่งเป็นการเข้าใจที่ผิด และเราก็เคยผ่านประสบการณ์การเป็นมือใหม่เช่นเดียวกับหลายๆท่าน แต่เราเห็นถึงข้อดีหลายอย่างในตัวลีนุกซ์ ไม่ใช่ว่าพวกเราเก่ง แต่พวกเราอดทนมากพอในการเรียนรู้กับมัน อย่างการตอบปัญหาในบอร์ดนี้พวกเราก็ทำกันในลักษณะอาสาสมัคร ไม่มีสิ่งใดๆเป็นรางวัล ตอบกันเท่าที่ทำกันได้ บางคำถาม คนตอบไม่รู้ก็ยังไปค้นหาคำตอบจากแหล่งอื่นๆให้ บางทีเป็นเว็บต่างประเทศ อ่านไม่เข้าใจ ก็ต้องมาแปลให้อีก และบางคำถามที่ตอบไม่ได้ ไม่ใช่ว่าพวกเราจะ "กั๊ก" แต่เพราะไม่มีความรู้ที่จะตอบจริงๆ ...
การ ที่คนมาตั้งคำถาม ส่วนหนึ่งต้องตั้งคำถามที่ถามให้ชัดเจนและตรงประเด็น แต่การใช้คำถามเดียวเพื่อให้รู้เรื่องเกี่ยวกับลินุกซ์ทั้งหมด จะเป็นไปได้อย่างไร? แค่คำสั่งลินุกซ์คำสั่งเดียวก็สามารถอธิบายเป็นหน้าๆ ดังนั้นขอให้คิดถึงความเป็นจริงด้วย ...
ผมถามว่าโพสต์นี้คุณใช้เวลา แค่ไหนในการพิมพ์หรือจัดทำ? อาจจะนานเพราะนี่คือ"ฮาวทู" แต่การตอบคำถามจะรีวิวกันขนาดนี้ มันจะเป็นไปได้อย่างไร?
การคอมเมนท์เชิงว่ากล่าวแบบนี้ ดูแล้วไม่รักษาน้ำใจกันเลย ดังนั้นขอให้คิดถึงใจเขาใจเรา ...
ขออนุญาติไม่ระบุที่มานะครับ คัดลอกมาจาก Community แห่งหนึ่ง
ขอบคุณครับ คนดีๆก็มีเยอะครับ ไม่ใช่ไม่มี :)
มันเริ่มจากแบบนี้จริงนะผมว่า อยากให้คนมาใช้แล้วก็บอกว่าดี แต่พอมีปัญหาก็ไม่ได้คนชวนดันไปถาม geek เลยซวย! :P
Moss 's blog
โครงการใหญ่ขนาดนี้ กระบวนการเลือกแพตช์ เค้ากันยังไงครับเนี่ย?
kernel นี้โตวันโตคืนเลยเนาะ
แสวงหามิใช่เพราะรอคอย เชี่ยวชาญมิใช่เพราะโอกาส ชำนาญมิใช่เพราะโชคช่วย"ดังนี้แล้วลิขิตฟ้าหรือจะสู้มานะตน"chonlatee
มี patch จากนักพัฒนาไทยบ้างหรือป่าวครับ
พัฒนาไปดีแค่ไหนก็ไม่ค่อยเป็นที่นิยม แต่ก็เป็นกำลังใจให้ พัฒนาต่อไปสู่ๆ
pwBlog'S
ในมุมมองผู้ใช้
เมื่อนานมาแล้วผมเคยใช้งานบนเครื่อง Unix ของ HP (HP-UX), SUN (Solaris) และ Siligon
ถึงมันจะเป็น command line เหมือน Linux แต่ผมว่ามันเป็นมิตรมากกว่า โดยเฉพาะ Siligon เนี่ยทำงาน Graphics ได้สุดยอด
แต่กับ Linux มันแปลกๆนะเข้าถึงได้ยากไปหน่อย
คำถาม: Mac OSX เนี่ยมีใช้ command line บ้างมั้ยครับ (ไม่เคยใช้แมค) :)
มีครับ เพราะว่ามันเอา BSD มาพัฒนาต่อ ก็เลยมี terminal เข้ามาด้วยครับ
พวกคุณก็ลองเขียน os มาใช้เองบ้างสิ จะได้ดีสมใจ MS นะเอา code ของ linux ไปใช้เหมือนกัน กรณี sco MS มาจ่ายตังค์ให้ sco บอกไม่อยากมีปัญหาเรื่อง ลิขสิทธิ เดี๊ยวนี้ก็มาขาย ด้วยนี่นา
Mac ก็ unix ส่วน interface ก้ ต่อยอดมาจาก nextstep ของ ตาจ๊อบ
อารมณ์ไหน?
ไม่ค่อยมีเกม(ที่ผมเล่น) for linux อ่าาาาาา
เกม ถ้าเค้าออกแบบมาเพื่อระบบไหน หรือคอนโซลไหน ก็ใช้ตามนั้นแหละครับ
ไม่ใช้ลีนุกซ์ เพราะเล่นเกมที่ชอบไม่ได้ ผมถือว่าเป็นเหตุผลที่โอเคนะ
แต่ถ้าใครบอกว่า ไม่ใช้ลีนุกซ์ เพราะมันไม่เหมือน Window$ อันนี้ผมคิดไม่โอเค คือไม่ถูกต้องนัก(แต่ผมก็จะไม่แนะนำใครคนนั้นว่าต้องใช้ลีนุกซ์ให้ได้ ถือว่า Window$ เหมาะสมกับเขาแล้ว)
ผมใช้ทั้งวินโดว์ (เป็นระบบปฏิบัติการหลัก) และลีนุกซ์ (ศึกษาไว้เป็นทางเลือก) ก็พบว่าทั้งคู่ก็มีจุดเด่นและจุดด้อยสลับกันไป คงไม่อธิบายซ้ำๆ อีก บางครั้งก็พบปัญหาที่แก้ไข (ด้วยตัวเอง) ได้ยากบนลีนุกซ์ แต่ก็เข้าใจได้ระดับหนึ่ง ของเค้าสร้างมาให้ใช้แบบไม่มีค่าใช้จ่าย (ไม่ได้ฟรี แต่ไม่มีค่าใช้จ่าย) แต่ Window$ กลับง่ายกว่า ก็คิดง่ายๆ ว่า เราจ่ายตังค์ซื้อความสะดวกของ Window$ ไปแล้ว ส่วนลีนุกซ์ที่เราไม่ได้จ่ายอะไร ก็อาจจะมีความไม่สะดวกมากกว่า เป็นธรรมดา
โครงการ OpenOffice.org น่าจะเป็นแบบนี้บ้าง