คงปฎิเสธไม่ได้ว่าหลังจากการมาของ iPhone และกระแสของ BlackBerry ทำให้ตลาดของ Windows Mobile เริ่มเสื่อมความนิยมลงไปเรื่อยๆ แต่กระนั้นก็เถอะ Steve Ballmer ซีอีโอของไมโครซอฟท์คงไม่เห็นด้วยแบบเดียวกันแน่
Ballmer กล่าวในงานที่ Boston College Chief Executives Club ว่าการแข่งขันในตลาดสมาร์ทโฟนเป็นช่วงเริ่มออกตัวเท่านั้น ยอดขายของ iPhone และ Windows Mobile ในปีที่แล้วก็ยังสูสีกันอยู่ที่ 20 ล้านเครื่อง และการแข่งขันคงยังไม่จบแค่นี้แน่ๆ
"ผมเชื่อว่าหลังจากนี้จะมีนวัตกรรมในตลาดสมาร์ทโฟนอีกมากมายที่กำลังจะตามมา ถึงแม้แอปเปิลหรือ BlackBerry กำลังได้เปรียบ แต่เรายังอยู่ในเกมการแข่งขันนี้"
ที่มา - TechFlash
Comments
ถึงยอดของ iPhone และ WM จะสูสีกัน แต่ในความเป็นจริง Apple ไปทั้ง Hardware & OS และ Service (App store) ซึ่งต่างกับ M$ ที่เขียน OS กับการ Lobby และอัด Marketting และไล่ตาม Business Model ของ App Store
จะมีวันที่คนกางเต็นท์ไปนอนรอซื้อ WM version เป็นแถวยาวๆให้ชมบ้างไหมเนี่ย
ปล.มิได้เป็นสาวก และมิได้ใช้ Mac ครับ แต่รู้สึกว่าเมื่อเปรียบเทียบขนาด งบประมาณ และคุณภาพของบุคลากรแล้ว ทำให้แปลกใจว่าทำไม M$ ถึงเดินได้ไม่เร็วกว่า Apple เท่าที่มันน่าจะเป็น (แถมเดินมาก่อนตั้งนาน ...น แล้วด้วย) ;P
my blog
ถ้าทำโทรศัพท์ให้มันล้ำได้เท่า Zune HD ผมว่ามีแน่ๆ
จุดดีของ WM คือมันใส่ได้หลายยี่ห้อ
แต่นั่นก็กลายมาเป็นข้อด้อยของมัน
เพราะสำหรับหลาย ๆ คน
มันจบตั้งแต่ Design แล้ว
ผมว่าข้อนี้แหละที่ทำให้ Microsoft เดินได้ช้ากว่า เพราะทำ OS ขึ้นมาก็ต้องพะวงกับโปรแกรมที่ทำงานบนสถาปัตยกรรมเก่า แทนที่จะทำใหม่หมดเลยก็ไม่ได้
.
สาวก WinMo อย่างเราๆ ชื่นใจหล่ะงานนี้
เพราะ WinMo ไม่ได้เป็น Exclusive ของเครื่องใดเครื่องนึ่ง ก็คล้ายกับ SymbianOS นั้นแหละ แต่ทาง Iphone กับ BB นั้นทุกอย่างคือหนึ่งเดียวกันทั้งเครื่องและOS ทำให้ดูมีvalue มากกว่า (แลดูไฮโซกว่านั้นเอง) ส่วน WinMo นั้นเครื่องอะไรก็มีใครกัน เลยแลดูว่าเป็นของธรรมดาไป ถ้า M$ นั้นทำเครื่องเองหรือลงแค่เครื่องใดเครื่องหนึ่งและทำ OS ใหม่ที่น่าใช้กว่าเดิม ท่าทางจะแข่งกันมันแน่ๆ แต่ทว่า Android ก็มีวิถีเดียวกับ WinMo แต่ทำไม่ไม่ยักกเดือดร้อนแหะ ฮ่าๆๆๆๆ
ผมว่ามันเป็นเรื่องน่าดีใจสำหรับเราๆท่านๆที่เป็นผู้บริโภค ที่เราจะไมโครซอฟท์จะหันมาปรับปรุง Windows Mobile จริงจังๆเสียที
เพราะผมคิดว่า ไมโครซอฟท์ อาจจะเป็นยักษ์หลับ ขยับช้า รอดูโมเมนตัมตลาด ตอนโน้นมีหลายคดี อินเตอร์เนตที่หนึ่งแล้ว, mobile computing ถ้าเอาจริงเอาจัง ไมโครซอฟท์เล่นหนักทุ่มเทมาก ตัวอย่างเช่น PDA -> Pocket PC -> Windows Mobile หรือแม้แต่ XBox/XBox 360
แม้แต่จะเบรคคอมแพตทิเบิล ผมว่าถ้าทำแพลตฟอร์มใหม่ได้จริง เค้าทำแน่
ได้แต่รอปูเสื่อรอดูครับ
+1
หลายอย่างที่ผมว่าไมโครซอฟท์ทำได้ แต่ติดปัญหาที่ต้องปล่อยบริษัทคู่ค้าทำบ้าง ไม่งั้นบริษัทคู่ค้าก็ไม่รู้จะเอาอะไรเป็นจุดเด่นของตัวเอง หากไมโ๕รซอฟท์ทำมาให้เหมือนกันหมด อย่าง UI บนวินโดวส์โมบายเนี่ย แต่ละบริษัทก็ไปทำซอฟท์แวร์มาครอบอีกที สวยกันไปคนละแบบ แล้วก็นำไปโฆษณาเป็นจุดเด่นได้
อีกอย่างหนึ่ง โดยเฉพาะในวินโดวส์ ไมโครซอฟท์ก็กลัวถูกฟ้องร้องอีกนะว่าไปกีดกันคู่แข่งคนอื่น (ผูกขาด) (เช่น Windows Media Player ที่รองรับไฟล์ได้นานาชนิดเนี่ย ก็ควรจะมีนานแล้ว ถ้าไม่ต้องสนใจว่าคู่ค้าจะทำออกมาขายหรือจะมีคนเตรียมฟ้องร้องว่ากีดกันคู่แข่ง)
Ballmer เก่งนะ แต่คงสู้ Gates กะ Jobs ไม่ได้
เห็นด้วย...ตั้งแต่ Baller เป็นเนี่ย เหมือนทุกอย่างที่ Microsoft ทำ..มันเป็นการตามหลังเขาคนอื่น...
็Hey dude ever heard of this? "They just have no taste, they have absolutely no taste." Guess you feel that, when you use them... :-)
บัลเมอร์จบเศรษฐศาสตร์มาครับ ไม่ใช่พวกโปรแกรมเมอร์ไอเดียกระฉูดแบบสองคนนั้น
แต่สองคนนั้นไม่จบอะไรเลยนะครับ
แต่ก็เป็นโปรแกรมเมอร์ไอเดียกระฉูดไงครับ เหอๆๆ
เกตส์ใช่ แต่จำได้ว่าจ๊อบส์ไม่ได้เขียนโปรแกรม
onedd.net
ที่แน่ๆบอลเมอร์ปากหาเรื่องกว่าเกตส์นะผมว่า ฮ่าๆ
+1
เฮียแกแรงมากเลยคร้าบ
ผมชอบครับ ตรงไปตรงมาดี
ผมกลับมองว่าบัลเมอร์นี่คือผู้ที่อยู่เบื้องหลังความสำเร็จของไมโครซอฟท์เลยครับ ออกสื่อไม่เยอะเท่าเกตส์ แต่ถ้าไม่มีบัลเมอร์ไม่มีทางเป็นได้อย่างวันนี้แน่ๆ
+1
+1
บัลเมอร์ ผู้ปิดทองหลังพระ (หรือเขาเป็นพระซะเอง)
น่าจะนะ เหม่งซะขนาดนั้น
+1
ผมว่าไม่มีบัลเมอร์ เกตส์นี่แหละจะแย่
บัลเมอร์เก่ง แต่ไม่มีบารมี
onedd.net
Apple เสนอ Business model ของตลาดโมบายใหม่ แล้วมันก็ผนวกเข้ากันได้อย่างสมบูรณ์ จนค่ายใหญ่ที่อยู่มานานแล้วก็ต้องตาม...Steve เคยพูดตอนเปิดตัว iPhone ว่า software ใน iPhone นำหน้ามือถือในตลาดถึง 5 ปีและ iPhone จะเป็นแบบอย่างมือถึอในตลาดต่อไป จากวันนั้นถึงวันนี้ Apple ได้พิสูจน์ให้เห็นแล้วว่ามันเป็นจริง
+100
+1000000000000 ถ้าอย่างงั้นแสดงว่า ศาสดาล่วงรู้อนาคตนน่ะซิ..........????
ไม่ธรรมดา แม่น....จริงๆ
ยิ่งกว่าล่วงรู้อนาคตอีก...เพราะศาสดาเอาอนาคตมาขาย
ถ้าไม่แน่จริง ไม่มีทางอยู่ในอุตสาหกรรมคอมพิวเตอร์ได้นานขนาดนี้
แล้วที่โดนไล่ออกจากแอปเปิลนี่ก็รู้อนาคต?
อาจจะรู้ว่าไปทำ NeXT กะ Pixar แล้วรุ่งก็ได้นะครับ
ขำๆนะครับ
ปกตินักพยากรณ์มักจะไม่รู้อนาคตตัวเองครับ :D
เค้าหมายถึงเฉพาะล่วงรู้นวัตกรรมไอทีในอนาคตรึเปล่าครับ :)
เห็นเขียนว่า "อนาคต" เฉยๆ นะครับ
อนาคตของวงการไอทีครับ ไม่ใช่อนาคตของ Jobs
ใครจะรู้ว่าตัวเองจะโดนเด้งออกจากบริษัทที่ตนเองก่อตั้ง
ใครจะรู้ว่าซื้อ Pixar มาในราคาที่ต่ำ แต่ตอนขายให้ Disney ขายแพงได้
พร้อมได้หุ้น Disney มาด้วย...แสบใช่ย่อย
ประสบความสำเร็จขนาดนี้แต่ยังต้องทนทุกข์กับโรคภัยไข้เจ็บที่อันตราย
ใครจะรู้ว่าตับมันแย่ขนาดที่ต้องเปลี่ยนถ่าย.....
เพราะใครจะไปรู้ว่าตัวเองจะตายเมื่อไหร่.....เตรียมพร้อมไว้ดีที่สุด
อย่าอ้างเฉพาะกรณีที่ประสบความสำเร็จสิครับ ความล้มเหลวก็มี
คืออันที่เก่งก็เก่งจริง แต่มันก็ไม่ได้เวอร์ขนาดเห็นอนาคต แม่นทุกงานขนาดนั้น
อย่างแรก ขอแค่เข้า Windows Update แล้วมีอะไรให้อัพเดทให้ชื่อใจก่อนเหอะ
ตอนนี้ผมอัพเดทผ่าน MarketPlace แล้ว อย่างน้อย App มีให้อัพเดทบ้างก็ยังดี Windows Update นี่ไม่เคยเลยจริงๆ
Marketplace มันอัพเดทตัวแอพพลิเคชั่นที่ติดตั้งลงไปครับ
ส่วน Windows Update นี่ใช้อัพเดทตัว OS (ลองส่องๆดู มันจะมีไฟล์ Windows Update ซ่อนอยู่ใน /Windows กดเข้าไปก็ Using Latest update ตลอด ฮ่าๆ)
Marketplace นี่ก็เซ็งอย่าง เลือกลงโปรแกรมใน Storage Card ไม่ได้
ผมลืมสังเกตุเลยเลยว่าเลือกลงการ์ดไม่ได้ พอดีใช้ Atom Life มันมีเม็มในตัว 1GB
ได้เห็นข้อดีเสียที
แก้ Registry ให้มันถาม location ก่อนได้ครับ
เรื่องหน้าตา ซัมซุงออกแบบหน้ากากมาครอบไว้อีกที ก็สวยดีอีกแบบนะครับ ออมเนีย2
เห็นด้วยครับ
จะเหมื่อนกับ IBM ที่อดีตเคยเป็นพี่ใหญ่ แต่ตอนนีเล็กลงไปมากทั้งๆที่เกิดก่อน ( เทียบกับ ms apple google )