หลังจากที่ผู้ใช้อุปกรณ์ในแพลตฟอร์ม iPhone ได้ดาวน์โหลดโปรแกรมกว่าสองพันล้านครั้ง จากแคตาล็อกซึ่งเสนอโปรแกรมจำนวนกว่า 85,000 โปรแกรมนั้น App Store หรือร้านขายโปรแกรมออนไลน์ของ Apple ได้แสดงให้โลกเห็นว่าการประสบความสำเร็จด้านการขายโปรแกรมออนไลน์ต้องทำอย่างไร อย่างไรก็ดี ถึงแม้ Apple จะสร้างป้อมปราการไว้แข็งแกร่งเพียงใด ปัญหาการละเมิดลิขสิทธิ์บนแพลตฟอร์ม iPhone ก็ยังมีอยู่เป็นจำนวนมาก
ผลการศึกษาของสถาบัน Pinch Media แสดงให้เห็นว่าโปรแกรมสำหรับสมาร์ทโฟนของ Apple นั้นถูกดัดแปลงแก้ไขเพื่อให้ใช้แบบละเมิดลิขสิทธิ์พร้อมทั้งมีให้ดาวน์โหลดอยู่บนเครือข่าย peer-to-peer เป็นจำนวนมาก โดยอุปกรณ์บนแพลตฟอร์ม iPhone ที่ได้ส่งข้อมูลให้ Pinch Media จำนวนกว่า 4 ล้านเครื่องเป็นเครื่องที่ได้ถูกปลดล็อก และ 1.5 ล้านเครื่องจากเครื่องจำนวนดังกล่าวเป็นเครื่องที่เคยใช้งานโปรแกรมละเมิดลิขสิทธิ์อย่างน้อยหนึ่งครั้ง
ในเรื่องนี้ สถาบัน Pinch Media ได้ตั้งข้อสังเกตว่า ถึงแม้การใช้โปรแกรมละเมิดลิขสิทธิ์บนแพลตฟอร์มของ Apple จะเกิดขึ้นทั่วโลก หากมองลึงลงไปในสถิติ ก็จะพบว่าการใช้เครื่องที่ปลดล็อกและสามารถใช้โปรแกรมละเมิดลิขสิทธิ์ (jailbreak) มีความสำคัญไม่เท่ากันตามภูมิภาค ดังนี้ ในจีน มี iPhone และ iPod Touch ที่ปลดล็อกจำนวนประมาณ 35% จากจำนวนเครื่องทั้งหมด ในขณะที่ในญี่ปุ่นและสหรัฐฯ มีประมาณ 5% และ 8% ในฝรั่งเศส โดยตัวเลขดังกล่าวจะสูงขึ้นในประเทศที่ประชากรมีรายได้ในระดับต่ำ ทั้งนี้ Pinch Media ได้ประเมินตัวเลขดังกล่าวจากข้อมูลที่ผู้พัฒนาโปรแกรมได้ประมวลไว้
Pinch Media ยังระบุอีกว่า จากจำนวนโปรแกรมทั้งหมดใน App Store โปรแกรมที่เคยถูกละเมิดลิขสิทธิ์แล้วมีจำนวนกว่า 60% และผู้ใช้โปรแกรมละเมิดลิขสิทธิ์จะใช้เวลากับโปรแกรมนั้นๆ น้อยกว่าผู้ใช้โปรแกรมถูกต้องตามลิขสิทธิ์
นอกจากนี้ ผลการศึกษาดังกล่าวก็ได้แสดงให้เห็นถึงข้อจำกัดของแนวความคิดที่อธิบายว่าการใช้โปรแกรมละเมิดลิขสิทธิ์เป็นการทดลองใช้ก่อนซื้อ (sampling) เนื่องจากมีผู้ใช้โปรแกรมละเมิดลิขสิทธิ์เพียง 0.43% ที่ได้ซื้อโปรแกรมอย่างถูกต้องตามกฎหมายหลังจากได้ทดลองใช้ และสำหรับโปรแกรมรุ่นทดลองใช้ที่มีคุณลักษณะน้อยกว่าโปรแกรมรุ่นเต็มนั้น ก็มีผู้ใช้เพียง 7.4% ที่ตัดสินใจจ่ายเงินเพื่อหันไปใช้โปรแกรมเดียวกันรุ่น premium
ที่มา Pinch Media
Comments
แหม นึกว่า 99.99%
เหมือนข่าวก็ไมไ่ด้ต่อว่าระบบของผู้พัฒนา หรือการหาทางออกสำหรับ Model ธุรกิจที่ดีกว่านี้ แต่เป็นการให้น้ำหนักว่าเศรฐกิจ และรายได้ของประชากร มีผลต่อการละเมิดทรัพย์สินทางปัญญา (นัยยะหนึ่ง เหมือนจำต้องยอมรับ เพราะถ้าเลือกได้คงไม่มีใครอยากละเมิดลิขสิทธิ์)
แบบนี้ อเมริกาจะกล้าเอามาเป็นข้อมูลตั้งกำแพงภาษี หรือเงื่อนไขทางการค้าต่างๆกับพี่เบิ้มจีนไหมเนี่ย .. ทีกะประเทศเล็กๆละกดดันยิกๆเลย ;P
my blog
อยากรู้ว่าไทยจะกี่ %
แล้ว Dev-team อยู่ประเทศอะไรน้อ
Pitawat's Blog :: บล็อกผมเองครับ
ไทยนี่ บางคนยังคิดว่าจะลงโปรแกรมต้องเจลเบรคก่อนอยู่เลย
อคติทำให้คนรับเหตุผลด้านเดียว
ถ้าเทียบกะค่าครองชีพ การโหลดแอพของ US จะประมาณเดียวกับทานข้าวสักมื้อในขนาดที่ของไทย...
+1 ดูค่าappแล้วโหลดทีกระอักกระอวน ว่าแต่ข้างๆ ช๊อปทรูมักมีร้านที่รับลงแอพ แล้วบอกว่า
เป็นร้านที่มีappมี licence เ็็ห็นลงตั้ง 100กว่า app แต่ 500บาทเอง แถมทรูก็แนะนำเอง
อืม App ส่วนใหญ่ก็ประมาณ 1$(35 บาท) ก็ประมาณทานข้าวซักมื้อเหมือนกันนะ ที่แพงหน่อยก็ ~10$ อันนี้เหมือนซื้อหนังสือหละมั้ง
ผมว่า 60% นี่เรียกว่าน้อยแล้วนะครับเทียบกับบนฝั่งของ Desktop (อย่าง Windows บางเครื่อง Piracy 100% เลยก็มี)
ผมเองก็ซื้อ App จาก App Store เหมือนกันครับ พวก App $1.99 , $0.99 ดีๆมีหลายตัวไม่แพงด้วยครับ จนเผลอคิดว่าถ้าโปรแกรมใน PC ถูกแบบนี้แบบว่า คนทั่วไปสามารถหาซื้อได้ ก็ยินดีสนับสนุนของแท้ครับ
ใน App Store แพงสุดที่เคยซื้อก็ BeejiveIM $9.99 ของเขาดีจริงครับ :)
คิดถึงกรณีหนึ่งที่ผมเจอในบ้านเรา
ถาม : ถ้า Windows ขาย 599 จะซื้อของแท้ไหม
ตอบ : ต่อให้ขาย 129 กรูก็จะ copy !-_-
บางทีการละเมิดลิขสิทธิ์ ไม่ใช่เพราะไม่มีตังค์ บางคนอย่างอวดว่าตูฉลาด
I need healing.
เด็กประเทศเราถูกปลูกฝังแบบผิดๆ มาช้านานครับ ... ลอกข้อสอบ.. เท่ เจ๋ง ... อ่านหนังสือเองโง่... (อ่านเองแล้วจะโง่ได้ไงวะ)
แสดงราคาไม่ค่อยมีผลกับการละเมิดลิขสิทธิ์ในบางประเทศ (ขายถูกขนาดนี้ยังโดนก๊อบ) แบบนี้จะมาอ้างว่าโปรแกรมแพงแล้วไม่ซื้อก็ไม่ได้แล้วสิเวลาโดนจับ
+100 ถูกต้องครับ อย่างเวลาดาวน์โหลดไง มันสะดวกกว่า และดูมีความรู้เทคนิค เรื่องราคาไม่ใช่ประเด็นเลย (ง่ายๆคือถ้าต้องจ่ายคือไม่ฉลาด ประมาณนั้น)
ผมเองมองว่าความเชื่อแบบนี้ค่อนข้างสุดโต่งเกินไปครับ แน่นอนว่าคนแบบนี้มีอยู่จริง แต่ก็คงไม่ใช่เรื่องของ "บ้านเรา" แน่ๆ
เอาเข้าจริงแล้วถ้าราคาอยู่ในระดับที่คนยินดีจ่ายผมว่าเขาก็จะซื้อของแท้ครับ อย่างซีดีเพลงบ้านเราพอราคาลงมาเป็น 120 บาทก็กลายเป็นเรื่องปรกติที่จะซื้อมาฟังกัน
lewcpe.com, @wasonliw
คิดว่าคนคิดแบบนี้มี แต่ไม่น่าเยอะนะ
คนที่รู้จักส่วนใหญ่คือ ถ้าใช้แท้ได้ จะใช้แท้มากกว่า
สังเกตจากพวก antivirus อันไม่กี่ร้อย เพื่อนๆเราก็ซื้อกันนะ
ไม่อยากเอาเปรียบผู้ผู้พัฒนา เพราะราคาแอฟก็ถูกมากอยู่แล้ว เลยไม่ JB และไม่เล่น crack
ส่วนเหตุผลของตัวเองคือ iPod touch มีข้อมูลที่มีค่ามากกว่ามานั่งลบ แล้ว restore บ่อยๆ
อีก 40% ที่เหลือคือโปรแกรมฟรีหรือเปล่า = ='
ถ้าไม่มีการ jailbreak และไม่มีการ unlock ได้ iphone คงไม่ขายดีขนาดนี้มั้งครับ
เหมือนประเทศเรานั่นแหละครับ ถ้าหากไม่มีการละเมิดลิขสิทธิ์ ผมว่าประเทศเราคงด้อยด้าน IT ไปมากเลย ทั้ง Software ที่แพง ทำให้คนใช้น้อยลง พอคนใช้น้อย Hardware ก็แพงตาม พอ Hardware แพง ขายไม่ออก ก็ไม่มีผู้มาลงทุนด้านนี้ สุดท้าย คนที่เป็นด้าน IT นี่จะหายากมาก ๆ เลยละครับ
แต่ก็ไม่ได้สนับสนุนให้ละเมิดลิขสิทธิ์นะครับ อย่าน้อยก็อย่าละเมิดแบบออกหน้าออกตา แหะ ๆ
ทำไมผมไม่แปลกใจกับข่าวนี้นะ (ฮา)
"โดยอุปกรณ์บนแพลตฟอร์ม iPhone ที่ได้ส่งข้อมูลให้ Pinch Media จำนวนกว่า 4 ล้านเครื่องเป็นเครื่องที่ได้ถูกปลดล็อก และ 1.5 ล้านเครื่องจากเครื่องจำนวนดังกล่าวเป็นเครื่องที่เคยใช้งานโปรแกรมละเมิดลิขสิทธิ์อย่างน้อยหนึ่งครั้ง"
อย่าลืมไป load โปรแกรมที่ปิดการส่งข้อมูลกลับนะครับ(ใน cydia) ไม่งั้นเครื่องคุณอาจะจเป็นหนึ่งในนั้น
ผมว่ายังไงก็ดีกว่า wm, symbian, java หลายคนไม่รู้ว่าของแท้ขายที่ไหน จะซื้ออย่างไร เช่นผมเป็นต้น
อคติทำให้คนรับเหตุผลด้านเดียว