หลังจากที่ Amazon ยอมให้สำนักพิมพ์ Macmilan ตั้งราคาขายอีบุ๊กสูงกว่า 9.99 ดอลลาร์ ทาง Amazon ได้ทิ้งท้ายไว้ว่า "จะให้ผู้บริโภคเป็นคนตัดสินเองว่า ราคาของ Macmilan นั้นสมเหตุสมผลหรือไม่ และหวังว่าสำนักพิมพ์อื่นๆ จะไม่ดำเนินรอยตาม Macmilan"
แต่สถานการณ์ที่เกิดขึ้นจริงเป็นไปในทางตรงข้าม เพราะสำนักพิมพ์ใหญ่อีก 2 แห่งคือ HarperCollins กับ Hachette ได้ประกาศขึ้นราคาแล้ว โดย Hachette ประกาศว่าราคาหนังสือจะอยู่ระหว่าง 5.99-14.99 ดอลลาร์ และถ้าเป็นหนังสือใหม่จะอยู่ที่ 12.99-14.99 ดอลลาร์
แน่นอนว่าการเปลี่ยนแปลงนี้เกิดขึ้นจากโครงสร้างราคาของ iBookstore แปลว่า iPad ยังไม่ออก แต่แอปเปิลก็เอาชนะ Amazon ไปได้ก่อนแล้วหนึ่งยก
ที่มา - Gizmodo
Comments
คิดไว้ไม่มีผิด เพราะยังไงสำนักพิมพ์เขาก็อยากได้กำไรอยู่แล้ว เพียงแต่ว่าจะอยู่ได้นานจริงๆหรือ อันนี้อยู่ที่ความต้องการของคนซื้อ
Apple<--Amazon<--Barn and Noble แอปเปิ้ลจะทลายระบบที่มีอยู่ได้หรือเปล่า?
ส่วนตัว : ซื้อหนังสือดีกว่า อย่างน้อยก็หนุนกบาลให้มันออสโมซิสเข้าไปในหัวหน่อยเผื่อจะสอบได้มั่ง :D
แอคทีฟทรานสปอทครับ
สังเกตุจากก๊าซที่ออกมาประกอบด้วย CO2 และแน่นอนว่า ความหนาแน่นของความรู้ในสมองย่อมน้อยกว่าหนังสือ ดังนั้น มันจะไหลออก...
ผู้ใช้เซงครับ ราคาเฉียดหนังสือจริงแล้วเนี่ย ถ้าไม่ติดว่าพกสะดวกกว่านี่คงแย่แน่นอน ซื้อสองเล่มอ่านสองคนไม่ได้ด้วยสิ
ส่วนตัวผมก็คิดว่าซื้อหนังสือดีกว่า อย่างน้อยมันก็ได้เป็นรูปธรรม แล้วผมรู้สึกว่ามันอ่านง่ายกว่าเยอะ
แต่e-book มันก็ดีที่ไม่รกบ้าน ไม่หนักกระเป๋า
แถมหนังสือที่เป็นรูปธรรมนี่มันมีคุณค่าต่อประวัติศาสตร์ด้วยนะ
Russia is just nazi who accuse the others for being nazi.
someone once said : ผมก็ด่าของผมอยู่นะ :)
อาราย ต้นทุนก็ต่ำกว่า ยังจะมีหน้ามาขายราคาเดียวกับหนังสือกระดาษ ...ชิ
ผมว่าซื้อความสะดวกมากกว่านะ จริง ๆ หนังสือตัวกระดาษมันไม่มีค่าเท่าไหร่หรอกครับ มันแพงตรงเนื้อหามากกว่า
@TonsTweetings
ค่ากระดาษ ค่าหมึกล่ะ ต้องจ่ายตังค่าพวกนี้เหมือนกันนะ
ใช้เลยคับหนังสือตัวแพงหลักๆก็นี้แหละคับ
หนังสือเรื่องเดียวกัน ปกบาง กับ ปกแข็ง ยังคนละราคากันเลยครับ
ส่วนตัวผมชอบเก็บเป็นหนังสือมากกว่านะ
ผู้บริโภคมีแต่เสียกับเสีย..
ตั้งราคาซะใกล้หนังสือจริง
แบบนี้ก็ยากที่จะเห็นความเปลี่ยนแปลง
+1
ข่าวดีคือผมอ่านหนังสือปีละไม่เกิน 8 บรรทัด ดังนั้น ต่อให้ขึ้นราคาสักเพียงไหนก็คงไม่ส่งผลกระทบ
อ่านแค่ข่าวนี้ก็เกิน 8 บรรทัดแล้วครับ (ฮาๆ)
:D
โครงสร้างราคาของ iBookstore เป็นยังไงเหรอครับ
ตั้งราคาตามสบายครับ
หนังสือส่วนมากจะราคา 10กว่า $ อยู่แล้ว
ราคา 9.99 ก็เหมาะสมกับ e-book แล้ว ปัจจุบันหนังสือ kindle หลายเล่มราคาเท่ากระดาษเลย kindle จะดับก็ตอนนี้แหละ
ผมว่า Amazon คงเสียวๆ ไม่กล้าตั้งราคาสูงเพราะต้องระวัง iTune จะมาถล่มตลาดหนังสือออนไลท์ เหมือนกรณีตอน mp3 หรือเพลงออนไลน์ที่ตอนแรกมีแต่คนคิดว่าไม่เกิดเพราะซื้อแผ่นดีกว่าในราคาใกล้ๆ กัน แต่เจอ iTune มาถล่มในราคาที่เหลือเชื่อจนปัจจุบันกลายเป็นแหล่งทำเงินอันดับต้นๆ ของวงการเพลงไปแล้ว ไม่อย่างนั้น ad ของ iTune กับ iPad คงไม่ไปโผล่ในงานแกรมมี่ที่ผ่านมาแน่ๆ
APPLE ที่น่ากล่ัวจริงๆ คงไม่ได้ใช่ iPad หรอก ไอ้ตัวนโยบายการขายของ iTune นั้นละที่น่ากลัวและน่าจับตามองที่สุด (แต่ผมยังโว็ตให้ iTune เป็นโปรแกรมที่เขียนออกมาได้อุบาทสุดๆ เหมือนเดิม คอนเซ็บดี แต่ใช้จริงยาก ลำบาก ช้า ใหญ่ หน่วง บักเพียบ)
กรณีนี้กลับกันคือ Kindle จำกัด 9.99 ส่วน iBookstore ให้อิสระครับ
ว่าเหมือนกันเลย "คอนเซ็บดี แต่ใช้จริงยาก ลำบาก ช้า ใหญ่ หน่วง บักเพียบ"
โปรกแกรมของ Apple บน windows ผมก็ไม่ค่อยอยากใช้เหมือนกันมันกินทรัพยากรเคื่องเยอะเกิน แต่บนถิ่นของมัน OS X ต้องยอมรับว่ามันดีกว่าของขาวบ้าน ผมว่า iTunes มันก็ไม่ได้ใช้ยากนะออกจะเรียบง่ายด้วยซ้ำ มีปุ่มให้แค่ 3 ปุ่ม โดยโปรแกรมตัวนี้ ผมว่ามันสะดวกด้วยซ้ำสำหรับคนมีเพลงเยอะๆ ค้นหาเพลงได้ง่ายดี
ราคานี้ผมรอให้มันแปลงเป็น pdf แล้วยัดลงเองดีกว่า
apple เป็นต้นเหตุให้ผู้บริโภคต้องจ่ายเงินแพงขึ้น..
จริงๆ ราคามันก็ไม่น่า fix หรือ limit อะไรแต่แรกล่ะนะ
แฟนพันธุ์แท้สตีฟจ็อบส์ | MacThai.com
ถ้าราคาแพงไป โอกาสของอุตสาหกรรม digital book คงไม่เกิดง่ายๆ แน่ครับ เหมือนกับ digital music ที่ค่ายเพลงตั้งราคาเอง ก้ตั้งแพง พอมี itunestore คุมราคาไว้ เลยได้เกิด