ในช่วงที่ผ่านมาเคยมีข่าวลือเป็นระลอกๆ ว่าแอปเปิลมีความสนใจที่จะทำธุรกิจเสิร์ชเอ็นจินของตัวเอง แต่ทาง Silicon Alley Insider ได้มีรายงานจากแหล่งข่าวนิรนามว่าจริงๆ แล้วแอปเปิลไม่มีความสนใจในเรื่องนี้เลย เพราะปัจจุบันก็มีรายได้จากกูเกิลปีละกว่า 100 ล้านเหรียญฯ เพื่อแลกกับการให้กูเกิลเป็นเสิร์ชเอ็นจินหลักของ iPhone OS
นอกเหนือจากเสิร์ชเอ็นจินแล้ว ทางแหล่งข่าวยังบอกด้วยว่าในเริ่มแรกที่มีการพัฒนา iPhone นั้นทางกูเกิลและแอปเปิลใช้เวลาเพียง 2 สัปดาห์เพื่อสร้างข้อตกลงต่างๆ และพัฒนาโปรแกรมแผนที่ใน iPhone OS ด้วยกัน แต่เมื่อ iPhone 3G ที่มี GPS ออกมา การเจรจากลับใช้เวลานานกว่าครึ่งปี เนื่องจากทางกูเกิลต้องการให้โปรแกรมแผนที่นี้สามารถใช้งานและเข้าถึงข้อมูลต่างๆ ได้เต็มที่เหมือนกับโปรแกรมบนเว็บของกูเกิลเอง ในขณะที่แอปเปิลยังต้องการความเรียบง่ายอยู่
อย่างไรก็ตาม ตัวเลข 100 ล้านเหรียญฯ เป็นเพียงเศษเสี้ยวของรายได้ปีละเกือบ 16 พันล้านเหรียญของแอปเปิล จึงไม่ง่ายที่จะสรุปได้ว่าแอปเปิลไม่สนใจที่จะทำเสิร์ชเอ็นจินเอง แม้ว่าข่าวนี้จะเป็นจริง
ที่มา - AppleInsider
Get latest news from Blognone
Follow @twitterapi
Hiring! บริษัทที่น่าสนใจ
Blognone Jobs Premium
Cloudnone
- NVIDIA จะไปหยุดที่ตรงไหน ทำไมครองโลกดาต้าเซ็นเตอร์ | Cloudnone EP.22
- ถึงคลาวด์เคราะห์: ทำอย่างไรเมื่อบริการคลาวด์ที่ใช้ถูกยกเลิก | Cloudnone EP. 21
- รู้จักอาชีพ Site Reliability Engineer สำคัญยังไง? | Cloudnone EP. 20
- อธิบาย CrowdStrike ทางเทคนิค ทำไมถึงทำพีซีจอฟ้าเป็นล้านๆ เครื่อง | Cloudnone EP.19
- Kubernetes [Part 2] ยี่ห้อไหนดี งานไหนต้องใช้ แล้วเลือกยังไง? | Cloudnone EP.18
Comments
Apple จะได้ผลประโยชน์อะไร ถ้าทำ Search Engine ของตัวเองครับ ?
เผื่อว่าอยากจะครองโลกแข่งกับกูเกิ้ลมั้งครับ XP
"Apple didn't enter the search business, but Google entered the mobile business."
ก็ไม่มีเหตุผลอยู่ดีครับกับการที่ Hardware/OS Company จะก้าวเข้าไปทำ search engine ที่สุดท้ายแล้วกว่าจะ success นี่ ลำบากยากเข็ญ
Apple มีเงิน มีมันสมอง แต่ไม่มีประสบการณ์ครับ ..
บล็อกของผม: http://sikachu.com
จะว่าบริษัทไหนก็ตามไม่มีประสบการณ์มันก็ฟังไม่ขึ้นนะครับ มันซื้อตัวบุคลากรเด่น ๆ กันเป็นว่าเล่น กูเกิลเองก็ไม่มีประสบการณ์ทำ Mobile OS นี่ครับ :)
@TonsTweetings
กูเกื้ลจะจ่ายทำไมอะครับ ในเมื่อคนส่วนใหญ่เเข้ากูเกิ้ลเป็น search engine หลักอยู่แล้ว
ผมว่ากูเกิ้ลมาได้ขนาดนี้เพราะมัน ดีที่สุด ไม่ใช่หรอครับ จะไปกลัวทำไมถ้าแอปเปิ้ลทำ engine เอง เหมือนมี bing เพิ่มอีกเว็บ?
คนส่วนใหญ่นี้ไม่ทุกประเทศนะครับ คนส่วนใหญ่ในไทย และอีกบางประเทศครั้บไม่ไช่ทั้งโลก
และเป็น search engine ของ OS ไม่ไช่ webbrowser
คนทั่วไปใช้ search engine อะไรก็ตามที่เป็น default ต่างหากล่ะครับ.... ถ้า bing เป็น default เขาก็ใช้ bing... ถ้า google เป็น default ก็ใช้ google
คนทั่วไปเปลี่ยนไม่เป็นหรอกครับ มีแต่พวกบ้าพลังเปลี่ยน ie เป็น firefox เท่านั้นแหละ
ผมเข้าใจว่าคนที่ไม่ค่อยเชี่ยวชาญเรื่องคอมจะเข้าเว็บของกูเกิ้ลเอานะครับ ไม่ได้ใช้ช่อง search
แต่คนทั่วไปเข้า google.co.th นะ (ฮา)
ผมเบื่อเว็บที่บังคับ Locale จริง ๆ เลย แต่ก็เข้าใจนะว่าการทำแบบนี้มันตอบสนองตลาดส่วนใหญ่มากกว่า แต่รำคาญจริง ๆ วันนั้นกว่าผมจะโหลด Messenger Live เวอร์ชั่น UI เป็นภาษาอังกฤษนี่ไม่ง่ายเลยจริง ๆ
@TonsTweetings
+100
จริงๆ ทำให้เห็นและเปลี่ยนง่ายๆ แบบ Firefox ก็น่าจะดี (แต่ผมโหลดผิดก็หลายครั้งอยู่)
+1 555+
โดนมากครับ :D
มันมีให้ติ๊กเลือกภาษาที่คอมโบบ๊อกซ์เหนือปุ่ม download นี่ครับ
ลองดูได้ :) http://download.live.com/
เหตุผลเดียวกับว่า ทำไมกูเกิลจ่ายเงินให้ Firefox, Safari, Opera ครับ
รวมถึงเป็นเหตุผลเดียวกับว่า ทำไมกูเกิลต้องทำ Chrome เองด้วย
นั่นคือ ล็อคให้คนเข้ากูเกิลให้มากที่สุด นานที่สุด เท่าที่เป็นไปได้ครับ
ถูกต้องครับ Google เชื่อใจ strategy นี้มาตั้งแต่แรกๆแล้ว เพราะ Google ทำมานานแล้วมันได้ผลซะด้วย อย่างน้อยก็กับผมคนนึงละ
ผมมั่นใจว่าผมเป็นคนกลุ่มแรกๆในไทยที่ใช้ Google เพราะมัน default มากับ Opera ที่จริงนานเหมือนกันกว่าผมจะลองใช้เพราะตอนนั้นเชื่อว่า ของที่มัน offer มากับ browser มันต้องห่วยแน่ๆ หลักจากนั้นซักพักใหญ่ กว่าจะเริมมีคนพูดถึง เริมมีกระทู้แนะนำ Google ตาม webboard(จำไม่ได้ว่าใช้มานานแค่ไหนแล้ว เอาเป็นว่าผมไม่เคยใช้ IE จาก netscape ผมก็เปลี่ยนเป็น Opera เลย)
ความไม่กลัว นำไปสู่ความพ่ายแพ้ครับ
รู้สึกว่า หน้าตาของ google อัน Vancouver 2010 มีมีกลิ่นอายของแรงบันดาลใจจากบางเว็บนะ
ผมว่ามันก็ถูกต้องตามหลักการตลาดและธุรกิจอยู่แล้ว เมื่อมันเป็น Default ลูกค้าที่ไม่ค่อยเป็นพวก Tech-savvy เท่าไหร่ก็ไม่ค่อยสนอยู่แล้ว ก็ใช้ Default ไปกันหมด
คือจ่ายให้เพื่อทำให้เป็น Default จากนั้นก็ได้ขายโฆษณาต่อตามมา มันก็คุ้มนะครับ :)
@TonsTweetings
ผมว่าถ้าเป็นตอนนี้ยังคงไม่ใช่ช่วงเวลาปล่อยของ ถ้าเมื่อไหร่ที่ Apple มีส่วนแบ่งการตลาดของ iPad กับ iPhone ได้มากขึ้น ไม่ได้จำกัดผู้ให้บริการในแต่ละประเทศ เมื่อนั้นอาจจะถึงเวลาก็ได้
วันหนึ่งเราอาจจะเห็นช่อง URL ของ Safari เป็นเหมือน Chrome ในตอนนี้ก็ได้
โอ้ว.. มันก็อาจจะสมเหตุสมผล
เช่นเวลาเข้า ie ผมยังหาที่เปลี่ยน Bing เป็น Google ไม่เจอเลย - -'
(มิน่าถึงเคยมีขู่ว่าจะเปลี่ยนจาก Google ไป Bing บน iPhone)
ที่ผมสนใจอีกอย่างคืออยากรู้ว่า
รายได้ของ Google ที่ได้มาจากการผูกตัวเองไว้กับ iPhone จะมีมูลค่ามากเท่าไหร่.. ?
"16 พันล้านเหรียญ" ภาษาไทยน่าจะเขียนว่า 16,000 ล้านเหรียญ หรือ 1.6 หมื่นล้านเหรียญ น่าจะดีกว่านะครับ
+1
+1
แฟนพันธุ์แท้สตีฟจ็อบส์ | MacThai.com
+1
หรือหนึ่งหมื่นหกพันล้านเหรียญ
onedd.net
+1 เห็นรณรงค์ให้เขียนคำภาษาไทยกัน ก็น่าจะเขียนจำนวนเงินแบบไทยด้วยนะครับ
+1 อีกหนึ่งเสียงครับ
Oh. Sorry krub. Could any admin correct that for me please? I will unable to access the Internet with my desktop until Sunday evening krub. (I tried but I have trouble to edit it on my phone)
อันนี้ผมเห็นแย้งครับ ด้วยเหตุผลในการเทียบหน่วย
คือภาษาไทยไม่มีหน่วย "พันล้าน" ดังนั้นอะไรที่มากกว่า "ล้าน" ขึ้นไป มันจะมีปัญหาเวลาตัวเลขเยอะๆ เช่น
ถ้าเขียนเป็นภาษาไทยด้วยตัวเลขผสมหลักแบบที่ว่า จะเป็น
เวลาดูเร็วๆ 1.2 มันน้อยกว่า 1.5 นะครับ อันนี้เป็นตัวอย่างแค่ 2 จำนวน ถ้าในเนื้อหามีเลขสัก 7-8 ชุดนี่แปลงหน่วยกันอ้วกแตก
แต่ถ้าล็อคด้วยหน่วย "พันล้าน" มันจะเป็น
โอเค 120 มากกว่า 15 จบ คือหน่วยเท่ากันอยู่แล้ว ไม่ต้องคิดมาก
จริงๆ แล้วหน่วย "พันล้าน" ใช้กันเป็นปกติในแวดวงเศรษฐกิจและการเงิน แต่ถ้ามีโซลูชันที่ดีกว่านี้ก็เสนอมาได้ครับ แต่ผมคิดออกแค่นี้อะ
ผมเห็นว่า 16000ล้านเหรียญ เข้าท่ากว่าครับ
คือมันเป็นหลักการอ่านแบบไทยนะครับว่าเรามีหน่วยทุกหลัก
ต่อให้เป็น หมื่นล้านล้านล้าน เราก็ออกเสียงกันอย่างนี้
เขียนล็อคหลักมันอ่านลำบากเปล่าๆ เพราะภาษาไทยออกแบบมาแบบนี้
ผมก็ไม่เห็นด้วยกับการเขียนแบบ 1.6 หมื่นล้านเท่าไหร่ แต่มันก็ใกล้เคียงภาษาเรามากกว่าน่ะครับ
Are you serious? "บริษัท A มีมูลค่า 120,000 ล้าน จ่ายเงินให้บริษัท B เป็นเงิน 15,000 ล้าน" is "บริษัท A มีมูลค่า 1.2 แสนล้าน จ่ายเงินให้บริษัท B เป็นเงิน 1.5 หมื่นล้าน"? I remember that it could have been (หนึ่งแสนสองหมื่นล้าน) and (หนึ่งหมื่นห้าพันล้าน). So I don't see anything wrong of using Thai's standard way to read huge numbers. American doesn't use (หลักหมื่น) as in Thai as what I know.
As a result, I'd rather support the use of SI unit(which is a scientific standard way) in any case.
อยากให้ไทยมีหน่วยพันล้านเหมือนกัน ไม่งั้นอ่านข่าวเศรษฐกิจทีไร ลำบากทุกที
จริงๆ แล้วเขียนได้ทั้งสามแบบนะครับ
(1) 16,000 ล้านเหรียญ
(2) 1.6 หมื่นล้านเหรียญ
(3) (คำอ่าน) หนึ่งหมื่นหกพันล้านเหรียญ
เนื่องจากภาษาไทยมีหลักหมื่น ถ้าเขียน 16 พันล้านฯ จะเกิดความกำกวมครับ (ต้องคิดหลายตลบ แล้วก็ผิดหลักภาษาไทยด้วย) ถ้าเราเขียน 1.2 แสนล้านเทียบกับ 1.5 หมื่นล้าน ก็ไม่มีความกำกวมตรงไหน ถ้าผู้อ่านไม่อ่านให้รอบคอบก็ถือว่าเขาอ่านผิด คนเขียนไม่ได้เขียนผิดนะครับ
มันจะมีปัญหาเวลาเป็นเศษยาวๆ น่ะครับ เช่น 123,400 ล้านเหรียญ ผมควรเขียนเป็น 1.234 แสนล้านเหรียญ หรือ 123.4 พันล้านเหรียญ?
ผมคิดว่า ก็ต้องเขียน "123,400 ล้านเหรียญ" น่าจะดีที่สุดเพื่อความชัดเจนสำหรับผู้อ่าน แต่เขียน "1.234 แสนล้านเหรียญ" ก็ไม่ผิดอะไร แล้วก็ไม่ได้ยาวกว่า แต่ถ้าเขียน "123.4 พันล้านเหรียญ" ซึ่งมีความยาวเท่ากัน แต่ความกำกวมเพิ่มขึ้นเป็นสองเท่า (ลองคิดถึงคนที่ไม่ชินกับภาษาอังกฤษ เขาต้องคิดก่อนหลายตลบ) นอกจากไม่ทำให้ชัดเจนขึ้น ยังผิดหลักภาษาไทยนะครับ น่าจะมีคนลองตรวจสอบกับราชบัณฑิตฯ เรื่องนี้ เพื่อความชัดเจน
อืม....
งั้นลองเขียน 0.1234 ล้านล้านเหรียญ?
+1
ผมว่าใช้ 16,000 ล้านเหรียญฯ ดีกว่าครับ ได้ common sense กว่าเยอะครับ
ในชีวิตประจำวันมีใครพูดรึเปล่าครับว่า
"ฉันซื้อ Iphone มา 26 พันบาท (26000 บาท) "
" งบประมาณรัฐปีนี้คาดว่าจะอยู่ที่ 22000 พันล้านบาท (2,200,000 ล้านบาท) "
" ไตรมาสแรกของปี2010 ประเทศสหรัฐฯ ดุลการค้าเกินดุลอยู่ 120 พันล้านเหรียญฯ ( 12,000 ล้านเหรียญฯ)"
+1
+2
22000 พันล้าน เค้าก็เรียก 22 ล้านล้านแล้วครับ -*-
อคติทำให้คนรับเหตุผลด้านเดียว
กลายเปนกระทู้พูดเรื่องเงินกันซะแล้ว
แต่ข่าวก็พูดถึงแต่เรื่องเงินครับ (แซวเฉย ๆ ครับ)
ใช้ พันล้าน หมื่นล้าน ดีกว่าครับ มันคุ้นเคยมากกว่าใช้หลักล้านเฉยๆ ดูตัวเลขไม่เยอะดี ไม่รกด้วย
เรื่องหน่วยนับ ผมเห็นด้วยว่าควรจะมี convention สำหรับการเขียนข่าวนะครับ ส่วนจะเป็นอะไร เดี๋ยวจะไปตั้งประเด็นถกกันต่อใน group ครับ