เรารู้กันมานานแล้วว่าอินเทอร์เน็ตกำลังเป็นสื่อที่ทรงพลังมากขึ้นเรื่อยๆ แต่คำถามคือมันทรงพลังซักแค่ไหนกันในวันนี้ ผลสำรวจล่าสุดจาก Pew Internet and American Life Project ชี้ให้เห็นว่าอินเทอร์เน็ตเพิ่งแซงหน้าหนังสือพิมพ์ (แบบรูปเล่ม) ไปแล้วในสหรัฐฯ
ขณะที่สถานีโทรทัศน์ทั้งท้องถิ่นและระดับชาติยังคงครองอันดับหนึ่งและสองของสื่อที่ชาวอเมริกาบริโภคมากที่สุด อินเทอร์เน็ตก้าวขึ้นมาเป็นที่สาม และผลักหนังสือพิมพ์ลงไปเป็นอันดับสี่
ตัวเลขที่น่าสนใจอื่นๆ คือผู้บริโภคข่าวทางอินเทอร์เน็ตมักจะบริโภคผ่านสื่ออื่นๆ ด้วยร้อยละ 59 และร้อยละ 21 ของผู้บริโภคข่าวผ่านอินเทอร์เน็ตจะบริโภคผ่านเว็บเพียงเว็บเดียว ส่วนผู้ที่ไม่บริโภคข่าวทางอื่นเลยนอกจากอินเทอร์เน็ตจะมีสัดส่วนการมีส่วนร่วมไม่ว่าจะเป็นการแสดงความเห็น, การเขียนข่าวด้วยตัวเอง, หรือกระทั่งนำข่าวไปพูดคุยต่อในทวิตเตอร์และเฟชบุ๊กสูงถึงร้อยละ 37
เป้าหมายต่อไปคือทีวีสินะ
ที่มา - ArsTechnica
Comments
ทิศทางของ internet ในอีก 2-3 ปีข้างหน้าจะเป็นยังไงนะ ?
โดยส่วนตัวแล้ว ทุกวันนี้ Internet ก็เป็นสื่ออันดับ 1 ในใจผมแล้วล่ะ
แต่ไม่รู้ว่า กับโลกที่มีคนต่างวัย ต่างทัศนคติ ต่างสิ่งแวดล้อม และ หลายสิ่งหลายอย่าง จะเป็นไปได้มั๊ย ที่ Internet จะโตขึ้นเป็นอันดับ 1 น่าคิดนะครับ...
ถ้าการเล่นเน็ตง่ายเหมือนทีวี
(เปิดปุ๊ป พร้อมเล่นได้เลย)
การที่จะชนะทีวีก็ไม่ยาก
iPad
อคติทำให้คนรับเหตุผลด้านเดียว
มือถือทุกวันนี้ก็ปุ๊ปปั๊ปพอแล้วนะ (สำหรับผม)
อืม อีกหน่อยคงไม่มีหนังสือพิมพ์
ชัวร์
อีก 20 ปี ทุกอย่างใช้ผ่าน Internet อิอิ
ในต่างประเทศมันมาแรงมากๆครับ ... แต่ยังตีทีวียากอยู่นะครับ ต้องฟัดกันหลายยกหน่อยครับกว่าจะเอาอยู่ วิธีการชนะคือต้องดึงเอาทุกอย่างที่ทีวีมีมาลงในเน็ตให้ได้ครับ ... พวกดารา นักข่าว ผู้กำกับ Series ฯลฯ ครับ
ปล.ส่วนไทยน่าจะตามนั้น ... แต่ช้ากว่าประมาณ 50 - 100 ปีครับ
ขอบคุณครับ สวัสดีครับ
ผมว่าหลายคนในนี้รวมถึงหลายคนในเมือง อินเทอร์เน็ตเป็นอันดับ 1 แล้วด้วยซ้ำ ผมเองก็คนนึงนะ เพราะอินเทอร์เน็ตมันเป็นอะไรที่ on-demand มาก ใครๆ ก็อยากดูสิ่งที่ตนเองต้องการ ไม่มีสื่อใดมาสู้ได้เลยตรงนี้
แต่เผอิญว่าผลสำรวจที่ดูทั้งประเทศ มันวัดเฉพาะคนในเมืองไม่ได้ ต้องเฉลี่ยๆ กันไปกับคนทั้งประเทศ สถานีโทรทัศน์ช่อง 7 สีจึงครองใจประชาชนชาวไทยตลอดการ (ทั้งๆ ที่คนในเมืองกรุงแทบไม่ดู นอกจากมีถ่ายกีฬา :P) ถ้าอินเทอร์เน็ตเข้าถึงได้ง่ายพอๆ กับหยิบหนังสือพิมพ์อ่านในร้านอาหาร หนังสือพิมพ์เมืองไทยม้วนเสื่อแน่
ผลนี้น่าสนใจ แสดงว่าอเมริกาเนี่ยอินเทอร์เน็ตเรียกว่าแทบจะครอบคลุมแล้วจริงๆ
"หนังสือพิมพ์กำลังจะตาย?"
คำถามนี้ต้องทวนซ้ำอีกครั้งหนึ่ง
แต่บริษัททำหนังสือพิมพ์ยังไม่ตาย เพราะสุดท้ายไม่ว่าสื่อไหน คนก็บริโภคเนื้อหาอยู่ดี
น่าจะ "เสื่อมความนิยม"
แต่ไม่ตายเร็วๆ นี้แน่นอน
เมื่อครั้งมีทีวี ตอนนั้นก็คงคาดว่าวิทยุจะตาย
อคติทำให้คนรับเหตุผลด้านเดียว
แต่ก็เสื่อมลงไปมาก ไม่ใช่สื่อหลักทรงอำนาจเช่นเดิมอีกต่อไป
lewcpe.com, @wasonliw
ครับ คงจะเหมือนกัน หนังสือพิมพ์ กลุ่มผู้บริโภคหลักเปลี่ยนไป ไปยังผู้ที่ไม่สะดวกใช้เน็ต หรือเฉพาะจุดที่ไม่สะดวกใช้เน็ต
อคติทำให้คนรับเหตุผลด้านเดียว
ไม่ตายหรอกครับ เพียงแต่เปลี่ยนจากกระดาษมาเป็นสื่ออื่น ๆ เท่านั้นเอง
เช่น ebook reader
ถ้าในเมืองไทยก็สู้ทีวียากหล่ะ
ง่ายกว่ากันเยอะ
ไทยเอาแค่ 3G ให้ครอบคลุมก่อนแล้วกันครับ เมื่อไม่กี่วันที่แล้วได้เดินทางไปเชียงใหม่แล้วมีเรื่องต้องใช้อินเตอร์เนตมือถือก็ต่อได้แต่สัญญาณมีแค่ระดับ gprs กว่าจะโหลดเว็บได้หน้านึงหลับได้ตื่นนึงพอดีแถมไม่พอตื่นมา Page error อีกต่างหาก
ตอนนี้ข่าวบนอินเทอร์เน็ตยังฟรีอยู่ครับ ถ้าไม่ฟรีเมื่อไรผมว่าคนก็อาจจะกลับไปบริโภคหนังสือพิมพ์เหมือนเดิมก็ได้ ขนาดผมอ่านข่าวบนเน็ตอยู่ทุกวันแต่ก็ยังอ่านหนังสือพิมพ์อยู่เหมือนเดิม ข้อดีมันก็เยอะแยะนะครับ นึกอยากอ่านเมือไรก็หยิบมาอ่านไม่ต้องรอบู๊ตเหมือนคอม ไม่ต้องคอยดูแลรักษามาก เข้าห้องน้ำก็ถือไปอ่านได้ พับเก็บให้เล็กสุด ๆ ก็ได้ กางออกมาก็ได้ ฯลฯ
Internet สื่อสารได้ถึงคนทั่วโลก
แต่ทีวีทำไม่ได้
ห้องพักผมมีแต่คอม+เนต แต่ไม่มีทีวี
ไม่ต้องเลือกเลยว่าจะบริโภคข่าวจากที่ไหน ^^a
ทุกวันนี้ก็ยังซื้อหนังสือพิมพ์อ่านอยู่ครับ แต่รู้สึกว่าบางกว่าสมัยฉบับละ 5 บาท เยอะ...เลย
เพราะเข้าถึง Internet นอกสถานที่ความเร็วยังไม่ค่อยทันใจเท่าไหร่ = =
ถ้าบ้านเราเล่นอินเตอร์เน็ตกันซัก 80% ของครอบครัวทั้งหมดในประเทศ
คงได้เห็นตัวเลขจริงๆซักที
ผมเป็นหนึงในจำนวนคนที่รอวันหายนะของอำนาจสื่ออย่างหนังสือพิมพ์และทีวี
ตั้งแต่อยู่มหาลัย มี Wi-Fi ให้เล่น ชีวิต ก็มีแต่คอม+เน็ต ทีวี ลืมไปได้เลยยย
ปล. แต่เพื่อนผมก็ยังดูช่อง 3 5 7 9 nbt & Tpbs อยู่นะ แต่ก็ผ่านเน็ต :p
@ Virusfowl
I'm not a dev. not yet a user.
สื่อสิ่งพิมพ์เดี๋ยวนี้ นอกจากจะช้าแล้ว ความน่าเชื่อถือยังลดลงอีก twitter กับ facebook ทำให้เรารับข้อมูลจากแหล่งข่าวโดยตรงเลย ..รับผ่านสื่อ เพี้ยนได้ง่าย เจ้าของสื่อบางคน tweet บิดข้อมูลซะเพี้ยนเลย ..อะไรฟะ ไอ้เราก็เห็นข้อความเหมือนแก แกเล่นเอามาเสี้ยมต่อซะเพี้ยนหมดเลย ..เช็คจากแหล่งข่าว โดยตรงเลยดีกว่าเยอะ
ผมว่าแหล่งที่มาจากออนไลน์ ยังไม่น่าเชื่อถือมากเท่าสื่อเก่าครับ