บริษัทวิจัย MM Research Institute ในญี่ปุ่น รายงานตัวเลขยอดขาย iPhone ในรอบปีล่าสุด (มีนาคม 2009-มีนาคม 2010) ว่าอยู่ที่ 1.69 ล้านเครื่อง ถ้ารวมทั้งหมดตั้งแต่เริ่มวางขายในเดือนกรกฎาคม 2008 ขายออกไปได้แล้ว 2.3 ล้านเครื่อง
ตัวเลขนี้ทำให้ iPhone มีส่วนแบ่งตลาดสมาร์ทโฟน (เฉพาะสมาร์ทโฟน) ถึง 72% ของตลาดญี่ปุ่น โดยทิ้งอันดับสอง HTC 11% และโตชิบา 6.8% ไกลลิบ ทาง MM ประเมินว่ายอดขาย iPhone ของญี่ปุ่นน่าจะคิดเป็น 5.6% ของยอดขาย iPhone ทั้งโลก
อย่างไรก็ตาม ในปี 2010 การแข่งขันจะเข้มข้นมากขึ้น เพราะ SoftBank ผู้นำเข้า iPhone แต่เพียงรายเดียวของญี่ปุ่นได้นำ Android เข้ามาขายแล้ว รวมถึง DoCoMo และ KDDI ผู้ให้บริการอันดับหนึ่งและสองของประเทศเช่นกัน
ที่มา - BusinessWeek
Comments
เอ๊ะ แล้วตอนนั้นใครบอกผมว่า "ไอโฟนตายตั้งแต่เปิดตัวในญี่ปุ่นแล้ว"
แสดงตัวด่วน
Pitawat's Blog :: บล็อกผมเองครับ
อีกคำก็คือ ญี่ปุ่น - ที่ซึ่ง iPhone ถือเป็นผลิตภัณฑ์ที่ "ล้าสมัย"
พึ่งรู้ว่ามันดีกว่าที่ใช้ๆ กัน อยู่น่ะสิ เลยใช้กันใหญ่
แรว๊ง
มือถือญี่ปุ่น เค้าไม่ใช้สมาทโฟนขอแบบถูกๆแต่ทำได้ทุกอย่างรึป่าว เหอๆ
{$user} was not an Imposter
เห็นเมื่อก่อนเมินกันนิ รึว่าพอkonamiออกlove plusโอตาคุเลยเเห่กันไปซื้อ
+1 เกมนี้เค้าแรงจริง
+1 เวอร์ชั่นนี้ภาพสวยกว่า แถมมีโหมดถ่ายรูปคู่กับสาว ๆ ด้วย AR Code ด้วย
เสียดายข่าวออกหลังจากที่ผมซื้อ Milestone ไปแล้ว ไม่เป็นไรผมรอเล่นภาค + ล่ะกัน ซื้อพร้อมเครื่องไปเลย
My life and hobbies blog!
Technology and Gadget blog!
เสริมภาพกราฟให้ครับ จะได้เห็นภาพชัดขึ้น เผอิญแวะไปเจอพอดี
อันนี้นับเฉพาะตลาดสมาร์ทโฟน ไอโฟนเขมือบไปค่อนตลาด - -
อันนี้ตลาดโดยรวมทั้งหมดครับ (ซึ่งผมว่าแอปเปิลก็ทำได้ดีมาก ที่มาแป๊บเดียวก็มีส่วนแบ่งเยอะพอตัว)ส่วนยักษ์ใหญ่ยังคงเป็นชาร์ป พานาโซนิก แล้วก็ฟูจิตสึ!)
ที่มา:
http://asiajin.com/blog/2010/04/23/iphone-2009-takes-4-9-share-in-japan/
http://www.m2ri.jp/newsreleases/main.php?id=010120100422500
bb ตีไม่เข้า เพราะ feature phone ก็พิมพ์กันมือหงิกอยู่แล้วรึเปล่านะ
อคติทำให้คนรับเหตุผลด้านเดียว
ช่งยแปลหน่อยได้ไหมครับ ว่าพวกสีเหลือ สีแดง มันของอะไร
สีแดงชาร์ป สีเหลืองพานาโซนิค ครับ :)
สีน้ำเงินโซนี่อิริคสันขายได้เท่าแอปเปิ้ลเลย
ส่วนคาสิโอขายสีฟ้าได้เท่าโตชิบ้าสีเขียวและก็เท่าแอลจีเลย ผมแทบจะไม่เห็นของคาสิโอสักเท่าไหร่นะครับแปลกดี (เห็นมีแต่กล้องดิจิตอลที่ขายดี)
สีแดง : ชาร์ป
สีเหลือง : พานาโซนิค
สีชมพู : ฟูจิทสี
สีฟ้า : NEC
สีเขียว : เคียวเซร่า
สีน้ำเงิน : โซนี่อีเลคสัน
สีชมพู : ผลไม้
สีเขียวแก่ : โตชิบา
สีน้ำทะเล : คาสิโอ
สีส้ม : LG
สีเทา : อื้นๆ (ที่เห็นๆ เช่น Nokia, Samsung, iMoble กระมัง ที่เห็นๆ วางขายอยู่ด้วยเหมือนกัน)
ผมอยู่ในญี่ปุ่นครับ iPhone ขายดีมาก เปลี่ยนมาใช้ iPhone เหมือนกัน
แต่ก่อนใช้ docomo แต่ softbank ทำโปรได้เร้าใจมาก เลยเปลี่ยนสองเครื่องเลย
ของตัวเองกับของแฟน แถมย้ายค่ายได้ส่วนลดพิเศษบวกกับไม่ต้องเปลี่ยนเบอร์ ยกเลิกโปร docomo
แล้วเอาเบอร์มาใช้กับ softbank ได้ภายใน 15 นาที ไม่ต้องห่วงเบอร์ในเครื่องเก่า เขาบริการย้ายเจ้าเครื่องใหม่ให้อีกครับ
มือถือญี่ปุ่นทำได้ทุกอย่าง multitouch ก็ทำได้ แต่มาแพ้เรื่อง application นี่หละครับ ที่มีจำกัด
ไม่หลากหาย ไม่ฟรีด้วย
สิ่งที่iphone แพ้คือดูทีวีไม่ได้ แต่ไม่สามารถใช้เป็นกระเป๋าตัง electronic ได้เหมือนเคริ่องอื่นๆ
ตอนนี้ Xperia กำลังมาแรง หลายๆคนเริ่มใช้ละครับ
แต่ที่ทำงานในแผนกผม ทุกคนใช้ iPhone หมด
เป็น comment ที่ดีมากเลย เห็นภาพเลยครับ ;)
my blog
ช่ายๆ ขาย DMB Suica และ ก็แอพที่เชื่อมต่อทุกอย่าง แอพอ่าน QR code ก็ไม่มีมาพร้อมเครื่อง ถ้ามีครบนะ แบตทนๆ รุ่งแน่ๆ
apple ไม่ปรับ iphone สำหรับขายในญี่ปุ่นเลย ทีขายในจีนถอด wifi ออกตามรัฐบาลจีนสั่งทันที
แสดงว่าถึงมี ต้องมี iPhone ก็ต้องมีเครื่องที่ 2 ไว้ใช้ RFID, QR, ดูทีวี หรือเปล่าคับ
{$user} was not an Imposter
ขนาดในเรื่อง summer wars ยังมี iphone เลย
+1 Key Item ด้วย
แถมบทเด่นด้วยสิ Evil สมใจคนแถวนี้เลย ฮา
เรื่อง Games ด้วยละมั้ง
ปล ปากกาหักกันไปหลายคน - -
ก็ว่างั้นแหละ แต่ก่อนก็พูดกันจังว่ามือถือญี่ปุ่นดีนักหนา ถือว่าไอโฟน ล้าสมัยไปเลย ทีเดียว
ไปหากระทู้เก่าดีก่า ขุดๆๆ
จำนวนเกมของเค้าก็มีผลนะ ผมว่าไอโฟนเล่นเกมดีใช้ได้เลย
ได้ข้อมูลจากกระทู้ด้านล่าง ผมก็ยังคิดว่า iphone ยังล้าสมัยในญี่ปุ่นอยู่ดี
เมื่อก่อนรู้สึกงั้น แต่ตอนนี้ ไม่อยากได้มือถือโง่ๆ ของญี่ปุ่นอีกแล้ว แพงสะป่าวทำได้แค่นี้หรอ
ไม่ต้องรีบดี้ด้าหรอกครับ ตอนนี้ขี้โรคเองก็เริ่มแผวแล้ว เพราะเจ้าอื่นๆ เสป้คดีกว่าง่ายกว่าราคาบางรุ่นถูกกว่า ทยอยออกมาแล้วเพิ่งเริ่มขายคนกำลังเห่อให้มันบูมยาวๆ ค่อยดี้ด้าก็ยังทันครับ
ปล.แต่เห็น Xperia (SO-01B) แล้วอยากได้แหะ....
แต่ IS01 กะ IS02 ของชาร์ปก็สวยแหะ
นี่ขนาดเริ่มแผ่วนะ ไม่รีบ ดีด้าจนเบื่อ
ผมว่าไม่ใช่ดีด้านะ แต่"บูชา"มากกว่า
ประเด็นมันอยู่ที่คนส่วนมากเค้าไม่ใช้ smart phone มากกว่ามั้งครับเพราะรู้สึกว่าโทรศัพท์ธรรมดาในญี่ปุ่นก็ตอบโจทย์ได้เยอะสุดๆ แล้ว ส่วนตัวผมไม่เคยเล่นแล้วก็ไม่รู้มันทำอะไรได้บ้างนะรู้แต่ต้องใช้โอเปอร์เรเตอร์เฉพาะด้วย
แต่กินตลาดญี่ปุ่นได้ขนาดนี้ก็ไม่ธรรมดาแล้ว
ตอนนี้แต่ละ โอเปอร์เรเตอร์ ใช้เครือข่ายคนละแบบกันหมดคับ มีแค่สิ่งที่เหมือนกันอยู่คือ Suica DMB และข้อมูลจากรัฐหรือเอกชนที่จะเสนอให้กับทุกเครื่อง ที่เหลือก็ Service บน network ในชอบอันไหนใช้อันนั้น
รับทราบครับ แต่ก็ไม่ค่อยเข้าใจอยู่ดี ^^
ที่ว่าไม่ค่อยเข้าใจหมายถึงไม่ค่อยรู้จัก service ของญี่ปุ่นนะครับอย่าเพิ่งเข้าใจผิด
ว่าแต่ตลาด smart phone นี่ SE แป้กเลยแฮะ รองโหล่จากซัมซุงเลย ขนาดตลาดรวมยังได้เยอะกว่า Apple นิดเดียวเอง
ไทย bb กินขาด
ผมว่าเริ่มเห็น iPhone เยอะ ใกล้เคียง กับ BB แล้วนะ
ส่วนใหญ่...
ผู้เคยใช้ feature phone -> BB
ผู้เคยใช้ smart phone -> iPhone
ผู้เคยใช้ feature phone ->
ผู้เคยใช้ smart phone -> iPhone, Blackberry เหอะ
ให้ iPhone มีคนใช้มากเท่า Blackberry ยังไง ผู้ให้บริการก็แฮปปี้จะขาย Blackberry มากกว่าอยู่ มัน out ไปแล้ว iphone
มือถือส่วนมากใน Japan เป็น Featured phone ครับ ขายกันที่ Content
มันเลยไม่ได้จัดเป็น Smartphone
ที่จริง กราฟคุณ raindrop ชัดเจนอยู่แล้ว แต่มีบางคนทำเหมือนไม่เห็น :P
แล้วถ้าเข้าไปอ่านข่าวต้นฉบับจะเห็นว่า smartphone คือมือที่ ที่ run บน OS ต่อไปนี้เท่านั้น
Symbian OS, Windows Mobile, Windows Phone 7, iPhone OS, Android, BlackBerry OS, Palm OS and Palm WebOS
OS สัญชาติญี่ปุ่นจึงไม่อยู่ใน smartphone เลย
ถ้าวัดที่ marketshare โทรศัพท์ทั้งหมด Apple มีแค่ 4.9% แค่นั้น ยี่ห้อเจ้าตลาดคือ Sharp, Panasonic , Fujitsu, NEC ที่รวมๆกินไป 60-70% แล้ว
ผมว่าทุกคนเห็นกราฟนั้นนะครับ แต่บริษัทต่างชาติที่เข้าไปทีหลังแต่กินส่วนแบ่งได้ขนาดนี้ก็เยอะมากๆ นะครับสำหรับญี่ปุ่น
อคติทำให้คนรับเหตุผลด้านเดียว
ถูกต้องครับ
อ่านความเห็นบางคนแล้ว ก็แสดงความเป็นแฟนบอยซะเหลือเกิน
i-phone ที่ญี่ปุ่น ไม่ได้ดีขนาดนั้นหรอกครับ
ทาง softbank เองก็ทุ่มโฆษณาซะเหลือเกิน
แล้วก็อย่างที่บอก ว่าตลาด smart phone ในญี่ปุ่น เพิ่งจะเริ่มบูม โดนเริ่มต้นที่ i-phone นี่แหละ (ก่อนหน้านี้ ไม่ได้มีการโปรโมตอะไร)
จากการที่ softbank เอง ก็เริ่มนำ android เข้ามาด้วย
ศึก smart phone ในญี่ปุ่น พูดให้ถูกคือ "เพิ่งจะเริ่มต้น" มากกว่า รอดูไปก่อน สงครามเพิ่มเริ่ม ก็จะมาประกาศชัย มันเร็วไป
โรงเรียนผมนี่ ทั้งโรงเรียน เห็นอาจารยฺ์ใช้ i-phone อยู่คนเดียว (กับผมอีกคน รวมแค่ 2 คนล่ะนะ)
ในทางตรงข้าม โรงเรียนเก่า(โรงเรียนสอนภาษา) กับตอนไปทัวร์สกีนักเรียนไทย ใช้ i-phone กันตรึมทีเดียว
i-phone สำหรับคนญี่ปุ่นเอง ยังจัดว่าเป็นของใหม่อยู่ และคนยังไม่รู้จัก smart phone เองก็มาก
ในขณะเดียวกัน ก็มีข้อจำกัด ของความสามารถ i-phone ที่ยังตอบสนองให้คนญี่ปุ่นได้ไม่ครบ (ดังที่ท่านข้างบนว่าไว้ด้วย) เช่น เอาข้อมูลบัตร suica ใส่ไม่ได้, ดูทีวีไม่ได้, อ่าน QR code ลำบาก (จนบัดนี้ เครื่องผมยังอ่านไม่ได้เลย โหลดโปรแกรมมาแล้วนะ แต่มันถ่าย QR code ถ่ายยังไง ก็ไม่ชัด อ่านยังไงก็ไม่ได้)
แต่กราฟท่านข้างบนนั่น ก็เห็นแล้วเคลียร์ดีจริงๆ
แต่ก็ยังมีบางคนที่... ซะยังงั้น ออกนอกหน้ากันจริงๆ
งั้นผมขอมองโลกในแง่ดีสุดๆ สักรอบแล้วกันนะครับ ตลาดโทรศัพท์ไทยไฮเทคกว่าญี่ปุ่นแล้ว T-T
มองแบบไหนครับนั่น ?
ที่ผมพูดมา กับที่ท่านข้างบนๆ บอกไว้นั่นคือ แม้จะเป็น smart phone เอง ก็ไม่ได้ดีไปกว่าโทรศัพท์ขอวงญี่ปุ่นในปัจจุบันนี้เท่าไรนะครับ
ไอ่โทรศัพท์แยกร่างได้ที่เพิ่งออกวางตลาดของญี่ปุ่นนี่ ระดับต่อโปรเจคเตอร์ได้, ถ่ายภาพ-อัดวีดีโอระดับไฮเดฟได้, ที่ว่าแยกร่างได้นี่ ส่วนของจอ ก็เป็นจอสัมผัส ส่วนของคีย์แพด ยังจะมีทั้งคีย์แพดตัวเลข และคีย์บอร์ดเต็ม เลยนะครับ
แถมความต้องการพื้นฐานของผู้ใช้โทรศัพท์ชาวญี่ปุ่น ไม่ว่าจะอ่าน QR code, ใช้ข้อมูลบัตร Suica และบัตรสมาชิกร้านค้าต่างๆ, ก็มีให้ครบ ไม่ต้องไปหาดาว์นโหลดเพิ่ม
และแน่นอน ราคาไม่แพงไปกว่า i-phone อีกด้วย
อ่าครับ ทั้งหมดนั้นก็พอรู้แล้ว ก็เลยหลอกตัวเองทั้งน้ำตาไงครับ T-T
ถึงผมจะว่ายังงู้นยังงี้
แต่ผมก็ใช้ i-phone แหละนะ เหอะเหอะ
ตอนมาใหม่ๆ ก็ใช้โทรศัพท์ญี่ปุ่นนะ แต่มันใช้งานซับซ้อน (รุ่นปานกลางค่อนถูก แถมตอนนั้น ภาษายังอ่อนแอ อ่านเมนูอะไรก็ไม่ออก)
แถมลิงก์กับวิสต้าไม่ได้ด้วย
พอ Softbank เอา i-phone เข้ามาขาย พร้อมด้วยโปรสุดเร้าใจ
รับเครื่องได้ทันที (แต่ผ่อนจ่ายรายเดือน มีให้ 1 ปี กับ 2 ปี) เราก็เลยรับเครื่องกลับบ้านมาเลย ฮ่าฮ่า
แต่ก็รอดูอยู่ครับ ว่าศึก i-phone กับ andriod ในญี่ปุ่นจะเป็นไปยังไง
( Softbank ดันเป็นบริษัทนำเข้าทั้งคู่ซะด้วย เอามาแข่งกันเองซะงั้น )
ไม่ต้องตกใจไปครับ ข่าวนี้ผมเขียนแบบ "จงใจ" ไม่ใส่เรื่องส่วนแบ่งรวมแบบ non-smartphone ครับ
เป้าหมายก็คือ ล่อ...ออกมานั่นล่ะครับ จะได้รู้จักตัวกันไว้หน่อย ฮ่าๆ
ไม่ต้องล่อ ก็มา ฮุฮุ โอเคนะ
มันขายได้แค่นี้ก็ดีแค่ไหนแล้ว ถามจิงมือถือโง่ๆ ที่ไม่มี RFID suica ไม่มี DMB ไม่มี app อ่าน QR code ในตัว ไม่มีแอพที่ืเชื่อมต่อข้อมูลทุกอย่างได้อย่าง มือถือญี่ปุ่นโง่ๆ สะเป็กสูงๆ อัพเกรดความสาสามารถจากการซื้อเครื่องใหม่
ขนาด apple ไม่สนใจจะใส่สิ่งที่ควรใส่สำหรับพฤติกรรมถือญี่ปุ่นเข้าไปเลยยังขายได้ 2.3ล้านตัว ขนาดที่จีน apple ยังยอมตัด wifi แต่นี้ ตัวปกติเลย แค่นี้ก็ถือว่ามันดีพอแล้ว
ถ้าดูตัวเลข จำนวนสมาร์ทโฟน น้อยกว่าโทรศัพท์ทั่วไปมากๆ
แต่ถ้าวัดกันที่สมาร์ทโฟนเพียวๆ เราก็ว่าสำหรับผู้ใช้ทั่วไป ไอโฟนก็เป็นตัวเลือกที่ดีที่สุด
วินโดวส์ก็เก่าไป แอนดรอย์ก็ใหม่ไป ส่วนอื่นๆก็แผ่วไป
ปัญหาก็คือ Featured Phone ที่ญี่ปุ่นมัน "Smart" พอแล้ว (คือ Feature มันมหาศาล)
โอเคว่ามันเป็นระบบปิด (เช่น แต่ก่อนจะยัดเพลงลงไปฟังไม่ได้ง่ายๆ) แต่มันสุดยอดจริงๆ นะ
มันไม่ได้ samart ไปมากกว่าแค่ ดู DMB TV กับ RFID ติดหลัง เชื่อมต่อไปสะทุกอย่าง มันไม่หยื่นหยุ่นเลย อีกอย่างก็ไม่ฉลาดที่จะแก้ไขได้ อัพเกรดความสามารถจากการซื้อเครื่องใหม่เท่านั้น
เอ่อ... ไอ้ MOAP ในมือถือญี่ปุ่นนี่มันก็เป็น Symbian เหมือนกันไม่ใช่รึ - -?? ไม่นับเป็น smartphone กันหรือนี่
Limo ไม่นับนะ มันยังไม่สามารถเข้าถึง OS ได้ง่ายขนาดนั้น
จุดธูปไหว้หรือยังเนอะ...
ให้ iPhone มี RFID กับ DVB-H ก็ขายดีที่ญี่ปุ่นเองแหละ Information เชื่อมต่อกับทุกอย่าง มาพร้อมแอพด้วย ห้าห้า
เอ ที่บอกว่า iPhone ทำหลายๆ อย่างในญี่ปุ่นไม่ได้ อย่างนี้ถ้าเป็นเครื่องที่สองก็คงไม่มีปัญหาใช่ไหมครับ?