นี่อาจเป็นข่าวประวัติศาสตร์ของทั้งวงการสิ่งพิมพ์ และวงการ e-book
Amazon ผู้ขายหนังสือรายใหญ่ของโลก ประกาศว่ายอดขายหนังสือในรอบ 3 เดือนล่าสุด พบว่าสามารถขายหนังสือเวอร์ชัน Kindle เทียบกับหนังสือปกแข็ง (hardcover) ได้ในอัตราส่วน 143:100 เล่ม และอัตราส่วนนี้เพิ่มขึ้นเรื่อยๆ โดยรอบ 4 สัปดาห์ล่าสุดกลายเป็น 180:100 เรียบร้อยแล้ว ตัวเลขนี้ไม่รวมหนังสือฟรีบน Kindle นะครับ
ปัจจุบัน Amazon มีหนังสือขายบน Kindle ประมาณ 630,000 เรื่อง ส่วนหนังสือฉบับกระดาษมีมากกว่าเยอะ (เป็นหลักล้าน)
หนังสือกระดาษไม่ได้มียอดขายลดลง กลับกันมียอดขายเพิ่มขึ้น 22% ด้วยซ้ำ เพียงแต่ยอดขายของเวอร์ชัน Kindle นั้นร้อนแรงกว่ามาก เหตุผลหนึ่งที่ช่วยให้หนังสือบน Kindle ขายดี เพราะโปรแกรม Kindle บน iPhone/iPad ทำให้ลูกค้ารู้สึกว่าซื้อแล้วนำไปอ่านบนอุปกรณ์อะไรก็ได้นั่นเอง
ที่มา - New York Times
Comments
โอ้ .. ข่าวประวัติศาสตร์จริงๆ
แฟนพันธุ์แท้สตีฟจ็อบส์ | MacThai.com
ซื้อแล้วไปอ่านบนอะไรก็ได้นี้แหละ ใช่เลยที่ต้องการ
ไม่แปลกเท่าไรเพราะคนสั่งออนไลน์ก็คงชอบอ่านแบบDigitalมากกว่า
เป็นข่าวที่น่าสนใจครับ ..
ปล. 630,000 เรื่องหรือป่าวครับ
แก้แล้วครับ
อืมๆ
หัวข้อระบุว่าเทียบกับ "หนังสือจริง" แต่ในต้นฉบับและเนื้อข่าวระบุว่าเทียบกับ "หนังสือปกแข็ง" นิครับ
กำลังคิดเหมือนกันว่าเค้ารวม Paper Back ด้วยหรือไม่
จากข่าวต้นฉบับไม่ได้รวม paperback ครับ
จะว่าไปถ้าพร้อมใจกันโหลตพวกนี้มาใช้งานแทนพวก ตำราเรียน (ยิ่งเล่มมหาลัยหนาแข่งกับสมุดโทรศัพท์หน้าเหลือง)
ในระยะยาวยอดก็ทิ้งห่างได้เลยนะ
แต่ยังไงผมก็ชอบกระดาษอยู่ดี :)
ถ้าผมมีเครื่องอ่าน e-Book ก็คงจะช่วยเพิ่มยอดให้นะ แต่ถ้าอ่านบนคอมหรือ iPad รึอะไรที่จอไม่ e-ink คงช่วยได้ไม่เท่าไหร่
ว่าแต่ Amazon มีหนังสือฟรีด้วยเหรอครับ? แนะนำให้ที กะว่าจะเอามาลองกับ Kindle for Windows น่ะครับ
พวกลิขสิทธิ์ขาดน่ะครับ
อันที่จริง หนังสือที่ขายให้กับคนนอกอเมริกา ตอนนี้ ยังบวกราคานิดหน่อย โดยทั่วไปตกประมาณสองเหรียญต่อหนังสือเล่มหนึ่ง (คิดเอาเองว่า Amazon เป็นค่าโสหุ้ย เผื่อว่าคุณมี Kindle และโหลดในการโหลดผ่าน 2G/3G network และถึงคุณจะอ้างว่าคุณจะโหลดผ่าน Web มันก็จะรวมอยู่ดี แฮ่)
ดังนั้นถึงแม้จะหนังสือที่หมดลิขลิทธิ์ พวกที่ในโครงการ Gutenburg ที่ขายใน Kindle Store สำหรับคนไทย/คนนอกอเมริกาก็ยังไม่ใช่ฟรีครับ
เสริมให้นิดนึง... หนังสือที่ขายแบบ Kindle ส่วนใหญ่จะลองอ่านได้ฟรีครับ
ลองหาหนังสือในหมวดของ Kindle คลิกดูซักเล่ม จะมีปุ่ม Send sample now(ต้องล้อกอินก่อน)
อ่อครับ ลองทดสอบหนังสือแล้วก็โอเค แต่หนังสือลิขสิทธิ์ขาดนี่จะหาได้จากไหนครับเนี่ย
อยากให้สำนักพิมพ์บ้านเราหันมาขาย digital copy บ้างจัง (โดยเฉพาะการ์ตูน...)
ขายบน ibook อะไรยังงี้ก็ได้
e-book ซื้อง่ายขายคล่องกว่าเยอะ แถมยัง copy แจก หรือทำสำนำไว้ได้ง่ายกว่า
อีกไม่นานวงการหนังสือ อาจประสบชะตากรรมเหมือนวงการเพลง
คิดว่าเมืองไทยจะต้องใช้เวลามากกว่า 10 ปีหรือไม่ กว่าคนจะซื้อฉบับ digital มากกว่า hard cover
ผมคิดว่าอาจจะนานกว่านั้น..เพราะเท่ารู้มาผลสำรวจคนไทยอ่านหนังสือเฉลี่ยแล้ววันล่ะ 8 บรรทัดหรือปีล่ะ 8 บรรทัดต่อคน อืมอันนี้ผมก็จำไม่ค่อยได้ อิอิ ผิดก็ช่วยเสริมอีกทีน่ะครับ:D
เรื่องนี้ไม่เกี่ยวกับจำนวนบรรดทัดหรอกครับ เพราะคนที่จะซื้อ E-book ก็คือกลุ่มคนที่เคยซื้อหนังสือเป็นเล่มเป็นประจำนั่นแหละ (ส่วนคนที่ไม่ซื้อหนังสือไม่อ่านหนังสือ คงไม่สนใจทั้ง E-book และ หนังสือเล่มต่อไปเหมือนเดิม)
คิดว่าคนไทยคงไม่ซื้อ E-book มากกว่าหนังสือเล่ม ไม่ว่าจะอีกกี่ปีก็ตาม
แต่อีกไม่นาน คนไทยจะอ่าน E-book มากกว่าหนังสือเล่ม
เหมือนที่คนไทยรุ่นใหม่ฟังเพลงจาก MP3 มากกว่า CD (แต่ก็ไม่เคยเห็นใครซื้อ MP3 แบบถูกลิขสิทธิ์กันซักที)
เรื่อง MP3 ส่วนหนึ่งเพราะโอเปอเรเตอร์ทำมาไม่ค่อยดีด้วย
ผมเคยสมัคร iKey (ไม่เกี่ยวกับแอปเปิล) เดือนนึง
แต่เพลงที่โหลดมามี kbp ประมาณ 96-128 เอง
สำนักพิมพ์คงกลัวฉบับ digital จะโดนละเมิด บ้านเราอะไรที่ก๊อปได้เป็นอุตสาหกรรมที่โตยากจริงๆ
เท่าที่ผมเคยตาม ไม่มีใครเคยเจอรายงานการสำรวจที่ว่านะครับ
มันเป็นแค่วัฒนธรรม Forward mail แบบบ้านเรา ที่แย่พอๆ กับการอ่าน 8 บรรทัดต่อปี
lewcpe.com, @wasonliw
+1 แค่ดูทีวีมีตัวหนังสือวิ่งวันนึงก็เกิน 8 บรรทัดแล้ว
อ้อ ดูแต่ละคร มีตัววิ่งด้านล่างบรรทัดเดียว (ยาวเป็นกิโลฯ ) ครับ ^^
เออ...ผมก็ลืมไปว่ามันก็บรรทัดเดียวนี่หว่า แต่ก็นะ..ทั้งปีดูมากกว่า 8 วันแน่ :-P
จริงด้วยสิ :-D
โดนใจคำว่า "วัฒนธรรม Forward mail แบบบ้านเรา"
อ๊ากกก >__<!
May the Force Close be with you. || @nuttyi