หลังจากมีข่าว นักเขียนชื่อดัง Seth Godin ได้ประกาศเลิกพิมพ์หนังสือ คราวนี้ Nigel Portwood ซีอีโอของ Oxford University Press สำนักพิมพ์พจนานุกรมภาษาอังกฤษยอดฮิต ได้ออกมากล่าว "ตลาดพจนานุกรมที่เป็นเล่มๆ กำลังจะหมดความหมายไป ที่ผ่านๆ มายอดจำหน่ายพจนานุกรมในแต่ละปีลดลงหลายสิบเปอร์เซ็นต์ อันเนื่องมาจากผู้ใช้หันไปใช้บริการทางอินเทอร์เน็ตมากขึ้น" และได้กล่าวต่อมาว่า "เอดิชั่นที่ 3 อาจจะไม่มีการพิมพ์ออกมาเป็นเล่มอีกแล้ว ทั้งๆ ที่ทางบริษัทได้ทำพจนานุกรมฉบับดังกล่าวคืบหน้าไปแล้ว 28 เปอร์เซ็นต์"
OED (พจนานุกรมภาษาอังกฤษ Oxford ) เอดิชั่นใหม่จะปรับปรุงข้อมูล และเพิ่มคำศัพท์ใหม่ทุกๆ 3 เดือน ค่าบริการรายปีอยู่ที่ 372 ดอลลาร์สหรัฐ มีกำหนดเปิดตัวในเดือนธันวาคมปีนี้
หรือว่าอีก 5 ปีหนังสือจะตายไป ตามที่คุณ Negroponte พูดกันน่ะ
Comments
แก้หัวข้อแล้ว สำนวนตกไป สวนคำว่าพิษตอนแรกจะไม่แก้เพราะมันเป็นสำนวนที่ผมเขียน แต่แก้โดยการตัดออกก็ได้ครับ ตัวอักษรเอียงมันคือความเห็นของผู้เขียนข่าวครับ ผมไม่อยากใส่ ป.ล. แล้วผมก็เคยเห็นคุณเคยเขียนแบบนนี้ด้วยหนิ สุดท้ายขอบคุณที่ช่วยตรวจทานครับ
พอดีเหมือนเบราว์เซอร์ (IE, Firefox) เรนเดอร์แปลกๆ ครับ พอใส่ตัวอักษาเอียงแล้ว ตัวอักษรหลังจากนั้นจะเอียงกันไปหมดไม่มีที่สิ้นสุด เหอะๆ
สงสัยจะเป็นตามที่ Bill Gates บอกจริงๆ
จำผิดแล้วครับ คนนี้พูดครับ Negroponte
ส่วน บิล เกตส์ ไม่ได้ฟันธงชัดเจนว่าหนังสือกระดาษจะตาย แต่เขาบอกว่าในอีก 5 ปี มหาวิทยาลัยที่ดีที่สุดในโลกคืออินเทอร์เน็ต ครับผม
ตามข่าวนี้ http://www.blognone.com/news/17890
ผมว่ามันก็แล้วแต่ตลาดหนังสือ เพราะหนังสืิอบางชนิดอ่านเป็นเล่มได้อารมณ์กว่าเยอะ
แต่พจนานุกรม สมุดโทรศัทพ์ หรือ Dictionary นี่แบบ electronic ใช้งานได้ง่ายและสะดวกกว่าเยอะ เพราะไม่ต้องเสียเวลาเปิดค้นหา หนังสือแบบนี้แหละที่จะตายและถูกแทนด้วย electronic
นึกถึงสมัยเรียนที่ต้องแปล text แล้วต้องมาเปิดdictionaryหาศัพท์ในขณะที่เพื่อนอีกคนที่บ้านมันรวยใช้ talking dic หาได้ไวกว่าเยอะ นึกแ้ล้วยังอิจฉามันเลย
ถ้ามองในระยะ 3-4 ปีนี้มันก็ยังคงมีอยู่ล่ะครับ แต่จะน้อยลงไปจนรู้สึกได้ ในยุคที่คนเริ่มรู้สึกถึงความเร่งด่วนในชีวิต ผมว่าการพกหนังสือแล้วอ่านจนจบ กับมีหนังสือหลายๆเล่มแล้วเลือกอ่านเฉพาะที่อยากอ่าน อย่างหลังน่าจะดีกว่า เท่าที่เห็นข่าว หลายข่าว เป็นพวกนวนิยายที่ฉบับ e-book กำลังขายดีกว่า กลายเป็นข้อสังเกตให้เห็นสำหรับผมเลยนะว่า หนังสือสำหรับหนอนหนังสืออาจไม่จำเป็นต้องเป็นกระดาษ -- เพราะความสุขของคนอ่านหนังสือคือการได้อ่าน
อย่างน้อยก็มี artbook ล่ะครับ หุหุ
Oxford English Dictionary รุ่นที่คุยกันนี่ ไม่ใช่หนาระดับพันหน้าที่เคยเห็นนะครับ แต่หนารวม 22,000 หน้า โดยที่แบ่งออกเป็นเล่มๆ ถึง 23 เล่ม พกไม่ได้หรอกครับ ระดับนี้ต้องประดับชั้นหนังสือสถานเดียว
คนชื้อคงมีแต่ห้องสมุด ตอนแรกนึกว่าเป็นเล่มเดียว ปกติมันก็แถมโปรแกรมให้อยู่แล้ว
ถ้าเป็นเล่มใหญ่ขนาดนั้นก็ค่อยโล่งอก เพราะผมคิดว่า Dict มันน่าจะพิมพ์ออกมาเป็นเล่มๆมากกว่าจะเป็น ซอฟแวร์
ถึงแม้ตัวผมเองก็จะนิยมดิกชันนารีเป็นเล่มมากกว่า Talking Dict มาตลอด แต่ผมเห็นว่า ดิกชันนารีเนี่ยแหละ ตัวเหมาะที่จะทำเป็น software เลย เพราะการใช้งานของคนส่วนใหญ่คือ "ค้น" ไม่ใช่ "อ่าน"
(ถึงผมจะเคยอ่านเล่นฆ่าเวลาก็เถอะ)
เออ ลืมไปเลยว่า Oxford English Dictionary มันหมายถึงรุ่นใหญ่นี่หว่า
ห้องสมุดโรงเรียนก็ไม่มีเอาไว้เก็บใส่ตู้โชว์แล้วซิ เด็กนักเรียนคงเซ็ง ว้า~~~
iPAtS
โชว์เวอร์ชั่นเก่าก็ได้ ไม่มีใครว่าหรอก เว้นแต่ว่ามันจะกินที่ เลยอยากกำจัดมันออกไป