นานๆ ทีผมจะได้นำข่าวที่ไม่เกี่ยวกับ Adobe มาฝากกัน และส่วนตัวผมชอบเทคโนโลยีที่มันดู "ล้ำยุค" แต่ต้อง "เป็นไปได้" ในเวลาเดียวกันด้วย
วันนี้ไปเจอวิสัยทัศน์ของบริษัทนักออกแบบส่วนติดต่อผู้ใช้งานสัญชาติสวีเดน โดยเขาทำเป็นวิดีโอออกมาให้เราเห็นว่าจอแบบสัมผัส ที่อยู่บนมือถือ smart phone ในปัจจุบันนั้นกำลังจะพัฒนาไปในรูปแบบใดบ้าง ภายในปี 2014! (อีกแค่ 4 ปีเท่านั้น) ผมจะไม่อธิบายมาก ให้พวกเราชมกันด้วยตาตัวเองดีกว่าครับ โดย 20 วินาทีแรกอาจจะยังดูธรรมดา แต่หลังจากนั้น ผมมั่นใจว่า 4 ปีนี่ ไม่นานเกินรอแน่นอน
วิดีโอชมได้ด้านในครับ
ปล. สังเกตนิดหนึง ว่าชุดคียบอร์ดและเมาส์ในสำนักงาน มันคล้ายๆ ผลิตภัณฑ์ของบริษัทผลไม้เลยครับ
ที่มา - Gizmodo
Comments
ผมเห็น3-4ปีก่อนก็จินตนาการว่าจอ 3 มิติจะเกลื่อนตามบ้านแต่วันนี้......
เทคโนโลยีนั่นก้เป็นไปได้แล้วนี่ครับ แต่มันติดปัญหาเรื่องอื่นแทน เรื่องค่าใช้จ่ายกับการตลาด
เทคโนโลยีที่แพงกว่าจะอยู่ตามบ้านผมไม่ถือว่าตรงคำทำนายที่ว่าจะบูมแทนทีวีปกติหรอกนะครับ
... 3DS ก็จะเข้ามาแล้ว
samsung ใหญ่แค่ใหน ?
https://youtu.be/6Afpey7Eldo
4-5ปีที่จะถึงนี้ผมว่าเป็นจริงได้ไม่ถึงครึ่ง
ขยายจอออกได้ น่าจะอีกซัก 10 ปี
กระจก น่าจะอีก 5 ปี แต่คงไม่เกลื่อนตลาด
จอ 2 ด้านก็คงอีกนาน
ขยายจอออกได้แบบนั้น ต้องรอจอแบบกระดาษดัดได้ ส่วนกระจกทำได้แบบนั้นไฟดับก็ไม่ต้องใช้แล้ว มีอุปกรณ์ไฟฟ้าในบ้านมากไป จะทำให้เป็นมะเร็งได้ง่าย
ตอนนี้มีจอที่งอได้ หมุนเก็บเป็นทรงกระบอกได้แล้วครับ
เป็นข่าวใน blognone ได้ซักระยะแล้วด้วย
จอใสที่เห็นได้จากทั้งสองด้านก็มีแล้วครับ
(จะว่าไป เมื่อสองปีก่อนผมก็ได้นาฬิกาปลุกที่จอใส่เป็นของแถมนะ แต่ว่าทำได้แค่สีดำสีเดียว)
ส่วนกระจกนั้น ง่ายมากเลยนะ เทคโนโลยีเพียงพอแล้วด้วย
ดูอย่าง Nokia 7610 supernova เอาละกันครับ
แค่เคลือบกระจกใสชั้นนอกด้วยโครเมียมบางๆ ส่วนชั้นในก็เป็นจอแสดงผลธรรมดาๆ
เทคนิคคือต้องไม่ให้มีแสงจากภายนอกลอดเข้าไประหว่างกระจกและจอภาพได้
แล้วก็ติดตั้งระบบสัมผัสลงไป เท่านี้ก็ทำจออย่างที่ว่านี้ได้แล้วครับ
(แต่คิดว่าถึงเวลานั้นจริงๆ คงมีเทคนิคอื่นที่ทำแทนได้แล้วแหละครับ)
นาฬิกาใส่นั่นบ้านผมมีไม่ต่ำกว่าแปดปีแล้วแน่ๆ
เห็นตั้งกะเด็ก เล่นจนเจ๊ง
May the Force Close be with you. || @nuttyi
ก็เอาจอสัมผัสมาติดฟิล์มกระจกแบบไอโฟนดิครับง่ายดี อิอิ
เอ่อ! จริงด้วย
เคยเห็นข่าวอยู่แวบๆ แต่เนื่องจากไม่ค่อยสนใจพวกฟิล์มกันรอย เลยลืมวิธีไปในแทบจะทันที
บางอย่างดูเป็นไปได้และบางอย่างก็ยังไม่น่าเป็นไปได้
mission impossible
"จินตนาการสำคัญกว่าความรู้" จำได้ไหมครับคุณ g-man, mr.k, jaykung
เข้าใจที่ผมอยากจะสื่อไหมครับ ??
"เทคโนโลยีจอที่เราจะได้ใช้ภายในปี 2014"
ในคลิปนี้มันตกม้าตายไม่เป็นจินตนาการแต่เป็นการวาดฝันลมๆแล้งๆก็ตรงนี้ล่ะ
ผมเจอคำนี้ในหว้ากอบ่อยมากครับ และมักจะมีอีกประโยคนึงตามมา
ข้างบนนี่ผมพูดรวมๆ ไม่ได้หมายถึงวิดีโอในข่าวนี้นะ เพราะเห็นด้วยกับหลายอย่างอย่างเช่นกระจกในห้องน้ำที่เป็นจอ ฯลฯ
จินตการน่ะโอเคครับ แต่ว่าที่ถกกันน่ะคือ มันจะเห็นกันเป็นปกติอย่างที่โม้ๆกันรึเปล่า
พูดถึงจินตการในอนาคตที่ตรงเผงอย่างน่าตกใจคือหนังสือที่่ศึกษาเรื่องนักศึกษาขายตัวครับ.. เขียนประมาณ 2537 ได้ มันทำนายไว้เลยหลังจากมีการลอง pirch ดูว่าในอีกสิบปีการขายตัวผ่านเนตจะบูม....
"จินตนาการที่ไม่อยู่บนพื้นฐานของความรู้ = เพ้อเจ้อ"
ดูอย่างเมื่อก่อนสิใครจะคิดว่ามนุษย์จะบินได้ แล้วคนก็สร้างเครื่องบินได้
เมื่อก่อนใครจะคิดว่าเราจะไปถึงดวงจันทร์ได้ แล้วก็สร้างจรวดไปดวงจันทร์ได้
ทั้งหมดนี้ล้วนแล้วเกิดมาจากจินตนาการที่ไม่น่าจะเป็นไปได้ในอดีตทั้งสิ้น
จริงจังไปไหมเนี่ย 55++
+1 ผมชอบความเห็นของคุณจัง
+1 ผมเห็นด้วยนะ ผมว่าคนที่พูดว่า"เพ้อเจ้อ"ในเรื่องพวกนี้ค่อนข้างอิงกับเทคโนโลยีในปัจจุบัน และส่วนหนึ่งเขาอาจจะอยู่ไม่ถึงที่จะเห็นเทคโนโลยีเหล่านั้น ทำให้เขาอาจจะไม่เชื่อว่าสิ่งเหล่านั้นจะเป็นไปได้ในอนาคต
ประโยคเต็ม "จินตนาการสำคัญกว่าความรู้ เพราะไม่ผูกติดกับความจริง" ไอสไตน์พูดในนิทรรศการแสดงงานศิลปะแห่งนึง
ปล. ผมไม่มีแหล่งข้อมูลอ้างอิง มาจากความทรงจำ ไม่ต้องเชื่อก็ได้
"I believe in intuition and inspiration. Imagination is more important than knowledge. For knowledge is limited, whereas imagination embraces the entire world, stimulating progress, giving birth to evolution. It is, strictly speaking, a real factor in scientific research."
ขออนุญาตถอดความว่า
"ผมเชื่อในเรื่องสัญชาติญาณและแรงบันดาลใจ จินตนาการนั้นกว่าความรู้ ความรู้มีข้อจำกัด ในขณะที่จินตนาการนั้นครอบคลุมทุกสิ่ง กระตุ้นการพัฒนา ก่อกำเนิดไปสู่สิ่งใหม่ๆ ซึ่งนั่นเป็นปัจจัยสำคัญในการวิจัยทางวิทยาศาสตร์"
ที่มา
http://en.wikiquote.org/wiki/Albert_Einstein
จินตนาการไปเถอะครับ ผมไม่ห้าม
แต่ขอให้มัน implement ออกมาเป็นรูปเป็นร่างได้ก็พอ
อ้อ... แล้วถ้าคุณจินตนาการมาแล้ว แต่ทำไม่ได้ซักที จะเรียกว่าเพ้อเจ้อดีมั้ยครับ?
ความคิดจินตนาการ บนพื้นฐานความรู้มีเยอะแยะไปครับ คนจินตานาการไม่ได้ทำ คนทำทำจากการจินตนาการของคนอื่น เหมือนหัวหน้างานเขียนโปรแกรมไม่เป็น แต่จินตนาการอยากได้แบบนั้นแบบนี้ โปรแกรมเมอร์ไม่ได้จินตนาการ XD
"จินตนาการสำคัญกว่าความรู้"
ก็จริงนะ
แต่ Sweden wins the world cup นี้ถ้า ชนะเลิศในปี 2014 นี้ ตูไม่เชื่อเห็นๆ
ยกเว้น April fool (ฮา)
ดูแว๊บแรก นึกถึง Windows Phone 7
พอดูๆไป รู้สึกเมื่อยแขน = ="
คนทำลืมการสั่งงานด้วยเสียงไปเลย
อันนึงงัวเงียอยู่
อีกอันแปรงฟันอยู่
555+
แต่จะว่าไป วีดีโอนี้มันเงียบเกินไปจริงๆ แฮะ
หลายอันเห็นแล้วคิดถึงต้นแบบที่ทาง Microsoft ทำวิดีโอขึ้นมาเมื่อปีก่อน ล้ำมาก คล้ายๆ แบบนี้แหละ แต่ใช้งานกว้างและหลากหลายกิจกรรม ดูแล้วอยากอยู่ถึงยุคนั้นจัง มันดูไฮเทคจริงๆ
http://www.istartedsomething.com/20090228/microsoft-office-labs-vision-2019-video/
อันนี้หรูกว่าอีกนะเนี๊ยผมว่า หุหุ
อันที่เป็นไปไม่ได้ในปี 2014 คือ ยืดจอ
ฟันเธอ!
กรี๊ด อย่าถอด ถอดเองได้
ปี 2014 สวีเดนจะเป็นแชมป์โลก !!!!
แต่เอ๊ะ Henrik Larsson แขวนสตั๊ดไปแล้วนี่ !!
ixohoxi's
ในคลิปเขียนว่า Henke Larsson ครับ
หรือจะเป็นลูกชาย 555+
จากที่ดูผมว่าเป็นไปได้ทั้งนั้นแหละครับ เพียงแต่ UI อาจจะเปลี่ยนไป
จอยืดได้ --> ปัจจุบันก็มีในระดับงานต้นแบบออกมาแล้วนี่ครับว่าสามารถสร้างจอที่บางและพับได้ ดังนั้นการหดและให้มันยืดได้ก็น่าจะเป็นไปได้เช่นกัน
กระจก หรือ ทะลุ 2 หน้า ก็มีให้เห็นไปแล้ว ถ้าจำไม่ผิด ทั้งหมดนี่ Sony & Samsung วิจัยและพัฒนาต้นแบบแล้วทั้งนั้นนี่ครับ ถ้าจำไม่ผิดในเว็บนี้ก็เคยออกมาให้เห็นแล้ว
ปัจจัยจริงๆคือ UX ต่างหากว่ามันโอเคแค่ไหน
ผมชอบกระจกมากครับ มันน่าสนใจมากๆเลย เพราะเหมือนชีวิตจริง ที่ต้องการมาก ส่วนอันอื่นผมว่าหรูหราเกินความจำเป็น
ของสวีเดนนิ
ถ้าอนาคตทำให้เสื้อผ้าฉายภาพได้ แล้วโดนแฮ็คคงสนุก
มีคนลองทำแล้วครับ (แต่เริ่มด้วยแนวคิดของ Camouflage นะครับ)
http://phuphu.exteen.com/20051206/entry
http://www.youtube.com/watch?v=JKPVQal851U
เป็นไปได้นะครับ แต่ใช่ว่าทุกคนที่จะมี
ผมว่าอีกอย่างที่น่าจะเป็นไปได้คือ 3D ประมานว่าเมนูอยู่กลางอากาศ อะแล้วใช้มือโบกไปมา
ถ้าไม่มีจินตนาการแล้วการอยู่ต่อไปมันก็ไม่มีอะไรท้าทายนะสิ
ที่จะเห็นว่าอาจจะไม่ทัน 2014 ก็อาจจะมีแค่ จอที่ยืดได้และไม่มีรอยต่อเนี้ยแหละ อย่างอื่น ผมว่าปีหน้าก็เริ่มมีออกมาแล้วมั้ง เพราะจริง ๆ มันมีมาก่อนหน้านี้แล้วทั้งนั้นเลย ข่าวก็เห็นมีออกมาเรื่อย ๆ จาก Microsoft เอย จากบริษัทใหญ่ ๆ ทั้งนั้นแหละครับ และมันทำได้ก่อนหน้านี้แล้ว และออกขายจริงแล้วด้วย เพียงแต่ยังอยู่ในโรมแรมหรู ๆ หรือบริษัท หรือป้ายโฆษณา แต่เชื่อว่าแค่ 2014 นั้น ไม่ใช่เรื่องแปลกที่จะพบเห็นในบ้านผู้คนหรอกครับ
การถ่ายโอนข้อมูลลักษณะนำเครื่องมาใกล้ (จริง ๆ ผมว่าไกลกว่านั้นก็ได้ เพียงแต่มันเป็นทริคในการทำให้ผู้ใช้เข้าใจง่ายมากกว่า) ก็มีแล้วใน iPhone ใน Android ก็น่าจะมีแล้วไม่แน่ใจว่าเคยเห็นข่าวหรือยัง
การถ่ายโอนจากอุปกรณ์ลักษณะหนึ่งไปอีกลักษณะหนึ่งก็มีแล้วของ Microsoft และใช้งานจริงแล้วด้วยทุกวันนี้ แค่ยังไม่เข้าไปทุกบ้าน และในไทยเอง เหมือนจะเคยได้ยินว่าก็มีคนพยายามพัฒนาในแบบต้นทุนต่ำ ๆ อยู่ (ข่าวลือหรือเปล่าไม่แน่ใจสำหรับในไทย)
จอสัมผัสที่ตอบสนองทั้ง 2 ด้าน ไม่รู้มีคนทำหรือยัง แต่ตอนนี้จอแสดงผลมันบางมาก ๆ อยู่แล้ว แล้วจอใสก็มีการพัฒนาและใช้งานจริงแล้ว คงเหลือแต่พัฒนาให้ได้ประสิทธิภาพที่ดีกว่าตอนนี้เพื่อให้ถูกลงด้วย
ไม่ได้คิดว่าที่เขาพูดนี้จะเป็นเรื่องจินตนาการอะไรมากนัก เพราะมันมีเค้าโครง หรือบางอย่างก็นำมาใช้เรียบร้อยแล้วเสียส่วนใหญ่
ชอบครึ่ง .. ไม่ชอบครึ่ง ..
เพราะ กลัวว่าคน จะเสพติดเทคโนโลยี และ มัวแต่มองหน้าจอมือถือ (หรือ computer) ของตัวเอง จนลืมคุยกัน ลืม สัมผัสถึงพลังธรรมชาติอื่นๆ ที่อยู่รอบๆตัว
ที่คิดว่าเป็นไปได้ยากที่สุดคือ จอที่ยืดได้และมองรอยต่อไม่เห็น
จอใส ก็เคยมีให้เห็นแล้ว เพียงแต่ทำให้ทัชได้อีกด้านแล้วมี software เสริม
กระจกมีภาพโผล่มาน่าจะทำได้
แต่ผมว่า สี่ปีไม่ทันหรอกครับ ปัญหาอยู่ที่ การผลิตแบบ mass และการตอบรับของตลาดที่ต้องใช้เวลาเรียนรู้
ผมว่าสิ่งสำคัญที่สุดของเทคโนโลยี คือ แหล่งพลังงานครับ จะทำอย่างไรให้ขนาดเล็ก เก็บแหล่งพลังงานได้ขนาดใหญ่ ขนาดในรถยนต์ ยังไปไม่ถึงไหนเลย
การส่งข้อมูลไปยังอุปกรณ์ต่างๆที่มี Type Support แบบไร้สายนั้น Microsoft ทำได้นานแล้ว แต่ยังย่อขนาดมันไม่ได้เท่านั้นเอง
Texion Business Solutions
เขียนด้วยดินสอกับกระดาษบ้างก็ดีนะ
ใช้คอม ฯ มาก จนเขียนไม่เป็นภาษาคนแล้ว -_-
ใช่เลย นานมากแล้วที่ไม่ได้เขียนด้วยปากกาดินสอ เวลาเขียนที รู้สึกแปลก ๆ เกิดมาไม่เคยคิดว่า จะเจอกับตัวเอง ถ้ามองดี ๆ ก็เหมือนกับว่า ชีวิตของคนบางคนเปลี่ยนไปเยอะมาก ผมไม่เคยคิดว่าตัวเองจะแทบไม่ได้เขียนหนังสืออีกเลย แต่กลับใช้การพิมพ์ผ่าน computer เกือบ 100% ในปีหนึ่ง ๆ อาจจะได้เขียนแค่ไม่กี่คำ พอคิดแบบนี้แล้วรู้สึกว่ามันก็ค่อนข้างแปลกเพราะตอนเด็ก ๆ เขียนตลอด
คิดเหมือนกันเลยครับ...
เขียนด้วยทัชสกรีนสิครับ
ข่าวนี้ยังเหมือนกับยังไม่มีใครมาเล่นว่า "2012 โลกก็แตกแล้ว"
ผมว่าปัดซ้ายปัดขวาขึ้นลงมันไม่ค่อยจะครีเอทเลยนะครับ
เช่นจอกระจก มันฮามากที่จอตั้งกว้าง แต่ต้องมานั่ง gesture จอ
emotion หรือ sound recognition จะดีกว่าไหม
ไม่ก็แค่แตะเบาๆที่ข้างกระจกเพื่อเลื่อนซ้ายขวาน่าจะดีกว่า
ส่วนไอท่าใช้จอเล็กๆที่ต้องลากเกร็งนิ้วแบบนั้น มันก็ไม่เวิร์คอยู่ดีแหละครับ
ที่น่าสนคือการเพิ่มสัมผัสแบบหน้าหลังพร้อมกันมากกว่า ในการลากส่ง
ใหนๆก็ทำซะบางขนาดนั้นแล้ว เพราะมือเราออกแบบมาให้ใช้นิ้วโป้งกับชี้ จีบเพื่อหยิบจับของเล็กๆอยู่แล้ว
ลากหน้าหลังทางเล็กนุ่มมีใน lab แล้วฮะ voice recognition ก็มีแล้ว (ใน WP7 กับ Kinect ก็ใส่ไว้แล้ว แต่ดีขนาดไหนไม่ทราบได้ ยังไม่ได้ลองเอง) ผมว่าส่วนใหญ่ตอนนี้ติดแต่ทำยังไงให้มันลงมาอยู่ในระดับตลาดได้มากกว่า แต่ที่คิดว่าไม่น่าทันใน 2014 น่าจะเป็นเรื่องยืดจอนี่แหละ ส่วนตัวชอบมากๆแต่วัสดุไม่น่าจะมาทัน
ลองไปดู presentation ของทางฟากเล็กนุ่มกันได้ที่
http://www.youtube.com/watch?v=_BzUPJfVAoU
ออกมาได้สามสี่ปี่ได้แล้วครับ ตัวนี้ไม่ค่อยชัดลองหาตัวชัดๆดูกันเอา เจ๋งดีครับ :)
)