Eric Brown ผู้บริหารด้านการเงินจากยักษ์ใหญ่แห่งวงการเกมอย่าง EA ให้สัมภาษณ์ว่าสนใจ Android อย่างมาก โดยเขาอ้างบทวิเคราะห์ของ IDC ที่บอกว่า Android จะชิงส่วนแบ่งตลาดถึง 25% ได้ในปี 2014 ในขณะที่ iPhone จะเหลือ 11%
เขาให้สัมภาษณ์ว่า EA กำลังวางแผนว่าจะวางตำแหน่งของตัวเองอย่างไรบน Android
อย่างไรก็ตามเขาวิจารณ์ Android Market ว่ายังมีคุณภาพด้อยกว่า App Store ของ iPhone และบอกว่าถ้ากูเกิลทำดีๆ ก็น่าจะชิงส่วนแบ่งตลาดมาจากแอปเปิลได้
Comments
นั่นสิ เมื่อไหร่จะปรับปรุง
Market ยังห่างชั้นกับ App Store เยอะ รายนั้นผ่านร้อนผ่านหนาวมานานกว่า
แม้แอปจะเยอะ แต่ก็มีทีมบก. ที่คอยคิดเลือกแอปที่น่าสนใจเป็นหมวดหมู่ต่างๆ ให้เลือกกันได้ทุกสัปดาห์ เช่น กลุ่มเกมย้อนยุค, แอปเอาไว้อวดเพื่อน, แอปสำหรับ iOS 4, แอป remote, ฯลฯ
นี้ยังไม่นับรวมระบบการรับชำระ และระบบคอมเม้นต์ที่ยังห่างกันอีกพอสมควร
Android Market นับเป็นอีกหนึ่งจุดด้อยของ Android แค่จะซื้อแอพยังต้องลำบากรูทเครื่อง จะอ่านคอมเม้นของต่างชาติก็ไม่ได้ โหลดแอพแบบติดๆขัดๆ ฯลฯ บลาๆๆๆ
ผมกำลังสงสัยเกี่ยวกับ android market อยู่พอดี ขอถือโอกาสถามหน่อยนะครับ ทำไม dictionary บน android มีแต่แอพที่ต้องต่อเน็ตขณะใช้ ในขณะที่ iPhone แอพตัวเดียวกันกลับไม่ต้องต่อเน็ต ( คือโหลดทุกอย่างไว้ในเครื่องแล้ว )
ตัวอย่าง Dictionary.com - iPhone version: http://itunes.apple.com/us/app/dictionary... - Android version: http://dictionary.reference.com/apps/android
เลยสงสัยว่าติดปัญหาเรื่อง policy หรืออะไรบางอย่างใน android หรือป่าว เพราะผมดูแล้วไม่ได้มีแค่ dictionary.com อย่างเดียว แต่มีอีกหลาย app เลยที่เป็นแบบนี้
เผอิญมีคนคนรู้จักพึงซื้อ Samsung Galaxy S มา แล้วมาบ่นให้ฟังว่า จะเปิด dict แต่ละทีต้องต่อเน็ตทุกที
ลอง ColorDict ครับ ใช้ database ของ lexitron ได้ด้วย
ส่วนเรื่อง offline/online นั่น คงเป็นเพราะพื้นที่เก็บโปรแกรมของ android มีน้อยครับ 170 MB มั่ง 200 MB มั่ง แล้วแต่รุ่น แต่ปกติแล้วถ้าผู้พัฒนาไม่ขี้เกียจ เค้าก็แค่เอา data ไปไว้ใน sdcard ก็ไม่มีปัญหาแล้วครับ
แบบนี้แปลว่า เหตุผลที่คนพัฒนา app ไม่อยากให้ app มีขนาดใหญ่เพราะกลัวจะไม่สามารถลงใน android บางรุ่นได้ ถูกต้องไหมครับ
แล้วถ้าอย่าง Samsung Galaxy S ดูใน wiki มีขนาด 8/16 GB
ขนาดส่วนนี้สามารถลงโปรแกรมได้ทั้งหมดเลยไหมครับ หรือว่าใช้เก็บข้อมูลทั่วไปได้อย่างเดียว
สำหรับรุ่น 16 GB ส่วนที่ใช้เก็บ data ขนาดแค่ 1.87 GB ซึ่งก็เหลือเฟือแล้วสำหรับ Android
ที่เหลืออีก 13.43 GB เอาไปจำลอง SD card ครับ นอกนั้นเป็นพวก system ครับ
ตรงจุดนี้จะต่างกับ iphone ที่พื้นที่ทั้งหมด จะถูกดึงไปใช้กับ system นิดเดียว นอกเหนือจากนั้น สามารถลงโปรแกรมหรือเก็บข้อมูลได้ทุกอย่างครับ
อ้อ ขอบคุณมากครับ ตอนแรกผมนึกว่า android จะมองเห็น storage เป็นก้อนเดียว
แล้วเก็บ apps, photos, videos, etc.. ไว้ในพื้นที่เดียวกันเหมือน iPhone
โปรแกรมเมอร์ไม่จำเป็นต้องเอา data ไว้ที่เดียวกับโปรแกรมนะครับ เพราะตอนนี้ก็ไม่มีไครทำกัน ส่วนใหญ่เค้าก็ให้มันอ่านจากไฟล์ด้านนอกได้ ตัวอย่างเช่นพวกโปรแกรมนำทาง ไม่งั้นลงโปรแกรมนำทางโปรแกรมเดียวโหลดแผนที่ก็เต็มเมมหมดแล้วครับ ที่พวกโปรแกรม dic เค้าให้ต่อเน็ตได้เพราะขี้เกียจยัดดาต้าลงส่วนหนึ่ง และอีกส่วนคือเค้าไม่ได้ทำส่วนแปลคำเองพึง API ของ google translat เอา
ส่วนตัวแล้วผมคิดว่ามันกลับกันครับ
คือประเด็นเรื่อง Memory อาจเปนปัญหาจริง แต่ Dictionary ที่ดีที่สุดควรต่อเน็ตครับ คือใช้ฐานข้อมูลเดียว ผู้ใช้ส่งคำขอตลอดเวลา เวลาแก้ไขก็แก้ไขทีเดียว จะเพิ่มก็ได้
ส่วนตัวผมคิดว่า หลักการใช้ Dictionary คือ เรามักจะใช้ค้นคำศัพท์เล็กๆน้อย ซึ่งมักเปนศัพท์เทคนิคในงานของเรา
มีศัพท์ทั่วไปที่ใครๆก็ค้นอยู่จำนวนหนึ่ง มีคนไม่กี่คนที่นั่งอ่าน Dictionary ทั้งเล่ม
การที่มี DataBase เดียว เพียงแต่ส่งคำขอไปที่ Server แล้วได้ Text กลับมาซักหน้าสองหน้า(ส่วนใหญ่แค่ 2 บรรทัด) เทียบกับการที่ต้องทำ Copy ฐานข้อมูลของดิคชันนารี่ทั้งเล่มกระจายไปทั่วทุกเครื่อง
ผมว่าอย่างหลังมันทั้งสิ้นเปลืองและเปล่าประโยชน์
ผมสังเกตว่า มันมีความแตกต่างตรงที่ว่า เวอร์ชั่นที่ให้ใช้บนไอโฟน จริงๆเปนของ iTune (สังเกตจากลิงค์)
ซึ่งผมเข้าใจว่า iTune มักจะมีคนที่ใช้ Offline จำนวนมาก เพราะมันไม่จำเป็นต้อง Online การทำ Dictionary จึงต้องรองรับการใช้งาน Offline
แต่ตรงกันข้ามกับ Android ที่เปน OS ของโทรศัพท์โดยเฉพาะ ผู้ใช้มักต้องเชื่อมต่อกับเครือข่ายอะไรบางอย่างอยู่เสมอ
ถ้าให้พูด ผมว่าผู้พัฒนาขี้เกียจ ในแง่ที่ว่า ไม่เขียนเวอร์ชั่น iPhone ให้ไม่ต้องมี DB ในเครื่อง มากกว่านะ
แล้วที่น่าจะเป็นปัญหาจริงๆ อยู่ที่บ้านเรายังเปน 2G ที่เครือข่ายโทรศัพท์ยังไม่ได้เชื่อมตรงกับเครือข่ายอินเตอร์เน็ท
แต่มือถือ Android ทำมาในยุค 3G และคงไม่คาดคิดด้วยว่าต้องมาเจอประเทศที่คนมีมือถือแอนดรอยด์ แต่ยังดักดานอยู่กับ 2G
ตรงนี้นี้ผมก็คิดเหมือนกันครับว่า อาจเป็นเพราะ android ออกแบบมาให้ต่อเน็ตตลอดเวลา
เหมือน service หลายอย่างของ google ที่ทุกอย่างต้องทำงานผ่าน internet
เลยไม่มีความจำเป็นที่ต้องโหลดข้อมูลทั้งหมดเอามาไว้ในเครื่อง
จากตัวอย่าง Dictinary.com ของ iPhone ขนาด 44 MB แต่ส่วน android ไม่ถึง 1 MB ด้วยซ้ำ
แต่ก็มาแปลใจที่ dict.longdo.com เมื่อก่อนของ iPhone version จะต้องต่อเน็ตเวลาแปลศัพท์
แต่ตอนนี้โหลดศัพท์มาไว้ในเครื่องหมดแล้ว สงสัยเป็นเพราะเอาใจคนใช้ iPod Touch
จริงๆก็สังเกตแล้วเผอิญนึกขึ้นมาได้ จากความเห็นของคุณนี่แหละครับ
ว่าพวก อุปกรณ์ Apple มีบางตัวที่ ไม่ได้ Online ตลอดเวลา แต่เขียนด้วย library เดียวกันกับ iPhone
การที่จำเป็นต้องโหลด Dictionary ลงเครื่องโทรศัพท์ ในยุค 3G ผมเห็นเป็นข้อเสียมากกว่าข้อดี
ดังนั้นน่าจะเป็นเหตุผลด้าน Write once run anywhere กับอุปกรณ์ที่ไม่ใช่โทรศัพท์มากกว่า (ทั้ง iPod และ iTune)
หวังว่าพรุ่งนี้ ( จริงๆ วันนี้แล้ว ) เราคงได้ข่าวดีกันนะ
เราจะได้มี 3G เป็นตัวเป็นตนใช้กันซะที
ผมไม่เห็นด้วยนะ ผมว่าเมื่อเรามี SD card ขาด เริ่มต้นที่ 4GB แล้วแค่ Dictionary มันน่าจะเอามาไว้มี่ Memory ได้ แล้วถ้ามี Update ก็ว่ากันไป เพราะมันไม่ใช่ Google Translation ผมใช้ Droidslator ก็ Offline ได้ครับ
ลองใช้ Droidslator สิครับ
ติดตั้งฐานข้อมูลเสร็จแล้วก็สามารถค้นคำศัพท์แบบ offline ได้เลย
ผู้พัฒนา ไม่อยากมาแจม เพราะว่าคนใช้แอนดรอยไปใช้ของก้อปเยอะนี่แหล่ะ
อย่างแอ้ปเปิ้ล มีตัวเลข jail break เพียง หนึ่งในสิบเท่านั้น
แต่ฝั่งแอนดรอยไม่ทราบแฮะ แต่คนใกล้ตัวผม ใช้ฟรีทุกคน 55+
ข้อเสียของ market ที่ผมขัดใจมากที่สุดคือ ไม่สามารถเลือกแอปบนคอมพิวเตอร์ได้ ต้องไปนั่ง search บนจอเล็กๆ, ถ้ามันมีแบบ itunes app store เมื่อไหร่ ผมว่าน่าจะดีมากเลยทีเดียว
iPAtS
แนะนำให้ลอง AppBrain กับ Fast Web Install ครับ เนียนกิ๊กเลย
+1 Appbrain
ง่ายที่สุดแล้ว ณ วินาทีนี้
+1 เจ๋ง และดีมาก
เลือกบนคอม สนใจโปรแกรมไหน กดติดตั้งจากคอมปุ๊บ มือถือก็โหลดและติดตั้งให้บนเครื่องปั๊บ
สุดยอดมาก แทบไม่ต้องจะต้องทำอะไรกะมือถือเลย
ผมว่าระบบ search มันห่วยด้วย ชื่อโปรแกรมเติม s หรือไม่เติม เว้นวรรคหรือไม่เว้น ยังหาไม่เจอเลย
เพิ่มเติมนะครับ ผมว่าระบบ search บน Market มันยังแย่อยู่มาก ถ้า Search ไม่ตรงมันก็ไม่เจอเลยก็มี
ตอนนี้ีรู้สึกว่าจะมีระบบค้นหาดีขึ้นแล้วนะ
อย่างน้อยก็ช่วยเดาคำให้บ้าง
เคยลองถามเรื่องนี้กับทางกูเกิลปีที่แล้วครับ คำตอบที่ได้รับก็คือ กูเกิลต้องการที่จะให้อิสระกับคอมมูนิตี้เต็มที่ ให้เป็น Marketplace ใครใคร่ค้าค้า ดังนั้นก็ไม่มีแผนที่จะปรับปรุงในส่วนนี้ครับ ความอิสระที่ developer ได้รับคือไม่ต้องผ่านการ approve ใดๆเลย อัพปุ๊บ ขึ้นปั๊บ ไม่เกินชั่วโมง ส่วนเรื่องการฟิลเตอร์ให้เป็นหน้าที่ของผู้ใช้งานเอง ผมก็ไม่ได้เห็นด้วยกับแนวทางสักเท่าไหร่ แต่เราเป็นผู้ใช้ก็ได้แต่หวังว่าเค้าจะปรับไป
ถ้าใครมีปัญหาละก็โหลด AppBrain ใช้ได้นะครับ มีทั้งแบบ Android App และ Web ครับ appbrain.com จัดการ App บนเว็บแล้วก็ Sync มาบนโทรศัพท์ได้ครับ (มัน sync เฉพาะ action นะครับ คือถ้าเราสั่ง Uninstall ตัวนี้ พอมากดที่เครื่องมันก็จะขึ้นมาให้เราเลือก perform uninstall ครับ ไม่ได้ sync แบบ iTunes) ผมเอาไว้ Browse ดู app สะดวกกว่าของ Market เยอะครับ ดูได้หมดทุกโซนด้วย
การซื้อ App เป็นเพราะ Google ดันใช้ Google Checkout ซึ่งมันมีให้ใช้ค่อนข้างเป็นวงแคบ ซึ่งตรงจุดนี้ทีม Android ไม่ได้คุมครับ ต้องรอทาง Checkout ขยายซัพพอร์ทมายังประเทศนั้นๆก่อนก็จะใช้ได้เอง
ส่วน Dictionary ผมเคยเห็นของ CN Thai เค้าจะโหลดศัพท์มาไว้ในเครื่องหมดแล้วนะครับบางเจ้าก็จะทำแบบนั้น แต่ก้ต้องแลกกับขนาดที่ใหญ่มาก ส่วนพวกที่บังคับต่อเนทมีสองกรณีครับ
1. App ที่เขียนบังคับให้ต่อเนทเพื่อดึง Ads ไม่งั้นไม่ให้ใช้
2. ใช้งาน Web Service ในการแปลศัพท์
ก็ลองดูกันครับ เผื่อจะช่วยได้ครับ
:)
ฟังดู ผมว่านี่ก็เป็นแนวทางที่ดีนะครับ ให้ผู้พัฒนา แข่งกันทำ App Filter มาขาย(หรือแจก)อีกทอดนึง
appbrian การติดตั้ง มันจัดการให้เราครับ
แต่การ unstall เราต้องมากด perform เองที่เครื่อง
โดยธรรมชาติของมนุษย์ไม่ต้องการที่จะอยู่ในการควบคุมของใครคนใดคนหนึ่งอยู่แล้ว..ไม่ว่ากรณีใดๆ ก็ตาม แต่ในขณะเดียวกันมนุษย์ก็ยังคงต้องการผู้นำ และโดยความเป็นจริงผู้นนำทุกๆ คนก็ต้องการให้ผู้ที่อยู่ในการดูแลของตนอยู่ในกฎในระเบียบซึ่งกฏเกณฑ์ส่วนมากมักจะมาจากความคิดและหลักการของผู้นำเอง...ซึ่งก็เท่ากับว่าไม่ว่ากรณีใดๆ มนุษย์หรือคนอย่างเราก็ต้องถูกควบคุมด้วยกฏเกณฑ์ต่างๆ ที่เราไม่ได้ตั้งขึ้นเองอยู่ดี..
ไม่รู้จะเกี่ยวกับเรื่อง App Store ระหว่าง Andriod กับ iPhone หรือเปล่านี่
ถ้าผู้ใช้โปรแกรมใช้ง่ายสะดวก นักพัฒนามีกำไร คุ้มในการพัฒนา มันก็เพียงพอแล้ว
ลัทธิเต๋ามีปรัชญาข้อหนึ่งกล่าวว่า
การปกครองที่ดีที่สุด คือปกครองแล้ว ไม่ทำให้คนในปกครอง รู้สึกว่าถูกปกครอง
โปรแกรมของ android มีมากจริงครับ แต่ผมคิดว่าน่าจะหมวดหมู่ให้ดูดีกว่านี้หน่อย
เพิ่มระบบคอมแม้น และเรทต้ิงที่ดี เท่านี้ก็หรูแล้ววว
การหาโปรแกรมจาก Market นั้นค่อนข้างยาก ไม่รู้ว่า iTunes Store เป็นอย่างไร แต่กับ Market ต้องอาศัยการเดาสูง
ทุกวันนี้ผมจะหาโปรแกรมดี ๆ ซักตัวนึงที่ตรงใจ ต้องอาศัยค้นหาข้อมูลผู้ใช้ หรือหาที่คนอื่นแนะนำก่อน จึงจะตามไปโหลดใน Market อีกที เพราะการแบ่งหมวดหมู่ใน Market นั้นค่อนข้างไม่ช่วยอะไรเท่าไร อีกทั้งระบบการให้ดาวก็ไม่ได้เป็นตัวช่วยในการตัดสินใจที่ดีนัก (ปั่นดาวกันกระจาย)
เรื่องการซื้อ App ก็อีก ถ้า ณ จุดนี้ยังขี้เกียจทำก็ขอเป็นการตัดบัตรเครดิตโดยตรง หรือ Paypal ได้ไหม แต่ทุกวันนี้ผมก็ซื้อได้นะ โกหก Google Checkout นิดหน่อยก็พอไหว แต่ยังเจอเรื่องการ Donate ให้ผู้พัฒนาเข้าให้อีก ซึ่งมักจะให้ Donate ผ่าน Paypal และมันก็ไม่รับบัตรเครดิตของไทย ทำให้ใช้บางโปรแกรมแบบปลดแอกจากโฆษณา หรือ UI ที่ไม่ต้องการไม่ได้ เช่น AdFree และ HandcentSMS เป็นต้น
ข้อเสียอีกข้อนึงของ Market ก็คือการที่ใคร ๆ ก็สามารถอัพโหลดแอพขึ้นไปได้ ทำให้การค้นหาที่ใช้ Keyword ที่ไม่เจาะจงจะเจอกับแอพไร้สาระ หรือไม่ตรงกับความต้องการเยอะมาก ใจจริงผมอยากให้มีการ Approved โปรแกรมก่อนขึ้น Market เหมือน App Store นะครับ แต่ก็เข้าใจแนวนิดของ Google เค้าล่ะ
ดังนั้น ณ วันนี้ ทางเลือกที่ดีที่สุดของผมสำหรับการเลือกโปรแกรมก็คงจะเป็น Appbrain ครับ (แต่ Appbrain มันก็มีข้อเสียนะ คือมันดึงโปรแกรมมาจากทุกโซน ซึ่งบางครั้งเราก็หาจาก Market ไม่เจอ อะไรอย่างนี้เป็นต้น)
Paypal ใช้ K-Web Shopping Card ของกสิกรได้ครับ
Jusci - Google Plus - Twitter
เข้ามายืนยัน ผมก็ใช้ครับเอาไปซื้อ LauncherPro Plus อยู่เลย
I need healing.
ซื้อของได้ครับ แต่ Donate ไม่ได้ ผมลองกับ Handcent แล้วครับ :-)
อันนี้ไม่รู้ครับ แห่ะ ๆ
ปกติไม่ค่อยได้ใช้เงินอยู่แล้ว T-T
Jusci - Google Plus - Twitter
donate handcent มันเป็นยังไงอะครับ พอดีไม่ได้ใช้ แต่ผมโดเนทอย่างอื่นได้ปกติหมดนะครับ
เวลา Donate ด้วยบัตรของธนาคารไทย ถ้าสังเกตุดี ๆ มันจะบอกว่าไม่รองรับการจ่ายเงินแบบนี้ ซึ่งผมลอง Donate ไปแล้ว ตัดเงินแล้ว แต่ไม่มีการตอบกลับจาก Handcent เลย ซึ่งผิดวิสัยมาก เพราะก่อนหน้านี้ผมลองซื้อ LauncherPro Plus ก็ได้รับการตอบกลับพร้อม Serial Number เป็นปกติ เลยฉุกคิดว่าน่าจะมาจากการตั้งเงื่อนไขในการรับ Donate ว่ารับบัตรจากที่ไหนบ้าง ซึ่งคงจะรับจาก US เท่านั้นมั้งครับ (เลยไม่กล้า Donate ให้ AutoKiller เลย กลัวเสียเงินฟรี เพราะตัดไปแล้วปลายทางก็ไม่ได้ เงินเราก็เสีย)
ลองละครับ ขึ้นว่า Sorry, your bank account can't be used for this transaction เหมือนกัน
ระบบดาว และ comment ใน iTunes ทำได้ค่อนข้างดีครับ ปกติ apps ที่ได้ 4 ดาวขึ้น
จะเป็น apps ดีๆ ทั้งนั้น และถ้ายังไม่ได้ดาวน์โหลด ก็ไม่สามารถให้ดาวหรือ comment ได้
( คิดว่า android ก็เหมือนกันในจุดนี้ )
เข้าใจว่า Apple ไม่ใช่แค่กรอง apps อย่างเดียว แต่กรองกระทั้งระบบดาว และ comment ด้วย
Galaxy s มันแถม dictionary นะ แต่ต้องไปโหลดเอาใน samsung apps
ไม่ต้องต่อเน็ตแปลได้เลย
ขอบคุณครับ พอจะบอกชื่อ app ได้ไหมครับ เพราะผมลองค้นหาในเวป samsungapps แล้ว
เจอแต่ app ขนาดไม่เกิน 2MB ซึ่งไม่น่าใช่
ไม่เคยใช้แฮะสงสัยต้องลองศึกษาดู
แฟนพันธุ์แท้สตีฟจ็อบส์ | MacThai.com
ไม่เคยใช้ Market แต่คิดว่าความสำเร็จของไอโฟนส่วนหนึ่งมาจาก App store
ผมเลือกใช้ i-device ต่างๆ เพราะ iTunes และ Appstore เลยหล่ะครับ :-)
ผมไม่ใช้เพราะ 1) มันบังคับต่อ iTunes 2) มันขาดเสรีภาพ