และแล้วก็มีวันนี้จนได้
หลังจากที่โครงการพี่น้องอย่าง OpenSolaris ประกาศแยกตัวออกจากออราเคิล และไปตั้งโครงการใหม่ (fork) ในชื่อ Illuminos ก็ถึงคราว OpenOffice.org ซึ่งเป็นซอฟต์แวร์โอเพนซอร์สอีกตัวของซัน
ชุมชนนักพัฒนา OpenOffice ได้ประกาศตั้งองค์กรไม่แสวงผลกำไร Document Foundation ขึ้นมาแทนการกำกับดูแลโดยซัน/ออราเคิล และนำซอร์สโค้ดของ OpenOffice เดิมมาออกผลิตภัณฑ์ใหม่ในชื่อ LibreOffice
ตอนนี้เครื่องหมายการค้า OpenOffice.org ยังเป็นของออราเคิล ซึ่งทางมูลนิธิ Document Foundation ได้ยื่นจดหมายขอให้ออราเคิลบริจาคชื่อ OpenOffice.org ให้กับทางมูลนิธิ รวมถึงได้รับเชิญให้เข้าเป็นสมาชิกของมูลนิธิด้วย ตอนนี้ทางออราเคิลยังไม่มีปฏิกริยาตอบโต้ใดๆ แต่ดูจากประวัติของออราเคิลกับวงการโอเพนซอร์สแล้ว เราคงได้ใช้ชื่อ LibreOffice กันมากกว่า
การประกาศตั้ง Document Foundation ได้รับการสนับสนุนอย่างดีจากกูเกิล โนเวลล์ เรดแฮท ส่วน Mark Shuttleworth แห่งโครงการ Ubuntu ได้ประกาศว่า Ubuntu ในรุ่นถัดๆ ไปจะเปลี่ยนมาใช้ LibreOffice แทน OpenOffice
ออราเคิลเคยประกาศไว้ว่าจะออกโปรแกรม Cloud Office ที่เขียนด้วย JavaFX และฟอร์แมตเอกสาร ODF แต่คาดว่าเป็นโปรแกรมคนละตัวกับ OpenOffice ในปัจจุบัน
ตอนนี้คงไม่เร็วไปที่จะพูดว่า "ลาก่อน OpenOffice"
ที่มา - Document Foundation, The Register, ZDNet
Comments
ลาก่อน OO.o ที่พักพิงของสารพัดเอกสารบน U ของผม
ไหงกลายเป็น Oracle จอมทำลายล้าง(open source) อีกไม่นานคงมีข่าว MySql เป็นแน่แท้
MySQL นี่เห็นเค้า fork กันไปเป็น MariaDB แล้วนี่ครับ
pittaya.com
ท่าที่ยังไม่ดอง MySql อ่ะครับ
แต่หลังจากเวอร์ชั่น 5.4 ก็ดูเงียบๆไปพิกล
กว่าจะเลิกเรียกว่า ปลาดาว เป็น Openoffice ได้ นี่ต้องเปลี่ยนกันอีกแล้วเหรอ เรียกว่าอะไรล่ะ ลิเบียออฟฟิศ?
อนาคตของ Openoffice.org เองจะเป็นอย่างไร เลิกพัฒนา หรือ oracle จะพัฒนาต่อ
มันเป็นคนละโปรแกรมกันครับ ....
Open Office ก็ดีนะ
แต่ใจจริงอยากได้อะไรที่ "ไม่เดินตามเงา" ของ MicrosoftWord
ทำให้แตกต่างไปเลยเพื่อสิ่งที่ดีกว่า ผมเชื่อว่าการใช้งานแบบที่ MS Office ทำ ไม่ควรเอาเป้นเยี่ยงอย่าง
ลายเซ็นเหมือนจะผิดกฏนะครับ
onedd.net
ทำไมถึงไม่ควรทำตาม MS Office ล่ะครับ
ผมคิดว่าการทำให้การทำงานมันคล้าย MS Office เนี่ยจะดึงคนมาใช้ OO.o ได้มากเลยนะ
เห็นด้วยครับ
ที่ผมต้องใช้ windows อยู่ทุกวันก็เพราะต้องใช้ office นี่แหละ เพราะเรียนอยู่
+1 ตอนการมาของระบบ windows 3.xx ของดีๆ อย่าง CW RW หายไป
และการมาถึงของ Win95 เกิดการทดแทน Lotus 123 และ dBase ด้วย MS Office
สถาบันการศึกษาทั้งของรัฐฯ และเอกชน ต่างหันไปสอนระบบปฏิบัติการและโปรแกรมต่างๆ ของ M$ อย่างเต็มรูปแบบ
ผมไม่แน่ใจว่าในปัจจุบัน สถาบันการศึกษาในบ้านเราให้ความสำคัญกับ OpenSource สักแค่ไหน
เพราะในสมัยของผมขณะทำงานได้ทดลอง RadHat และ Mandrake ไปพอสมควร แต่ก็หาที่ปรึกษาแทบไม่ได้ (สังคม OpenSource ในประเทศไทยตอนนั้นยังไม่เติบโตเท่าตอนนี้) เคยไปลงเรียนกับ nida แต่เอาเข้าจริงๆ มันก็ไม่ได้ตรงกับที่ต้องการรู้ (เบื้องต้นซะยิ่งกว่า Introduction to Computer สมัยผมเรียน DOS แถมไม่ตอบโจทย์อีกต่างหาก ที่ยิ่งกว่านั้น เป็น Linux คนละ Distribution กันอีกต่างหาก คำสั่งก็จะแตกต่างกันไปเล็กน้อย) สุดท้่ายก็มานั่งงมโข่งเอาเอง Internet ณ ตอนนั้นข้อมูลก็ไม่เยอะเท่านี้หรอกครับ อินเตอร์เน็ตความเร็วสูงไม่เป็นที่รู้จัก ถ้า CS Loxinfo ไม่เอาจานดาวเทียมมาให้ทดลองใช้ ข้อมูลทั้งหลายก็คงยังต้องดาวน์โหลดผ่านสายทองแดง 56kpbs อยู่ดี
อย่างน้อยตอนนี้มีการประกาศสนับสนุนระบบปฏิบัติการแห่งชาติกันแล้ว (ขอให้จริงเถอะ)
หากหน่วยงานทุกหน่วยมีแผนงานย้ายระบบทั้งหมดเข้าสู่ระบบปฏิบัติการ OpenSource
ก็น่าจะเป็นนิมิตรหมายที่ดีอยู่หรอกครับ ผมกลัวแต่หลายๆ ประกาศที่เคยมีก่อนหน้านี้
ประทานโทษไว้ ณ ที่นี้ แต่คำว่า LinuxTLE + Chantra ในตอนนั้นหายไปไหน มีแต่ข่าวแต่ไม่มีการผลักดันจากรัฐบาล ไม่มีการอบรมการใช้ ไม่มีการร่วมมือกับสถาบันการศึกษาให้มีการเปิดสอนเรื่อง OpenSource สถาบันการศึกษาที่ผมเรียนอยู่ในตอนนั้น (เข้าศึกษาปี 39) แทบไม่มีการพูดถึงด้วยซ้ำ มีแต่นักศึกษาพูดคุยกันเอง (ระดับ กศบป. ทำงานไปด้วยเรียนไปด้วย ส่วนใหญ่หลายท่านรับทราบเรื่องนี้มาก่อนแล้วเช่นกัน)
หากรัฐฯ จริงจังกว่านี้ก็ไม่ต้องง้อหรอกครับ M$ น่ะ
ป.ล. มาบ่นเห็นด้วยกับคุณ LinGmnZ เฉยๆ :p เดี๋ยวไปบ่นของข่าวนี้ด้านล่างต่อ
+1
เพิ่งลงไปเมื่อเช้าเอง - -a
onedd.net
Libre นี่ออกเสียงยังไงเหรอครับ ลีเบร?
ผมเดาว่า ลิ-เบอร์
น่าจะอ่านเหมือน liber
May the Force Close be with you. || @nuttyi
ลองใช้ google translate ดู ถ้าภาษาอังกฤษมันแปลว่าร้อนแรง ออกเสียงประมาณ ลีบรา
แต่น่าจะเป็นฝรั่งเศสมากกว่า แปลว่าฟรี ออกเสียงประมาณ ลีบ หรือ ลี๊บ ไปลองฟังเอาดูครับ
ลองดูใน Wiktionary ครับ ผมฟังได้ว่า "ลิเบอะ" น่ะ
ลิ-เบอร์
น่าจะรากเดียวกับ Liberty นะ
ก็คงเป็นการตั้งชื่อใหม่ ให้มีความหมายคล้ายชื่อเดิม (อิสระ กับ เปิดกว้าง)
เป็นคำยืม
ออกเสียงในแบบอังกฤษเป็น ลิเบรอะ เสียง ร ในที่นี้คือเสียง r
ฟังการออกเสียงแบบอเมริกันได้จ่กคำว่า Libra ( สัทธอักษรตรงกันเป๊ะ พ้องเสียง )
http://en.wiktionary.org/wiki/Libra
Libre เป็นภาษาสเปน แปลว่า อิสระ ว่าง หรือประมาณคำว่า free :)
A chemical rush''
ฝรั่งเศสด้วยครับ
จริงๆ คำว่า libre เป็นคำที่พวก free software movement (อาจจะรวมไปถึง free culture movement) ใช้กันอยู่แล้ว ในการที่จะอธิบายว่า คำว่า free ใน free software หมายถึง เสรี (libre) ไม่ใช่ ไม่เสียเงิน (gratis) เพราะคำว่า free ในภาษาอังกฤษมีสองความหมาย
ลองดู http://en.wikipedia.org/wiki/Gratis_versus_Libre
น่าจะมาจาก Liberty = อิสระภาพ
ลิบเบรอะ ภาษาฝรั่งเศสครับ
ผมว่ามันเป็นข่าวดีนะ ไม่ใช่ข่าวร้าย หลุดพ้นความอึมครึมซะที
ผมว่าสปอนเซอร์เพียบ
Oracle เทพพยากรณ์ผู้ล่าสังหาร Open Source (ของตัวเอง)
ชัดเจนไปยังงี้แหละดีแล้ว
ช่วงนี้ Oracle ดู Evilๆ
จะได้เขียนชื่อโปรแกรมโดยไม่ต้องมี .org ตามหลังให้สับสนแล้ว
ผมชอบชื่อ LibreOffice มากกว่า OpenOffice[.org] อีกนะ
Jusci - Google Plus - Twitter
ลาก่อน แต่ยังรักและอาลัยนะ
หวังว่า LibreOffice จะทำให้ผมพอใจและใช้มันแทนได้
จริงๆ Oracle ได้ของดีจาก Sun ไปเยอะมากเลยนะ
ทำไมไม่ดูแลดีๆ dev commu จะได้อยากอยู่ด้วยต่อ
แล้ว GO-OO ล่ะครับ ผมชอบใช้ GO-OO มากกว่า
ดูอารมณ์แล้วน่าจะมารวมกันนะครับ เพราะ Go-OO แยกไปเนื่องจาก Novell ทะเลาะกับ Sun
"We are delighted to announce that the enhancements produced by the Go-OOo team will be merged into LibreOffice, effective immediately."
http://www.documentfoundation.org/faq/
แจ่มเลย... อิอิ
OO แปลงกายเป็น Oracle Office ไปแล้ว
ฮาา
ลงชื่อสนับสนุนการแยกตัวเป็นอิสระของ OpenOffice.org จาก Oracle ได้ที่นี่ครับ
http://www.petitionspot.com/petitions/documentfoundation/
Oracle มาทีโอเพ่นซอส์ทของซัน แตกกระจายหมดเลย
เหมือน Oracle เอาไปได้แค่ชื่อ
Blognone = 138.1 news/w เยอะมากๆ
.. และอีกหน่อย แม้แต่ "ชื่อ" ก็จะไม่เหลือ ??
อย่างไงก็ได้ ขอให้พัฒนาต่อไปล่ะกัน ;)
แม้จะโหดร้าย
แต่ถ้าทำเงินไม่ได้ ไม่มีคน subsidize ให้ ก็ไม่รอดในโลกธุรกิจครับ
Wing of LibreOffice
ไม่รู้ว่าผมจะคิดไปเองหรือเปล่านะ
แต่ผมมักจะเห็นว่าหลายๆ ครั้งที่หน่วยงานเกี่ยวกับ OpenSource มักจะมีปัญหากับเรื่องการจัดการเสมอ
และมันมักจะมีเรื่องผลประโยชน์เข้ามาเกี่ยวข้องด้วยทุกครั้ง (อันนี้ผมพูดถึงแง่ของนายทุนนะครับ)
ซึ่งหลายๆ ครั้งที่มีการเปลี่ยนมือ นโยบายก็จะเปลี่ยนตาม ส่งผลกระทบทุกทีสิน่า (ดูจากหลายๆ กรณีที่เคยผ่านมาแล้วนะครับ)
ก็ยังเอาใจช่วยเสมอครับ เพราะ OpenOffice ก็ยังเป็นแหล่งพักพิงของเอกสารหลายๆ ชิ้นของผมอยู่เช่นกัน
เห็นด้วยเรื่องผลประโยชน์ผมอยู่ในแวดวงราชการเลยรู้ว่าการผลักดันโครงการอะไรที่เป็นการปลดแอกประเทศออกจากต่างชาติมักมีมือที่มองไม่เห็นอยู่เสมอๆ ส่วนผลประโยชน์ไม่ใช่ไม่มีนะครับแต่ตกกับครอบครัวผู้บริหารแล้วชาติก็เสียประโยชน์ เพราะมันเป็น zero sum game