ไมโครซอฟท์โพสต์วิดีโอความยาวเกือบ 3 นาทีลงใน YouTube ของ officevideos โดยเป็น "คำพูด" ของผู้ที่ใช้ OpenOffice.org แล้วบอกว่าไม่ดีอย่างไร
ตอนนี้วิดีโอโดนเก็บไปเรียบร้อยแล้ว (เหลือแต่ภาพ thumbnail ของวิดีโอ ดูได้ท้ายข่าว) แต่ทาง Ars Technica รายงานว่าในวิดีโอนี้รวมคำพูดจากผู้ใช้ 17 ราย ซึ่งส่วนมากมาจากกรณีศึกษาบนเว็บไซต์ของไมโครซอฟท์ ผู้ใช้ 14 รายพูดเรื่องค่าใช้จ่ายแฝงของ OpenOffice.org, ปัญหาเรื่องความเข้ากันได้, ประสิทธิภาพในการทำงานที่แย่กว่า ฯลฯ และอีก 3 รายบอกว่าได้เปลี่ยนกลับมาใช้ Microsoft Office แล้ว
ผมคิดว่าความเห็นส่วนมากเห็นตรงกันว่า Microsoft Office ย่อมดีกว่า แต่พอเทียบคุณภาพต่อราคาแล้ว OpenOffice.org ก็เหลือเฟือต่อความต้องการของผู้ใช้ส่วนใหญ่ครับ
ที่มา - Ars Technica
Comments
ในความเห็นของผมถ้าทุกอย่างเริ่มต้น ดำเนิน และจบด้วย OO.o นั้นไม่มีปัญหาอะไรเลยครับ ไหลลื่น เป็น Office Suite ที่ดีชุดนึงเลย
แต่มันจะมีปัญหาเรื่องใช้งานร่วมกับ MS Office นั่นล่ะครับ แน่ละ ลูกคนละพ่อคนละแม่ ต่างคนต่างมา จะให้เข้ากันได้ 100% มันเป็นไปไม่ได้
ทำเป็นเล่นไปนะท่าน
แนวโน้มองค์กรเล็กถึงกลางเริ่มหันมาใช้โอเพ่นกันเยอะแล้ว เพียงแต่มันไม่ได้ลงทะเบียนผ่านเวบแค่นั้นเอง เมื่อในองค์กรใช้ก็แน่นอนว่าคนที่อยู่ในองค์กรบางคนจะติดตั้งไว้ที่บ้านด้วย ที่มันใช้งานยากตอนนี้เพราะว่าความเคยชินกับของเดิมๆ ผมยกตัวอย่างให้กับพนักงานในบริษัทว่า มันก็เหมือนกับกินไก่เคเอฟซี ปกติอยู่บ้านเราถนัดที่จะจับไก่ด้วยมือแล้วแทะด้วยปาก แต่พอไปนั่งกินที่ร้านต้องใช้ส้อมและมีดเถือทำให้รู้สึกว่ายุ่งยากไม่ถนัด หรือใครที่เริ่มใช้ตะเกียบจะเห็นว่ามันคีบเส้นไม่ติด พอใช้บ่อยๆ มันจะรู้เทคนิคและรู้สึกชิน การใช้โอเพ่นออฟฟิศก็เหมือนกัน
กินไก่มันไม่ต้องแลกกันกิน หรือผลัดกันแทะนี่ครับ ผมเห็นด้วยกับ comment ล่างมากกว่า ที่งานเล็กน้อยก็ไปใช้ google docs
หมายเหตุ: หลังจากพบเจอประสบการณ์ตรงมานาน ผมคิด (เอาเอง) ว่าลูกค้าให้ความเชื่อถือหรือประเมินระดับความน่าเชื่อถือ จากหน้าตาเอกสารที่ส่งให้ด้วย ถ้าเปิดออกมาแล้วเละนี่โดนตัดจิตพิสัย (กรณีที่ส่งเป็น PDF ไม่ได้) ^^
ก็ต้องสอบถามลูกค้าว่าเหตุใดต้องส่งในรูปแบบนั้น
บางคนทำตามประเพณี พอถามที่มาก็ตอบไม่ได้
แต่ทั้งนี้ ถ้ามีตังค์ก็ซื้อไป ถ้าไม่มีก็เจียมตัวอะไรแบบนี้ครับ
ปล.แม้แต่ไก่ (ms office) ที่เลี้ยงจากไมโครซอฟท์แล้วเอามาแลกกันกิน (share) ยังมีปัญหาทุกเล้า (version) เลยครับ ไม่เห็นมันจะได้รูปแบบตรงกันสักที
เปรียบเทียบเรื่องเล้ากะไก่ได้เห็นภาพ :D
จริงที่ MS Office ต่างเวอร์ชันกันเปิดออกมาไม่เหมือนกัน แต่ OOo ก็ใช่ว่าจะทำได้เหมือนกันทุกเวอร์ชันนะ
Jusci - Google Plus - Twitter
ดังนั้นประเด็นนั้นจึงไม่ควรเอามาว่าคนอื่นไงครับ
เป็นการแสดงอาการออกมาค่อนข้างชัด ว่าส่งผลกระทบ
บริษัทที่ทำงานของเพื่อนผม เป็นบริษัทมหาชนตอนนี้เริ่มนำ Open office มาใช้ทดแทน ในองค์กร
แล้ว
สำหรับตัว ms office เองเท่าที่สังเกต feature ระดับ advanced ที่นำเสนอและพยายามสนับสนุนให้ใช้ ผู้ใช้ส่วนใหญ่จะบอกว่า ไม่จำเป็น เกินความจำเป็น
มันไม่ใช่แค่ความคุ้นชินอย่างเดียว ประสิทธิภาพก็ต่างกันครับ
งานของผมต้องเปิดเอกสารหลายๆ file ไว้พร้อมกัน เช่น word ,spreadsheet ,powerpoint
แล้วต้อง copy paste ข้ามไปข้ามมา
ถ้าไปใช้ OO.o นะครับจะรู้ว่านรกมีจริงวันนึง force close สามสี่ครั้ง
ผมคิดว่าถ้าเป็นงานเล็กๆน้อยๆก็พอได้ครับ แต่ถ้ามันเล็กน้อยผมก็ไปใช้ google docs ครับ
"แทบทุกคน" เห็นตรงกันอยู่แล้วครับ ว่าเรื่องคุณสมบัติการใช้งาน และประสิทธิภาพ ตัว MS Office ดีกว่าอยู่แล้ว และถ้างานคุณต้องการสิ่งเหล่านี้ MS Office คือคำตอบ
แต่ถ้างานเล็กน้อยทั่วไปและต้องการลดค่าใช้จ่าย (อย่าลืมว่า license MS Office สำหรับกลุ่มองค์กรเอกชนแพงมาก!) OO.o หรือ google docs หรือแม้กระทั่ง Office live น่าจะเป็นทางเลือกที่ดีครับ
ตอนนี้พยายามใช้ Office web apps อยู่ (เพราะเดี๋ยว Office 2010 beta หมดอายุแล้ว T_T) ผมว่าก็ใช้ได้ระดับนึงนะ แต่เรื่องการ sync ไฟล์ระหว่าง cloud กับ PC ผมว่ามันยังไม่เวิร์คเท่าไหร่
MS Office 2010 Home & Stupid! ราคาประมาณ 3000 บาท ใช้งานได้ 3 PC ก็น่าสน
ส่วนการซิงค์ไฟล์ ผมใช้ OO.o + Dropbox ครับ อารมณ์เหมือน MS Office 2010 + Skydrive
ยิ่งเดี๋ยวนี้ dropbox มีบริการย่อ url ตามสมัยนิยมแล้วด้วย (http://dd.tt/xxxxx) ยิ่งใช้งานง่ายครับ
เวลาเสนอราคาให้ลูกค้า ผมโทรแจ้งเป็น url ไปเลย ลูกค้าเห็นจะจะ จะให้แก้ตรงไหนก็ไม่เกินนาที
อืม แจก dropbox referral จะบาปมั้ยเนี่ย :P
มันใช้ในองค์กรไม่ได้ไงครับ รุ่น Business เกือบหมื่นแน่ะ
ที่สำคัญ โปรแกรมที่ค่อนข้างจำเป็นอย่าง Access ยังมีตั้งแต่รุ่น Pro. ขึ้นไป (ประมาณ 15,000) ด้วยซ้ำครับ
รุ่นที่เป็น OPNL สำหรับองค์กร 15,000 เฉพาะไลเซ่นส์สแตนดาร์ด เวิร์ด เอิกเซล พาวเวอร์พอยท์ เอาต์ลุค
อย่างอื่นพอทดแทนกันได้
ยกเว้น spreadsheet ยังอีกนาน
ยิ่งบริษัทที่มีการใช้ excel ผูกสูตรคำนวนกันยุ่งๆนี่แทบไม่ต้องพูดถึงการเปลี่ยนไปใช้ OO เลย
ในอีกมุมหนึ่งเป็นเพราะว่าใช้ไอทีไม่คุ้มค่า เอ็กเซลทำบางอย่างได้จริงแต่บางทีไม่จำเป็นต้องใช้เอ็กเซลเลย แต่ใช้วิธีการเขียนโปรแกรมประมวลผลซึ่งทำได้ดีกว่า เร็วกว่า แล้วเอาผลที่ได้นั้นไปใช้ได้ทันที
เป็นประสบการณ์ตรงจากบริษัทผมเลย เมื่อก่อนใช้เอ็กเซลคำนวณเกี่ยวกับต้นทุนและวางแผนต่างๆ มันช้ามาก ซับซ้อน ยิ่งทำไฟล์ยิ่งใหญ่ ถ้าหากมีใครลาออกไปแล้วคนรับช่วงต่อนี่นรกชัดๆ ตอนหลังปรับปรุงเป็นระบบใหม่ ใช้ภาษาโปรแกรมเข้ามาช่วย เร็ว ลื่น ทุ่นแรงและทุ่นเวลาได้เยอะมาก สุดท้ายแล้วเอ็กเซลแทบจะไม่ต่างจากโอเพ่นออฟฟิศเลย
ปล. ผูกสูตรเยอะๆ แล้วทำให้ไฟล์ใหญ่ขึ้นๆ สะสมข้อมูลมากๆ แล้วทำให้เปิดช้า ถ้าเสียขึ้นมาละหน้ามืด
+1 คิดผิดที่ใช้ Excel ทำสูตรที่ซับซ้อน
ปล.ผมก็ทำ(ระบบ stock) ตอนนี้ไฟล์ใหญ่เกือบ 30 mb. แล้ว Excel แฮ้งทุกวัน
Openoffice ไม่ต้องพูดถึง เปิดไฟล์ยังไม่ขึ้นเลย
เลียนแบบ The A_____'s Group เจ้าของหนังสือ P_ W____ เลยล่ะ
MS กลัว OO ??
ไม่เป็นไร ไปใช้ LibreOffice แทนก็ได้ :D
โดยส่วนตัวเอง ถ้านับเฉพาะ word processor (เพราะเป็นอันที่ใช้มากที่สุด) ทุกวันนี้ผมชินกับ OO.o มากกว่า Word แน่ๆ และในระดับที่ทำอยู่ ยังรู้สึกว่า Writer เพียงพอ (แต่ Impress นี่คนละเรื่องกัน)
จริงๆ เท่าที่เห็น หลายคนก็ใช้ Word ไม่ต่างจากใช้พิมพ์ดีดนะ
MSOffice มันเหนือกว่าอยู่แล้วล่ะแบบว่า Openoffice ยังห่างชั้นนัก MS ไม่เห็นต้องออกมาพูดอะไรเลย
แบบนี้แสดงว่า MS เริ่มหวั่นใจอยู่นิดๆแล้วหละ
ปล.ที่ทำงานผมใช้ Openoffice ราวๆ 60 เครื่องครับ
ใช้ Msoffice ไม่ถึง 10 ให้ใช้เฉพาะแผนกบัญชี กับ warehouse พอและ
ผู้ใช้ตามบ้านไม่น่ากลัว แต่กลุ่มองค์กรนี่สิครับ คงถูกแย่งส่วนแบ่งไปมาก
+1 เหมือนกัน
นี่ถ้าบอกว่ามีเครื่องเป็นร้อยผมต้องแปลกใจว่าเราอยู่บริษัทเดียวกันหรือเปล่า
+1 ส่วนใครจะใช้อะไรก็แล้วแต่ว่าต้องการใช้ฟีเจอร์อะไรบ้าง ใช้มากมายก็ซื้อไปนิดหน่อยก็โอเพนซอร์ส
แค่พิมพ์อย่างเดียวเวิร์ดจุฬาก็พอแล้วนะผมว่า
มีจริงๆ นะครับที่ยังใช้เวิร์ดจุฬา ผมเจอกับตัวคือเขาใช้เขียนข่าวก่อนส่งเข้าส่วนกลาง
แต่ถ้าจะแค่ประชด notepad ก็น่าจะเพียงพอ :D
ดีที่ไม่ได้อัด LibreOffice ด้วย หึหึ
กว่าผมจะให้ user ทำใจเปลี่ยนมาใช้ OO.o ได้ เกือบปี เพราะมันทำงานแบบ MS Office ด้วยวิธีเดียวกันไม่ได้
+2 ปี
แต่ภายหลังใช้วิธีบังคับ เห่ะๆ
+1 ปีเช่นกัน
ใช้ Go-oo เพราะมันทำงานแบบ MSoffice ด้วยวิธีเดียวกันได้ไกล้เคียงกว่า Openoffice
MS ไม่ต้องออกมาโจมตีหรอกครับ
ถ้า OO.o ไม่ดีจริงผู้ใช้ก้คงซื้อ MS เองแหละ
แต่นี่แสดงว่ามีผลกระทบ เลยร้อนตัว
จากประสบการณ์ตรง
Microsoft ยังมี Outlook ที่ยังเหนือชั้นกว่าโปรแกรมอีเมล์ตัวอื่นมาก ๆ
ยิ่งเชื่อมกับระบบเมล์องค์กรที่ใช้ Microsoft Exchange ล่ะก็นะ ยังไม่สามารถมีอะไรมาเทียบมันได้
ไม่ว่าจะเป็น Mail / Calendar (หลัง ๆ มานี่บริษัทผมใช้ Calendar + Room Mailbox ในการจองห้องประชุม จองรถ จองอุปกรณ์ต่าง ๆ กันสะดวกสุด ๆ) / Contact การนัดหมายอะไรต่าง ๆ มี Assistance ให้ด้วย ดูว่าเค้าว่างหรือเปล่า ทำ Meeting Invite กันสะดวกนะครับ
Microsoft ActiveSync ที่เชื่อมกับ Exchange ไม่ว่ามือถือ Smart Phone รุ่นไหนก็ต้องมีรองรับ
รุ่นไหนไม่รองรับ ก็ถือว่า...ล่ะมั้งครับ
ยิ่ง Excel ยิ่งไม่ต้องพูดถึง อันนี้ไม่ได้เชียร์นะครับ
เอาแค่เล็ก ๆ น้อย ๆ มาพูดเทียบกันดีกว่า อันใหญ่ ๆ คงเทียบ Excel ไม่ได้
ผมเคยให้ User ใช้ OO.o ตอนเวอร์ชั่น 3.0.x นี่แหละครับ User บอก ตีเส้นตารางคู่ไม่ได้ (ผมก็งง ???)
แถมบางฟังก์ชั่นต้องโหลด Add-On เข้าไปอีกถึงจะใช้ได้ แต่ก็ใช้ใน User Level Mode ไม่ได้อีก ใช้ได้แต่ Administrator อย่างเดียว ความสะดวกต่อการดูแลระบบก็ไม่ได้ User ก็ใช้ไม่สะดวก ก็เลยเลิกใช้ กลับมาใช้ Excel เหมือนเดิม
PowerPoint นี่ Impress อย่าได้อาจหาญมาเทียบเชียว มันเทียบกันไม่ได้จริง ๆ
ไม่รู้เวอร์ชั่นใหม่จะเป็นยังไงบ้างนะครับ
ผมเพิ่งเจอข้อเปรียบเทียบใหม่ใน Microsoft Office Version ต่าง ๆ เมื่อเร็ว ๆ นี้เอง
ผมพบว่า MS Excel 2010 x86-64 ทำงานได้ดีกว่า MS Excel 2007 / 2010 x86 มาก ๆ
มีไฟล์ Excel ที่เค้าใช้ทำงานกัน ขนาดก็ไม่ใหญ่มากนะครับ Sheet ละไม่กี่หมื่น Row หรือประมาณไฟล์ละ 8-15 MB เอง (ในนั้นไม่มีรูปนะครับ มีแต่ข้อมูลล้วน ๆ)
พบว่า Excel 2010 x86-64 ประมวลผลได้เร็วกว่ามาก ๆ
เปิดไฟล์ใช้เวลา 6-7 วินาที พร้อมใช้งาน (แต่ Excel 2007 / 2010 x86 ใชเวลาถึง 20-25 วินาทีกว่าจะพร้อมทำงาน)
ยิ่งช่วงใช้งาน ยิ่งไม่ต้องพูดถึง เหมือนหนังคนละม้วนกันเลยจริง ๆ
ผมเดานะครับว่า OO.o Calc คงจะแย่กว่า MS Office 2007 อีกมั้ง ไม่ได้ลอง
ในเรื่องอีเมล์ที่ยกตัวอย่างมา ชื่อมันก็บอกอยู่แล้วครับว่า "Microsoft" Outlook กับ "Microsoft" Exchange
ปัจจุบันผมใช้ Thunderbird+Lightning add-on ก็ไม่เลวร้ายอะไรนะ
ส่วนเรื่อง excel ถ้าแค่ติดปัญหาเรื่อง add-on หรือตีเส้นตารางคู่ไม่ได้ แล้วต้องมีค่าใช้จ่ายเพิ่มขึ้นเครื่องละ 10,000 (xจำนวนเครื่องเอง) แล้วผมต้องเป็นคนจ่ายตังค์ ผมคงไม่เสียตังค์จ้างคนมาดูแลแล้วยังต้องมาเสียตังค์เพราะเหตุผลแบบนี้หรอกนะ
Impres ยังไงมันก็เทียบกับ PowerPoint ไม่ได้แน่นอน แต่ก็เหตุผลคล้าย ๆ ด้านบน ถ้าเครื่องที่จะใช้ Present งานในองค์กร แล้วขอใช้ MS PowerPoint เพราะ Impress ได้ไม่สวย แล้วต้องเสียค่าลิขสิทธิ์เครื่องละหมื่น มันคงไม่สมเหตุสมผลแน่นอน แต่...ถ้า Present นั้นเอาไปใช้กับลูกค้า หรือภายนอกองค์กร อันนี้ถึงพอจะพูดได้ว่าน่าพิจารณา
ที่ยกตัวอย่างมาคือหลาย ๆ เคสที่ผมเองก็เจอ แต่มันมักจะเกิดจากความรู้สึกที่เราเคยได้ใช้อะไรดี ๆ ฟรี ๆ (หรือถูก ๆ กว่าราคาจริงของมัน) กันจนเป็นนิสัย เปรียบเทียบกับว่า ถ้าเป็นบ้านเราเองทุก ๆ บ้านย่อมอยากมี LED TV 3D จอใหญ่ ๆ ชุด Home Theater หรือแม้แต่รถยนต์สุดหรู แต่ทุกวันนี้บางบ้านก็ยังใช้จอ 14-21 นิ้วธรรมดา ฟังวิทยุโบราณ หรือแม้แต่ขับจักรยาน/มอเตอร์ไซค์กันอยู่ เพราะความจำเป็นในการใช้งานกับค่าใช้จ่ายที่ต้องเสียไปเค้ามองว่า "ไม่คุ้มค่า" หรือ "ยังไม่จำเป็น" หรือแม้แต่ "ซื้อไม่ไหว" ในขณะที่เรื่อง Software กลับไม่คิดกันแบบนั้น?
Exchange + outlook สุดยอดครับ
ส่วน OO.o Calc ผมว่ายังสู้ Office 2002 ไม่ได้เลยครับ ไม่ต้องถึง 2007 หรอก
เอาเป็นว่าจะใช้อันใหนก็แล้วแต่สภาพงาน และสภาพเงินครับ ของดีมันก็ต้องแพงเป็นเรื่องธรรมดา
ปล.ส่วนที่บอกว่า ใช้ Calendar + Room Mailbox ในการจองห้องประชุม จองรถ จองอุปกรณ์ต่าง ๆ กันสะดวกสุด ๆ) / Contact
ของผมใช้ Group-Office ครับ ทำได้หมดทุกอย่างที่ว่ามา เป็น Opensource ใช้ฟรีไม่มีช๊าต แถมยังทำให้ส่ง sms เตือนเราตอน task ครบกำหนดได้ด้วย (sync กับ google Calendar)
IBM Lotus Symphony ก็นิยมในจีนเหมือนกันนา
ใช้ Oo.o มาตลอด มีทั้งข้อดีและข้อเสีย ถ้าคุณทำงานเอกสารทั่วไป คำนวณนิดหน่อย Oo.o คือคำตอบ
แต่ถ้าคุณทำงานคำนวณมาก ๆ และงานนำเสนอ (Power Point) ใช้ MS-Office เถอะครับ Impress ยังห่างอยู่หลายขุม
ในระดับองค์กร ที่จำเป็นต้องใช้ MS-Office จริงๆ เค้าก็คงต้องยอมซื้อหล่ะครับ
แต่พวก เอกสารทั่วไปนี่ใช้ Oo.o ประหยัดได้เยอะครับ
ไม่รู้หล่ะ แต่ใน ธ.ไทยพาณิชย์ ใช้ 100 % แล้ว
Internet Thailand ก็ 100 แล้วครับ
บริษัทผม 95 บางส่วนยังใช้ excel ที่มีสูตรซับซ้อน