เรื่องปวดหัวประจำงานเทศกาลของหลายๆ คนคงเป็นเรื่องของการเลือกของขวัญให้ถูกใจคนรับซึ่งไม่ว่าจะเลือกดีอย่างไรก็มักจะพลาดเอาจนได้เสมอๆ ทางออกที่ง่ายกว่าคือการให้คูปองเงินสดไปแทน แต่ก็ดูน่าประทับใจน้อยกว่า ล่าสุดของ Amazon ก็ได้รับสิทธิบัตรใหม่ที่เป็นทางออกที่ดูดีกว่าให้กับทุกฝ่ายแล้ว ด้วยการอนุญาตให้ผู้รับสามารถขอเปลี่ยนของขวัญได้ทันทีแม้จะยังไม่ได้รับของก็ตาม
เมื่อผู้รับรู้ว่าตัวเองกำลังจะได้รับอะไรแล้วไม่ต้องการของชิ้นนั้น ผู้รับสามารถขอเปลี่ยนของ, เพิ่มเงิน, หรือขอคูปองเงินสดมาเก็บไว้ ก่อนที่ของจะถูกส่งมาถึงบ้าน โดย Amazon จะให้เลือกได้ว่าจะส่งคำขอบคุณกลับไปยังผู้ให้ของขวัญแล้วแจ้งว่าได้เปลี่ยนของไปแล้ว หรือจะปล่อยให้คนให้ไม่รับรู้
กระบวนการนี้จะทำให้สินค้าจำนวนมากไม่ต้องถูกส่งเข้าออกไปมาจากคลังสินค้าของ Amazon ฟรีๆ โดยทุกวันนี้มีสินค้าถูกส่งคืนเนื่องจากเป็นของขวัญที่ไม่ถูกใจถึง 13% ส่วนก่อนหน้าที่จะมีคูปองเงินสดนั้นการส่งคืนสูงถึง 38%
สิทธิบัตรนี้ยื่นขอตั้งแต่ปี 2006 และเพิ่งผ่านเมื่อเดือนพฤศจิกายนที่ผ่านมา
ถ้าระบบนี้มีการใช้งานจริง เราอาจจะมีตัวเลขงานวิจัยบอกได้ว่าหนุ่มๆ ซื้อของไม่ถูกใจสาวๆ บ่อยแค่ไหนเป็นรายปี
ที่มา - PhysOrg
Comments
เข้าท่าดีเหมือนกันแฮะ
blog.semicolon.in.th
แค่กระบวกนการสร้างความพึงพอใจในบริการให้ลูกด้วยการเปิดให้ผู้รับสามารถเปลี่ยนของขวัญได้ ฟังดูเหมือนเป็นวิธีการธรรมดา ๆ ถึงกับต้องจดสิทธิบัตรเลยเหรอ
แปลกดีนะครับ เหมือนเป็นตรรกะง่าย ๆ เท่านั้นเอง ผู้รับไม่พอใจ ร้องขอเปลี่ยนของใหม่..
คิดเหมือนกันเลยว่าเรื่องแบบนี้ถึงกับต้องจดสิทธิบัตรเลยเหรอ
มันแปลกใหม่ตรงที่ เปลี่ยนได้ก่อนที่ของจะมาถึงไงครับ
iPAtS
แม้จะเปลี่ยนได้ก่อนที่ของจะมาถึงผู้รับก็เถอะครับ มันก็ดูเหมือนเป็นตรรกะทั่ว ๆ ไป ส่วนการพัฒนาระบบให้รองรับการเปลี่ยนของได้ก่อนมาถึงผู้รับ ผมก็คิดว่าใคร ๆ ก็น่าจะสามารถทำได้ ถ้าคิดว่าเหมาะูกับธุรกิจของตัว ไม่น่าจะผูกขาดแนวคิดนี้ฝ่ายเดียว
น่าจะมีข้อมูลที่เราไม่รู้อีกมากเกี่ยวกับสิทธิบัตรและความคุ้มครองในทรัพย์สินทางปัญญา
ผมว่าควรจะสังฆายนาองค์กรจดสิทธิบัตรได้แลัวนะ ไม่งั้นอีกไม่นานโลกคงจะวุ่นวายน่าดู
มันแปลก ที่คนเราเพ่งเล็งไปถึงสิ่งของที่ได้รับ มากกว่า "ความรู้สึก" ของคนที่ให้
+1
+1
Happiness only real when shared.
ผมเป็นคนชอบอ่านหนังสือ เพื่อนๆ ก็รู้ดี
เมื่อก่อนนี้ได้ของขวัญเป็นหนังสือที่ซ้ำกับที่ผมมีแล้วทุกปี! - -"
(น้อยกว่านี้หน่อย ก็ได้หนังสือแนวที่ไม่คิดจะเฉียดเลย อย่างนิยายเขย่าขวัญ สั่นประสาท อ่านแล้วฝันร้าย)
หลังๆ มาเลยต้องบอกกับเพื่อนทุกคนไปว่า ของขวัญเอาอะไรก็ได้ที่มันไร้สาระ
ห้ามซื้อของมีสาระมาให้เป็นของขวัญเด็ดขาด
ปัจจุบัน ตุ๊กตาเต็มห้อง - -"
จริงๆ มันมีวิธีง่ายกว่านั้นนะ คือบอกไปเลยว่าเราอยากได้อะไรบ้าง
แต่พอทำอย่างนี้ก็ดูเหมือนคุณค่าลดลงไปอีก
เฮ้อ...
ผมว่ามันทำลายคุณค่าของการให้ของขวัญไปเยอะเลยนะ...
ต่อไปนี้หนุ่ม ๆ ก็ไม่ต้องปวดหัวกันการเลือกซื้อของขวัญแล้วสิ เพราะเลือกของส่ง ๆ ไป
เดี๋ยวคุณเธอก็เอาไปเปลี่ยนเอง...
Happiness only real when shared.