พอล อัลเลน (Paul Allen) คู่หูผู้ร่วมก่อตั้งไมโครซอฟท์กับบิล เกตส์ได้ให้สัมภาษณ์แบบเจาะลึกกับรายการ 60 Minutes ถึงเรื่องการก่อตั้งบริษัทไมโครซอฟท์และการทำงานภายในบริษัท โดยอัลเลนได้ให้ความเห็นเกี่ยวกับการทำงานร่วมกับบิล เกตส์นั้นเหมือนกับต้องตกนรก ("being in hell")
นอกจากนั้นพอล อัลเลนยังได้พูดถึงเกตส์ในแง่ลบอีกหลายอย่างเช่น การไม่ยอมแบ่งรายได้ในการก่อตั้งบริษัทกัน 50-50 แต่เกตส์กลับต้องการมากกว่านั้นจนได้ 60% และเปลี่ยนเป็น 64% ในท้ายที่สุด หรือในช่วงที่อัลเลนป่วยเป็นโรคมะเร็งนั้น ทั้งเกตส์และบัลเมอร์พยายามกดดันให้เขาขายหุ้นทั้งหมดออกไปด้วย
ปัจจุบันพอล อัลเลนได้ลาออกจากไมโครซอฟท์ไปแล้วตั้งแต่ปี 2000 แต่ก็ยังรับเป็นที่ปรึกษาให้กับผู้บริหารในไมโครซอฟท์อยู่ และถือหุ้นในบริษัทกว่า 138 ล้านหุ้น
ที่มา - ObamaPacman
Comments
อูยย D.R.A.M.A.
ผมก็เคยสงสัยมาตั้งนานแล้วว่า ทำไมเห็น Paul Allen เป็นผู้ร่วมก่อตั้ง แต่ไม่เห็นทำงานเคียงคู่กันมานานเลย
รู้แต่เลิกตอนป่วย หรือหลังจากป่วยเนี่ยแหละ แล้วเพิ่งกลับเข้าไป
แต่ก็รวยนะครับ แม้ไม่ทำงานกับ microsoft ก็ยังรวยมากมาย
ปล. แล้วคนอื่นๆ จะมีใครว่าเป็นนรกมั่งไหมเนี่ย... หรือมันอาจจะเป็นเฉพาะช่วงก่อตั้งแรกๆ!?
อุ่ย แรง! และก็เคยอ่านเจอว่าทำงานกับ Jobs ก็กดดันเหมือนกันนิ?
ปล.บอลเมอร์ > บัลเมอร์ครับ
Pitawat's Blog :: บล็อกผมเองครับ
แก้แล้วครับ ขอบคุณครับ :)
แฟนพันธุ์แท้สตีฟจ็อบส์ | MacThai.com
รวยอ่ะ มีเรือดำน้ำด้วย
เอาไว้ท่อง Aquarium ส่วนตัวของ Bill Gates ครับ
(Aquarium ของ Bill Gates เป็นเรื่องจริงรึเปล่าครับ?)
ไม่อยากเชื่อว่าจะมาจากปากของพอลฯ คู่หูบิล !?
เรื่องนี้สอนให้รู้ว่า สิ่งที่เราเคยทำกับใครที่ไม่ดียังไงก็ส่งไม่ดีวันยังค่ำ แม้ว่าทุกวันนี้เราจะทำดีแค่ไหนก็ตาม
ก็ไม่สามารถเอามาทดแทนกันได้
Being in Hell - มันหมายความถึงงานหนัก งานโหดก็ได้ครับ ถ้าเหมือนกับ "ตกนรก" มันน่าจะเป็นในอารมณ์ว่าเค้าเองก็ไม่ได้อยากทำ แต่โดนบังคับให้อยู่ ซึ่งผมมองว่ามันไม่ใช่นะ อัลเลน ก็อยากทำล่ะ ไม่งั้นก็ไม่รวย ฮ่าๆ
ผมอ่านต้นฉบับมาตอนเช้า จึงค่อนข้างมั่นใจที่ต้องใช้คำว่า "ตกนรก" ครับ
มีตอนนึงที่ลุงอัลเลนบอกว่า ลุงเกตส์มักจะโจมตีเรื่องส่วนตัวเมื่อไม่ได้ดั่งใจต้องการ และชอบระเบิดอารมณ์ใส่ตัวเขาอยู่บ่อยครั้ง ลุงอัลเลนต้องอดกลั้นเป้นอย่างมากเวลาลุงเกตส์ระเบิดอารมณ์
ไอ้ที่ผมแปลฟังแล้ว Erotic แบบ Brokeback หน่อยๆ แฮะ
ไม่รู้สิในความคิดผม ในเรื่องทำงานหนัก ผมว่ามันยังไม่ใช่ Being in Hell นะครับ แต่เรื่องแบ่งผลประโยชน์ก็ไม่ยุติธรรม(สำหรับผม)และยังเรื่องกดดันให้เขาขายหุ้นทั้งหมด(ตามข่าว) ผมว่านี่แหละ Being in Hell ชัดๆ เลย
ปริมาณงาน ที่เราเรียกว่าทำงานหนักของเรา
เค้าอาจจะรู้สึกน้อยมาก เหมือนกับว่าวันนี้เหมือนไม่ได้ทำงานอะไรเป็นชิ้นเป็นอันก็ได้
หรือที่เค้ารู้สึกว่างานหนัก เราอาจจะรู้สึกว่าชิวๆ สบายๆ ก็ได้
ส่วนตัวผมว่าทำงานกับ start up company นี่ก็เหมือนตกนรกนะครับ ต้องรอมันนิ่ง ๆ ก่อนถึงจะดีขึ้น
ดี แล้ว แต่ยัง ดี ไม่พอ...
ดูคลิปสัมบางช่วงพอลก็ดูสะเทือนอารมณ์เหมือนกันนะครับกับเรื่องที่เกิดขึ้น
ผมรู้สึกแย่กับการบีบให้เขาขายหุ้นตอนรักษาตัวจากมะเร็งเนี่ยแหละ
"With the first link, the chain is forged. The first speech censured, the first thought forbidden, the first freedom denied, chains us all irrevocably."
สะท้านใจ
ถ้าอย่างงี้เรียกตกนรก แล้วถ้าเจอค่าแรงโปรแกรมเมอร์บ้านเราเข้าไปเรียกอะไรละนี่
"ขี้ปิ๊ด"
มิน่า วิน7ลิขสิทธิ์ถึงไม่ยอมให้เปิด ACDSee
เกี่ยวไรหว่า?
May the Force Close be with you. || @nuttyi
มันเกี่ยวยังไงหรอกคับ...!? แล้วของเถื่อนมันเปิดได้หรอ...!? เดี๋ยวผมลองดูดีกว่า... อุ่ยย
เรื่องสัดส่วนหุ้นรู้สึกว่าตอนตั้งบริษัท เกตส์ออกมาทำเต็มตัว ส่วนอัลเลนยังอยู่ใน IBM ทำให้ตกลงที่สัดส่วนไม่เท่ากัน
เกตส์มันขี้โมโห เหนติ๋มๆอย่างงั้น ชอบตะโกนใส่หน้า
ลุงข้างบ้างผมก็ขี้โมโหครับ ติ๋มๆ เหมือนกัน ชื่อลุงจ๊อบ
ผมไม่เคยดูว่าลุงเกตส์ติ๋มเลยครับ ติ๋มอย่างเดียวคือทรงผม
ผมเคยอ่านเจอบทสัมภาษณ์ของพนักงานใหม่ที่ได้ทำงานใกล้ชิดกับลุงเกตส์ เค้าบอกว่าตอนที่ลุงเกตส์สอบโครงการ (ประมาณคัดกรอง สอบถาม) มีแต่คนอยากจะเรียกตำรวจ เพราะนึกว่ามันจะตีกันแล้ววววว มันดูรุนแรงมาก
ที่อเมริกาน่าจะเรียกตำรวจกันง่ายพอสมควร
138 ล้านหุ้น
หุ้นละกี่บาทหนอ
ถือว่าเยอะไหมครับ
the return of silicon valley's pirate.
:-)
แต่ก็ แต่ไหนแต่ไรก็ทะเลาะกับเกตส์ มาตลอดอยู่แล้วหนิครับ
จะเห็นได้ว่าความเห็นไม่ตรงกันบ่อยแต่สุดท้ายก็ยอมตามใจเกตส์ตลอด
ส่วนข้อเท็จจริงเรื่องบีบให้ขายหุ้นนี่ยังไม่เคยเห็นข้อมูลละเอียดๆครับ
อ่านใน wiki ได้ความคือ รักษามะเร็งหายเสร็จ ไม่กลับไปทำงาน แต่ไปเปิดบริษัทเอง
ผมการขายหุ้น 68 ล้านหุ้น และ เหลือไว้ 138 ล้านหุ้น คงเป็นการบีบจริงครับ
เพราะมีเหตุผลที่ทั้ง เกตส์ และ บัลเมอร์ จะบีบเหมือนกัน
แล้วไงหว่า ผู้ถือหุ้นก็ส่วนผู้ถือหุ้นสิ ผมซื้อหุ้นไม่เห็นต้องเข้าทำงานเลย
May the Force Close be with you. || @nuttyi
เกตส์ จ๊อบ และคนชั้นนำอื่นๆ นอกจากวิสัยทัศน์แล้ว ถ้าไม่ใช่คนเคี่ยว ดุ และโหด ไม่ประณีประณอม ไม่มีทางมาถึงขนาดนี้ได้หรอก
ในบทสัมภาษณ์จากต้นฉบับมีตอนนึงที่ลุงอัลเลนบอกว่า
"บิลเกตส์คือนักธุรกิจที่มีพรสวรรค์" (Gifted Businessman) ครับ
ตัวผมเห็นด้วยกับคำว่า คนทำงานย่อมต้องได้มากกว่าคนอยู่เฉยๆ
ถ้าในกรณีนี้ เกตส์กับพอลก่อตั้งบริษัทมาด้วยกัน แต่เกตส์ทุ่มให้กับ MS มากกว่า พยายามมากกว่า สร้างชื่อให้บริษัทมากกว่า เค้าก็ควรได้รับผลประโยชน์ที่มากกว่า พอล ที่นั่งกิน นอนกิน เพียงเพราะถือหุ้น 50% มาด้วยกันตั้งแต่เริ่ม ถ้าผมเป็นเกตส์ก็คงบีบให้หุ้นของตัวเองมีมากกว่าพอลอยู่แล้ว เกิดมี 50/50 เท่ากัน วันนึงพอลเกิดเบื่อๆ MS บอก อยากขาย MS ให้ IBM ซะเลย แบบนี้ก็สามารถตัดสินใจได้สิ เพราะมี 50% เท่ากัน การพยายามบีบให้ขายหุ้น ก็เพื่อลดความมีสิทธิ์มีเสียงในบริษัทซะ เพราะยังไงพอลก็ไม่ได้ช่วยทำงานแล้วนี่ (หลังจากรักษามะเร็งหายดีแล้ว) จะสบายเกินไปไหมล่ะนั่น!
จริง!!
+10 มีเหตุผล
ยังน้อยกว่าที่ Jobs โดน อิอ
ถึงยังไงผมก็อยากตกนรกเหมือนพอล XD
ถ้าข้าไม่ลงนรก แล้วใครจะลงนรก (If I did not go down to hell and who will go down to hell)
.. DLL ..