ไมโครซอฟท์รายงานผลประกอบการไตรมาสที่ 3 ตามปฏิทินบริษัท มีรายได้สุทธิ 1.643 หมื่นล้านดอลลาร์ เพิ่มขึ้น 13% จากปีก่อน คิดเป็นกำไรสุทธิ 5.23 พันล้านดอลลาร์ เพิ่มขึ้น 31%

ในไตรมาสที่ผ่านมาไมโครซอฟท์ได้ประกาศความร่วมมือทางธุรกิจเพิ่มทั้งกับโนเกียในด้านโทรศัพท์ และโตโยต้าในการผลิตรถยนต์อัจฉริยะ เสริมกำลังเพิ่มจากความร่วมมือด้านเสิร์ชที่ร่วมกับยาฮูก่อนหน้านี้ ทั้งนี้รายละเอียดยอดขายแยกเป็นกลุ่มธุรกิจมีดังนี้

* กลุ่มสินค้า Windows (รวม Windows Live) ยอดขายลดลง 4.4% กำไรลดลง 10% ซึ่งเป็นหมวดธุรกิจเดียวที่รายได้ลดลง
* กลุ่มเซิร์ฟเวอร์ (Sharepoint) ยอดขายเพิ่ม 11% กำไรเพิ่ม 12%
* กลุ่มสินค้าธุรกิจ (Office) ยอดขายเพิ่ม 21% กำไรเพิ่ม 25%
* กลุ่มสินค้าบันเทิง (Xbox 360, Kinect) ยังคงเป็นหมวดที่เติบโตสูงมาก ยอดขายเพิ่มถึง 60% โดย Xbox ขายได้ 2.7 ล้านเครื่อง และ Kinects 2.4 ล้านเครื่อง
* กลุ่มออนไลน์ (Bing) มีรายได้เพิ่มขึ้น 14% แต่ก็ยังคงขาดทุนเละ โดยไตรมาสนี้ขาดทุนอีก 726 ล้านดอลลาร์

นักวิเคราะห์ให้ความกังวลกับทิศทางของไมโครซอฟท์ใน Windows และตลาดพีซีหลังเห็นตัวเลขยอดขายที่ลดลง โดยมองว่าไมโครซอฟท์เองยังไม่มีความชัดเจนเรื่องการเข้าไปทำตลาดแท็บเล็ต

ตัวเลขผลประกอบการที่ออกมา ทำให้ไมโครซอฟท์ที่ไตรมาสก่อนรายได้น้อยกว่าแอปเปิลแต่กำไรยังเยอะกว่า กลับกลายเป็นแพ้แอปเปิลไตรมาสนี้ทั้งรายได้และกำไรสุทธิในไตรมาสไปเรียบร้อยแล้ว

ที่มา: The Wall Street Journal และ CNN