ทุกสิ่งทุกอย่างย่อมมีที่มาครับ ขนาดสาย Thunderbolt ที่แอปเปิลได้วางจำหน่ายไปไม่นานนี้ (ติดตามข่าวการวางจำหน่ายได้ที่นี่) ก็ได้มีที่มาที่ไปของราคาที่ทุกคนมองว่าแพงเกินไป!
เหตุผลที่สาย Thunderbolt ที่แอปเปิลได้วางจำหน่ายในราคาที่แพง เพราะในสาย Thunderbolt นั้น ทาง iFixit ได้ค้นพบว่ามีการฝังชิปรหัส GENNUM GN 2033 โดยชิปนี้มีหน้าที่ในการเชื่อมต่อข้อมูลผ่านระบบ Thunderbolt l/O ซึ่งมีความเร็วในการส่งข้อมูลมากถึง 10GB/s โดยชิปนี้ขนาดเล็กมาก ซึ่งชิปมีราคาพอสมควร จึงทำให้เป็นเหตุผลที่ว่าทำไมแอปเปิลถึงวางจำหน่ายสาย Thunderbolt ได้แพงเหลือเกิน
ที่มา: Thaimacupdate และ 9to5Mac
Comments
ทำไมไม่ฝังลง Device เลยล่ะเนี่ย ไม่ใช่เพราะฟุ่มเฟือยอะไรหรอกนะ แต่กรณีที่มันหักรึขาดเนี่ยซื้อใหม่ทีนี่เหงื่อซิบ
"ทาง iFixit ได้มีการฝังชิพรหัส GENNUM GN 2033"
iFixit เป็นเว็บที่เอาสายมารื้อดูไส้ในครับ ไม่ใช่ผู้ผลิตสาย
ขอโทษอย่างเป็นอย่างมากนะครับ พิมพ์ผิดแบบความหมายเปลี่ยนไปเลย แก้ให้แล้วนะครับ ขอบคุณที่เตือนนะครับ
By @iPoohs
Visit My blog
"Stay hungry.Stay foolish" -Steve Jobs
ถ้าเป็นไปได้อยากให้เพิ่มเติมข้อมูลเกี่ยวกับชิพ GN 2033 ด้วย ว่ามันสำคัญยังไงถึงได้ราคาสูงนัก ผมว่าคงไม่ใช่แค่เพราะชิพมันตัวเล็กแค่นั้นนะครับ .. อีกซักนิดนะครับ
ข้อมูลจากเว็บของ Gennum Corporation ผู้ผลิตชิพที่ว่าครับ
The GN2033 is a tiny, low power transceiver chip designed to be placed inside the connectors at either end of a Thunderbolt™ cable, enabling dual bidirectional 10Gb/s concurrent links over narrow-gauge copper wires. Unlike ordinary passive cables that can be used at lower data rates, the unprecedented speed of the new Thunderbolt™ technology places unique demands on the physical transmission media. The GN2033 provides the sophisticated signal boosting and detection functions required to transfer high-speed data without errors across inexpensive Thunderbolt™ copper cables.
http://www.gennum.com/products/thunderbolt-cable-transceivers/gn2033
:-)
แก้เป็นอย่างนี้พอโอเคมั้ยครับ
By @iPoohs
Visit My blog
"Stay hungry.Stay foolish" -Steve Jobs
ขอบคุณครับ แก้ให้แล้วนะครับ
By @iPoohs
Visit My blog
"Stay hungry.Stay foolish" -Steve Jobs
ยังบอกไม่หมดเลย
แก้ให้แล้วครับ:)
By @iPoohs
Visit My blog
"Stay hungry.Stay foolish" -Steve Jobs
พอดีปล่อยขึ้นหน้าแรกไปแล้วเพิ่งเห็น รบกวน
แก้ให้แล้วนะครับ
By @iPoohs
Visit My blog
"Stay hungry.Stay foolish" -Steve Jobs
เพิ่งรู้ว่าเราใช้ผิดมาตลอดเหมือนกัน
chip - ชิป
ทำไมไม่ใส่ชิพไว้ที่ตัวเครื่องก่อนตำแหน่ง port ที่ใช้เชื่อมต่อล่ะครับ ตรงโคตรงง ?
เพราะหัวใจของสาย thunderbolt มันคือชิปที่ว่าไงครับ
สาย thunderbolt เป็นสายที่ทำจากทองแดง แต่มันสามารถรับส่งข้อมูลได้สองช่องทางพร้อมกันด้วย ทางแรกคือส่งข้อมูลต่างๆ ผ่านพอร์ต pci express ส่วนอีกทางคือส่งสัญญาณภาพและเสียงระดับ HD แถมทำด้วยความเร็วสูงสุดที่ 10Gbps ( สูงกว่า USB 3.0 เท่าตัว ) แค่นั้นไม่พอมันยังส่งกระแสไฟฟ้าออกไปด้วย เพื่ออุปกรณ์ที่นำมาต่อพ่วงจะได้ลดการใช้สายไฟลงไปได้อีกเส้นนึง (แน่นอนว่าต้องเป็นอุปกรณ์ที่ทำมาสำหรับ thunderbolt port) หัวใจของการทำงานทั้งหมดนี้คือชิป thunderbolt ตัวที่ว่านั่นแหละครับ
ที่ว่ามาทั้งหมด เอาใส่ใน port ก็ทำได้นะครับ
ใช้คำว่า "น่าจะทำได้" เหมาะกว่าครับ :-)
ผมว่าเหตุผลก็คือ ไม่อยากให้ตัว Port มันไปเพิ่มราคาอุปกรณ์ล่ะมั้งครับ เพราะหากจะแข่งกับ USB3 ซึ่งได้เปรียบเรื่องราคาส่วนนี้ก็น่าจะเป็นปัจจัยสำคัญเหมือนกันในช่วงแรกๆ
ลองคิดดูมันก็ Make sense ดีออกครับแทนที่จะใส่ชิพราคาแพงๆไปในอุปกรณ์ทุกๆชิ้น(ซึ่งบางทีไม่ได้ใชพร้อมกัน) ก็ใส่ไปเฉพาะสายก็พอ ผู้ใช้ก็จ่ายราคาชิพแค่จำนวนที่ต้องการใช้จริงๆ(จำนวนสาย)แทน
ชื่อ : Not Available at this Moment (N/A)
เข้าใจแล้วครับ เป็นเหตุผลที่เข้าท่าดีเหมือนกัน ที่ว่าจะได้ลดค่าอุปกรณ์
อย่างนี้เริ่มเห็นภาพว่าอุปกรณ์คงไม่แถมสาย Thunderbolt กันแน่ๆ ต้องซื้อแยกเอา
แต่คราวนี้ราคามันจะไปเพิ่มที่สายแทน และจากที่เจอมาอัตราการพังของสายสูงกว่าอุปกรณ์มากครับ
แถมถ้าคราวนี้สายพังขึ้นมาผู้ใช้ซ่อมเองไม่ได้ด้วย โยนทิ้งสถานเดียว (สาย USB ยังพอซ่อมได้ถ้าหาว่าร้านไหนมีหัวขาย อิอิ) แน่นอนว่านี่ไม่ใช่สิ่งที่ Apple กังวล
อีกอย่างผมว่าหลาย ๆ คนมีจำนวนสายมากกว่าอุปกรณ์ (เช่นผมมีสาย Micro USB สามเส้นที่ใช้ต่อกับมือถือเครื่องเดียว)
ผมว่ามันไม่เข้าท่าครับ กรณีของ USB เองก็ต้องมี USB คอนโทรลเลอร์ทั้งฝั่งอุปกรณ์และฝั่งตัว PC เอง ก็ยังทำกันได้ไม่มีปัญหาอะไร
หรือเป็นไปได้ว่าอัตราการพังของไอ้ชิพคอนโทรลเลอร์มันสูงมากซะจนมันอาจจะเกิดปัญหาได้ถ้าฝังไว้ที่ฝั่งอุปกรณ์เอง (ซึ่งจะทำให้อุปกรณ์จะเสียภายในเวลาไม่นาน) การย้ายมาไว้ที่สายจะทำให้เวลาที่สายพังอุปกรณ์ยังทำงานได้ ใครจะไปรู้ ??
ถ้าราคาเพิ่มที่สาย แต่ลดที่ตัวอุปกรณ์มันก็สมดุลกันอยู่ดีนั่นแหละครับ แถมมีแต่จะลดลงเพราะบางตัวอาจจะไม่ต้องแถมสายเสมอไปด้วยซ้ำ
แล้วกรณีที่มันพัง ถ้าซื้อของแท้ก็มีประกันทั้งนั้นแหละครับ แล้วก็ไม่ว่าสายพัง หรือตัวุปกรณ์พังก็ส่งเคลมเช่นเดียวกัน(เป็นผมถ้าจะพังก็ขอให้สายมันพังไปเถอะเปลี่ยนได้ แต่ถ้าสมมุติมันเป็น HDD แล้วพังนี่แทบจะคลั่ง = =")
แล้วก็กรณีนี้มันต่างกับ USB อย่างที่ผมบอกแหละครับคือมันใหม่ และแพงจึงต้องหาทางลดอะไรก็ตามที่มันไม่จำเป็นลง เลยใส่มันทั้ง 2 ฝั่งไม่ได้ก็อาจจะเป็นไปได้ครับ
อย่างว่าแหละที่ก็เป็นแค่การคาดเดาของผมเท่านั้น :)
ชื่อ : Not Available at this Moment (N/A)
อีกประเด็นนะครับ
*USB สายถูก ผู้ผลิตอุปกรณ์ส่วนใหญ่มักจะแถมสายให้ บางชิ้นแถมสายที่คุณภาพดีมาให้ด้วย (เช่น Canon)
*Thunderbolt สายแพง สายเลยไม่แถม พอไปซื้อสายก็โดนฟันกำไรรอบสองจากทั้งร้านค้าและผู้ผลิต
ผมว่าการโดนฟันกำไรสองรอบสามรอบจากการที่ต้องซื้อของมากขึ้นเพื่อใช้กับอุปกรณ์หนึ่งชิ้นเนี่ย มันไม่สนุกน่ะครับ ...
ถ้าไปเจอสินค้าที่ผู้ผลิตใช้ชิปเซ็ทห่วยๆ เพื่อให้สินค้าราคาถูกลง ไม่แย่กว่าซื้อสายดีๆหรอ
(เจอมากับ Box FW800)
อีกอย่างไม่น่าจะเป็นไปได้เลยที่ซื้อแล้วจะไม่แถมสายมา เพราะถ้ามันไม่แถมซื้อแล้วจะใช้ยังไง เหมือนกับสาย USB ทั้งๆที่ผู้ใช้น่าจะมีเยอะจนล้นบ้านแล้ว แต่ก็ยังต้องแถมมาอีก
การเอาไปไว้ที่หัวสายทั้งสองฝั่งก็ทำให้ตัวสายเองยืดหยุ่นมากๆ นะครับ
นึกถึง Ethernet สมัยก่อนที่เป็นช่องต่อ AUI แล้วเราค่อยเลือก MAU แบบที่เราต้องการมาเสียบเข้าไปอีกที...
ชิปมันทำหน้าที่ขยายสัญญาณเพื่อลดสัญญาณรบกวนให้ได้ความเร็วตามที่ thunderbolt มันรับรอง แต่จริงๆ แล้วสายธรรมดาทั่วไปมันไม่ต้องมีก็ได้จะเป็น Passive cables เหมือนสาย USB ธรรมดา แล้วสาย USB แบบ Active cables มีไหม อันนี้ไม่รู้แต่ USB-HUB ก็คล้ายๆกัน รุ่นที่ต่อไฟเพิ่มได้
ที่ว่าแพง คือราคาเท่าไหร่่ครับ อยากรู้
ดูที่ข่าวเก่าที่ผมลิงค์ไปให้ในข่าวน่ะครับ
By @iPoohs
Visit My blog
"Stay hungry.Stay foolish" -Steve Jobs
สาวกอย่างผมคงเอามาก่อน เอามาใช้ทำอะไรค่อยว่ากัน ^^
อีกอาทิตย์ Momoprice ออกสาย TB ใหม่ ราคา $20 ละ O_o
สาย Thunderbolt นี่ ทาง Intel บอกว่าสามารถใช้กับอุปกรณ์เดิมๆ ที่ใช้ mini Display Port ได้โดยไม่ต้องเปลี่ยน driver นะครับ แต่เห็นว่าต้องผ่าน adapter ( น่าจะหมายถึงหัวแปลง ) และสามารถต่อพ่วงกันไปได้ถึง 6 อุปกรณ์ นึกถึง iMac รุ่นแรกๆ ที่ต่อสาย USB จากจอภาพไปที่ keyboard แล้วพ่วงสาย usb อีกเส้นจาก keyboard ไปที่ mouse ยังไงยังงั้น
http://www.intel.com/technology/io/thunderbolt/index.htm
ฉลาดทำเพื่อ อนาคตที่ดีกว่า
ถ้าให้ดูตอนนี้ ไม่ประทับใจอย่างแรง สายสัญญาณสำหรับผมมันต้องถูกครับ ถ้าไม่อยากรวมชิปไว้ที่ Host ก็ทำ Adapter แปลงก็ยังพอไหว (หรือ Apple กลัวประสบการณ์การใช้งานของผู้ใช้แย่ที่ต้องพก Adapter !?) แล้วสายนี่คนอื่นผลิตให้ได้หรือไม่ ? อีกทั้งยังไม่เห็นประโยชน์เหนือ USB 3.0 อย่างชัดเจน
คงต้องดูอีกสักพักว่าพอร์ตสารพัดประโยชน์ความเร็วสูงนี่ จะทำอะไรได้ดีสมราคาของมันหรือไม่ และจะมีใครเอาด้วยบ้าง
:: DigiKin8 ::
แล้วทำไมไม่ฝังไว้ที่ตัว host ล่ะ? (mac book)
น่าจะเป็นเพราะ ประหยัดสายครับ
คือปลายที่หัวต่อสายมี 10 pin
แต่จะต้องทำสาย 10 สายมาจาก host อาจเกิดสัญญาณ lost ได้มาก
เลยเอามาติดที่ปลายสายแทน (แล้วทาง host ก็อาจจะเดินสายมาแค่ 4 pin)
ปล.เดาเอานะครับ เพราะผมไม่ได้ใช้ Thunderbolt
โคนเล็บขาวแบบนี้ อาจจะเกิดจากการขาดสารอาหาร หรือขาดวิตมินนะครับ
มาไงเนี่ย :) เเต่มีความรู้ดีครับ เเอบไปมองเล็บตัวเองเลย หุหุ
จริงอ่ะ ของผมก็ขาว
เคยได้ยินแต่โคนเล็บขาวแสดงว่าสุขภาพดีนะครับ
ใครที่สุขภาพไม่แข็งแรง ขาดสารอาหาร ทั้งสิบนิ้วจะซีด ไม่มีโคนขาวเป็นจันทร์เสี้ยวเลย
เป็นแนวคิดที่แปลกดี อาจจะเวิร์กก็ได้ ไม่รู้สิ
ผมเห็นประโยชน์เพียงอย่างเดียวที่ทำแบบนี้คือ "ก๊อปยาก"
และถึงจะประหยัดเงินผู้ผลิต แต่ภาระมันตกที่ผู้บริโภคเต็มๆเลย
สุดยอด
ก็ว่าทำไมตอบว่า "อยากให้ LightPeak เป็น mass แต่ก็ต้องขึ้นกับ ecosystem รวมว่าจะตอบรับแค่ไหน"
ตอนแรกนึกว่าจะมาแทนที่ Ethernet ที่ไหนได้ ต้องรอ 10GbE ต่อไป
USB 3.0 คงเอามาใส่ Sandy Bridge ไม่ทัน หรือว่าคงจะดัน Light Peak(Thunderbolt) เป็น Exclusive แล้ว Ivy Bridge ค่อยมากับ USB 3.0