Apple

ทุกสิ่งทุกอย่างย่อมมีที่มาครับ ขนาดสาย Thunderbolt ที่แอปเปิลได้วางจำหน่ายไปไม่นานนี้ (ติดตามข่าวการวางจำหน่ายได้ที่นี่) ก็ได้มีที่มาที่ไปของราคาที่ทุกคนมองว่าแพงเกินไป!

เหตุผลที่สาย Thunderbolt ที่แอปเปิลได้วางจำหน่ายในราคาที่แพง เพราะในสาย Thunderbolt นั้น ทาง iFixit ได้ค้นพบว่ามีการฝังชิปรหัส GENNUM GN 2033 โดยชิปนี้มีหน้าที่ในการเชื่อมต่อข้อมูลผ่านระบบ Thunderbolt l/O ซึ่งมีความเร็วในการส่งข้อมูลมากถึง 10GB/s โดยชิปนี้ขนาดเล็กมาก ซึ่งชิปมีราคาพอสมควร จึงทำให้เป็นเหตุผลที่ว่าทำไมแอปเปิลถึงวางจำหน่ายสาย Thunderbolt ได้แพงเหลือเกิน

ที่มา: Thaimacupdate และ 9to5Mac

Hiring! บริษัทที่น่าสนใจ

Iron Software company cover
Iron Software
Iron Software is an American company providing a suite of .NET libraries by engineer for engineers.
KBTG - KASIKORN Business-Technology Group company cover
KBTG - KASIKORN Business-Technology Group
KBTG - "The Technology Company for Digital Business Innovation"
LTMH TECH company cover
LTMH TECH
LTMH TECH มุ่งเน้นการพัฒนาผลิตภัณฑ์ที่สามารถช่วยพันธมิตรของเราให้บรรลุเป้าหมาย

ทำไมไม่ฝังลง Device เลยล่ะเนี่ย ไม่ใช่เพราะฟุ่มเฟือยอะไรหรอกนะ แต่กรณีที่มันหักรึขาดเนี่ยซื้อใหม่ทีนี่เหงื่อซิบ

nidku53 Thu, 06/30/2011 - 20:53

"ทาง iFixit ได้มีการฝังชิพรหัส GENNUM GN 2033"

iFixit เป็นเว็บที่เอาสายมารื้อดูไส้ในครับ ไม่ใช่ผู้ผลิตสาย

ถ้าเป็นไปได้อยากให้เพิ่มเติมข้อมูลเกี่ยวกับชิพ GN 2033 ด้วย ว่ามันสำคัญยังไงถึงได้ราคาสูงนัก ผมว่าคงไม่ใช่แค่เพราะชิพมันตัวเล็กแค่นั้นนะครับ .. อีกซักนิดนะครับ

ข้อมูลจากเว็บของ​ Gennum Corporation ผู้ผลิตชิพที่ว่าครับ

The GN2033 is a tiny, low power transceiver chip designed to be placed inside the connectors at either end of a Thunderbolt™ cable, enabling dual bidirectional 10Gb/s concurrent links over narrow-gauge copper wires. Unlike ordinary passive cables that can be used at lower data rates, the unprecedented speed of the new Thunderbolt™ technology places unique demands on the physical transmission media. The GN2033 provides the sophisticated signal boosting and detection functions required to transfer high-speed data without errors across inexpensive Thunderbolt™ copper cables.

http://www.gennum.com/products/thunderbolt-cable-transceivers/gn2033
:-)

พอดีปล่อยขึ้นหน้าแรกไปแล้วเพิ่งเห็น รบกวน

  • ย้ายแท็ก break ไปไว้หลังย่อหน้าที่สอง
  • พิมพ์แท็ก Apple เป็นแท็กแรก ภาพ thumbnail จะได้ขึ้นที่ข่าวด้วยครับ

เพราะหัวใจของสาย thunderbolt มันคือชิปที่ว่าไงครับ

สาย thunderbolt เป็นสายที่ทำจากทองแดง แต่มันสามารถรับส่งข้อมูลได้สองช่องทางพร้อมกันด้วย ทางแรกคือส่งข้อมูลต่างๆ ผ่านพอร์ต pci express ส่วนอีกทางคือส่งสัญญาณภาพและเสียงระดับ HD แถมทำด้วยความเร็วสูงสุดที่ 10Gbps ( สูงกว่า USB 3.0 เท่าตัว ) แค่นั้นไม่พอมันยังส่งกระแสไฟฟ้าออกไปด้วย เพื่ออุปกรณ์ที่นำมาต่อพ่วงจะได้ลดการใช้สายไฟลงไปได้อีกเส้นนึง (แน่นอนว่าต้องเป็นอุปกรณ์ที่ทำมาสำหรับ thunderbolt port) หัวใจของการทำงานทั้งหมดนี้คือชิป thunderbolt ตัวที่ว่านั่นแหละครับ

ผมว่าเหตุผลก็คือ ไม่อยากให้ตัว Port มันไปเพิ่มราคาอุปกรณ์ล่ะมั้งครับ เพราะหากจะแข่งกับ USB3 ซึ่งได้เปรียบเรื่องราคาส่วนนี้ก็น่าจะเป็นปัจจัยสำคัญเหมือนกันในช่วงแรกๆ

ลองคิดดูมันก็ Make sense ดีออกครับแทนที่จะใส่ชิพราคาแพงๆไปในอุปกรณ์ทุกๆชิ้น(ซึ่งบางทีไม่ได้ใชพร้อมกัน) ก็ใส่ไปเฉพาะสายก็พอ ผู้ใช้ก็จ่ายราคาชิพแค่จำนวนที่ต้องการใช้จริงๆ(จำนวนสาย)แทน

เข้าใจแล้วครับ เป็นเหตุผลที่เข้าท่าดีเหมือนกัน ที่ว่าจะได้ลดค่าอุปกรณ์

อย่างนี้เริ่มเห็นภาพว่าอุปกรณ์คงไม่แถมสาย Thunderbolt กันแน่ๆ ต้องซื้อแยกเอา

แต่คราวนี้ราคามันจะไปเพิ่มที่สายแทน และจากที่เจอมาอัตราการพังของสายสูงกว่าอุปกรณ์มากครับ

แถมถ้าคราวนี้สายพังขึ้นมาผู้ใช้ซ่อมเองไม่ได้ด้วย โยนทิ้งสถานเดียว (สาย USB ยังพอซ่อมได้ถ้าหาว่าร้านไหนมีหัวขาย อิอิ) แน่นอนว่านี่ไม่ใช่สิ่งที่ Apple กังวล

อีกอย่างผมว่าหลาย ๆ คนมีจำนวนสายมากกว่าอุปกรณ์ (เช่นผมมีสาย Micro USB สามเส้นที่ใช้ต่อกับมือถือเครื่องเดียว)

ผมว่ามันไม่เข้าท่าครับ กรณีของ USB เองก็ต้องมี USB คอนโทรลเลอร์ทั้งฝั่งอุปกรณ์และฝั่งตัว PC เอง ก็ยังทำกันได้ไม่มีปัญหาอะไร

หรือเป็นไปได้ว่าอัตราการพังของไอ้ชิพคอนโทรลเลอร์มันสูงมากซะจนมันอาจจะเกิดปัญหาได้ถ้าฝังไว้ที่ฝั่งอุปกรณ์เอง (ซึ่งจะทำให้อุปกรณ์จะเสียภายในเวลาไม่นาน) การย้ายมาไว้ที่สายจะทำให้เวลาที่สายพังอุปกรณ์ยังทำงานได้ ใครจะไปรู้ ??

ถ้าราคาเพิ่มที่สาย แต่ลดที่ตัวอุปกรณ์มันก็สมดุลกันอยู่ดีนั่นแหละครับ แถมมีแต่จะลดลงเพราะบางตัวอาจจะไม่ต้องแถมสายเสมอไปด้วยซ้ำ

แล้วกรณีที่มันพัง ถ้าซื้อของแท้ก็มีประกันทั้งนั้นแหละครับ แล้วก็ไม่ว่าสายพัง หรือตัวุปกรณ์พังก็ส่งเคลมเช่นเดียวกัน(เป็นผมถ้าจะพังก็ขอให้สายมันพังไปเถอะเปลี่ยนได้ แต่ถ้าสมมุติมันเป็น HDD แล้วพังนี่แทบจะคลั่ง = =")

แล้วก็กรณีนี้มันต่างกับ USB อย่างที่ผมบอกแหละครับคือมันใหม่ และแพงจึงต้องหาทางลดอะไรก็ตามที่มันไม่จำเป็นลง เลยใส่มันทั้ง 2 ฝั่งไม่ได้ก็อาจจะเป็นไปได้ครับ

อย่างว่าแหละที่ก็เป็นแค่การคาดเดาของผมเท่านั้น :)

อีกประเด็นนะครับ

*USB สายถูก ผู้ผลิตอุปกรณ์ส่วนใหญ่มักจะแถมสายให้ บางชิ้นแถมสายที่คุณภาพดีมาให้ด้วย (เช่น Canon)
*Thunderbolt สายแพง สายเลยไม่แถม พอไปซื้อสายก็โดนฟันกำไรรอบสองจากทั้งร้านค้าและผู้ผลิต

ผมว่าการโดนฟันกำไรสองรอบสามรอบจากการที่ต้องซื้อของมากขึ้นเพื่อใช้กับอุปกรณ์หนึ่งชิ้นเนี่ย มันไม่สนุกน่ะครับ ...

ถ้าไปเจอสินค้าที่ผู้ผลิตใช้ชิปเซ็ทห่วยๆ เพื่อให้สินค้าราคาถูกลง ไม่แย่กว่าซื้อสายดีๆหรอ
(เจอมากับ Box FW800)

อีกอย่างไม่น่าจะเป็นไปได้เลยที่ซื้อแล้วจะไม่แถมสายมา เพราะถ้ามันไม่แถมซื้อแล้วจะใช้ยังไง เหมือนกับสาย USB ทั้งๆที่ผู้ใช้น่าจะมีเยอะจนล้นบ้านแล้ว แต่ก็ยังต้องแถมมาอีก

การเอาไปไว้ที่หัวสายทั้งสองฝั่งก็ทำให้ตัวสายเองยืดหยุ่นมากๆ นะครับ

  • สายสั้นยาวคนละขนาด ถ้าออกแบบไว้ที่ฝั่งตัวเครื่องก็ต้องออกแบบให้รองรับยาวที่สุดไว้ก่อน แบบนี้ก็น่าจะเปลือง หรือไม่ก็เผื่อไว้ไม่พอก็ต้องมาทำ repeater กันอีก
  • ตอนนี้สายทองแดงก็จริง แต่ถ้าอยากเปลี่ยนเป็น fiber optics ยาวๆ ล่ะ? ขั้วต่อที่เครื่องแบบเดิมนี่แหละ แต่เปลี่ยน transceiver ซะก็เรียบร้อย

นึกถึง Ethernet สมัยก่อนที่เป็นช่องต่อ AUI แล้วเราค่อยเลือก MAU แบบที่เราต้องการมาเสียบเข้าไปอีกที...

ชิปมันทำหน้าที่ขยายสัญญาณเพื่อลดสัญญาณรบกวนให้ได้ความเร็วตามที่ thunderbolt มันรับรอง แต่จริงๆ แล้วสายธรรมดาทั่วไปมันไม่ต้องมีก็ได้จะเป็น Passive cables เหมือนสาย USB ธรรมดา แล้วสาย USB แบบ Active cables มีไหม อันนี้ไม่รู้แต่ USB-HUB ก็คล้ายๆกัน รุ่นที่ต่อไฟเพิ่มได้

nidku53 Fri, 07/01/2011 - 08:55

สาย Thunderbolt นี่ ทาง Intel บอกว่าสามารถใช้กับอุปกรณ์เดิมๆ ที่ใช้ mini Display Port ได้โดยไม่ต้องเปลี่ยน driver นะครับ แต่เห็นว่าต้องผ่าน adapter ( น่าจะหมายถึงหัวแปลง ) และสามารถต่อพ่วงกันไปได้ถึง 6 อุปกรณ์ นึกถึง iMac รุ่นแรกๆ ที่ต่อสาย USB จากจอภาพไปที่ keyboard แล้วพ่วงสาย usb อีกเส้นจาก keyboard ไปที่ mouse ยังไงยังงั้น

http://www.intel.com/technology/io/thunderbolt/index.htm

ถ้าให้ดูตอนนี้ ไม่ประทับใจอย่างแรง สายสัญญาณสำหรับผมมันต้องถูกครับ ถ้าไม่อยากรวมชิปไว้ที่ Host ก็ทำ Adapter แปลงก็ยังพอไหว (หรือ Apple กลัวประสบการณ์การใช้งานของผู้ใช้แย่ที่ต้องพก Adapter !?) แล้วสายนี่คนอื่นผลิตให้ได้หรือไม่ ? อีกทั้งยังไม่เห็นประโยชน์เหนือ USB 3.0 อย่างชัดเจน

คงต้องดูอีกสักพักว่าพอร์ตสารพัดประโยชน์ความเร็วสูงนี่ จะทำอะไรได้ดีสมราคาของมันหรือไม่ และจะมีใครเอาด้วยบ้าง

น่าจะเป็นเพราะ ประหยัดสายครับ

คือปลายที่หัวต่อสายมี 10 pin

แต่จะต้องทำสาย 10 สายมาจาก host อาจเกิดสัญญาณ lost ได้มาก

เลยเอามาติดที่ปลายสายแทน (แล้วทาง host ก็อาจจะเดินสายมาแค่ 4 pin)

ปล.เดาเอานะครับ เพราะผมไม่ได้ใช้ Thunderbolt

เคยได้ยินแต่โคนเล็บขาวแสดงว่าสุขภาพดีนะครับ

ใครที่สุขภาพไม่แข็งแรง ขาดสารอาหาร ทั้งสิบนิ้วจะซีด ไม่มีโคนขาวเป็นจันทร์เสี้ยวเลย

ก็ว่าทำไมตอบว่า "อยากให้ LightPeak เป็น mass แต่ก็ต้องขึ้นกับ ecosystem รวมว่าจะตอบรับแค่ไหน"

ตอนแรกนึกว่าจะมาแทนที่ Ethernet ที่ไหนได้ ต้องรอ 10GbE ต่อไป

USB 3.0 คงเอามาใส่ Sandy Bridge ไม่ทัน หรือว่าคงจะดัน Light Peak(Thunderbolt) เป็น Exclusive แล้ว Ivy Bridge ค่อยมากับ USB 3.0

Apple
public://topics-images/apple_webp.png
SCB10X
public://topics-images/347823389_774095087711602_515970870797767330_n_webp.png
Windows 11
public://topics-images/hero-bloom-logo.jpg
Doom
public://topics-images/doom_logo.png
Huawei
public://topics-images/huawei_standard_logo.svg_.png
Threads
public://topics-images/threads-app-logo.svg_.png
Google Keep
public://topics-images/google_keep_2020_logo.svg_.png
Fortnite
public://topics-images/fortnitelogo.svg_.png
Instagram
public://topics-images/instagram_logo_2022.svg_.png
SCB
public://topics-images/9crhwyxv_400x400.jpg
Microsoft
public://topics-images/microsoft_logo.svg_.png
Basecamp
public://topics-images/bwpepdi0_400x400.jpg
Tinder
public://topics-images/hwizi8ny_400x400.jpg
FTC
public://topics-images/seal_of_the_united_states_federal_trade_commission.svg_.png
Pinterest
public://topics-images/pinterest.png
Palantir
public://topics-images/-nzsuc6w_400x400.png
Gemini
public://topics-images/google_gemini_logo.svg__0.png
AIS Business
public://topics-images/logo-business-2021-1.png
PostgreSQL
public://topics-images/images.png
JetBrains
public://topics-images/icx8y2ta_400x400.png
Krungthai
public://topics-images/aam1jxs6_400x400.jpg
Palworld
public://topics-images/mccyhcqf_400x400.jpg
Bill Gates
public://topics-images/bill_gates-september_2024.jpg
VMware
public://topics-images/1nj4i1gp_400x400.jpg
Take-Two Interactive
public://topics-images/0khle7nh_400x400.jpg
OpenAI
public://topics-images/ztsar0jw_400x400.jpg
Thailand
public://topics-images/flag_of_thailand.svg_.png
NVIDIA
public://topics-images/srvczsfq_400x400.jpg
ServiceNow
public://topics-images/ytnrfphe_400x400.png
PS5
public://topics-images/playstation_5_logo_and_wordmark.svg_.png
Klarna
public://topics-images/urcllpjp_400x400.png
Google Play
public://topics-images/play.png
Drupal
public://topics-images/drupal.png
Virtua Fighter
public://topics-images/virtua_figther_2024_logo.png
Paradox Interactive
public://topics-images/paradox_interactive_logo.svg_.png
Europa Universalis
public://topics-images/europa-icon.png
Nintendo Switch 2
public://topics-images/mainvisual.png
Cloudflare
public://topics-images/cloudflare_logo.svg_.png
Samsung
public://topics-images/samsung.png
Google
public://topics-images/google_2015_logo.svg_.png
Uber
public://topics-images/uber.png
Microsoft 365
public://topics-images/m365.png
USA
public://topics-images/flag_of_the_united_states.svg_.png
GM
public://topics-images/0pe0po-z_400x400.jpg
Perplexity
public://topics-images/perplex.jpg
Xperia
public://topics-images/xperia.png
iOS 18
public://topics-images/ios-18-num-96x96_2x.png
True
public://topics-images/true_logo.png