เมื่อพูดถึงประวัติของ Android ทุกคนจะนึกถึง Andy Rubin แต่จริงๆ เขามีเพื่อนร่วมก่อตั้งบริษัทอีกคนชื่อ Rich Miner
หลังจาก Android โดนกูเกิลซื้อ เขาก็ทำงานต่อในแผนก Android อีกพักหนึ่ง ก่อนจะย้ายมาอยู่กับบริษัทด้านการลงทุนของกูเกิลคือ Google Ventures ซึ่งมีเงินลงทุนปีละ 100 ล้านดอลลาร์
เขาบอกว่าหน้าที่หลักของ Google Ventures คือลงทุนในบริษัทอื่นๆ เพื่อทำกำไรมากที่สุด และการสนับสนุนยุทธศาสตร์ของบริษัทแม่เป็นเรื่องรองลงมา ทำให้เขามักแนะนำให้บริษัทด้านมือถือที่ Google Ventures ลงทุนไปทำแอพบน iPhone ก่อน แล้วค่อยมอง Android เป็นแพลตฟอร์มที่สอง
แต่ Miner บอกว่าสถานการณ์ในวันนี้เปลี่ยนไปแล้ว Android กลายเป็นตัวเลือกที่ดีกว่าสำหรับบริษัทหน้าใหม่ด้วยเหตุผลหลายอย่าง ทั้งฐานลูกค้าที่มีมากกว่า, การทดสอบแอพทำได้ง่ายกว่า และตอนนี้ Android เริ่มทำเงินได้มากกว่า
เขายังเล่าเรื่องในอดีตด้วยว่า ตอนแรก Android ต้องการแค่เงินลงทุนจากกูเกิล ไม่คิดจะขายบริษัท ซึ่งคนที่คิดเรื่องนี้เป็นคนแรกคือ Larry Page ในขณะที่ Eric Schmidt และ Sergey Brin ยังไม่สนใจธุรกิจมือถือ แต่ตอนนี้ทั้งสามคนกลายเป็นผู้เชี่ยวชาญเรื่องอุตสาหกรรมมือถือไปแล้ว
ที่มา - AllThingsD
Comments
จับเกมดังๆมาลงบน android ให้ได้มากๆ แค่นี้ก็ได้เปรียบคู่แข่งแล้ว
@fb.me/frozenology@
ถ้าแก้ปัญหา Fragmentation ได้ เกมจะตามมาเป็นกองครับ
ตอนนี้รู้สึกว่าเกมส่วนมากบน Market กำลังมีปัญหากับ HTC EVO 3D
เรืองResolutionหน้าจอรึยังไงครับ
Resolution ครับ เพราะฝาแฝด Sensasion ก็โดนลูกหลงครับ = ="
ยิ่ง Samurai II: Vengeance นี่เล่นไม่ได้ - -"
รู้สึก resolution หน้าจอก็เป็นหนึ่งในข้อด้อย.. พัฒนาให้ iOS ง่ายกว่าเยอะ ไม่ต้องคิดอะไรมาก ออกแบบง่ายดี
เหมือนแอนดรอยจะมีตั้งแต่ 3:2 4:3 5:3 16:9 16:10 เยอะจริงๆ-*- หลายความละเอียดด้วย
ที่นึกออกตอนนี้มีเท่านี้ ผมเริ่มเห็นปัญหานี้ตั้งแต่ตอนที่ซื้อ Gamedev Story มาเล่น รุ่นบน iOS มันเต็มจอ แต่รุ่นบน Android เหลือขอบดำไว้บาน
จะเขียนเกมให้เข้ากันได้กับทุกอุปกรณ์ก็พอจะเป็นไปได้ครับ แต่ต้องทดสอบแล้วทดสอบอีก เขียนดักนู่น/ดักนี่ จะว่าสนุกมันก็สนุก แต่ถ้าคุณไม่มีอุปกรณ์หลายๆ แบบในมือก็ลำบากหน่อยครับ
เหลือขอบก็เป็นวิธีแก้ปัญหาที่ดีนะครับ blognone เองก็ทำนี่ครับ เหลือซ้าย, ขวาซะกว้างเลย
ตัวแอพ Blognone นั้นคุณสุกรีเป็นคนทำครับ มิใช่ Official แต่อย่างใด
(ผมเข้าใจถูกรึเปล่าครับว่ากำลังพูดถึงแอพ Blognone)
รายได้มากกว่าที่ว่าน่าจะมาจาก App อื่น ๆ ที่ไม่ใช่เกมนะครับ เพราะอย่างที่ว่าต้นทุนการออกแบบให้ลงตัวในหลาย ๆ fragment จะทำให้ไม่คุ้ม
แค่ชื่อเค้าก็กินขาดแล้ว.... รวย เหมือง แสดงว่าเขาไม่เคยจนเลย ฮาาา
ความเห็นส่วนตัว ผมว่าแอนดรอยด์คงต้องพัฒนาเครื่องมือในการเขียนโปรแกรมให้ออกแบบง่ายกว่านี้ รวมทั้งอินเตอร์เฟสหน้าจอของแอนดรอยด์ ผมว่ามันไม่ค่อยงามเท่าไหร่นะ
เวลาเขียนโปรแกรมบนแอนดรอยด์เสร็จแล้ว ตาเหลือบมามองบนจอไอโฟน ฮ่วย.. ทำไมจอไอโฟนมันงามกว่ากันอ่ะ
ปัญหาที่คุณว่ามาน่าจะลงตัวใน WP ?
ตัว Visual Editor กากจริงๆ ครับ
UI ไม่ค่อยงามโทษ Editor ไม่ได้ครับ
ผมเห็น UI ของ Molome แล้วก็มั่นใจว่า "มันอยู่ที่คนออกแบบ"
Google ซื้อบ.ที่ทำ WindowBuilder มา น่าจะเอาคนมาเสริมทัพตรงจุดนี้ และบริจาค WindowBuilder ให้ Eclipse Foundation ไป ... ใจป้ำสุดๆ
Eclipse Indigo ก็รวม WindowBuilder มาแล้วนี่ครับ
WindowsBuilder นั่นของ Desktop ครับ ส่วนที่กูเกิลจะเอาจริงๆ คือ GWT Builder
lewcpe.com, @wasonliw
โอเคว่า Visual Editor มันไม่หวือหวา ผมว่ายังค่อย ๆ พัฒนาให้ใช้ง่ายได้
แต่ UI ของแอนดรอยด์ ผมว่ายากที่จะปรับเปลี่ยน ผมรู้สึกว่า UI มันทื่อ ๆ หนะครับ เช่น ปุ่ม เอย CheckBox เอย RadioButton เอย ฯลฯ
อย่างคนไม่ได้เก่งด้านกราฟฟิก แต่ใช้ UI พื้นฐานของระบบ พัฒนาโปรแกรม ผลลัพธ์ออกมาแล้วมันดูไม่งามเท่าใช้ UI พื้นฐานของ iOS ยังไงไม่รู้ ประมาณว่าใช้งานได้แต่ไม่สวย ไม่ค่อยโดนเท่าไหร่
ส่วนใครที่ต้องการให้โปรแกรมตัวเองออกมาสวย ๆ เหมือนจะลงทุนลงแรงมากกว่า กว่าที่จะได้ผลลัพธ์ให้ดูน่าใช้
ถูกเลยครับ พูดง่ายๆ คือ UI พื้นฐานต่างๆ อย่างเช่น ปุ่มเอยเมนูเอยมันดูเหมือน X-Window ตอนต้นๆ ยุค
แต่เชื่อผมเถอะครับ ทำยังไงก็ได้ให้ Usability มาก่อนจะดีกว่า เรื่องสวยงามมันแก้กันได้
เห็นด้วยครับ เรื่อง usability น่าจะต้องมาก่อน
เรื่อง UI ของ android นี่หลายคนน่าจะรู้สึกว่ามันยังไม่ลงตัวอยู่พอสมควรนะครับ คือเรื่องหน้าตาจืดๆ นี่มันก็พอรู้สึกได้ แต่ที่สำคัญกว่าคือมันใช้ได้ไม่คล่องตัว ซึ่งถ้าจะเอาชนะ iOS ได้ เรื่องความคล่องตัวและความง่ายนี่สำคัญมาก (คนรอบตัวผมเป็นสาวกแอปเปิลอยู่หลายคน ผมถามว่าทำไมถึงชาบูแอปเปิล เค้าบอกว่า แอปเปิลทำอะไรให้ใช้ง่ายไปหมด.. อืม มันก็จริง) ถ้า android แก้ตรงนี้ได้ ประสบการณ์ของคนใช้จะดีขึ้นอีกเยอะ เรื่องหน้าตามันปรับทีหลังก็ได้
จะว่าไปมีอีกตัวอย่างนึงคือ Metro UI ของ WP7 ถ้าถามว่า UI สวยมั้ย ผมคิดว่าสู้ iOS ไม่ได้เลย (แต่ยอมรับว่ามัน เท่ และ แนว) แต่จุดนึงที่ผมชอบมากเลยคือ usability เยี่ยมมากครับ เห็นหน้าตาดิบๆ แบบนี้แต่ใช้งานจริงดีมาก แค่ปัดซ้าย ปัดขวา ปัดขึ้น-ลง แล้วกดเลือกปุ่มที่ต้องการซึ่งตัวโตๆ อ่านง่ายชัดเจน ซึ่งพอมาเทียบกับ android นี่ผมว่ามีอะไรที่ควรจะปรับให้ลดความเป็น geek อีกเยอะมาก
เรื่อง UI ของ WP7 ผมเห็นด้วยครับว่าสวยสู้ iOS ไม่ได้ แต่ด้วยพลังของ MS คิดว่าสามารถทำให้มันน่าใช้ได้ ยิ่ง Win8 ก็จะมาแนวเดียวกับ WP7 ด้วย ผมว่ามันก็น่าน่ากลัวอยู่นะ เพราะในด้านการสร้างประสบการณ์การใช้งานง่าย MS ก็ไม่แพ้ใครเหมือนกัน แถม Development Tools ของ MS นี่ก็ขึ้นชื่อในเรื่องความง่ายอยู่แล้ว
ผมว่า Metro UI มันสวยมาก และ เข้าใจง่ายมากๆ แต่มันง่ายไป จนเซ็ง
โอ้ยยยย ตรงใจมากๆ สังเกตมานาน ถ้าเกมหรือ App อะไรที่เป็นของดรอย ปุ่ม ต่างๆจะเหลี่ยมๆ มุมไม่มน ไม่มีแสงเงา ไม่มีเงา ปุ่มล้วนๆ เทาๆ ทื่อๆ
แต่จะสวยงามก็ต่อเมื่อมีทั้งสองแพลทฟอร์ม หรือพอร์ทมาจากฝั่งโน้น
Android>นักพัฒนา หัวใจพัฒนา พัฒนาอย่างเดียวจริงๆ
ios>นักพัฒนา หัวใจศิลปะ กว่าจะได้แต่ละปุ่ม แต่ละเลย์เอาท์ คงพลิกอยู่หลายตลบ
ล่าสุด น่าเจ็บใจคือ photovine จาก google ไปลง ios ก่อนซะงั้น
ปกติผมจะขัดใจ app บน iOS มากที่ปุ่มที่มีสวยมากแต่ไม่มีปุ่มที่อยากจะกด แบบ [Menu] บน Android หรือ click ขวาบน windows น่ะ อยากให้มีจริงๆ หาอะไรไม่เจอลองกดดูก่อน
WP ยังพอรับได้แต่ Android นี่ - -"
เว็บ blognone มีแต่คนรู้จริงมาตอบอ่ะ นับถือจริงๆ ครับ
เรื่อง fragmentation เนี่ยเข้าใจความรู้สึกเลยครับ นึกถึงเรื่อง browser compatible ตอนเขียนเว็บทุกอย่างโอเคลงตัวหมดแล้ว แต่ตกม้าตายที่ IE
ผมเกลียด UI ลึกลับซับซ้อนของแอนดรอยด์
+1 อึม~
หรือเพราะมันเป็นมรดกของจาวา มันเลยไม่ค่อยงาม อิอิอิ
ผมจำได้เลย ตอนได้เครื่องมาครั้งแรกไม่รู็ว่าจะเปลี่ยน Input Method ยังไง
ตกลงคือต้องทำสองขั้น
ผมว่าคนทั่วไปน่าจะคิดว่า ทำ (1) ก็น่าจะเสร็จแล้ว